ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2405 ชิงบ่อน้ำพุเทพประทาน
คราวนี้มู่เฉียนซีได้เลือกออกมาเพียงแค่บางคนเท่านั้น และเนื่องจากบ่อน้ำพุเทพประทานไม่มีประโยชน์ต่อคนระดับใต้เท้า
ดังนั้นนางจึงได้เลือกคนที่ยังไม่บรรลุระดับเจ้าครองดินแดน หรือผู้ที่กำลังจะเลื่อนเป็นเจ้าครองดินแดนระดับบน หรือคนที่เป็นเจ้าครองดินแดนระดับบนแล้วเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีการคัดคนเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน แต่ทว่าเขตต้องห้ามอื่นนั้นไม่เหมือนกัน
คนที่เลือกมาเหล่านี้เป็นผู้ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าระดับใต้เท้าที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นส่วนใหญ่จึงอยู่ในระดับเจ้าครองดินแดนระดับบนทั้งสิ้น และหากไม่มีความแข็งแกร่งของคนเหล่ านี้พวกเขาคงไม่มีโอกาสได้มาบ่อน้ำพุเทพประทานแน่นอน
ทุกคนในกลุ่มนี้ล้วนหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก และเมื่อคนของเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดเผชิญหน้ากับการท้าทายของพวกเขา จึงรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “บ่อน้ำพุเทพประทานที่แข็งแกร่งที่สุด จะต้องเป็นของเจ้าเมืองของพวกเรา ในเมื่อพวกเจ้าอยากสู้ เช่นนั้นข้าก็จะสู้เหมือนกัน!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! อะไรนะ? ถึงขั้นให้คนที่มีระดับไม่ถึงระดับเจ้าครองดินแดนออกมาโอ้อวดขนาดนี้ ไหนจะมีระดับเจ้าครองดินแดนระดับล่างมากมายขนาดนั้นอีก? หรือว่าเขตต้องห้ามทางใต้สุดของ พวกเจ้า เพื่อการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว เลยทำให้ยอดฝีมือได้ล้มหายตายไปจนหมดแล้วอย่างนั้นหรือ”
อีกฝ่ายแผ่พลังจิตวิญญาณของตนเองออกมา ย่อมทำให้รู้ถึงระดับความสามารถของกันและกันแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งมันก็ทำให้เขตต้องห้ามใหญ่อื่น ๆ หัวเราะเยาะขึ้นมาอย่างดูถูกเช่นกัน
“ความสามารถเพียงเล็กน้อยเท่านี้ พวกเราสามารถบดขยี้พวกเจ้าได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว”
“ดูเหมือนว่านักโทษที่หนีออกมาของเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดในคราวนี้จะอ่อนแอมากจริง ๆ! มิเช่นนั้นพลังในการต่อสู้ของเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดจะไปสามารถจัดการได้อย่างง่ายดายเช่น นนั้นได้อย่างไรกัน? ไหนเลยจะเหมือนพวกเรา ที่เกือบจะโดนทำลายล้าง หากท่านอ๋องจิ่วเยี่ยไม่ได้เสด็จมา เขตต้องห้ามของพวกเราคงถูกยึดไปอย่างสมบูรณ์ แต่แน่นอนว่ามันย่อมมีประโยชน์ เช่นกัน พวกเราโชคดีที่ได้เห็นร่างอันทรงพลังของท่านอ๋องจิ่วเยี่ย แต่เขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดของพวกเจ้าคงไม่มีความสามารถที่จะได้เห็นหรอก”
ความโง่เง่าที่หยิ่งผยองของคนกลุ่มนี้ช่างน่าอับอายเหลือเกิน คิดว่าได้เห็นท่านอ๋องแล้วยอดเยี่ยมมากเลยหรืออย่างไร?
อย่างที่รู้กันว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยเป็นสามีของท่านเจ้าเมืองของพวกเขา เฮ้อ! เจ้าพวกคนโง่เง่าเหล่านี้นี่ คนของเมืองหนามโลหิตได้แต่ก่นด่าอยู่ภายในใจ
มู่เฉียนซีเองก็ไม่กล่าวอะไรเช่นกัน ในสายตาของฝูงชน การมีอยู่ของจิ่วเยี่ยเปรียบเสมือนเทพเจ้าก็มิปาน หากพวกเขารู้ว่าคำพูดเช่นนี้ของพวกเขาความจริงแล้วได้ถูกท่านอ๋องจิ่วเยี่ย ยได้ยินจากปากพวกเขาอย่างชัดเจน พวกเขาจะมีความรู้สึกเช่นไรกัน?
