ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 765 ชาติกำเนิด
ตอนที่ 765 ชาติกำเนิด
อู่เป่าน้อยยังไม่อยากไป แต่พอต้าเป่าส่งสายตาเย็นเยียบเล็กน้อยใส่ อู่เป่าน้อยก็เดินออกไปอย่างว่าง่าย
แม้ว่าเขาสนิทกับต้าเป่าที่สุด แต่ความจริงก็กลัวพี่ชายคนนี้ที่สุดเช่นกัน เพราะพี่ชายอบรมสั่งสอนเขาอย่างเข้มงวดมาก ถือได้ว่าเป็นคนที่เข้มงวดกับเขาที่สุดในบ้าน
แต่เขาก็ยังชอบพี่ชายคนนี้มาก เพราะพี่ชายสอนอักษรมากมายและเรื่องอื่นๆ แก่เขา
เมื่อพี่น้องออกไปจากห้องกันหมดแล้ว ต้าเป่าแอบรู้สึกว่า เรื่องที่มารดาจะกล่าวกับซื่อเป่าน่าจะเป็นเรื่องชาติกำเนิดของซื่อเป่า
สองปีมานี้ เขาลอบสังเกตท่าทีบิดามารดา พบว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการอบรมสั่งสอนซื่อเป่าเป็นพิเศษ และยังสอนซื่อเป่าไม่เหมือนคนอื่น ทั้งคู่สอนพวกเขาไม่ว่าการเรียนหรือการกระทำล้วนต้องสง่าผ่าเผย ไม่ละโมบ ไม่คดโกง เป็นคนต้องใจซื่อมือสะอาด แต่สิ่งที่สอนซื่อเป่ากลับเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ปกครอง หลักการปกครองคนและการใช้คน
ต้าเป่าคิดถึงเรื่องที่ซื่อเป่าเองก็หน้าตาไม่เหมือนกับพวกเขา และดูจากท่าทียามบิดามารดาปฏิบัติต่อเขาแล้ว ก็เดาออกว่ามีความเป็นไปได้มากว่าซื่อเป่าอาจจะไม่ใช่ลูกหลานตระกูลพวกเขา และประวัติที่มาของเขาน่าจะไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้นเหตุใดบิดามารดาจึงต้องสอนเรื่องเหล่านี้ให้เขาด้วย
เขารู้ว่าบิดามารดาตนเป็นคนรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร ดังนั้นชาติกำเนิดซื่อเป่าย่อมไม่ธรรมดา
ตอนแรกที่ต้าเป่าเดาได้เช่นนี้ เขาเองก็ตกใจและเสียใจ พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน แต่เล็กพี่ทั้งสามก็รักซื่อเป่า ดูแลน้องชายคนเล็กที่สุด คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งน้องชายคนเล็กจะไม่ใช่คนในครอบครัวพวกเขา
แต่หลังจากผ่านความเศร้าครั้งแรกมาแล้ว เขาก็คิดตก ไม่ว่าซื่อเป่าจะเป็นผู้ใด ก็ยังคงเป็นน้องชายตัวน้อยที่โตมาในครอบครัวพวกเขา เมื่อก่อนใช่ วันหน้าก็ใช่ นอกเสียจากซื่อเป่าจะไม่ยอมรับพวกเขาแล้ว
ในห้องโถง ซื่อเป่ามองมารดาสั่งให้ต้าเป่าพาน้องๆ ออกไป ก็คิดว่ามารดาไม่พอใจเขาที่ไม่ยอมไปเรียนหนังสือที่สำนักศึกษา
ซื่อเป่าเหลือบมองมารดาตนด้วยท่าทีระแวดระวัง เอ่ยถามเบาๆ ว่า “ท่านแม่ยังอยากให้ข้าไปเรียนหนังสือหรือ แต่ท่านแม่เคยบอกว่า…”
ซื่อเป่าเบะปากมองอย่างอัดอั้น ท่านแม่ไม่อาจพูดแล้วคืนคำนะ
ลู่เจียวกวักมือเรียกซื่อเป่ามานั่งข้างนาง
นางยื่นมือไปกุมมือซื่อเป่า เอ่ยอย่างอ่อนโยนนุ่มนวลว่า “ซื่อเป่า แม่มีเรื่องหนึ่งต้องบอกกับเจ้า เจ้าได้ฟังแล้วก็อย่าได้ตื่นตกใจ”
