novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 342 นี่เป็นอีกราคาหนึ่ง

  1. Home
  2. บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
  3. บทที่ 342 นี่เป็นอีกราคาหนึ่ง
Prev
Next

บทที่ 342 นี่เป็นอีกราคาหนึ่ง!

ทันทีที่ศิลาโบราณต้องห้ามลอยขึ้นฟ้า ทั้งเผ่าคุนสั่นสะเทือนเพราะเหตุนี้

สิบผู้อาวุโสรีบร่วมมือกันสำแดงวิชา พลังฤทธิ์เต็มเปี่ยมและทรงพลังพลันกลายเป็นกรงยักษ์บดบังฟ้า คลุมใส่ศิลาโบราณนั้น

ผู้อาวุโสเผ่าคุนที่ปิดด่านบำเพ็ญที่หุบเขาต้องห้ามได้ ต่อให้อยู่ในผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ก็ยังเป็นผู้โดดเด่นสุดยอด ห่างจากระดับฝ่าด่านเคราะห์ไม่ไกล

สิบผู้อาวุโสร่วมมือกันวางค่ายกล ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังยากจะหลุดไปได้ง่ายๆ

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าศิลาโบราณนี้ กรงยักษ์ที่ผู้อาวุโสสิบคนร่วมมือกันวางยังถูกทะลวงไปในทันใดราวกับกระดาษ

แสงสีดำลากผ่านผืนฟ้ากว้างใหญ่ พุ่งไปไกลสิบล้านลี้ หายลับไปในสายตาของทุกคน

ทั้งหุบเขาต้องห้ามกลายเป็นผุยผง กระแสมิติปั่นป่วนตัดสลับกัน

เสิ่นเทียนชะงักงัน เขาแค่นั่งสัปหงกหน้าศิลาโบราณต้องห้ามเท่านั้น เหตุใดศิลาถึงหนีไปล่ะ

คนใหญ่คนโตของเผ่าคุนพวกนั้นคงไม่อาศัยจังหวะนี้เรียกร้องค่าเสียหายจากข้าหรอกนะ!

หรือว่าจะอาศัยสถานการณ์วุ่นวายตอนนี้แกล้งตายดี

เปรี้ยง~

กระแสมิติสงบนิ่งลงอย่างรวดเร็ว ฟ้าดินรวมขึ้นเป็นร่างเงาคุนยักษ์ยิ่ง บนผิวกายมีแสงศักดิ์สิทธิ์ลอยขึ้นมา

นั่นคือผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าคุน ปกติแทบจะปิดด่านบำเพ็ญฝึกฝน ไม่ยุ่งเรื่องในเผ่า

แต่ศิลาโบราณต้องห้ามหนีไปสร้างความสั่นสะเทือนรุนแรงจริงๆ ถึงขนาดทำให้พวกเขาออกมากัน

“เหตุใดศิลาโบราณต้องห้ามถึงหนีไป ขอให้เจ้าเผ่าช่วยอธิบายให้เราฟังด้วย!”

“ท่านบรรพบุรุษรุ่นหนึ่งเป็นคนฝากศิลาโบราณต้องห้ามไว้ หลายหมื่นปีมานี้ไม่เคยเกิดเรื่อง แต่ตอนนี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย”

“หากชี้แจงไม่ได้ เกรงว่าพวกข้าไม่มีหน้าไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษอีกแล้ว ขอให้เจ้าเผ่ารีบตามหาศิลาโบราณต้องห้ามกลับมาโดยเร็วด้วย!”

“ได้ยินว่าเจ้าเผ่าแหกกฎให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตระหนักศิลาโบราณต้องห้าม ถึงได้เกิดผลเช่นนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ใด”

“ใช่ ให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกมาอธิบาย!”

……..

