novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 243 การลงพนันที่น่าตะลึง

  1. Home
  2. ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
  3. ตอนที่ 243 การลงพนันที่น่าตะลึง
Prev
Next

เวลานี้ความยากของยาเม็ดระดับสี่นั้นไม่ได้มากมายเลยสำหรับมู่เฉียนซี เช่นนั้นแล้วนางจึงหลอมมันออกมาได้อย่างรวดเร็ว

มู่เฉียนซีนำยาที่ปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วบรรจุลงขวด นางเดินลงมาจากลานประลองก่อนจะกล่าว “ข้าได้สกัดยาเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้กรรมการทุกท่านโปรดตรวจและพิจารณา”

เหล่านักปรุงยามองมู่เฉียนซีด้วยแววตาชื่นชม ในตอนที่นางทำการปรุงยานั้น พวกเขาเฝ้ามองอยู่โดยตลอด ไม่พลาดแม้แต่ครู่เดียว เห็นทีฝีมือของนางคงถึงขั้นระดับปรมาจารย์นักปรุงยา หรือไม่ก็ถึงขั้นปราชญ์แห่งการปรุงยาไปเสียแล้วกระมัง

ทุกคนต่างพากันซุบซิบ “เหตุใดเจ้าหนุ่มนี่ถึงได้หลอมยาออกมารวดเร็วเช่นนี้เล่า”

“โกหกกันแล้วเป็นแน่ ศิษย์พี่หวังยังหลอมออกมาไม่ถึงครึ่ง เจ้าหนุ่มนั่นกลับสามารถทำออกมาได้”

“อายุเขาเพียงสิบหกปีกระมัง! เหตุใดถึงได้เป็นนักปรุงยาระดับกลาง ยาที่เขาหลอมขึ้นมาจะต้องห่วยแตกอย่างแน่นอน”

จะเป็นยาที่ใช้การไม่ได้หรือไม่นั้น เช่นนั้นก็ต้องอดใจรอให้หมดเวลา ให้ทุกคนได้หลอมออกมาให้เสร็จเสียก่อน กรรมการจึงจะลงคะแนนให้คำตอบ

ในรอบแรกนี้ ตานคุนมิได้กังวลใจในตัวของมู่เฉียนซี เม็ดยาระดับห้านางก็สามารถหลอมสำเร็จได้ นับประสาอะไรกับเม็ดยาระดับสี่

ไม่นานศิษย์ของทั้งสองสำนักใหญ่ก็เสร็จสิ้น แน่นอนว่าพวกเขาบางคนนั้นล้มเหลว แต่ว่าพวกเขาไม่ได้น่าสังเวชเท่าสำนักตานจี้ที่ล้มเหลวทั้งหมด  เหลือรอดเพียงแต่มู่เฉียนซีคนเดียวเท่านั้น

กรรมการแต่ละคนเริ่มให้คะแนนตั้งแต่สำนักเย่าอู๋ ต่อมาก็เป็นสำนักตานซิน สุดท้ายคือสำนักตานจี้

ทันใดนั้นกรรมการผู้หนึ่งตกใจ เขาถึงกับดีดตัวยืนแล้วร้องขึ้น “โอ้! เป็นไปได้อย่างไรกันนี่ ?”

“ปรมาจารย์นักปรุงยาเวินเหริน ท่านดูนี่…”

“สวรรค์ คุณภาพสูงอะไรเช่นนี้!”

ความสามารถของพวกเขา อย่างน้อยก็เป็นถึงนักปรุงยาระดับสูง  ทว่ายาระดับเช่นนี้ พวกเขานั้นไม่สามารถทำออกมาได้อย่างแน่นอน แล้วนี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ?