ซื่อเป่ามองท่าทางลู่เจียวก็รู้สึกกลัว พลันตระหนกตกใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ถึงขั้นเกิดความหวาดกลัว
“ท่านแม่ ข้าเห็นท่านแม่แล้วเหตุใดข้าจึงรู้สึกกลัว หากท่านแม่อยากให้ข้าไปเรียนหนังสือ ข้าก็จะไป ท่านแม่อย่าทำข้าตกใจเช่นนี้”
ลู่เจียวมองซื่อเป่า รูปโฉมหล่อเหลาทรงเสน่ห์ อายุยังน้อยกลับดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล หากมีวันหนึ่งเขาได้เป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจวจริง ฮ่องเต้รูปงามเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นที่หลงรักของสตรีมากมายเพียงใด
ไม่รู้ว่าซื่อเป่าเป็นฮ่องเต้แล้วจะรับผู้หญิงมาเป็นนางในหลายคนหรือไม่
ลู่เจียวคิดเตลิดไปไกล คิดอยู่ครู่หนึ่งก็คิดถึงว่าต้องบอกชาติกำเนิดกับซื่อเป่า อัดอั้นหัวใจยากจะเอ่ยปาก ทั้งยังตัดใจไม่ลง นี่เป็นบุตรชายที่นางเลี้ยงดูมากับมือ สุดท้ายต้องมอบให้ไปอยู่กับผู้อื่น
แต่พวกนางให้สัญญากับรัชทายาทไว้สองปี ตอนนี้ครบกำหนดแล้ว นับประสาอันใดกับตอนนี้รัชทายาทก็เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่แห่งแคว้นต้าโจวแล้ว
เขาย่อมไม่มีทางยอมให้บุตรชายตนเองอยู่กับผู้อื่น อีกอย่างตอนนี้ซื่อเป่าก็ยอดเยี่ยมมากเช่นนี้
ดังนั้นก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงได้หารือกับนางว่าพวกเขาควรบอกชาติกำเนิดซื่อเป่าล่วงหน้า ให้เขาได้มีการเตรียมตัว อย่าให้เขารู้เรื่องนี้จากปากผู้อื่น พวกเขาต้องให้เวลาซื่อเป่าค่อยๆ ทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ก่อน จากนั้นก็จะยอมรับความจริงได้เอง
“ซื่อเป่า ท่านพ่อกับท่านแม่ดีกับเจ้าหรือไม่”
ซื่อเป่ารีบพยักหน้า “ดีขอรับ”
กล่าวจบยังยิ้มอย่างได้ใจ เขยิบเข้าไปใกล้ลู่เจียว กระซิบว่า “ข้ารู้ท่านแม่ชอบข้าที่สุด”
เขาจำได้ว่าตอนเด็กมารดารักเขาที่สุด เขาจำไว้ดีทุกเรื่อง
ลู่เจียวได้ฟังเขาก็คล้ายมีเข็มทิ่มตำในใจ แต่เรื่องที่ควรเอ่ยก็คงต้องเอ่ย
“ซื่อเป่า แม่ต้องบอกเจ้าเรื่องหนึ่ง ความจริงเจ้าไม่ใช่บุตรชายของแม่”
ลู่เจียวกล่าวจบ ซื่อเป่าแทบไม่อยากจะเชื่อ ยิ้มตาหยีกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้ารู้ท่านโมโหที่ข้าไม่เรียนหนังสือ ดังนั้นจึงหลอกข้าเล่นใช่หรือไม่”
เขาเห็นมามาก ยามผู้ใหญ่ไม่พอใจบุตรหลานซุกซนก็จะบอกว่าไม่ใช่บุตรหลานตนเอง
อย่าคิดมาหลอกเขาให้ยากเลย
บิดามารดาดีต่อเขามากเพียงใด เขารู้ดี หากไม่ใช่พวกเขาให้กำเนิดเองจะดีต่อเขาเช่นนี้หรือ
ลู่เจียวมองซื่อเป่าด้วยสีหน้าจริงจัง “แม่ไม่ได้หลอกเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าในใจแม่เจ็บปวดเพียงใด แม่อยากให้เจ้าเป็นบุตรชายแม่เหลือเกิน แต่เจ้าไม่ใช่บุตรชายแม่จริงๆ”