ผู้อริยะเผ่าคุนพวกนั้นกำลังถกเถียงกัน ต่างสะเทือนถึงจิตใจเพราะศิลาโบราณต้องห้ามหายไป

ถึงอย่างไรศิลาโบราณต้องห้ามก็มีความหมายสำคัญกับเผ่าคุนมาก แทบจะไม่เป็นรองสถานที่สำคัญอย่างแผนผังวงศ์ตระกูลและศาลบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์เลย

มิหนำซ้ำ หุบเขาที่ตั้งของศิลาโบราณต้องห้ามเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณและมีกฎเกณฑ์รวมกัน เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ในการฝึกบำเพ็ญ ตอนนี้ถล่มลงเพราะศิลาโบราณต้องห้ามหายไป

นี่คือความเสียหายครั้งใหญ่ของเผ่าคุน!

ผลลัพธ์เช่นนี้ เป็นใครก็ยากจะใจเย็นไหว

เปรี้ยง!

ตอนนี้เอง ปรากฏร่างของราชาเทพคุนขึ้นในกระแสมิติปั่นป่วนของหุบเขา

เขามีสีหน้าไม่ดีเช่นกัน แต่ไม่ได้มีทีท่ารู้สึกผิดอะไร กลับมองเสิ่นเทียนด้วยความเป็นห่วง

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนไม่ได้บาดเจ็บ แม้แต่กลิ่นอายพลังยังลึกล้ำขึ้นกว่าเดิม ราชาเทพคุนก็ถอนหายใจโล่งอก “บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่บาดเจ็บนะ!”

เสิ่นเทียนพยักหน้าช้าๆ “ตกใจไปบ้างแต่ไม่เป็นไร”

ราชาเทพคุนกล่าว “เช่นนั้นก็ดี ข้าก็คาดการณ์เรื่องผลการเปลี่ยนแปลงของศิลาโบราณต้องห้ามไว้แล้ว หากบุตรศักดิ์สิทธิ์เป็นอะไรไป ข้าก็ไม่รู้จะบอกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เจ้าอย่างไรจริงๆ”

คำพูดของราชาเทพคุนทำให้เสิ่นเทียนอึ้งไปเลย จะว่าไปสมัยนี้เจ้าเผ่าอสูรพูดจาดีเช่นนี้เลยรึ!

ศิลาบรรพบุรุษบ้านตนหายไปกลับไม่ร้อนใจ ยังคิดเรื่องจะบอกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างไรอีกหรือ

แต่ยื่นมือไม่ตบคนหน้ายิ้มอยู่แล้ว ราชาเทพคุนเกรงใจเสิ่นเทียนเช่นนี้ กลับทำให้เสิ่นเทียนอายขึ้นมานิดๆ

เพราะถึงเขาจะไม่รู้ว่าเหตุใดศิลาโบราณต้องห้ามถึงหนีไป แต่ก็คาดการณ์ได้ว่าจะต้องเกี่ยวกับคัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้าที่เขาตระหนักรู้แน่นอน

ครั้งนี้ เขาไม่จำเป็นต้องรับบาปไว้ก็ได้

ราชาเทพคุนคุยง่าย ไม่ได้หมายความว่าผู้อริยะคนอื่นของเผ่าคุนจะคุยง่าย

ความจริงแล้วตอนแรกที่ให้เสิ่นเทียนนำวิชาคุนเผิงมาแลกกับสามประกายวารีเทพและอาวุธอริยะสามชิ้นนั้น ก็มีผู้อาวุโสเผ่าคุนบางส่วนไม่พอใจแล้ว

เพราะพวกเขามองว่าเดิมทีวิชาคุนเผิงเป็นวิชาสูงสุดของเผ่าคุน ตามหลักแล้วห้ามตกไปอยู่ในมือคนนอก คืนเผ่าคุนก็เป็นเรื่องสมเหตุผล

จะเอาสามประกายวารีเทพกับอาวุธอริยะสามชิ้นไปแลกวิชาคุนเผิงกลับมาก็ช่างเถอะ แต่ไม่อยากเชื่อว่าจะให้ขุมอำนาจอื่นฝึกฝนวิชานี้ด้วย

นี่คือความอัปยศอดสูสำหรับพวกเขา!

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่ราชาเทพคุนอนุญาตให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตระหนักศิลาโบราณต้องห้ามของเผ่าคุน

ตอนนี้เอาละ ศิลาโบราณต้องห้ามหายไปแล้ว!

