ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 762 เตรียมตัวกลับไปทำงาน
ตอนที่ 762 เตรียมตัวกลับไปทำงาน
หลังจากส่งโจวเจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ กลับไปแล้ว ชีวิตอยู่เดือนหลังคลอดของหลินเซี่ยก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ
เซี่ยอวี่มาปรึกษากับหลินเซี่ยเรื่องการเข้าร่วมทีมงานตามคำขอของลินดา
ก่อนที่หลินเซี่ยจะคลอดบุตร เธอเคยรับปากกับผู้กำกับเหยียนไว้ว่าหลังจากคลอดบุตรแล้ว เธอจะมาเป็นสไตลิสต์ให้กับทีมงาน
แต่พอลูกน้อยที่เพิ่งอายุครบเดือนอยู่ในอ้อมแขน เธอก็ลังเลขึ้นมาทันที
ทิ้งลูกไม่ลง
แม้สถานที่ทำงานจะอยู่ที่ไห่เฉิง แต่แน่นอนว่าเธอไม่สามารถพาลูกไปทำงานได้
ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างการถ่ายทำ ทีมงานทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลแบบรวมศูนย์
เป็นไปไม่ได้ที่จะเหมือนกับการไปทำงาน แล้วเลิกงานก็กลับบ้านได้เลย
หากนักแสดงต้องถ่ายทำฉากกลางคืน สไตลิสต์ก็ต้องตามไปด้วย
กลัวว่าจะไม่ได้ป้อนนมลูกตรงเวลา กลัวว่าลูกจะร้องไห้งอแงหากไม่อยู่ข้างๆ
หลังจากที่เธอเป็นแม่แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไร ลูกก็ต้องมาก่อนเสมอ
เธอพบว่าในช่วงเวลาสั้นๆ หนึ่งเดือนหลังคลอดบุตร ความคิดของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
มีสิ่งที่ต้องกังวลและจุดอ่อนเต็มไปหมด
เฉินเจียเหอเพิ่งกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นหลังจากไปส่งโจวเจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ ก็ได้ยินเซี่ยอวี่คุยกับหลินเซี่ยเรื่องงาน
สีหน้าของหลินเซี่ยดูลังเล ไม่แน่ใจ
เซี่ยอวี่เข้าใจความรู้สึกของหลินเซี่ยที่เป็นแม่คนแรกและไม่อยากให้ลูกต้องลำบาก
แต่ที่รับปากผู้กำกับเหยียนไว้ก็เป็นเรื่องหนึ่ง
ส่วนใหญ่แล้ว เธอหวังว่าจะได้นำเสนอการแต่งหน้าทำผมที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เฉินเจียเหอได้ยินว่าหลินเซี่ยจะไปทำงานแล้วก็มีสีหน้าลังเล ถามกลับว่า “คุณคิดว่าร่างกายของคุณพร้อมที่จะกลับไปทำงานหรือยัง”
หลินเซี่ยขยับแขน “ฉันไม่มีปัญหา ร่างกายฉันแข็งแรงมาก สิ่งที่ฉันกังวลคือลูก ฉันต้องให้นมลูก กลัวว่าจะดูแลเขาได้ไม่ดี”
“ถ้าคุณคิดว่างานนี้สำคัญสำหรับคุณ ปัญหาเรื่องลูก เราค่อยๆ แก้กันไปได้”
คำตอบของเฉินเจียเหอทำให้หลินเซี่ยและเซี่ยอวี่ประหลาดใจ พวกหล่อนคิดว่าเฉินเจียเหอต้องคัดค้านอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เฉินเจียเหอกล่าวว่า “แต่ผมเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของคุณ อย่าฝืนตัวเองนะ”
ตอนนี้เอง หลิวกุ้ยอิงที่ทำกับข้าวเสร็จก็เดินเข้ามา
พอคุณแม่เซี่ยได้ยินว่าหลินเซี่ยจะถูกเซี่ยอวี่ลากไปทำงานเร็วขนาดนี้ ก็รีบร้อนขึ้นมาทันที
“เซี่ยเซี่ยเพิ่งคลอดลูกเอง จะออกไปทำงานได้ยังไง อย่างน้อยก็ต้องพักฟื้นสักครึ่งปีถึงจะหายดี ไม่ใช่ผู้หญิงสมัยก่อนที่ต้องออกไปทำงานหนักหลังคลอดลูก ตอนนี้เราก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน”