เด็กหนุ่มอายุสิบหกปีสามารถหลอมยาดีถึงเพียงนี้ออกมาได้ พวกเขานั้นอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว

นักปรุงยาเวินเหรินรู้อยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คือมู่เฉียนซี  และเขาทราบดีว่ามู่เฉียนซีไม่เหมือนกับคนทั่วไป ทว่าเขาก็ยังคิดไม่ถึงอยู่ดีว่านางจะสามารถหลอมยาระดับสูงเช่นนี้ออกมาได้ ช่างน่าพิศวงดีแท้!

ฝีมือการปรุงยาระดับเทวดา จิตสมาธิควบคุมที่แน่วแน่ และยังสามารถหลอมยาออกมาได้บริสุทธิ์เช่นนี้ นางนั้นเกิดมาเพื่อปรุงโอสถอย่างแท้จริง

ปรมาจารย์นักปรุงยาเวินเหรินมองมู่เฉียนซีด้วยดวงตาเป็นประกาย ทำให้ผู้คนที่อยู่ในที่นั้นต่างพากันอึ้งตะลึงลาน เด็กหนุ่มผู้นี้มีพรสวรค์ท้าทายฟ้าดินนัก ปรมาจารย์นักปรุงยาเวินเหรินคงไม่คิดจะรับเขาเข้าเป็นศิษย์หรอกกระมัง!

พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มผู้นี้เพียงพอที่จะทําให้ปรมาจารย์นักปรุงยารับเขามาเป็นศิษย์ได้

หลังจากที่ผู้ตัดสินทุกคนตะลึงงันไปตาม ๆ กัน  ในที่สุดก็ผลคะแนนก็ออกมา ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกนั้นเป็นผู้ใดไปมิได้นอกจาก… มู่ซีแห่งสำนักตานจี้

พรสวรรค์ของเขาผู้นี้ เพียงพอที่จะทำให้นักปรุงยาระดับสูงหรือยอดปรมาจารย์นักปรุงยาผู้ใดก็ตามเห็นเข้าแล้วต้องเกิดหวั่นไหว อยากรับเข้ามาเป็นศิษย์ส่วนตน

เหล่าลูกศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ของสำนักตานซินและสำนักเย่าอู๋ ล้วนแต่ถูกจัดออกมาอยู่อันดับท้าย ๆ  ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหลอมยาระดับสี่ตามโจทย์ได้สำเร็จ ทว่าคุณภาพและความบริสุทธิ์ของยา เมื่อเทียบกับของมู่ซี  ช่างห่างไกลกันเหลือเกิน

เจ้าสำนักตานซินหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ ๆ ยินดีด้วยหัวหน้าสำนักตานคุน ยินดีด้วยจริง ๆ! ข้าผู้นี้คาดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะได้รับผู้ที่มีพรสวรรค์เช่นนี้มาเป็นลูกศิษย์”

ตานคุนกล่าวตอบอย่างถ่อมตัว ทว่าน้ำเสียงสะใจแทบปกปิดไม่มิด “ท่านกล่าวเกินไปแล้ว”

ตานซิง “การแข่งขันรอบแรกในวันนี้ ทุกท่านได้สิ้นเปลืองพลังไปมาก แน่นอนว่าคงไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันครั้งที่สองได้ต่อเนื่อง เช่นนั้นแล้วสำนักตานซินจะพักผ่อนสามวัน หลังจากสามวันแล้วจะมาเข้าแข่งขันในรอบที่สองต่อ”

นักปรุงยาย่อมใช้พลังจิตมาก ในวันนี้ศิษย์ของสองสำนักใหญ่ไม่มีแรงเหลือมากพอที่จะหลอมเม็ดยาชนิดที่สองได้แล้ว แต่มู่เฉียนซีกลับมีสีหน้าผ่อนคลายราวกับว่านางไม่เหน็ดเหนื่อยเลย

ช่างน่าทึ่งนัก!

นางมองไปที่หัวหน้าสำนักตานซินก่อนจะกล่าวถาม “ท่านเจ้าสำนักตานซิน ได้ยินมาว่าผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในงานของทุกปีจะได้รับรางวัล มิทราบว่ารางวัลในครั้งนี้คืออะไรหรือ ?”