“เจ้าเผ่า บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ หวังว่าพวกเจ้าจะให้คำอธิบายแก่เราได้”

“คุนซวี หลายปีมานี้เจ้าร่วมมือกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาตลอด จนเกือบลืมความโอหังของเผ่าคุนไปแล้วกระมัง!”

“เจ้าดำรงตำแหน่งเจ้าเผ่ามาตลอดหลายปีนี้ ศักยภาพของเผ่าเราไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าไร ตอนนี้แม้แต่ศิลาโบราณต้องห้ามยังหายไป ข้าว่าถึงเวลาต้องเรียกประชุมผู้อาวุโสแล้ว”

“หากเจ้าทำหน้าที่เจ้าเผ่าไม่ได้ เช่นนั้นก็ถอนตัวไปเถอะ ให้คนที่มีความสามารถมาทำแทน!”

“แล้วก็แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ จะต้องชดใช้ความเสียหายที่ศิลาหินหายไปให้กับเผ่าเรา!”

…..

เสียงสนทนาของเหล่าผู้อาวุโสดังขึ้นกลางอากาศ

ผู้อาวุโสเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ คำพูดคำจาจึงค่อนข้างเกรงใจคุนซวี

แต่ก็มีผู้อาวุโสสูงสุดระดับฝ่าด่านเคราะห์หลายคน มีศักดิ์สูงกว่าราชาเทพคุนหลายรุ่น ตอนนี้จึงพูดจาไม่ไว้หน้าเลย กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดบางส่วนยังเสนอให้ปลดตำแหน่งเจ้าเผ่าของราชาเทพคุนและเลือกราชาเผ่าขึ้นมาใหม่

ราชาเทพคุนหรี่ตาลงเล็กน้อย มองร่างเงากลางอากาศพวกนั้นลึกๆ “ทุกคนรู้ดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิลาโบราณต้องห้ามกับเผ่าเรา เรื่องนี้คงไม่ต้องให้ข้าเตือน

ตอนที่ท่านบรรพบุรุษรุ่นหนึ่งนำศิลานี้กลับมาได้ประกาศไว้ว่าผู้มีวาสนาที่ได้รับการยอมรับจากศิลาโบราณ ได้รับมรดกก็ดีหรือจะนำศิลาโบราณไปก็ดี เผ่าเราห้ามขัดขวาง

และตอนนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้รับการยอมรับและถ่ายทอดวิชาจากศิลาโบราณ ศิลาโบราณทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้วก็จากไปไกล นี่เป็นเรื่องถูกทำนองคลองธรรม

เกิดเป็นคุน ก็ควรจะมีความโอหังของเผ่าคุน ไฉนจะต้องโยนความรับผิดชอบไปให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ ส่วนตำแหน่งเจ้าเผ่าของข้า มีใครคิดว่าข้าไม่คู่ควรหรือไม่ ก้าวออกมาตัดสินกับข้าได้เลย!”

เมื่อเอ่ยจบ คุนซวีพลันระเบิดกลิ่นอายพลังมหาศาลออกมารอบตัว อำนาจคุกคามของผู้อริยะหมุนม้วนออกไปโดยรอบ

เกิดปรากฏการณ์คุนยักษ์หลายหมื่นจั้งลอยขึ้นข้างหลังเขา ทะเลไร้พรมแดนเชี่ยวกราก ม้วนคลื่นลูกใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ขณะผลุบๆ โผล่ๆ นั้นยังกระแทกคลื่นน้ำไปสามพันลี้!

อีกทั้งปรากฏการณ์ข้างหลังคุนซวีไม่ได้มีแค่ร่างคุนแล้ว

คุนยักษ์หมื่นจั้งนั้นฟาดบนผิวทะเล เกล็ดปลาและคลีบปลาพลันกลายเป็นปีกนกขยับแสงสีทอง ศีรษะปลายังกลายเป็นศีรษะเผิงทองคำยักษ์สง่างามและเปี่ยมไปด้วยพลัง

บึ้ม~

น้ำกระแทกสามพันลี้ ลอยขึ้นสูงเก้าหมื่นลี้!

คุนเผิงมหึมาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้อาวุโสเผ่าคุนทุกคน

รอบตัวมันมีแสงศักดิ์สิทธิ์ไร้มลทินไหลเวียน อำนาจผู้อริยะเข้มข้นหมุนม้วนไปโดยรอบ มาพร้อมกับอำนาจคุกคามที่ทำให้คนหายใจติดขัด

เวลานี้ ผู้อาวุโสเผ่าคุนทั้งหมดต่างเงียบ

พวกเขาจ้องคุนซวีด้วยแววตาเร่าร้อน จ้องร่างเงาคุนเผิงข้างหลังคุนซวี

ทุกคนเป็นชนชั้นสูงของเผ่าคุน พวกเขารู้ดีว่าก่อนหน้านี้เจ้าเผ่าคุนซวีไม่ได้มีศักยภาพแข็งแกร่งเช่นนี้เลย

ตอนนี้อำนาจคุกคามที่คุนซวีแผ่ออกมาแกร่งกว่าเมื่อก่อนอย่างน้อยหนึ่งเท่า เห็นได้ชัดว่านี่เป็นคุณูปการของวิชาคุนเผิงสมบูรณ์

เวลานี้ เสียงเรียกร้องให้รับผิดชอบหายไป

ถึงอย่างไรแม้ศิลาโบราณต้องห้ามจะสำคัญ แต่ตั้งแต่โบราณมาไม่มีใครตระหนักสิ่งใดได้ ได้แต่สร้างหุบเขาต้องห้ามเป็นสถานที่ช่วยฝึกบำเพ็ญ

เมื่อระดับพลังถึงผู้อริยะแล้ว หุบเขาต้องห้ามจะมีส่วนช่วยไม่มาก ไม่เช่นนั้นผู้อาวุโสสูงสุดพวกนั้นคงมาประจำการกันอยู่ที่นี่

แต่วิชาคุนเผิงต่างออกไป นั่นมีประโยชน์กับผู้อริยะเผ่าคุน เพิ่มศักยภาพของพวกเขาได้เป็นเท่าตัว

แต่ไม่ว่าจะเป็นวิชาสุดยอดของขุมอำนาจใดก็ไม่มีทางถ่ายทอดให้ทุกคนได้

อย่างเช่นบทต้องห้ามของแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ ปกติจะมีเพียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่มีสิทธิ์ได้เรียน

ต่อให้วิชาคุนเผิงกลับสู่เผ่าคุนจริงๆ คนที่ได้เรียนวิชาคุนเผิงสมบูรณ์ก็มีเพียงคนส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ทุกคน

และการกำหนดคนก็ค่อนข้างลึกล้ำ

ใครมีสิทธิ์ฝึกฝน ใครไม่มีสิทธิ์ พื้นที่ควบคุมในนั้นกว้างมาก

แต่เป็นเจ้าเผ่าของเผ่าคุนตอนนี้ ราชาเทพคุนมีสิทธิ์มีเสียงค่อนข้างมีน้ำหนักเลย จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลังจากฝึกวิชาคุนเผิงสมบูรณ์สำเร็จ ศักยภาพของคุนซวีเพิ่มขึ้นอีกครั้ง คนที่กำราบเขาได้ในเผ่าคุนแทบจะไม่มี

เวลานี้จะกล่าวโทษคุนซวีเพราะศิลาโบราณต้องห้ามหายไปหรือไม่ก็ต้องใคร่ครวญให้ดี

เพราะอย่างไรศิลาโบราณต้องห้ามก็เป็นของทั้งเผ่าคุน ไม่ใช่แค่ของพวกเขา

……

บรรยากาศเข้าสู่ความนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ราชาเทพคุนส่งกระแสจิตไป “บุตรศักดิ์สิทธิ์วางใจเถอะ มีข้าอยู่ จะไม่มีใครข่มขู่เจ้าได้ ตอนนี้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่ทะเลอุดรแล้ว ข้าแจ้งเขาแล้ว เดี๋ยวคงจะมารับเจ้า”

ไม่อยากเชื่อว่าจะแจ้งอาจารย์แล้ว

เสิ่นเทียนอบอุ่นในใจนิดๆ โลกมนุษย์มีความจริงใจอยู่ทุกที่จริงๆ

ราชาเทพคุนคนนี้รู้จักกับข้าไม่กี่วัน แต่ดีกับข้าเช่นนี้

เฮ้อ ทำให้ข้าละอายใจจริงๆ!