คุณแม่เซี่ยมองเซี่ยอวี่ที่กำลังตั้งครรภ์อย่างไม่พอใจ “แล้วแกล่ะรู้ตัวเองบ้างไหมว่าเป็นยังไง ยังจะไปถ่ายหนังอีก”
เซี่ยอวี่รู้สึกพูดไม่ออกกับท่าทีของหญิงชรา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แม่ ฉันถ่ายหนังไปได้ครึ่งทางแล้วถึงได้ท้อง จะให้ผู้กำกับเปลี่ยนตัวตอนนี้ได้ยังไง ใครจะมารับผิดชอบความเสียหายนี้”
“ฉันเซ็นสัญญากับเขาไว้ เขาไม่มาหาเรื่องฉันก็ดีแค่ไหนแล้ว ยังจะให้ผิดสัญญาอีกเหรอ”
เซี่ยอวี่มองหน้าทุกคนอย่างจริงจัง เตือนพวกเขาว่า “เรื่องที่ฉันท้อง อย่าเอาไปพูดที่ไหนนะ ต้องเก็บเป็นความลับในกองถ่ายด้วย ยังไงก็ต้องถ่ายทำส่วนที่เหลือให้เสร็จ นี่เป็นความตั้งใจของทีมงาน ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างทุกคน จะมาพังเพราะคนๆ เดียวไม่ได้”
เซี่ยอวี่มีจรรยาบรรณวิชาชีพ แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพราะจ่ายค่าเสียหายจากการผิดสัญญาไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น หล่อนยังคำนึงถึงชื่อเสียงของตัวเอง หากตอนนี้ทิ้งงานไปกลางคัน ละครเรื่องต่อไปอาจจะไม่มีผู้กำกับคนไหนจ้างหล่อนอีก
“เซี่ยเซี่ย ฉันยังหวังว่าเธอจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ส่วนเรื่องให้นมลูก ฉันมีวิธีแก้ไข”
เซี่ยอวี่บอกแผนการและความคิดของหล่อน “ทีมงานทั้งหมดพักอยู่ที่โรงแรม เดี๋ยวฉันจะจ่ายเงินเพิ่ม จองโรงแรมดีๆ ให้พี่สะใภ้ใหญ่พาลูกไปอยู่ที่นั่น เธอทำงานเสร็จก็ไปป้อนนมลูกได้เลย ยังไงซะอยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่ได้ทำอะไร งานสไตลิสต์ก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก หลักๆ อยู่ที่เทคนิคของเธอ ผู้กำกับพอใจในตัวเธอมาก ถ้าไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ ต่อไปจะเข้าสู่วงการนี้อีกก็ยากแล้ว”
เซี่ยอวี่ผ่านร้อนผ่านหนาวในสังคมมาหลายปี รู้ดีว่าโอกาสไม่ได้หาง่ายๆ
ตราบใดที่คุณมีความทะเยอทะยานในชีวิตและอาชีพการงาน คุณก็ต้องพยายามบ้าง
ถ้าต้องการใช้ชีวิตธรรมดาๆ ก็ลืมสิ่งที่หล่อนพูดไปได้เลย
หล่อนเห็นได้ว่าหลินเซี่ยมีความทะเยอทะยานมากกว่าหล่อนเสียอีก
ถ้าไม่คว้าโอกาสตรงหน้าไว้ แล้วจะรอถึงเมื่อใด
หลินเซี่ยมองเซี่ยอวี่ พูดอย่างจริงจังว่า “ตกลงค่ะ อาหญิงบอกผู้กำกับเหยียนให้หน่อยนะคะว่าฉันรับงานนี้”
คนอื่นๆ ยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่หลินเซี่ยตัดสินใจไปแล้ว พวกเขาไม่มีสิทธิ์คัดค้าน
“อาหญิง ประมาณกี่วันคะถึงจะถ่ายเสร็จ”
เซี่ยอวี่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ฉันได้ยินมาว่าเบื้องต้นวางแผนไว้ที่ยี่สิบวัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ยี่สิบวันก็น่าจะปิดกล้องได้”
ยี่สิบวันถือว่าไม่นานสำหรับหลินเซี่ย พอดีกับช่วงนี้เธอจะได้ให้หยางหงเสียกับคนอื่นๆ เริ่มรับสมัครนักเรียนรุ่นที่สอง
พอเสร็จงานตรงนี้แล้ว ก็จะได้ไปดูแลงานฝึกอบรมนักเรียนรุ่นที่สอง เรื่องสำคัญในชีวิตเสร็จไปแล้วสองเรื่อง ต่อไปนี้เธอต้องทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่