เจ้าสำนักตานซินแข็งทื่อไป “มู่ซี ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจในตนเองอย่างมาก เป้าหมายของเจ้าคือการเป็นอันดับที่หนึ่งของการแข่งขันประลองฝีมือการปรุงยาในครั้งนี้รึ ?”

มู่เฉียนซีกล่าวพลางยืดอก “แน่นอน ในเมื่อข้ามาแล้ว แน่นอนว่าข้าจะต้องคว้าอันดับที่หนึ่งมาให้จงได้”

ตานซิงกล่าวอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน “มู่ซีเจ้ามีความสามารถนี้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น พวกเจ้าก็จะรู้เองว่ารางวัลคือสิ่งใด”

สำหรับสำนักตานจี้ แม้พวกเขานั้นจะรู้ว่าลูกศิษย์ของพวกเขาทั้งสองสำนักไม่ธรรมดา ทว่าเวลาที่พวกเขาได้ใช้ไปในการฝึกฝนมานั้นมากกว่ามู่เฉียนซีเป็นสิบกว่าปี

และเขายังเชื่อมั่นอีกอย่างหนึ่ง… แต่ไหนแต่ไรมา ผู้นำตระกูลมู่ไม่เคยทำเรื่องอันใดที่ตัวนางไม่มีความมั่นใจ

หัวหน้าสำนักตานซินกล่าว “รางวัลคืออะไรนั้น จะถูกประกาศออกมาเมื่อตอนสุดท้าย แท้ที่จริงแล้วพวกเราสามารถลงพนันเพิ่มได้อีกสักหน่อย เพื่อเป็นการอัดฉีดให้รางวัลการแข่งขันในครั้งนี้เติมเต็มมากขึ้น”

มู่เฉียนซีมุมปากกระตุก นางยังไม่ทันได้ออกท่าอะไร ฝ่ายตรงข้ามกลับเปิดฉากเสียแล้ว

นางส่งสัญญาณให้ตานคุน อนุมานว่าเขาควรรู้ว่าจะต้องทำเช่นไรต่อไป

ตานคุนหัวเราะออกมา  เขากล่าว “ฮ่า ๆ ๆ ตานซิง ความคิดของเจ้าไม่เลวเลย รางวัลอันวิเศษของการแข่งขันทุกครั้งนั้นจะถูกเก็บเป็นความลับจนถึงตอนท้าย บางทีก็ทำให้เหล่าบรรดาศิษย์ทั้งหลายหมดแรงผลักดันไปเสียก่อน และจะพาลทำได้อย่างไม่เต็มความสามารถ ครานี้เรามาลงขันอะไรที่มันใหญ่ ๆ กันดีหรือไม่ ? คาดว่าการแข่งขันในครานี้คงจะมีสีสันน่าตื่นตาขึ้นไม่น้อย”

ตานซิง “สำนักตานจี้ของพวกเจ้าจะเอาอะไรมาลงเป็นรางวัล ? ถ้าหากว่ามิใช่ของดีละก็… เกรงว่าคงจะไม่มีผู้ใดสนใจเป็นแน่”

อย่าได้คิดว่าพวกนั้นไม่รู้ว่าสำนักตานจี้ยากจนเพียงไร คิดที่จะทำตัวหน้าบานพุงใหญ่ มิรู้ว่าสำนักตานจี้จะสามารถทำได้อย่างที่คุยโวหรือเปล่า

ตานคุน “ใบสูตรยาระดับเจ็ดจำนวนสิบใบ  ใบสูตรยาระดับแปดจำนวนสิบใบ  ใบสูตรยาระดับเก้าจำนวนสิบใบ  ใบสูตรยาระดับปฐพีหนึ่งใบ  มิทราบว่าจำนวนเท่านี้พอหรือไม่ ?!”