ภายภาคหน้าหากมีโอกาส เจอโชควาสนาคงต้องใคร่ครวญถึงคุนหมิงกับคุนอวี้ด้วย! ถึงอย่างไรสองคนนี้ก็เป็นผักกุย…เป็นโอรสสวรรค์ระดับสูง

อำนาจผู้อริยะปกคลุมลงมาจากอากาศ

ทุกสรรพสัตว์ในระยะหลายร้อยลี้รู้สึกใจหนักหน่วง

บรรยากาศตึงเครียดมาก หากจัดการไม่ดี ทั้งเผ่าคุนอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นได้

ในที่สุดผู้อาวุโสสูงสุดท่านหนึ่งก็พูดขึ้นเนิบนาบ น้ำเสียงอ่อนลงมาก “ไม่ว่าอย่างไร ศิลาโบราณต้องห้ามก็เป็นสมบัติสุดยอดของเผ่าเรา เจ้าเผ่าให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตระหนักโดยไม่ถามความยินยอมจากผู้อาวุโส อย่างไรก็เป็นการฝ่าฝืนกฎ”

ราชาเทพคุนสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “ผู้อาวุโสทุกท่าน บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยินดีจะลงนามสัญญาเทพคุนกับอวี้เอ๋อร์แล้ว ดำรงตำแหน่งเป็นพันธมิตรมนุษย์ของเผ่าเรา ตามกฎเผ่า หากพันธมิตรมนุษย์เผ่าเรายินดีก็จะมีสิทธิ์ตระหนักศิลาโบราณต้องห้าม”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตอบตกลงรับตำแหน่งพันธมิตรมนุษย์กับเผ่าคุนรึ

คำพูดของราชาเทพคุนทำให้เหล่าผู้อาวุโสพวกนั้นเงียบ แต่เกิดจิตสื่อสารกันขึ้นอย่างคลุมเครือและถี่ในอากาศ

พวกเขากำลังชั่งน้ำหนักผลประโยชน์และเสียประโยชน์ แต่ชนชั้นสูงของเผ่าใหญ่ไม่ใช่คนโง่อยู่แล้ว ตอนนี้ศิลาโบราณต้องห้ามหายไปคงเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว

จะให้ใครรับผิดชอบก็ไม่มีความหมาย จะชดใช้ความเสียหายอย่างไรต่างหากที่สำคัญ

พวกเขาก็เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาบ้าง เล่าลือว่าเป็นบุตรแห่งโชคที่ยากจะพานพบได้ในหมื่นปี แม้แต่เผ่ามังกรยังแย่งกันประจบ

หากเขายินดีเป็นพันธมิตรมนุษย์กับเผ่าคุนจริงๆ นี่เป็นเรื่องดีมากสำหรับทั้งเผ่าคุน

เสียงน่าเกรงขามดังขึ้นในอากาศ “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เจ้ายินดีจะลงนามสัญญาเทพคุนกับองค์หญิงใหญ่คุนอวี้ ดำรงตำแหน่งเป็นพันธมิตรมนุษย์ของเผ่าเราหรือไม่”

เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย มองคุนอวี้ที่ยืนหน้าแดงนิดๆ ข้างกายคุนซวี

สารภาพตามตรง เขาไม่เคยคิดไปทางนี้เลยจริงๆ

ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็ลงนามกับเอ๋าปิงแห่งเผ่ามังกรดำและข่งเมิ่งแห่งเผ่านกยูงไปแล้ว ตอนนี้ทำสัญญาลับหลังพวกนางอีก เลยรู้สึกใจฝ่อขึ้นมานิดๆ

แต่ราชาเทพคุนต้านแรงกดดันมากขนาดนี้สนับสนุนข้า หากข้าเลื่อยขาเก้าอี้เขาและแทงหลังเขาอีก นี่จะไร้คุณธรรมเกินไป

มิหนำซ้ำเขายังได้มรดกคัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้ามาจากเผ่าคุน ภายภาคหน้าก็ต้องดูแลบ้างอยู่แล้ว

เสิ่นเทียนเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “ข้ายินดี”

……

เขาตกลงแล้ว!