ลู่เจียวกล่าวจนสุดท้ายได้แต่ขมวดคิ้วเคร่งเครียด ซื่อเป่าเห็นท่าทางลู่เจียวไม่เหมือนกำลังล้อเล่น คิดถึงคำพูดนางอย่างละเอียดถี่ถ้วน สมองของเขาพลันอื้ออึงสับสนไปหมด สีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษขาว
ลู่เจียวยื่นมือไปคว้าเขาไว้ “ตอนแรกแม่ไม่รู้ คิดว่าเจ้าเป็นบุตรชายของแม่ คิดว่าแม่ให้กำเนิดซื่อเป่า ต่อมาท่านพ่อบอกแม่ว่าเจ้าไม่ใช่บุตรชายของแม่ เจ้าเป็นบุตรชายเฉินอิง นางก็คือบุตรสาวตระกูลเฉินที่ก่อนหน้านี้พวกเราไปเยี่ยมมา”
ลู่เจียวเพิ่งจะกล่าวถึงตรงนี้ ซื่อเป่าก็ผุดลุกขึ้นยืนน้ำตาไหลริน ปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ท่านแม่ ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อท่านแม่ ข้าเป็นบุตรชายท่านพ่อกับท่านแม่ ท่านแม่ดู แม้ว่าตาข้าไม่เหมือนพวกท่าน แต่รูปหน้าเหมือน ดังนั้นท่านแม่อย่าได้มาหลอกข้า ข้าเป็นบุตรชายพวกท่าน ไม่ใช่บุตรชายของบุตรสาวตระกูลเฉินอันใด”
เขากล่าวจบก็วิ่งตะบึงออกไปราวกับพายุ
ลู่เจียวเป็นห่วงเขา ร้อนใจคิดลุกขึ้นวิ่งตามออกไป แต่สุดท้ายก็ชะงัก ปล่อยให้เขาค่อยๆ คิดดีกว่า
ซื่อเป่าวิ่งออกไปได้ครู่หนึ่ง แฝดชายหญิงก็วิ่งเข้ามา
“ท่านแม่ ท่านแม่พูดอันใดกับพี่สี่ พี่สี่วิ่งออกไปท่าทางเสียใจมาก”
ลู่เจียวนึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที “เขาออกไปจากจวน พี่ใหญ่ไม่ได้ตามไปหรือ”
“พี่ใหญ่ตามไปขอรับ พี่ใหญ่บอกว่าท่านแม่อย่าได้เป็นห่วง พี่ใหญ่จะดูแลพี่สี่ให้ดีเอง”
ลู่เจียวรู้สึกวางใจลง
แฝดชายหญิงนั่งลงข้างกายลู่เจียว ถามอย่างห่วงใยว่า “ท่านแม่ ท่านแม่พูดอันใดกับพี่สี่ พี่สี่จึงได้เสียใจเพียงนั้น”
แต่ไรมาพี่สี่รักท่านแม่มาก ครั้งนี้เสียใจเช่นนี้ ย่อมเป็นเพราะท่านแม่พูดอันใดกับพี่สี่
เซี่ยหลิงหลงคิดถึงว่าพี่สี่ชอบทำการค้า เอาแต่คิดว่าเรียนหนังสือสองปีก็จะไม่เรียนต่อแล้วมาตลอด เขาจะไปทำการค้า หรือว่าท่านแม่ไม่ให้พี่สี่ทำการค้า จะให้เขาไปเรียนหนังสือต่อ
“ท่านแม่ ท่านแม่ให้พี่สี่เรียนหนังสือต่อ ดังนั้นพี่สี่เลยโมโหหรือ”
ลู่เจียวมองไปยังบุตรชายหญิงตัวน้อย รู้สึกว่าเรื่องนี้บอกพวกเขาก็ได้ เพราะรัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ ซื่อเป่าก็จะได้เป็นโอรสฮ่องเต้ในไม่ช้านี้ และจะได้เข้าไปอยู่ในวัง
แม้นางปิดบังไว้ วันหน้าสองหนูน้อยก็ย่อมรู้อยู่ดี
ดังนั้นลู่เจียวมองไปยังแฝดชายหญิงกล่าวว่า “แม่บอกชาติกำเนิดของพี่สี่เจ้าไป เขาไม่ใช่บุตรชายตระกูลเรา”
เมื่อวาจานี้เอ่ยออกไป แฝดชายหญิงก็ตกใจอึ้ง ทั้งสองคนนิ่งไปตั้งสติไม่ได้เป็นนาน
สุดท้ายอู่เป่าน้อยถามอย่างระมัดระวังว่า “ท่านแม่ พี่สี่ไม่ใช่บุตรชายตระกูลเรา เป็นบุตรชายตระกูลใด”
“เขาเป็นองค์ชาย”
เด็กทั้งสองตกใจจนติดอ่าง “อะ อะ องค์ชายหรือ”
สวรรค์ พี่สี่ถึงกับเป็นโอรสฮ่องเต้ องค์ชายสูงศักดิ์ เช่นนั้นเขาร้องไห้ทำไมกัน เป็นองค์ชายดีจะแย่