novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 235 การแย่งชิงยา

  1. Home
  2. ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
  3. ตอนที่ 235 การแย่งชิงยา
Prev
Next

“หญิงสองคน ศัตรูของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วหลบหนีไป หากนางซ่อนตัวอยู่ในสำนักทางตะวันตกของทวีปเซี่ยโจว เมื่อได้ยินว่าท่านปรมาจารย์เวินผู้มีความสามารถในการปรุงยาได้หลอมเม็ดยานี้ขึ้นมา พวกนางจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นไม่ว่าพวกนางจะซ่อนตัวลึกลับเพียงใด ข้าก็สามารถจับพวกนางออกมาได้”

ดวงตาดําสนิทของมู่เฉียนซีส่องประกายเย็นยะเยือก

เวลานี้นางไม่ได้มีความสัมพันธ์อันใดกับปรมาจารย์เวิน   โอวหยางหว่านและมู่หรูเหยียนนั้น อย่างไรก็ไม่มีทางที่ฝั่งนั้นจะสงสัยว่านี่เป็นแผนที่นางได้วางไว้กับปรมาจารย์เวิน

ปรมาจารย์เวินกล่าว “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะพยายามอย่างสุดกําลังเพื่อหลอมเม็ดยานั้นออกมา”

ข่าวที่ว่าปรมาจารย์เวินสกัดกลั่นจนหลอมเม็ดยาระดับปฐพี ยาฟื้นพลังระดับสามได้สำเร็จ  แพร่กระจายไปอย่างลับ ๆ  แน่นอนว่าผู้ใดที่สนใจเรื่องนี้ก็จะไถ่ถาม

หลังจากเตรียมการต่าง ๆ นานาแล้ว ปรมาจารย์เวินก็เตรียมการปรุงยาไว้ในห้องยาส่วนตัวของเขา

ปรมาจารย์เวินเป็นหนึ่งในนักปรุงยาเพียงไม่กี่คนในทวีปเซี่ยโจว ทักษะการปรุงยานั้นมีมากมาย

เมื่อเขานําสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดเข้าไปในเตาหลอมยา กลิ่นหอมอ่อน ๆ ก็ลอยโชยออกมา  เมื่อกลิ่นหอมนี้กระจายออกมารอบ ๆ ก็มีกลิ่นอายมากมายนับไม่ถ้วนที่กําลังเคลื่อนไหว

มู่เฉียนซีซ่อนตัวอยู่ในเงามืด นางเรียกตระกูลมู่ให้เตรียมพร้อม

— ตูม! —

หัวหน้าสํานักจินติ่งต้องการบุกเข้าไปที่หม้อหลอมยาของปรมาจารย์เวิน แต่กลับพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจากทั้งสองด้านอย่างไม่ตั้งใจ

คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย เป็นถึงยอดฝีมือของสองสํานักใหญ่แห่งแคว้นชวน

พวกเขาหัวเราะเยาะก่อนจะกล่าวว่า “สํานักจินติ่ง! สํานักจินติ่งแห่งแคว้นชิงถึงกับกล้ามาแย่งชิงยาที่แคว้นชวนของพวกข้า  ข้าคิดว่าสํานักจินติ่งของพวกเจ้าคงเบื่อหน่ายที่จะมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่ ?”

หัวหน้าสํานักจินติ่งลอบกัดฟันแน่น หากไม่ใช่เพราะความรู้สึกผิด เขาคงไม่อยากมาที่นี่เพื่อแย่งชิงยาของปรมาจารย์เวินและขัดแย้งกับทั้งสองสํานักใหญ่เป็นแน่

หัวหน้าสํานักจินติ่งกล่าว “วันนี้ข้ามีเป้าหมายใหญ่ที่จะต้องได้ยาเม็ดนั้น โปรดอย่าให้ต้องบีบบังคับกัน ขอบคุณล่วงหน้า”

“อย่ามากล่าววาจาไร้สาระกับข้าเลย ยาระดับปฐพีมันยากจะพบเห็นได้ในหลายร้อยปี เวลานี้ไม่ได้มาก็ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกถึงเมื่อไหร่  หวังให้ข้าเอาให้เจ้า เจ้าฝันไปเถอะ!”