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อย่าเสียเวลาพูดจาไร้สาระกับพวกเขาอยู่เลย พวกเจ้าสามหรือสี่คนแบ่งกลุ่มกันเพื่อไปแย่งชิงบ่อน้ำพุเทพประทานที่แข็งแกร่งที่สุดมา หากมีใครกล้ามาแย่งพวกเจ้า ก็แค ค่จัดการกับพวกเขาจนไม่สามารถมาวุ่นวายได้แล้วจับโยนออกไปก็พอ”
น้ำพุเทพประทานระดับสูงทั้งหมดรองรับคนได้เพียงหนึ่งพันคนเท่านั้น ฉะนั้นการแย่งชิงจากเขตต้องห้ามใหญ่ต่าง ๆ ล้วนเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้แน่นอนอยู่แล้ว
บางทีคนที่สร้างบ่อน้ำพุเทพประทานออกมาอาจจะตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ก็ได้ เขาตั้งใจทำให้คนแย่งชิงกัน เพื่อหาคนที่เหมาะสมที่จะรอดชีวิตไปได้
“ขอรับ ท่านเจ้าเมือง!”
ร่างเงาจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานออกไป และพวกเขาก็ส่งสัญญาณลับเพื่อแบ่งกลุ่มกันเป็นอย่างดี
ความสามารถของแต่ละกลุ่มค่อนข้างมีความสมดุลกัน และคนส่วนใหญ่ก็มุ่งหน้าไปยังบ่อเทพประทานระดับสูงแห่งนั้น
“คนของเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุด พวกเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกข้าหรอก หากไม่อยากพิการแล้วละก็ เช่นนั้นก็จงไสหัวไปซะ!”
“คนที่ควรจะต้องไสหัวไปคือพวกเจ้าต่างหาก!”
“คนระดับเก้าอย่างพวกเจ้า ก็เป็นเพียงแค่เจ้าครองดินแดนระดับล่างคนหนึ่งเท่านั้น!” อีกฝ่ายกล่าวอย่างเยาะเย้ย
ในตอนที่จะต่อสู้กับเจ้าครองดินแดนระดับล่าง พวกเขาก็ค้นพบว่าตนเองเพียงแค่ได้เปรียบกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
นี่ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าครองดินแดนระดับล่างทั่วไป คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขากำลังจะบรรลุแล้ว
“คิดว่าเมืองหนามโลหิตของพวกเราจะรังแกได้ง่ายจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” คนที่ยังไม่บรรลุเป็นเจ้าครองดินแดนระดับบนคนหนึ่งลงมือโจมตีอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่พวกเขาลงมือโจมตี พวกเขาก็ได้ทำให้คนจากเขตต้องห้ามอื่น ๆ รู้ว่าเมืองหนามโลหิตนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด
แข็งแกร่งมาก! ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาราวกับว่าอยู่ในเทศกาลล่าเหยื่อ และกำลังเผชิญหน้ากับนักโทษที่ดุร้ายเหล่านั้นก็มิปาน
คนระดับเจ้าครองดินแดนระดับบนของแต่ละเขตต้องห้ามใหญ่ ๆ ต่างก็อยู่ในระดับสุดยอดกันทั้งนั้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขากลับไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้มากเท่าไรนัก
พวกเขาแต่ละคนตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง “พวกเจ้า…อันที่จริงแล้วพวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”
“แน่นอนว่าพวกเราก็ต้องเป็นคนของเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุด และเป็นคนของเมืองหนามโลหิตอยู่แล้ว! พวกเจ้าจะไสหัวไป หรือว่าจะให้พวกเราจับพวกเจ้าโยนออกไป” คนของเมืองหนามโลหิตก กล่าวอย่างทรงพลังเป็นอย่างมาก
ภายในบริเวณโดยรอบทั่วบ่อน้ำพุเทพประทานแห่งนี้ มีเสียงการต่อสู้ดังขึ้นมาอย่างดุเดือด
อีกด้านหนึ่ง เป้าหมายของมู่เฉียนซีก็คือบ่อน้ำพุเทพประทานที่อยู่ใต้หน้าผาแห่งนั้น
นางไม่ได้ขอความร่วมมือจากคนอื่นเลย และมุ่งหน้าไปที่แห่งนั้นด้วยตัวคนเดียว
ร่างเงาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวจำนวนนับไม่ถ้วนบีบเข้ามาใกล้มู่เฉียนซี และในตอนนี้ก็มีคนระดับเจ้าครองดินแดนระดับบนสามคนพุ่งทะยานออกมา
“เจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิต ช่างกล้าหาญเหลือเกิน ที่กล้ามาแย่งชิงบ่อน้ำพุเทพประทานที่แข็งแกร่งที่สุดโดยไม่มีผู้ติดตามเลยสักคนเดียว”
“หากเจ้าที่เป็นผู้นำของเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดถูกฆ่าตาย ข้าว่าเจ้าพวกนั้นก็คงไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปแน่!”
มู่เฉียนซีหัวเราะเยาะพลางกล่าวว่า “นี่พวกเจ้าประเมินความสามารถของตนเองสูงไปแล้ว จะฆ่าข้าหรือ? คิดมากเกินไปแล้ว!”
หนึ่งในนั้นกล่าวด้วยท่าทางที่ดุร้ายว่า “ฆ่าเจ้า มันง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเท่านั้นแหละ!”
