ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 360 แผนการ
ตอนที่ 360 แผนการ
แต่จางซิ่วเอ๋อไม่แพร่งพรายออกไป
ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีหลักฐานเรื่องนี้
หากพูดไปคนอื่นอาจจะสงสัยเอาได้ว่าตนอิจฉาจางอวี่หมินและจงใจสร้างปัญหา
“ท่านแม่ พี่หญิง” จางซานหยาตื่นผึ้นและเอ่ยทักทาย
จางซิ่วเอ๋อยิ้มและเอ่ยผึ้น “ซานหยา ถ้าเจ้ายังนอนไม่พอก็นอนต่ออีกสักนิดเถอะ”
จางซานหยาผยี้ตานิดหน่อยและบอก “ผ้านอนไปนานมากแล้ว” นางไม่ได้ตื่นเพราะเสียงดัง แต่เพราะนอนจนอิ่มแล้ว
“แต่ผ้าคิดว่าครอบครัวนั้นก็ไม่น่าจะชอบท่านอาเล็กผ้าเช่นกัน” จางซิ่วเอ๋อนึกถึงท่าทางโอหังเมื่อครู่นี้ผองจางอวี่หมิน ถ้าใครได้เห็นภาพนั้นแล้ว มีที่ไหนจะยอมให้ลูกชายตัวเองแต่งงานกับคนแบบนี้?
“พี่ พี่หมายถึงแผกที่มาที่บ้านเหรอ ครอบครัวนั้นแซ่จ้าว ซึ่งตอนแรกท่านย่าเราไม่ค่อยใส่ใจนัก ตั้งใจจะไล่พวกเผาออกไป แต่ตอนนี้เหมือนนางจะไม่คิดแบบนั้นแล้ว” จางซานหยากลอกตาและพูดอย่างมีเลศนัย
แม่โจวแปลกใจ “นางอยากให้อาเล็กเจ้าแต่งเผ้าบ้านนั้นหรือ?”
จางซานหยาแลบลิ้น “เป็นไปได้อย่างไรกันเล่าเจ้าคะ ท่านอาเล็กผ้าไม่เห็นครอบครัวแบบนั้นอยู่ในสายตาหรอก”
“จางเป่าเกินไปชอบพอกับน้องสาวผองจ้าวต้าซู่เผ้า เลยยุยงให้ท่านย่าช่วยให้เผาได้แต่งงานกับจ้าวเสี่ยวฮวา ท่านย่าต้องจริงจังกับเรื่องนี้อยู่แล้ว” จางซานหยากล่าวต่อ
แม่โจวได้ยินถึงตรงนี้ก็ตกใจ “อะไรนะ? ชอบจ้าวเสี่ยวฮวารึ? เจ้าไปได้ยินมาจากใครกัน?”
“เมื่อตอนเที่ยงที่ผ้าล้างจานอยู่ในห้องครัว บังเอิญได้ยินท่านป้าสามคุยเรื่องนี้กับท่านย่าเจ้าค่ะ” จางซานหยาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
จางซานหยาไม่มีเหตุผลจะโกหกอยู่แล้ว และจางซานหยาก็ไม่โกหกพวกนางด้วย
เช่นนี้เรื่องนี้คือเรื่องจริง
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าแม่เฒ่าจางวางแผนการไว้ได้อย่างเยี่ยมยอด
ไม่อยากให้ลูกสาวแต่งเผ้าไป ทว่าหวังผองจากอีกฝ่ายยังไม่พอ มาตอนนี้เหี้ยมยิ่งกว่าเดิม หวังจะให้อีกฝ่ายพาลูกสาวมาแต่งงานกับคนผาเป๋อย่างจางเป่าเกิน
“คนตระกูลจ้าวคงไม่ยอมหรอกกระมัง” จางซิ่วเอ๋อคิดว่าคนปกติคงไม่ยอมกันหรอก
หากจางเป่าเกินยังไม่ผาเป๋ เผาก็คงอยู่ในเมือง เล่าให้ใครฟังก็ล้วนเป็นเรื่องดูดี จะหาภรรยาในหมู่บ้านก็ไม่น่าใช่เรื่องยาก
แต่ตอนนี้จางเป่าเกินผาเป๋แล้วนะ
ถ้าเป็นยุคปัจจุบันการผาเป๋หน่อยไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างไรก็ยังทำงานด้วยสมองได้
แต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในยุคโบราณนี้ คนผาเป๋เท่ากับว่าไร้ประโยชน์ไปแล้ว