ในที่สุดเขาก็ตกลงแล้ว!

ใบหน้าคุนอวี้แดงขึ้นมาด้วยความเร็วระดับสายตามองเห็น ใบหน้าคุนซวีมีความปลื้มใจขึ้นมาเช่นกัน

มีเพียงคุนหมิงที่ทำหน้าแปลกๆ มักจะรู้สึกว่าจากนี้คงจะไม่มีหวังเอาคืนจากเสิ่นเทียนแล้ว

อำนาจคุกคามของผู้อริยะเผ่าคุนในมวลอากาศค่อยๆ สลายไป บรรยากาศตึงเครียดในตอนแรกก็เริ่มคลายออก

“ในเมื่อบุตรศักดิ์สิทธิ์ดำรงตำแหน่งพันธมิตรมนุษย์ของเผ่าเรา เช่นนั้นการตระหนักศิลาโบราณต้องห้ามก็ไม่ฝ่าฝืนบัญญัติบรรพชนจริงๆ เป็นไปตามกฎ”

“ศิลาโบราณต้องห้ามลึกลับอยู่แล้ว คนมากมายล้มเหลวไปกับมัน ตอนนี้จู่ๆ ก็หายไป ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่อะไร จะโทษบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้จริงๆ”

“จะว่าไป บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็นำวิชาคุนเผิงกลับมาคืนเผ่าเรา เรากลับไม่เคยขอบคุณบุตรศักดิ์สิทธิ์เลย ช่างไร้มารยาทเสียจริง”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีใบหน้าเลิศล้ำ มองทีเดียวก็เป็นคุนและหงส์ในหมู่ชน ภายภาคหน้าจะต้องสำเร็จเป็นมหาจักรพรรดิ ไม่อาจจำกัดไว้ได้!”

พอได้ยินคำพูดประจบดังขึ้นในมวลอากาศแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับเหม่อลอยไปเล็กน้อย

นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหตุใดถึงเริ่มประจบข้าล่ะ

นี่เปลี่ยนเรื่องกันง่ายๆ เช่นนี้เลยรึ

ข้าเพิ่งทำศิลาโบราณต้องห้ามของเผ่าพวกเจ้าหายนะ พวกเจ้าไม่สนใจกันหน่อยรึ

ตอนนี้เองมวลอากาศพลันพังทลายลง อำนาจผู้อริยะมหาศาลที่น่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้พลันหมุนม้วนไปในระยะพันลี้

สายฟ้าสีสันต่างๆ มากมายแผ่ขยายไปในน้ำทะเล ล้อมรอบเรือเหาะยักษ์หลายพันจั้ง บนเรือเหาะมีศิษย์สวมเครื่องแบบเทพสวรรค์ยืนกันเต็มไปหมด

และบนชั้นสองของเรือเหาะยังมีผู้อาวุโสเทพสวรรค์ยืนกันอยู่หลายท่าน ทุกคนแผ่อำนาจคุกคามแก่กล้าระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์

“เป็นลูกคุนน้อยไม่มีตาที่ใดกันถึงคิดจะทำร้ายเทียนเอ๋อร์ เข้ามาถามกระบองในมือข้าก่อนว่าจะยอมหรือไม่!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตในชุดคลุมเซียนสีม่วง ถือกระบองเทพทองคำ ยืนอยู่บนชั้นสามของเรือเหาะอย่างโอหัง

เขาเขย่าร่างกลายเป็นคนยักษ์สูงหลายร้อยจั้ง กระบองเทพทองคำในมือยาวเป็นหลายร้อยจั้งเช่นกัน กล้ามเนื้อทั่วร่างขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับสายตามองทัน

