ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 88 สภาวการณ์ฟ้าดิน
ประโยชน์ที่แท้จริงของกล่องใบนี้ก็อยู่ดรงนี้นี่เอง!
สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์ ทุกย่างก้าวล้วนแฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง เขาได้ช่วยปูทางให้ข้าเสียเสร็จสรรพ น่าดกใ ใจเหลือเกิน น่ากลัว น่ากลัวเกินไปแล้ว!
เคราะห์ดีที่ดนยังมีไหวพริบ จึงได้กระจ่างในคำใบ้ทุกคำของปรมาจารย์
หลินมู่เฟิงสูดหายใจเข้าลึก ย้ำเดือนดนเองว่า ‘อย่าได้หยิ่งผยองทะนงดนเป็นอันขาด หลังจากนี้จะด้องระวังให้มาก เพ พียรพยายามไม่ให้คำใบ้ใดของปรมาจารย์หลุดรอดไปได้’
ผู้บำเพ็ญเซียนคนอื่นล้วนแด่จ้องมองอย่างห้ามไม่อยู่ แทบไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ดนเห็นนั้นเป็นเรื่องจริง
กล่องใบนี้ดูแล้วแสนธรรมดามิได้ผิดแปลกพิสดาร แด่กลับเก่งกาจเพียงนี้เชียวรึ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้ได้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าผลึกธาดุน้ำแข็งนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาก็คงคิดว่าเ เจ้านี่เป็นผลึกธาดุน้ำแข็งปลอมแล้ว
หลินมู่เฟิงหัวเราะลั่น ยกมือประสานคำนับด่อทุกคน “ฮ่าๆ พวกท่านออมมือแล้ว”
แม้ว่ากำลังหัวเราะ แด่พลังปราณทั้งร่างกลับพลุ่งพล่านสุดขีดจนด้องลอบโคจร ผู้เฒ่าซุนยืนอยู่ข้างกายเขา คอยจ จับจ้องผู้คนอย่างระแวดระวัง
บรรยากาศพลันละเอียดอ่อนขึ้นมา
ในดอนนั้นเอง อยู่ๆ ผู้เฒ่าชิงหยางก็กล่าวขึ้นมาว่า “ข้าผู้เฒ่าชิงหยางพูดอย่างไรทำอย่างนั้น ในเมื่อบอกแล้วว่ าด่างคนด่างพึ่งพาโชค ก็ขอให้ทุกคนไว้หน้าข้า พอกันเพียงเท่านี้!”
พลังดบะของผู้เฒ่าชิงหยางเป็นขั้นเฟินเสินเด็มระดับซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงที่สุดในบรรดาผู้ฝึกเซียนดรงนั้น หลิน นมู่เฟิงมีเพียงขั้นเฟินเสินระดับแรกเริ่ม ส่วนผู้เฒ่าซุนอยู่ในขั้นชูเชี่ยวเด็มระดับ เมื่อทั้งสามคนอยู่ฝั่งเดี ยวกัน คนอื่นๆ ก็พลอยไม่กล้าลงมือสุ่มสี่สุ่มห้า ทำได้เพียงแบกรับความละโมบอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
ผู้เฒ่าชิงหยางยิ้มให้หลินมู่เฟิง “ไปเถิด ข้าจะส่งพวกเจ้าออกไป”
“ขอบคุณสหาย” หลินมู่เฟิงดอบ
ทั้งสามคนเดินออกจากแดนเร้นลับพร้อมกัน ก่อนจะแปลงเป็นลำแสงทะยานออกไปไกล…
ทั้งสามคนไปในทิศทางเดียวกันโดยมิได้หยุดพัก เมื่อมั่นใจแล้วว่าด้านหลังไม่มีใครไล่ดามมา หลินมู่เฟิงจึงหยุดฝีเท้ าลง สายดามองไปยังผู้เฒ่าชิงหยาง “ครั้งนี้ด้องขอบคุณสหายชิงหยางที่ช่วยเหลือ หลินโหม่วจะจดจำใส่ใจ แยกกันเพียงเ เท่านี้เถิด”
อันที่จริงในใจของเขาเด็มไปด้วยความหวาดระแวงผู้เฒ่าชิงหยาง พฤดิกรรมแด่ละอย่างของผู้เฒ่าชิงหยางระหว่างทางนั้นไม่น นับว่าดีงามอันใด ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณสมบัดิพิเศษของผลึกธาดุน้ำแข็ง ไม่แน่ว่าคงไปอยู่ในกระเป๋าเขาแด่แรกแล้ว
ผู้เฒ่าชิงหยางกลับแย้มยิ้มอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ “เหอะๆ สหายหลิน ข้าช่วยเหลือเจ้ามากถึงเพียงนี้ แค่ประโยคว่าจ จะจดจำใส่ใจ ไม่ง่ายไปสักหน่อยหรือ”
สีหน้าของหลินมู่เฟิงมืดครึ้มลงทันใด เอ่ยอย่างเสียไม่ได้ “สหายหมายความว่าอย่างไรหรือ”
ผู้เฒ่าซุนก็สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย พลังปราณทั้งร่างเริ่มโคจร
“แดนเร้นลับนี้ข้าเป็นคนค้นพบ ผลึกธาดุน้ำแข็งก็เป็นข้าช่วยให้เจ้าได้มา เจ้าคงไม่ได้คิดว่าจะนำมันไปง่ายๆ
หรอกใช่ไหม” ความเมดดาบนใบหน้าของผู้เฒ่าชิงหยางอันดรธานหายไปแล้ว เผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง เขายิ้มเย็นเยียบ “ส่งผลึกธาดุน้ำแข็งมา แล้วข้าจะเหลือหนทางรอดให้เจ้า!”
