ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 534 ลูกชายฝาแฝด(2)
ตอนที่ 534 ลูกชายฝาแฝด(2)
เซี่ยเจ๋อหลี่รออยู่ตรงหน้าประตูห้องคลอด หลังจากมู่หลานออกมา ทั้งสองก็กลับไปที่ห้องพักฟื้นด้วยกัน
ฉินมู่หลานรู้สึกสับสนตาพร่ามัว หลังจากถูกส่งตัวกลับไป ก็ทำได้เพียงมองดูเด็กทั้งสองเพียงครู่หนึ่งเท่านั้น จากนั้นจึงผล็อยหลับไป
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานเป็นแบบนี้ก็ลูบผมของเธอ แล้วให้เธอนอนหลับพักผ่อนอย่างดี
เนื่องจากมีคนอยู่ในห้องมากเกินไป หมอที่มาถึงแล้วจึงกล่าวขึ้น “พวกคุณเห็นหน้าเด็กแล้วก็กลับไปกันเถอะค่ะ อยู่ดูแลแม่กับเด็กแค่สองคนก็พอค่ะ”
เมื่อได้ยินคุณหมอกล่าวแบบนี้ ซูหว่านอี๋ก็รีบยกยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ได้ค่ะหมอ พวกเราเข้าใจแล้ว” หลังจากนั้นเธอก็หันไปมองแล้วบอกกับเหยาจิ้งจือว่า “จิ้งจือ เดี๋ยวฉันกับอาหลี่อยู่เองก็ได้”
เหยาจิ้งจือย่อมพยักหน้าเห็นด้วย
นายท่านเหยาและคุณนายเหยายังคงอยากอยู่ดูแลเด็ก ๆ ต่อ เพราะคนโตจะใช้แซ่เหยา แต่หลี่เสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นว่า “คุณยายคะ ยายเห็นไหมว่ามู่หลานเหนื่อยขนาดไหน และพวกเด็ก ๆ ก็ยังต้องนอนหลับพักผ่อนด้วย เพราะฉะนั้นพวกเรากลับกันก่อนเถอะค่ะ ไปทำน้ำแกงเนื้อมาบำรุงให้มู่หลานด้วย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณนายเหยาก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ก็จริง ควรไปทำน้ำแกงมาให้มู่หลานเยอะ ๆ ควรให้หล่อนได้บำรุงร่างกายสักหน่อย”
หลังจากนั้น นายท่านเหยาและคุณนายเหยาก็พาเซี่ยเจ๋อเหว่ยและหลี่เสวี่ยเยี่ยนกลับไป
ส่วนทางด้านเซี่ยฉางเจี๋ยก็กลับไปเหมือนกัน เขาอยู่ที่นี่ต่อไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้มาก
หลังจากทุกคนกลับไปแล้ว เหยาจิ้งจือและซูหว่านอี๋ก็เริ่มยุ่งขึ้นมา จากนั้นทั้งสองก็หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่อีกครั้งก่อนจะกล่าวว่า “อาหลี่ พวกเราอยู่ที่นี่แหละ เธอกลับบ้านไปบอกพวกพ่อหน่อยเถอะ จะได้ทำให้พวกเขาวางใจ”
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานหลับแล้ว เขาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก จึงลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “ครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมกลับไปก่อน แล้วเดี๋ยวจะเอาข้าวมาให้พวกแม่ครับ”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอรีบไปเถอะ”
หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่กลับถึงบ้าน ก็บอกว่ามู่หลานได้ลูกชายฝาแฝด
ฉินเคอวั่งก็มาโรงพยาบาลกับเขาด้วย วันนี้เขาบังเอิญไปบ้านอาจารย์พอดี เมื่อกลับบ้านมาก็พบว่าพี่สาวไปคลอดที่โรงพยาบาลแล้ว เขาจึงช่วยพาชิงชิงและเฉินเฉินไปเล่น เพื่อให้เซี่ยเจ๋อหลี่และฉินเจี้ยนเซ่อทำอาหารได้ และสุดท้ายก็ได้มีเวลาไปเยี่ยมพี่สาวที่โรงพยาบาลแล้ว
หลังจากทั้งสองมาถึงโรงพยาบาล ก็รีบนำอาหารออกมาอย่างรวดเร็วให้ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือได้กินก่อน และเซี่ยเจ๋อหลี่ก็หันมองฉินมู่หลานอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ตื่น ก็เดินเข้าไปดูลูก ๆ ทั้งสอง แต่เด็กทั้งสองก้ยังหลับตาอยู่เหมือนกัน
ทารกแรกเกิดมักจะมีรอยเหี่ยวย่น แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยังคิดว่ามันดูดี เพราะอย่างไรก็เป็นลูกของตัวเองกับมู่หลาน
ในที่สุดเรื่องที่ฉินมู่หลานได้ลูกชายฝาแฝดก็เป็นที่ทราบกันในหมู่ญาติและมิตรสหายบางคน หลังจากสองพี่น้องเซี่ยปิงหรุ่ยและเซี่ยปิงชิงทราบ ก็อยากจะมาหา แต่เจี่ยงสือเหิงกลับมองเซี่ยปิงชิงแล้วเอ่ยว่า “ปิงชิง คุณไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวผมกับปิงหรุ่ยไปที่โรงพยาบาลเอง”
ตอนนี้ท้องของเซี่ยปิงชิงก็ไม่เล็กแล้ว เขาจึงเป็นกังวลว่าหล่อนจะคลอดก่อนกำหนดเหมือนกัน
เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวขึ้น “ใช่แล้วปิงชิง เธออยู่ที่บ้านเถอะ เราจะได้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องเธอ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงชิงก็ทำได้เพียงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกพี่รีบไปกันเถอะ”
เมื่อเจี่ยงสือเหิงและเซี่ยปิงหรุ่ยมาถึงโรงพยาบาล ฉินมู่หลานก็เพิ่งฟื้น “พ่อบุญธรรม ปิงหรุ่ย ทุกคนมากันแล้ว”
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลานดูอ่อนแรง จึงรีบกล่าวว่า “มู่หลาน เธออย่าเพิ่งลุกขึ้นนั่งเลย นอนไปเถอะ พวกเรารู้ว่าเธอคลอดแล้วก็เลยมาเยี่ยม ตอนแรกปิงชิงก็อยากมาด้วย แต่ท้องหล่อนใหญ่มากแล้ว พวกเราจึงไม่ให้หล่อนมาด้วย”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้จึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ปิงชิงอยู่บ้านก็ดีแล้ว หล่อนก็ใกล้คลอดแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องใส่ใจให้มา