ตานคุนได้อยู่กับท่านผู้นำตระกูลมู่ผู้ร่ำรวยมาสักพักหนึ่งแล้ว เมื่อได้รับสัญญาณจากผู้นำตระกูลมู่ แน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้โอกาสหอมหวานนี้หลุดมือไป

เมื่อลงหนักอย่างเศรษฐีเช่นนี้  บรรดานักปรุงยาที่ได้ยินต่างอ้าปากค้าง

เกินไปแล้ว!

“ให้ตายเถอะ ลงขันรางวัลมากเช่นนี้! สำนักตานจี้คงไม่ได้ไปปล้นสำนักอีชิงแห่งทวีปเซี่ยโจวมาหรอกกระมัง”

“สำนักตานจี้โชคดีอะไรมา ถึงได้มีใบสูตรยามากมาย”

“เพียงคุยโวเป็นแน่ แท้ที่จริงคงไม่มีใบสูตรยาให้”

อย่าว่าแต่ศิษย์ของสองสำนักใหญ่เลย แม้แต่ผู้ตัดสินทั้งสามคนที่เชิญมาก็ล้วนตาเป็นประกาย เว้นเสียแต่ปรมาจารย์นักปรุงยาเวินเหริน

ปรมาจารย์นักปรุงยาเวินเหรินยิ้มอย่างจนปัญญา  ดูเหมือนว่าผู้นำตระกูลมู่คงจะชอบเอาใบสูตรยาไปฟาดหัวคน!

พวกเขานั้นโดนกองใบสูตรยาฟาดเสียจนมึนงง สำนักตานซินและสำนักเย่าอู๋ไม่ถูกฟาดจนมึนก็แปลกประหลาดแล้ว

ในตอนนี้ผู้ที่หยิ่งทะนงอย่างสูงเช่นเจ้าสำนักเย่าอู๋เองก็ลุกยืนขึ้นมา  เขาเดินเข้ามา กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า… “ตานคุน เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้ามีใบสูตรยามากมายเช่นนั้น อย่าได้เพียงแค่คุยโว”

ตานคุนกล่าวตอบอย่างไม่เกรงกลัว “อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ สิ่งที่ข้ากล่าวออกมาย่อมจริงแท้ จะเป็นเรื่องหลอกได้อย่างไร ?”

ตานคุนนำใบสูตรยาออกมาใบหนึ่ง “พวกท่านไม่เชื่อก็ดูเอาเอง ดูได้เลยว่าเป็นของปลอมหรือไม่”

เย่าเก๋อและตานซิงมองตานคุนอย่างตกตะลึงเป็นที่สุด นี่เป็นสูตรยาของจริง!

พวกเขาเห็นท่าทางของตานคุนที่แสนทะนงตน  แทบอยากที่จะตบหน้าเขาเข้าสักมือหนึ่ง

ตานคุน “ข้าขอเอาสิ่งเหล่านี้ลงพนันว่ามู่เฉียนซีจะได้อันดับที่หนึ่งในการแข่งขันใหญ่ครานี้  พวกเจ้าสองสำนักจะเอาสิ่งใดมาลงพนัน ? หากมันน้อยเกินไป เราคงจะกล่าวกันลำบากน่าดูชม”

ที่ผ่านมาสำนักตานจี้เป็นสำนักที่ยากจนข้นแค้นอย่างที่สุด  มาวันนี้สายลมเปลี่ยนทิศสายน้ำเปลี่ยนทาง สำนักตานจี้ได้กลายเป็นสำนักที่ร่ำรวยขึ้นมาโดยพลัน

มูลค่าของใบสูตรยาสามสิบเอ็ดใบนี้ ต่อให้ทั้งสองสำนักใหญ่ทุ่มทรัพย์ทั้งหมดที่มีก็ยังไม่สามารถซื้อหามาได้

.