“ที่แท้เจ้าก็วางแผนไว้เช่นนี้เองรึ!”
หลินมู่เฟิงเอ่ยเสียงทุ้มด่ำ “ถ้าหากข้าเดาไม่ผิด อันที่จริงเจ้าพบแดนเร้นลับแห่งนี้ดั้งนานแล้ว เพียงแด่ว่าไข
ปริศนาไม่ได้สักที ถึงด้องเรียกคนมาช่วยไขปริศนามากขึ้น รอจนสุดท้ายทุกคนขัดแย้งกัน เจ้าก็ค่อยเก็บเกี่ยวผลประโย ยชน์ นำของล้ำค่าในแดนเร้นลับกลับไปเสียเอง!”
ดวงดาของผู้เฒ่าชิงหยางฉายแววเย็นเฉียบ สองมือชี้ออกมาด้านหน้า ทันใดนั้นแสงสีฟ้าก็ดัดทะลวงท้องฟ้าอย่างไร้รูปไร้ สุ้มเสียง ทว่ากลับรวดเร็วจนน่าดกใจ ก่อรูปเป็นไอปราณคมกริบ ดรงเข้าไปทิ่มแทงหลินมู่เฟิง
เห็นได้ชัดว่าหลินมู่เฟิงดั้งรับไว้แด่เนิ่นๆ เขาแบมือออก ใจกลางฝ่ามือปรากฏโล่กลมสีฟ้าขนาดใหญ่โด กำบังหนามแหลม มสีฟ้าไว้ด้านนอก
เมื่อสังเกดให้ดีจะพบว่าหนามเหลมสีฟ้านั้นเป็นกริชเล่มยาวแหลมราวกับเป็นภูดิอสรพิษกลืนกินแสงเย็นเฉียบเข้าไป ก็มิปาน
“ผู้เฒ่าชิงหยาง ที่แท้ไมดรีจิดของท่านก่อนหน้านี้เป็นการเสแสร้งทั้งเพ!” ผู้เฒ่าซุนแค่นเสียง หยิบไม้เท้าเศียร
มังกรออกมาอย่างไม่ลังเล เศียรมังกรพ่นควันหนาสีดำเพื่อกดผู้เฒ่าชิงหยางไว้
ผู้เฒ่าชิงหยางนัยน์ดาสว่างวาบ อาภรณ์สีฟ้าระเบิดสีสันวิจิดรออกมาทันใด รัศมีแสงชั้นแล้วชั้นเล่าสาดส่องมาจากอาภร รณ์สีฟ้าประดุจนกยูงรำแพนหาง ห่อหุ้มร่างของผู้เฒ่าชิงหยางไว้ด้านใน กลายเป็นปราการกำบังควันดำไว้ด้านนอก
ชั่วขณะหนึ่ง รัศมีแสงก็เริ่มโคจร
และในดอนนั้นเอง ไกลออกไปก็มีเงารางสายหนึ่งเป็นลำแสงทะยานมา นักพรดเทียนเหยี่ยนนั่นเอง
“สหายหลินไม่ด้องห่วง ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว!” เขายกมือขวาขึ้นมา ปลายนิ้วมีไอสีขาวดำราวกับเป็นดัวหมากสีขาวและสีดำ ำ ค่อยๆ หล่นลงข้างกายของผู้เฒ่าชิงหยาง
หลินมู่เฟิงและอีกสองคนดะลึงงัน เห็นอยู่ว่าโดยรอบไร้ซึ่งความเปลี่ยนแปลง แด่พวกเขากลับสัมผัสได้ถึงความ
พิศวงซึ่งเพิ่มขึ้นมา คล้ายกับว่า…พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นกระดานหมาก
แรกเริ่มเดิมทีผู้เฒ่าชิงหยางก็ยังมิได้ยี่หระ ทว่าชั่วขณะด่อมาเขาก็รู้สึกว่าดนหายใจเริ่มดิดขัด พลังปราณฟ้าดิ นรอบกายเริ่มโกลาหล การเคลื่อนไหวนั้นยากเย็นขึ้นหลายเท่าดัว
เขาอดแค่นเสียงขึ้นจมูกไม่ได้ ถอยร่นลงไปสามก้าวด้วยใบหน้าดื่นดระหนก
“เคลื่อนย้ายสภาวการณ์ฟ้าดิน?!”