ร่างทั้งสามพุ่งทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดก็มิปาน และมู่เฉียนซีก็หายไปจากตำแหน่งนั้นทันที พร้อมทั้งหลบหลีกการโจมตีของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“พรวดดด! พลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยแค่นี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความสามารถไม่ถึงระดับเจ้าครองดินแดนเลยด้วยซ้ำ”
“ความสามารถยังไม่ถึงระดับเจ้าครองดินแดนเลยด้วยซ้ำ แล้วนางสามารถเป็นเจ้าเมืองได้อย่างไร? คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าขยะพวกนั้นจะยอมจำนนให้กับนาง หรืออาศัยใบหน้านี้อย่างนั้นหรือ?”
แววตาของมู่เฉียนซีฉายแววเย็นยะเยือกออกมา พลางกล่าวว่า “เดี๋ยวอีกไม่นานเจ้าก็จะได้รู้แล้ว”
เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน และร่างเงาที่รวดเร็วของมู่เฉียนซีก็ทำให้การมองเห็นของพวกเขาไม่ชัดเจนเลย
ความเร็วเช่นนี้มันแปลกประหลาดมากเกินไปแล้ว แม่สาวน้อยที่ระดับยังไม่ถึงเจ้าครองดินแดนเลยด้วยซ้ำจะมีความสามารถเช่นนี้ได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ? ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาทั้งหมดตกใจมากจ จริง ๆ
ฉึกก!
เข็มเล็กละเอียดที่ไม่อยู่ในสายตาเหล่านั้นฉวยโอกาสพุ่งทะยานเข้ามา แล้วข่วนไปบนผัวหนังของพวกเขา ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้สนใจมันเลย
แต่ว่าไอร้อนที่น่าสะพรึงกลัวร้องคำรามออกมาอย่างกะทันหัน “เกิดอะไรขึ้นกับแม่สาวน้อยผู้นี้กันแน่? พวกเราลงมือพร้อมกันเถอะ”
ร่างเงาทั้งสามพุ่งทะยานเข้าใกล้มู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว พวกเขาจู่โจมเข้ามาจากทั้งสามทาง และไม่เชื่อว่าแม่สาวน้อยผู้นี้จะสามารถหลบหลีกได้อีกด้วย
ตูมมมม!
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังกึกก้องออกมา และในตอนที่พวกเขาทั้งสามคนคิดว่าจะสามารถทำลายสาวน้อยผู้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้ได้แล้วนั้น หนึ่งในพวกเขาก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมาอย่างกะ ะทันหัน
พรวดดด!
สีหน้าของเขาซีดเผือด และร่างกายของเขาก็สั่นเทาขึ้นมาทันที “ข้าถูกยาพิษ อาวุธลับของนางมียาพิษ ระวังด้วย!”
ในบรรดาทั้งสามคนนั้นมีเขาเพียงคนเดียวที่ไม่ทันระวังจนได้รับบาดเจ็บและถูกวางยาพิษ ส่วนพวกเขาอีกสองคนนั้นยังไม่เป็นอะไร
พวกเขากล่าวกับมู่เฉียนซีอย่างดุดันว่า “เจ้าส่งยาแก้พิษมาเดี๋ยวนี้”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อยากแก้พิษหรือ! ก็ต้องดูว่า พวกเจ้ามีความสามารถนั้นหรือไม่!”
ตูมมม!
มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมา และในที่สุดเจ้าครองดินแดนระดับบนทั้งสองคนก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง!
ทำไมไม่ว่าพวกเขาจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำอันตรายแม่สาวน้อยผู้นี้ได้เสียที? นี่มันจะน่าประหลาดใจเกินไปแล้ว
พลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวพัดโหมกระหน่ำไปทางมู่เฉียนซี พวกเขาในตอนนี้ได้ร่ายทักษะวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาออกมา แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับสามารถสกัดกั้นเอาไว้ได้
“นางสกัดเอาไว้ได้อีกแล้ว นี่นางทำได้อย่างไรกันแน่?” พวกเขากล่าวด้วยความเหลือเชื่อ
“แม่สาวน้อยผู้นี้แปลกประหลาดเกินไปหน่อยแล้ว”
แม้ว่าความสามารถจะอ่อนแอ แต่ทว่าความเร็วและเกาะป้องกันของนางล้วนแข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการได้ พวกเขาไม่สามารถจัดการแม่สาวน้อยผู้นี้ได้ภายในเวลาอันสั้น และทำให้คนอื่นนำหน้า ไปก่อนก้าวหนึ่ง
และเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ ว่ามีคนพุ่งไปทางหน้าผานั้นได้รวดเร็วกว่าพวกเขาก้าวหนึ่ง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าไม่เล่นกับพวกเจ้าแล้ว เพราะพื้นที่ที่ข้าหมายตาไว้ ไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นแย่งไปก็ได้!”
“ความสามารถเพียงเล็กน้อยของเจ้า คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาก่อกวนเช่นนี้!” มู่เฉียนซีโจมตีพวกเขา และมันก็ทำให้คนกลุ่มที่สองประหลาดใจเป็นอย่างมาก ที่พวกเขาก็ลงมือโจมตีโดยไม่เกรงใจเลย ยแม้แต่น้อย