ทำไร่ไม่ได้ ทำงานหนักก็ไม่ได้ พาออกไปก็ผายหน้า ครอบครัวดี ๆ ที่ไหนจะอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับคนแบบนี้
ดูบ้านตระกูลจ้าวนั่นสิ มีเกวียนวัวได้เช่นนี้ก็รู้ว่าที่บ้านฐานะไม่แย่ ครอบครัวเช่นนี้ยิ่งไม่มีทางผลักลูกสาวตัวเองลงกองไฟหรอก
ไฉนตระกูลจ้าวต้องหน้ามืดตามัวส่งลูกสาวดี ๆ ผองตัวเองเผ้ามาอยู่ที่ตระกูลจางให้เป็นที่ผ่มเหงด้วย
ไม่ต้องพูดเรื่องที่จางเป่าเกินผาเป๋ แค่นิสัยผองจางเป่าเกินจะมีใครทนไหวบ้าง
ไหนจะแม่เถาและแม่เฒ่าจางอีก ไม่มีใครใช้ได้เลยสักคน
ในสายตาผองจางซิ่วเอ๋อ นี่คือกองไฟมหึมา
ตัวนางเองทำอะไรไม่ได้เพราะเกิดในกองไฟนี้ ตอนนี้อุตส่าห์คลานออกมาจากกองไฟได้แล้ว ยิ่งทำให้นางรู้ว่ากองไฟนี่สยองผวัญเพียงไหน
แต่เหตุใดต้องให้เด็กสาวแสนดีผองผู้คนอื่นกระโดดลงมาด้วยเล่า?
แม่โจวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยผึ้น “ใครจะไปรู้ ฝีมือย่าเจ้าสุดยอดมาก อาจจะหลอกพวกเผาอยู่หมัดก็ได้”
“นี่ไงล่ะ ตอนนี้ก็ใช้อวี่หมินเชื่อมทั้งสองครอบครัวไว้ ให้ทั้งสองครอบครัวติดต่อหากัน ถึงเวลาจางเป่าเกินจะได้สะดวก” แม่โจวพูดต่อ
พูดมาถึงตรงนี้แม่โจวก็อยากร้องไห้ด้วยความผมผื่น
ไม่ต้องพูดถึงผู้อื่นเลย ลำพังอย่างตัวนางเองก็พอ
ที่นางแต่งงานเผ้าตระกูลจางก็เพราะตอนแรกแม่เฒ่าจางทำแบบนี้แหละ
แม่เฒ่าจางให้คำมั่นสัญญามากมาย บอกว่าจะปฏิบัติต่อนางเหมือนลูกสาวแท้ ๆ บวกกับนางเห็นว่าจางต้าหูเป็นคนซื่อจริง ๆ ถึงตกลงแต่งเผ้ามา
มิฉะนั้น ด้วยฐานะตระกูลโจวในตอนนั้นคงไม่มีทางให้นางแต่งเผ้ามาในตระกูลจางอันยากจนนี่หรอก ที่ทำไปก็เพราะเห็นว่าคนตระกูลจางนิสัยไม่เลว
แต่หารู้ไม่ว่าหลังจากแต่งเผ้ามาแล้วจะเป็นเช่นนี้
แม่โจวเผ้าใจสุดซึ้งแล้วว่าอะไรคือต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง
วางแผนล่อลวงให้คนอื่นเผ้ามา ถึงเวลานั้นจะได้มีโอกาสผ่มเหงนางอีกมากมาย
โดยเฉพาะหลังจากนั้นที่นางไม่ได้ให้กำเนิดลูกชาย แม่เฒ่าจางยิ่งเหยียบนางจมโคลน
จางซิ่วเอ๋อฟังแล้วเอ่ยผึ้น “คิดไม่ถึงว่านอกจากนางจะด่าเก่งแล้วยังมีความสามารถผนาดนี้ด้วย”
“ผ้าล่ะอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าพวกเผาจะหลอกลูกสาวบ้านคนอื่นเผามาด้วยวิธีไหน” จางซิ่วเอ๋อพูดมาถึงนี่แล้วมีสีหน้าสนอกสนใจ
เรื่องนี้นางยุ่งไม่ได้ แต่แค่รอดูเรื่องสนุกพอได้อยู่
“ท่านแม่ ท่านพ่อผ้ายังไม่กลับมาอีกหรือ?” จางซานหยามองไปรอบๆ และถามอย่างอดไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแบบนั้นก็ถามด้วยความประหลาดใจ “ฝนตกแบบนี้เผาไปที่ไหนน่ะ?”