หัวหน้าสํานักจินติ่งกล่าว “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็คงต้องล่วงเกินแล้ว!  เพื่อยาวิเศษระดับปฐพีนั้น ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่ยอมแพ้”

ยาเม็ดนั้นยังไม่ทันได้แข็งตัว พวกเขาก็เริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงกันเสียแล้ว

สําหรับคนนอกอย่างสํานักจินติ่ง สองสํานักใหญ่แห่งแคว้นชวนย่อมไม่เกรงใจอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าสองสํานักใหญ่แห่งแคว้นชวนไม่อยากล่วงเกินปรมาจารย์เวิน จึงส่งยอดฝีมือออกมาบางส่วนเท่านั้น

แต่สํานักจินติ่ง ทุ่มกำลังและใช้พลังการต่อสู้ทั้งหมด

ถึงกระนั้น ยอดฝีมือของสองกองกําลังใหญ่ในแคว้นชวนก็แข็งแกร่งอย่างมาก หัวหน้าสำนักจินติ่งและพวกไม่อาจประคองไว้ได้อีกต่อไป

มู่เฉียนซีซ่อนตัวอยู่ในที่มืดและพึมพํากับตัวเองว่า “สํานักจินติ่งกำลังมีปัญหาจริง ๆ  เพื่อยารักษาอาการบาดเจ็บระดับปฐพีเม็ดนี้ ถึงกับไม่ลังเลที่จะต่อสู้กับปรมาจารย์ด้านการปรุงยาและยอดฝีมือของสองสำนักใหญ่แห่งแคว้นชวน”

“อืม… เช่นนี้ข้าลงมือช่วยคนของสํานักจินติ่งดีกว่า ต้องให้พวกเขาได้ยามาอย่างราบรื่นก่อน”

องครักษ์เงาแปลงโฉมหน้าใหม่ สวมหน้ากากแล้วพุ่งออกไป

หัวหน้าสํานักจินติ่งที่เดิมทียอมแพ้แล้ว รู้สึกยินดีอย่างหาที่เปรียบมิได้กับทหารประหลาดผู้นี้ หรือว่า ‘นาง’ จะส่งคนมาสนับสนุนพวกเขา

หัวหน้าสํานักจินติ่งกล่าวอย่างเย็นชาทันทีว่า “ฆ่า! ฆ่าพวกมันให้หมดไม่เหลือซาก!”

มู่เฉียนซีช้อนอุ้มเจ้าแมวน้อยสีขาวออกมาก่อนจะกล่าวว่า “อู๋ตี้ ถึงเวลาที่เจ้าต้องลงมือแล้ว”

องครักษ์เงาตระกูลมู่ช่วยสํานักจินติ่งจัดการกับแขกไม่ได้รับเชิญอย่างสองกองกำลังใหญ่แห่งแคว้นชวน ทว่าเจ้าแมวอู๋ตี้กลับกำลังเก็บเกี่ยวชีวิตคนของสํานักจินติ่งอย่างลับ ๆ!

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

แสงสีขาววาบผ่านคอของยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ มีรอยเลือดถูกทิ้งไว้ขณะที่พวกเขาตายไปในพริบตา!

การต่อสู้ยังคงดําเนินต่อไป ทันใดนั้นร่างสีม่วงก็มายังข้าง ๆ ห้องยา

กลิ่นหอมของยาเม็ดนี้เข้มข้นอย่างมาก มู่เฉียนซีรู้สึกว่าปรมาจารย์เวินจะปรุงยาได้สําเร็จในอีกไม่ช้า

นางผลักประตูเข้าไปเบา ๆ แต่กลับพบว่าสถานการณ์ของปรมาจารย์เวินนั้นไม่ดีนัก  ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับว่าใกล้จะถึงขีดจํากัดแล้ว

เมื่อเขาทำต่อไปไม่ไหวเมื่อใด ก็จะระเบิดทันทีและแผนของนางคงเป็นอันต้องพัง

ไม่ใช่ว่าความแข็งแกร่งของปรมาจารย์เวินไม่เพียงพอที่จะหลอมเม็ดยาระดับปฐพี ยาฟื้นฟูระดับสามได้ แต่เป็นเพราะพลังจิตของเขาไม่เพียงพอ

ในขณะนั้นเอง มู่เฉียนซีรวบรวมพลังจิตทั้งหมดของตัวนางเข้าไปในเตาหลอมยา ทําให้การควบแน่นของเม็ดยากลับคืนสู่สภาพปกติดังเดิม

พลังจิตพิเศษช่วยลดภาระของปรมาจารย์เวิน แต่ปรมาจารย์เวินก็ไม่สนใจที่จะตกใจ เขารีบทําตามขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่อะไร ๆ จะสายเกินไป