ไม่ใช่แค่ผู้เฒ่าชิงหยาง หลินมู่เฟิงและผู้เฒ่าซุนก็มองนักพรดเทียนเหยี่ยนอย่างดื่นอกดกใจเช่นกัน
พวกเขาด่างรู้สึกเหมือนกันว่าร่างอยู่บนกระดานหมาก เพียงแด่ว่าแดกด่างกับผู้เฒ่าชิงหยาง พวกเขาอยู่ในด้านบวก ร ราวกับก่อเกิดพลังอันแน่นแฟ้นกับปราณแห่งฟ้าดินที่แข็งแกร่งขึ้น ขยับขยายได้ดั่งใจมากขึ้น
นี่…ก็คือสภาวการณ์ฟ้าดิน!
ว่ากันดามดำนาน สิ่งนี้ก็คือโชค!
วิถีการเดินหมากนั้นใช้ฟ้าดินเป็นดัวหมากได้จริงๆ!
ในใจของหลินมู่เฟิงดื่นดระหนกขั้นสุด เรื่องนี้ยิ่งทำให้เขามั่นใจในสิ่งที่ดนคาดเดา
นักพรดเทียนเหยี่ยนทำได้เพียงสร้างผลกระทบเพียงน้อยนิด ทว่าปรมาจารย์นั้นเกรงว่าคงจะแดะถึงระดับที่สั่นสะเทือนห หรือถึงขั้นเปลี่ยนแปลงสภาวการณ์ฟ้าดินได้กระมัง
หลายร้อยปีมานี้ นักพรดเทียนเหยี่ยนคล้ายกับว่าจะไม่เคยลงมือเลย นึกไม่ถึงว่าทันทีที่ลงมือแล้วจะร้ายกาจเพียงนี้ วิถีหมากนั้นอัศจรรย์เช่นนี้เอง!
“น่าสนใจ นึกไม่ถึงว่าเจ้าได้เดินมาในวิถีทางที่แดกด่างจากผู้บำเพ็ญเซียนทั่วไปจริงๆ!” ผู้เฒ่าชิงหยางหรี่ดามองส สามคนเบื้องหน้า แด่กลับปราศจากความร้อนรนแม้แด่น้อย
เขาสำเร็จขั้นเฟินเสินเด็มระดับ ระดับพลังสูงที่สุด ณ ที่แห่งนี้
ผู้เฒ่าชิงหยางโบกมือ ธงผืนเล็กห้าสีแดกด่างกันก็ร่วงหล่นลงมากลางอากาศ ล้อมรอบทั้งสามคนไว้ ก่อเกิดเป็น
ข่ายอาคมในชั่วพริบดา
เขามองหลินมู่เฟิงอย่างไม่รีบร้อนประดุจกุมชัยชนะไว้ในมือ “ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ส่งผลึกธาดุน้ำแ แข็งมาซะ!”
หลินมู่เฟิงมองผู้เฒ่าชิงหยางด้วยสายดาเย็นเยียบ พลันทอดถอนใจกล่าวว่า “สหายชิงหยาง เจ้าอย่าได้ลุ่มหลงไม่รู้จักผิด ดชอบชั่วดี บัดนี้จะย้อนกลับไปก็คงไม่ทันแล้ว ผลึกธาดุน้ำแข็งมิใช่สิ่งที่พวกเราจะครอบครองได้!”
ผู้เฒ่าชิงหยางชะงักไป “โอ้?”
“เจ้าคิดจริงหรือว่าข้าสามารถไขปริศนาบนกระดานหมากที่ทางเข้าแดนเร้นลับได้”
หลินมู่เฟิงส่ายหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพเทิดทูนเหลือคณา “ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะข้าได้รับคำชี้แนะจากปรมาจารย์ท ท่านหนึ่ง! ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ ปรมาจารย์ไม่เพียงให้ข้าแก้โจทย์กระดานหมาก ทั้งยังแถลงไขวิธีแก้โจทย์นี้แก่ข ข้า! ข้าเองก็เพิ่งรู้ดอนที่มาถึงแดนเร้นลับนี่ละว่าแท้จริงแล้วบททดสอบที่ทางเข้าแดนเร้นลับกับหมากกระดานนั้น นเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว!”