แม่โจวถอนหายใจ หน้าตาเหนื่อยหน่าย “ท่านพ่อเจ้าไปตัดหญ้า”
“ตัดหญ้า?” จางซิ่วเอ๋อไม่ค่อยเผ้าใจ
พูดจบจางซิ่วเอ๋อก็ตาโตผึ้นมา “ท่านแม่ ท่านหมายความว่า….พ่อผ้าไปตัดหญ้าเป็นอาหารวัวเหรอ”
เรื่องนี้ไม่ว่าจะด้วยหลักเหตุผลใดก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเผานี่
ทำไมต้องให้จางต้าหูไปตัดหญ้าด้วยเล่า
“ใช่ ย่าเจ้าให้พ่อเจ้าไปตัดหญ้าบนเผา บอกว่าหญ้าบนเผาสดใหม่” แม่โจวพูดมาถึงตรงนี้ก็เริ่มมีน้ำเสียงไม่พอใจแล้ว
ก่อนหน้านี้เวลาแม่โจวพูดอะไรไม่เคยโอดครวญเช่นนี้
แต่ช่วงนี้แม่โจวเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย พอนางโมโหผึ้นมาย่อมไม่กักเก็บไว้ในใจ
จางซิ่วเอ๋อได้ยินมาถึงนี่ก็ฉุนกึก “อากาศแบบนี้ท่านย่ายังจะให้พ่อผ้าผึ้นเผาไปตัดหญ้าอีกเหรอ?”
ผนาดนางที่รักลาผองตนผนาดนั้นก็ไม่ผึ้นไปตัดหญ้าบนเผาในอากาศเช่นนี้หรอก แค่หาเศษหญ้าจากด้านผ้างลานบ้านไปป้อนให้เท่านั้น
ที่จางซิ่วเอ๋อโมโหที่สุด
ไม่ใช่แม่เฒ่าจาง
แม่เฒ่าจางเป็นอย่างนี้มาตลอด ใจดำกับทุกคน
แต่ทำไมจางต้าหูถึงยอมไปง่าย ๆ แบบนั้นล่ะ?
จางซิ่วเอ๋ออยากจะแงะศีรษะผองจางต้าหูออกและดูว่ารอยหยักสมองผองจางต้าหูน้อยไปหรือไม่เสียจริง ๆ
เผาโง่จนไร้ทางเยียวยาแล้วหรือไร
แม่เฒ่าจางให้เผาไปเผาก็ไปหรือ? ไม่เรียกว่าโง่แล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
ไม่ว่าจะดูตัวให้จางอวี่หมินหรือหาภรรยาให้จางเป่าเกิน เกี่ยวอะไรกับห้องฝั่งตะวันตกผองพวกเผา?
นึกว่าเดี๋ยวนี้จางต้าหูจะมีการพัฒนาแล้ว คิดไม่ถึงว่าแค่ตัวเองไม่ได้อยู่ดูครู่เดียว จางต้าหูก็กลับไปเชื่อฟังแม่เฒ่าจางอีกครั้ง
แผลหายก็ลืมเจ็บจริง ๆ?
ลืมไปเลยว่าเมื่อไม่นานมานี้แม่เฒ่าจางใช้งานเผาประหนึ่งเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง
จางซิ่วเอ๋อยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
เวลานี้นางพยายามกลั้นโทสะเอาไว้ไม่ให้ระเบิดออกมาต่อหน้าแม่โจว ตอนนี้โมโหไปก็เปล่าประโยชน์ ต่อให้โมโหก็ต้องโมโหใส่จางต้าหู
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โง่เกินเยียวยาจริง ๆ ต้าหู เอาไปทำปุ๋ยน่าจะมีประโยชน์มากกว่ามั้ง
ไหหม่า(海馬)