หลินเซี่ยตัดสินใจเรื่องงานแล้ว แต่ใครจะดูแลลูก
ทุกคนมองมาที่เธอ
เธอยิ้มและมองไปที่หลิวกุ้ยอิง ถามว่า
“แม่คะ แม่มีเวลาช่วยดูแลลูกให้หน่อยไหมคะ”
“แม่มีเวลาอยู่ แต่แบบนี้จะไม่รีบร้อนไปหน่อยเหรอ”
หลิวกุ้ยอิงพูดอย่างลังเล มองไปที่เฉินเจียเหอ
หวังว่าเฉินเจียเหอจะห้ามหลินเซี่ย ไม่ให้เธอรีบออกไปทำงาน
เวลากระชั้นเกินไป ไม่ดีต่อทั้งเธอและลูก
แต่เฉินเจียเหอยืนอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนจะไม่ได้คัดค้านอะไร
เขาก็ไม่ได้หวังว่าพวกเธอจะยอมแพ้
เขาหวังว่าทุกคนจะมีชีวิตที่สวยงาม ออกไปต่อสู้ข้างนอก สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง
อย่ายอมแพ้เพราะลูก
ผู้หญิงที่เป็นแม่ เมื่อใดที่ทุ่มเทอย่างไม่เห็นแก่ตัว เมื่อนั้นก็จะต้องเสียสละตัวเอง
ตอนนี้พวกเขามีเงื่อนไขและความสามารถที่จะเป็นกำลังสำคัญให้กับลูกสาว จะช่วยเธอทำงานเบื้องหลัง สนับสนุนอาชีพของเธอ
“เจียเหอ เธอคิดยังไง”
เซี่ยเหลยพูดจบก็หันไปถามเฉินเจียเหอ
“พ่อ ผมก็สนับสนุนเซี่ยเซี่ยครับ”
เฉินเจียเหอถามเซี่ยอวี่ว่า “อาหญิง อีกนานไหมครับกว่าจะเริ่มถ่ายทำ เซี่ยเซี่ยพักฟื้นอีกหน่อยได้ไหมครับ”
เซี่ยอวี่ตอบว่า “ต้องรอให้ลินดามาถึงก่อนถึงจะรู้แน่ชัด ประมาณหนึ่งอาทิตย์ได้”
“งั้นก็ดี หนึ่งอาทิตย์นี้เซี่ยเซี่ยก็พักผ่อนบำรุงร่างกายก่อน ถ้าแม่ไม่ต้องไปยุ่งที่ร้านอาหาร ก็รบกวนแม่ช่วยดูแลลูกให้หน่อย ผมเลิกงานแล้วจะแวะไปช่วย”
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกค่ะ แม่ช่วยดูแลลูกให้ก็พอแล้ว”
หลินเซี่ยพูดกับเซี่ยเหลยอย่างออดอ้อน “พ่อคะ แม่ไม่อยู่ที่ร้านอาหารได้ไหมคะ”
เซี่ยเหลยโบกมืออย่างใจกว้าง “ได้ ตอนนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ก็ไม่มีปัญหา”
หลินเซี่ยยิ้ม
“พ่อก็ควรจะไปดูแลบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นดูแลไปซะทั้งหมด”
เมื่อตกลงกันได้แล้ว หลินเซี่ยก็ย้ายไปอยู่บ้านแม่ทันที สองสามวันมานี้หลิวกุ้ยอิงก็ใช้เวลากับหลานชาย สร้างความสัมพันธ์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการที่หลินเซี่ยจะต้องออกไปทำงาน
แน่นอนว่าหล่อนก็ทุ่มเทให้กับการทำอาหารให้หลินเซี่ย บำรุงร่างกายของเธออย่างเต็มที่
หลินเซี่ยก็เริ่มออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
สามวันหลังจากที่เซี่ยอวี่จดทะเบียนสมรสกับเย่ไป๋ ครอบครัวเย่ก็มารับเซี่ยอวี่ที่บ้าน
จริงๆ แล้วคิดว่าพวกเขาจะมาถึงในวันรุ่งขึ้น ไม่นึกว่าจะเว้นไปสามวัน
เย่ไป๋ขับรถมา รถยังประดับดอกไม้ไว้ด้วย ทุกคนในครอบครัวต่างแต่งตัวสวยงามนั่งอยู่ในรถ พอลงจากรถก็เริ่มขนของออกจากท้ายรถ บรรจุภัณฑ์ของต่างๆ ล้วนเป็นสีแดงสดใส
การมาถึงของพวกเขาทำให้ครอบครัวเซี่ยตกใจ
เหมือนกับมารับตัวเจ้าสาวไม่มีผิด
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จัดการงานกับลูกให้ลงตัวนะเซี่ยเซี่ย ช่วงนี้หัวหมุนไปพักใหญ่ๆ เลยล่ะ
บ้านเย่เล่นใหญ่มาก สมเกียรติลูกสะใภ้สุดๆ