novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 231 ชั่วร้ายเสียจริง

  1. Home
  2. ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
  3. ตอนที่ 231 ชั่วร้ายเสียจริง
Prev
Next

มู่เฉียนซี “ก็อาจจะใช่ แต่ว่าน่าหลานอวี้ ความสงสัยของเจ้ามันมากไปหน่อยหรือไม่ ?”

น่าหลานอวี้ “ซวนหยวนจิ่วเยี่ยเป็นคนลึกลับที่สุดที่ข้าเคยพบเจอมา และก่อนหน้านี้เขาเอาแต่ใส่หน้ากากไม่ยอมเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง ได้ยินมาว่าเขานั้นถูกไฟคลอกที่ใบหน้าจึงได้เป็นเช่นนั้น เจ้าแน่ใจนะว่าชายผู้นั้นรูปงามกว่าข้า”

น่าหลานอวี้จ้องมองมู่เฉียนซีด้วยดวงตาฉงนสงสัยคู่นั้น

มู่เฉียนซีถอนหายใจพลางกล่าว “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว จิ่วเยี่ยเป็นบุรุษรูปงามราวเทพเซียน เขาดูดีมากที่สุดรองจากท่านอาเล็กของข้า”

“เช่นนั้นเจ้าก็ชอบเขาเข้าแล้วใช่หรือไม่ ?” น่าหลานอวี้กล่าวหยอกเย้า ไม่ทราบเช่นกันว่าเพราะเหตุใดเขาถึงได้เอาตนเองไปเปรียบเทียบกับจิ่วเยี่ย และถามคำถามเช่นนี้ออกมา

คนที่เขาชอบนั้นคือมู่ซีมิใช่รึ ?

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างมั่นใจ “ใช่แล้ว ข้าชอบเขามาก”

น่าหลานอวี้กล่าวอย่างขมขื่น “ดูท่าอีกไม่นานคงจะได้อวยพรงานแต่งงานของผู้นำตระกูลมู่เสียแล้ว”

— ปัง! —

มู่เฉียนซีแสนหมั่นไส้ นางทนไม่ไหวเตะน่าหลานอวี้ออกไป

“น่าหลานอวี้เจ้าพูดไร้สาระอะไรกัน ? จิ่วเยี่ยเขาดีมาก แน่นอนว่าข้าต้องชอบเขา แต่ข้าไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับเขา สำหรับข้า เขานั้นเป็นเหมือนญาติที่สนิทที่สุด เขามีความสำคัญเสมือนดั่งมิตรสหาย”

“จริงรึ ?” น่าหลานอวี้ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

มู่เฉียนซีถามขึ้น “นายน้อยน่าหลาน คืนนี้เส้นประสาทเส้นไหนของเจ้ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ? ข้าว่าเจ้าแปลก ๆ ไป”

น่าหลานอวี้ลูบน้าผากของตนเอง ปากก็กล่าวอย่างมึนงง “ข้าเองก็ไม่รู้ ข้ารู้สึกว่าข้าจะต้องใจเย็น ๆ เสียหน่อย” น่าหลานอวี้เดินกลับไปที่โรงเตี๊ยมกับมู่เฉียนซีด้วยอารมณ์วุ่นวาย ไม่กี่วันต่อมา มู่เฉียนซีประสบความสำเร็จในการค้าที่เมืองลับ นางกวาดสิ่งของมาจำนวนไม่น้อยและเตรียมตัวกลับแคว้นชิง

เมื่อพวกเขาเดินออกจากเมืองลับ น่าหลานอวี้กล่าวเสียงต่ำว่า “มู่เฉียนซี ดูท่าพวกเราคิดจะจากเมืองนี้ไปอย่างสงบ คงไม่ง่ายดายเช่นนั้น”

เวลานี้ที่ประตูเมือง จินหลู่ นายน้อยแห่งสํานักจินติ่งพายอดฝีมือระดับจักรพรรดิมาดักรอที่ด้านนอก

ชายชราหนึ่งในนั้นกล่าวว่า “นายน้อยจิน เจ้าหนูที่ดูอ่อนหัดกับสตรีอีกนางทางนั้น คือคนที่ทำร้ายท่านใช่หรือไม่ ?”

มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เสียงของชายผู้นี้คุ้น ๆ  ราวกับว่าตอนที่อยู่ในโรงประมูลใต้ดิน เขาคือคนที่แข่งประมูลกับนาง แต่ทว่าสุดท้ายก็ไม่สามารถสู้นางได้

สิ่งที่พวกเขาประมูลล้วนเป็นยาวิเศษและยาที่ฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเส้นลมปราณ พวกเม็ดยาวิเศษชนิดต่าง ๆ นางไม่ได้ร่วมประมูลด้วย พวกเขาจึงได้พวกยาเม็ดเหล่านั้นไป แต่ยาวิเศษนั้น พวกเขากลับไม่ได้ไปแม้แต่ชนิดเดียว

ไม่เคยได้ยินว่าคนสําคัญในสํานักจินติ่งคนใดได้รับบาดเจ็บสาหัส สํานักจินติ่งซื้อของพวกนี้โดยไม่สนใจค่าใช้จ่ายใด ๆ เกรงว่าคงมีปัญหาบางอย่าง

จินหลูกล่าวอย่างดุดัน “ใช่ เป็นนางผู้นั้น ผู้อาวุโสอิ๋นต้องช่วยสั่งสอนนางให้ข้า”

มู่เฉียนซีรีบกล่าวกับน่าหลานอวี้ “น่าหลานอวี้ คนพวกนี้แข็งแกร่งมาก พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา พวกเรารีบกลับเมืองเร็วเข้า!” น่าหลานอวี้ไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีกําลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาคิดว่าฟังนางน่าจะดีกว่า

“ได้” น่าหลานอวี้พยักหน้า

ทั้งสองเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน คิดที่จะกลับเข้าไปในเมือง แต่ทว่าผู้อาวุโสเหล่านั้นล้อมพวกเขาเอาไว้ทั้งสี่ทิศแปดทาง จินหลู่หัวเราะออกมาอย่างทะนงตน “หึ ๆ ๆ คิดจะหนีเข้าเมืองรึ ? ฝันไปเถอะ! ต่อให้พวกเจ้าหลบอยู่ในเมืองลับไปทั้งชาติ ข้าก็หาวิธีที่จะเป่าให้พวกเจ้าออกมาได้ พวกเจ้ายินยอมคายเงินที่มาหลอกเอาจากข้าไปออกมาเสียดี ๆ แล้วก็เอาของมีค่าที่ติดตัวมาให้ข้าด้วย  ถือเสียว่าเป็นสิ่งขอขมาที่พวกเจ้าได้มาล่วงเกินข้า  ข้ายังมีเมตตามอบหนทางรอดชีวิตให้พวกเจ้า”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาสวนกลับไป “อยากได้ของที่มาอยู่กับข้ากลับคืน ฝันกลางวันไปเถอะ!”

“ไม่ให้รึ ? ได้! เช่นนั้นก็จงตายเสีย” ทันใดนั้นพลังอันมหาศาลกวาดผ่านมา

“ระวัง!” น่าหลานอวี้ตะโกน ฉับพลันทันใดเขาอัญเชิญสิงโตอัคคีที่ได้ทำพันธสัญญาไว้ออกมา

ผู้อาวุโสของสํานักจินติ่งถึงกับตะลึงงัน “มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทำพันธสัญญาไว้นี่เอง มิน่าถึงได้กล้าวางแผนปองร้ายนายน้อยของพวกเรา”

“พวกเจ้า ไปจัดการกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นประเดี๋ยวนี้เร็ว!”

ถึงแม้ว่าจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่คนฝีมือระดับจักรพรรดิยอดยุทธ์ก็สามารถที่จะตรึงเอาไว้ได้อยู่หมัด จากนั้นก็ไปจัดการเจ้าเด็กสองคนนั้น เพียงเท่านี้ก็ง่ายดายขึ้นเยอะแล้ว

มู่เฉียนซีหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “ฮ่า ๆ ๆ พวกเจ้าไร้เดียงสาเกินไป สหายของข้ามีสัตว์พันธสัญญา แล้วข้าจะไม่มีหรืออย่างไร ?”

“อู๋ตี้ เสี่ยวหง ออกมา!”

“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้า มาแล้ว!  มีเศษสวะมากวนใจนายท่านของข้าให้อารมณ์ไม่ดีอีกแล้วรึ ? คอยดูเถอะ ข้าอู๋ตี้จะจัดการพวกเจ้าให้สิ้นชื่อ”

เวลานี้แมวสีขาวหูแหลมและหมูตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของมู่เฉียนซี

ท่าทางน่ารักระคนหยิ่งยโส ทว่าตัวน้อย ๆ เช่นนี้  ดู ๆ ไปแล้วใช้เพียงมือข้างเดียวก็สามารถบีบคอให้ตายได้ ผู้อาวุโสของสํานักจินติ่งเห็นแล้วหัวเราะออกมาทันที

“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าหนู เพียงลูกแมวกับหมูตัวเล็ก ๆ แม้แต่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งก็ยังไม่นับว่าเป็น เจ้าคิดว่ามันจะช่วยเจ้าได้หรือ ?”

แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งตรงมาทางมู่เฉียนซี ไม่นานนัก ลูกแมวที่ดูไม่เป็นอันตรายตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้า และในพริบตา ลูกแมวก็พุ่งเข้าไปหาชายชรานั่นพลันข่วนใบหน้าของเขาด้วยกรงเล็บแหลมคม

“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนดังออกมา ใบหน้าของชายชราปรากฏร่องรอยลึกเห็นกระดูกสามรอย

หากไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเร็วพอ เกรงว่าตาของเขาคงบอดไปข้างหนึ่งเสียแล้วกระมัง

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์! แมวตัวนี้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์”

ยามที่อู๋ตี้ไม่ได้ใช้พลัง ย่อมทําให้คนคิดว่ามันเป็นลูกแมวไร้ซึ่งอันตรายและอ่อนแอ เป็นการปลอมตัวที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก

เมื่อลงมือแล้ว พลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็แผ่กระจายออกมา ทําให้ผู้คนถึงกับอ้าปากค้าง

— ตูม! —

เปลวเพลิงสีแดงเข้มพุ่งออกมา เสี่ยวหงย่อมไม่ยอมให้อู๋ตี้แย่งชิงความน่าสนใจไปผู้เดียว

“สองตัว! มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองตัว”

ผู้อาวุโสของสํานักจินติ่งตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้ พวกเขาพัวพันกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามตัวนี้อย่างจนปัญญา

จินหลูกัดฟันด้วยความโกรธ พวกเขามาที่เมืองลับในครั้งนี้ สํานักจินติ่งส่งยอดฝีมือระดับจักรพรรดิมาเพียงสามคนเท่านั้น ถึงอย่างไรยอดฝีมือระดับจักรพรรดิของสํานักจินติ่งของพวกเขาก็มีไม่มาก

ในตอนแรก เขาคิดว่าจะสามารถจัดการคนพวกนี้ได้ ใครเล่าจะคิดว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สามตัวจะโผล่มา

จินหลูกล่าวกับระดับจักรพรรดิทั้งสองที่ปกป้องเขา “ท่านอาทั้งสองไปจับสองคนนั้นมาเถอะ”

เจ้าเด็กสองคนนั้น คนหนึ่งเป็นจอมภูตและอีกคนเป็นจอมภูตใหญ่กว่า ระดับราชาก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับเจ้าเด็กสองคนนี้

ราชาทั้งสองพุ่งเข้าไปทางพวกเขา น่าหลานอวี้รีบโต้กลับ ในขณะที่มู่เฉียนซีเองก็ใช้พลังวิญญาณทั้งหมดของนางเพื่อโจมตี

“ผนึกมังกรวารี!”

สิ้นเสียงนาง มังกรวารีพลันพุ่งออกไป กอปรกับเข็มยานับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้าไปใกล้ราชาทั้งสองอย่างเงียบ ๆ

สีหน้าของระดับราชาทั้งสองเปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นรีบกล่าว “ระวังตัวด้วย! อย่าได้ประมาทศัตรู”

ดาบสนิมเขรอะถูกชักออกมาโดยมู่เฉียนซี เปลวไฟสีแดงเข้มพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับว่ามันกําลังจะละลายผืนแผ่นพสุธา

“มังกรเพลิงสังหาร!”

— ตูม!  ตูม! —

เมื่อกระบวนท่าอันบ้าคลั่งเข้าโจมตี ร่างสีม่วงพลันพุ่งเข้าหานายน้อยใหญ่ของสํานักจินติ่งที่ยังไม่ฟื้นคืนสติราวกับสายฟ้า

นิ้วเรียวยาวของนางขยับ ส่งเข็มยาขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือปักลงไปบนคอของจินหลู

เมื่อคนอื่น ๆ ได้สติกลับคืนมา ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความตื่นตระหนก

“เจ้าหนู ปล่อยนายน้อยของพวกข้าเสีย!”

การโจมตีเช่นนั้นไม่ใช่เพื่อจัดการกับพวกเขา แต่เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขาต่างหาก

เป้าหมายที่แท้จริงของสตรีอายุน้อยผู้นี้คือนายน้อยจินของพวกเขา  ร้ายกาจเกินไปแล้ว!

ทว่าสิ่งที่ทําให้พวกเขาหมดหนทางมากขึ้นคือ ความแข็งแกร่งของนายน้อยของพวกเขาสูงกว่าสตรีอายุน้อยนางนี้ถึงสองระดับขั้น แต่ภายใต้การลอบโจมตีของนาง กลับไม่มีที่ว่างให้ตอบโต้เลยแม้แต่นิดเดียว

.