การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 531 เป็นผู้นำตระกูลถัง
บทที่ 531 เป็นผู้นำตระกูลถัง
พอผู้เฒ่าถังได้ยินคำพูดของถังซวงก็ถึงกับเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
“เธอจะกลับเมืองหลวงแล้วหรือ?”
ถังซวงยกยิ้ม “ค่ะ พวกเราออกจากเมืองหลวงสักระยะแล้ว ถึงเวลาต้องกลับแล้ว เสี่ยวเซวี่ยกับหนูต้องไปโรงเรียน อีกอย่างมีน้อง ๆ สองคนรอคุณพ่อคุณแม่อยู่ที่บ้านด้วย”
ถังคุนหาวอยู่ด้านข้างกล่าวเสริมขึ้นว่า “ใช่ครับคุณพ่อ อาหลานกับคนอื่น ๆ อยู่ในตระกูลถังของเรามาสักพักแล้ว ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องกลับแล้วครับ”
หัวเฟยเฟิ่งฉวยโอกาสนี้พูดขึ้นว่า “คุณพ่อคะ คราวนี้ฉันจะออกไปส่งอาหลานและคนอื่น ๆ กลับบ้าน และจะอยู่ในเมืองหลวงสักพักเพื่อใช้เวลากับอาหลานให้มากขึ้นค่ะ”
ผู้เฒ่าถังรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นว่าถังคุนหาวและหัวเฟยเฟิ่งไตร่ตรองเรื่องนี้ไว้ก่อนโดยไม่ได้บอกเขา
“พวกเธอตัดสินใจไว้แล้วสินะ ความจริงอาหลานอยู่ในตระกูลถังของพวกเรา หากจะอยู่ต่อย่อมไม่ใช่ปัญหา ส่วนซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยก็สามารถเรียนรู้ทักษะภายในตระกูลถังได้ถ้าหากอยู่ที่นี่ต่อไป”
เมื่อถังซวงได้ยินอย่างนั้นเธอยิ้มก่อนจะกล่าวตอบอย่างใจเย็น “คุณตาทวดคะ พวกเราต้องเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในโรงเรียนเช่นกัน ตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องอวี้สือก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยเดียวกับฉัน เพราะแบบนี้ฉันเองก็จะชักช้าไม่ได้ค่ะ”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ผู้เฒ่าถังถึงกับพูดไม่ออก
ความจริงที่ถังอวี้สือเข้ามหาวิทยาลัยชิงหวา เขาเองก็ไม่สามารถโต้แย้งได้เลย
อย่างไรเสีย เมื่อคิดว่าถังหลานมีฝาแฝด หนึ่งในนั้นคือเด็กชายที่เขาปรารถนาสุดหัวใจ เขาอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นว่า “อาหลาน หากกลับมาอีกในอนาคต อย่าลืมพาเด็กน้อยสองคนนั้นมาด้วยล่ะ ทวดของพวกเขาอยากจะพบเจอสักครั้งหนึ่ง”
ถังหลานพยักหน้าก่อนจะตอบกลับ “ค่ะคุณปู่ ถ้าถึงเวลาฉันจะพาเขามาที่นี่แน่นอนค่ะ”
เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะปฏิเสธ แต่ต่อไปเธอจะไม่พาเด็กน้อยมามันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะตอนนี้เธอเรียนรู้วิธีการเจรจากับผู้อื่นแล้ว
ส่วนจิงเจ้อหรงที่อยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไรนัก เขาปล่อยให้ถังหลานตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
เพราะความจริงแล้ว เขาไม่ชอบตระกูลถังสักเท่าไหร่
ในฐานะตระกูลที่เป็นพวกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีเครือข่ายครอบครัวขนาดใหญ่ และมีสมาชิกจำนวนมาก เต็มไปด้วยแผนการ เล่ห์เหลี่ยมทุกรูปแบบ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเชื่อใจอาหลาน ตอนนี้เขาจึงไม่พูดอะไรออกมา
เมื่อผู้เฒ่าถังได้ยินถังหลานรับปากอย่างนั้น เขาก็พยักหน้าแล้วตอบว่า “อื้ม ถ้าอย่างนั้นในอนาคตหากมีเวลาสักหน่อยก็มาเยี่ยมกันบ้างนะ แต่ก่อนพวกเธอจะกลับออกไป เดี๋ยวพวกเรามาร่วมกินอาหารมื้อใหญ่ด้วยกันสักหน่อยดีกว่า ถือเป็นการเลี้ยงส่งแล้วกัน”
ถังหลานและคนอื่น ๆ พยักหน้ารับก่อนจะกลับไปที่ลานของตัวเอง
หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว ถังซวงหันมองถังเซวี่ยก่อนจะถามว่า “เฟิงอีกับคนอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บไหม? ให้ฉันจัดยาให้พวกเขาดีหรือเปล่า?”
“พี่คะฉันถามเฟิงอีแล้ว เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่รู้ว่าเฟิงเอ้อร์กับคนอื่น ๆ เป็นยังไงบ้าง” จากนั้นเธอหันมองเฟิงเยี่ยหาน
เฟิงเยี่ยหานหันมาขอบคุณถังซวง “ยังไงผมก็ขอขอบคุณแทนเฟิงเอ้อร์และคนอื่น ๆ ด้วย เฟิงเอ้อร์บาดเจ็บแค่เล็กน้อย” แม้ทักษะของถังมู่จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับชายที่คุ้มกันถังคุนเฉินก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่อ่อนแอเลย และเพราะในตอนรุมสกัดถังมู่ เฟิงเอ้อร์อยู่ในแนวหน้า จึงได้รับบาดเจ็บมากที่สุด
ได้ยินอย่างนั้นแล้วถังซวงโบกมือก่อ