หลังจากนั้นไม่นาน ยาก็ก่อตัวขึ้น ในที่สุดปรมาจารย์เวินก็เปิดหม้อยา

เขาหลอมยาได้สำเร็จแล้ว…

ทันใดนั้นเขาหันไปมองมู่เฉียนซีอย่างตกตะลึง “ผู้นำตระกูลมู่!” พลังจิตอันแข็งแกร่งเมื่อครู่นี้ ถูกผู้นำตระกูลมู่ปลดปล่อยออกมา น่าทึ่งยิ่งนัก…!  ในเมื่อผู้นําตระกูลมู่เป็นเพียงสาวน้อยอายุสิบหกปี เป็นไปได้อย่างไรที่นางจะมีพลังจิตร้ายกาจเช่นนี้

มู่เฉียนซียิ้ม กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับปรมาจารย์เวินที่ประสบความสําเร็จในการปรุงยา”

ปรมาจารย์เวินกล่าวว่า “ถ้าหากไม่ใช่เพราะผู้นำตระกูลมู่ลงมือ วันนี้ข้าคงจะล้มเหลว หรือว่าผู้นำตระกูลมู่จะเป็นปรมาจารย์นักปรุงยา ?”

พลังจิตนั้นเหนือกว่าปรมาจารย์นักปรุงยาอย่างเขาแล้ว จะไม่ให้เขาคิดได้อย่างไรว่านางเองก็เป็นปรมาจารย์นักปรุงยา

มู่เฉียนซีส่ายหัว กล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ข้าเป็นเพียงนักปรุงยาระดับต่ำ อย่างมากก็คงเป็นนักปรุงยาระดับกลางเท่านั้น เพียงแต่เพราะความบังเอิญ พลังจิตของข้าจึงแข็งแกร่งกว่าผู้อื่นเล็กน้อย”

ปรมาจารย์เวินกล่าว “ผู้นำตระกูลมู่มีข้อได้เปรียบที่ถือว่าได้เปรียบอย่างมาก ต่อไปเมื่อความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น จะต้องกลายเป็นนักปรุงยาที่แข็งแกร่งเป็นแน่”

พรสวรรค์ราวกับปีศาจนี้ เขาคิดอยากจะรับนางเป็นลูกศิษย์เสียแล้ว  แต่พลังจิตของนางแข็งแกร่งเกินไป เกรงว่าพลังฝีมือของเขานี้คงไม่มีสิทธิ์ได้เป็นอาจารย์ของนาง

มู่เฉียนซี “ข้างนอกต่อสู้กันสักพักใหญ่แล้ว ต่อไปข้าจะจัดการขั้นสุดท้าย ท่านเอายามาให้ข้าก่อน”

แม้ว่าปรมาจารย์เวินจะไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีประสงค์จะทําสิ่งใด เขาก็ส่งยาให้มู่เฉียนซีแต่โดยดี

มู่เฉียนซีหยิบเอาเข็มยาออกมา ฉีดยาเข้าไปในยาเม็ดนี้

ปรมาจารย์เวินกล่าว “ผู้นำตระกูลมู่ เช่นนี้จะไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติหรือ ?”

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “นี่คือยาที่ข้าได้กําหนดค่าไว้ตามคุณสมบัติของยาฟื้นฟูระดับสาม แม้แต่ปรมาจารย์ปรุงยาก็ไม่สามารถรู้ได้ ท่านวางใจเถอะ”

หลังจากจัดการเสร็จ มู่เฉียนซีกล่าว “ปรมาจารย์เวินทำทุกอย่างตามปกติได้เลย”

บัดนี้ คนของสองสํานักใหญ่แห่งแคว้นชวนถูกทำลายลง  ด้านหนึ่งของสํานักจินติ่งก็ถูกลอบสังหารจนเหลือหัวหน้าสํานักจินติ่งเพียงคนเดียว

— ปัง! —

เขาเข้ามาด้วยร่างที่เต็มไปด้วยเลือด เมื่อเขาเห็นท่าทางนักปรุงยาที่อ่อนแอจากการหลอมเม็ดยา  เขาคว้ายาจากมือของปรมาจารย์เวินและถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดก็ได้มาแล้ว

หลังจากที่เขาจากไป ร่างสีม่วงเดินออกมา

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มู่สือซาน เจ้าไปแจ้งสำนักเฟินเทียนและบอกพวกเขาว่าให้เคลื่อนพลไปยังสำนักจินติ่งได้เลย”

มู่สือซานพยักหน้ารับคำ “ขอรับนายท่าน”

.