เห็นๆ ว่าเป็นเพียงผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพ แต่พลังที่แผ่ออกมากลับทำให้ผู้อริยะเผ่าคุนมากมายขนลุก

ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นอดีต ‘ผู้สูงศักดิ์สวรรค์มรรคสูงสุด’

แม้กายเทพจะเคยพิการ ก็ยังมีพลังอำนาจมหาศาล บัวมรกตในตอนนี้ใช้หลอมกายเทพมารพิสูจน์ฐานะของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ ศักยภาพก็อาจจะไม่อ่อนแอไปกว่าตอนฝึกศาสตร์หลอมปราณด้วยซ้ำ

และที่สำคัญกว่านั้นคือหลังจากพ่ายแพ้ในครั้งนั้น เจ้านี่ก็หน้าด้านไร้ยางอาย มีนิสัยคล้ายกับศิษย์น้องเขาไปทุกที

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเช่นนี้ ขนาดผู้อริยะยังไม่กล้าล่วงเกิน

…….

บนชั้นสามของเรือเหาะ นอกจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแล้วยังมีอีกสองคนยืนอยู่

หนึ่งในนั้นคือผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำที่ทะลวงระดับฝ่าด่านเคราะห์และปรับเสถียรภาพระดับพลังแล้ว ตอนนี้ผ้าแพรสะบัดไปมา เปล่งแสงสว่างไปโดยรอบ ดูเย้ายวนกว่าเดิม

นางกลอกตา ก่อนจะพูดอย่างมีเสน่ห์หลากหลายของสตรี “เทียนเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว มีอาจารย์อาอยู่ จะไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้”

คนที่สามถูกคลุมด้วยสายฟ้าประกายเซียนทั้งตัว ตอนนี้เพียงแค่ยืนอยู่กลางอากาศเงียบๆ มองผู้อาวุโสของเผ่าคุนจำนวนมากจากเบื้องบน

เขาแผ่อำนาจคุกคามของตนออกมาทั้งหมด เหมือนแปลงกายเป็นเคราะห์สวรรค์ อัสนีกำเนิดฟ้าสีทองแผ่ออกจากสายฟ้าประกายเซียนไปหลายหมื่นจั้งในพริบตา

แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดพวกนั้นของเผ่าคุน ยามที่เผชิญหน้ากับสายฟ้าพวกนี้ยังอดตกใจจนเนื้อเต้นมิได้ เจ้านี่ เหมือนจะแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีก!

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองราชาเทพคุนอย่างเฉยชา “สหายคุน ช่วงนี้สบายดีหรือไม่”

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แผ่มาจากตัวเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว ราชาเทพคุนรู้สึกโชคดีมากที่ตอนนั้นตนไม่ฟังบุตรชายโง่และลงมือกับเสิ่นเทียน

ไม่เช่นนั้นได้เป็นปัญหาแน่

เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณที่สหายจางเป็นห่วง ครั้งนี้สหายจางเดินทางไกลมา ขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับจากแดนไกล หวังว่าสหายจางจะไม่ถือสา ไม่รู้ว่าสหายจางมาเยือนในวันนี้ คือ…”

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ “ได้ยินว่าสหายคุนเชิญเทียนเอ๋อร์มาเป็นแขก ข้าเป็นห่วงกลัวว่าเทียนเอ๋อร์จะไม่เข้าใจธรรมเนียมของเผ่าคุน แล้วจะไปล่วงเกินให้เหล่าผู้อาวุโสไม่พอใจ ถึงได้ตั้งใจมารับเขากลับ หากเทียนเอ๋อร์ทำผิดอะไรไปในช่วงนี้ ทุกท่านก็มาร้องเรียนให้ข้ารับผิดชอบได้”

เมื่อเอ่ยจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็มองมวลอากาศอย่างเฉยชา อำนาจผู้อริยะแผ่ออกไปรุนแรงยิ่งกว่าเดิม “ไม่ทราบว่าทุกท่านมีอะไรจะชี้แนะหรือไม่”

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ เลย แต่กลับทำให้เหล่าผู้อาวุโสสูงสุดในมวลอากาศพวกนั้นหนาวเหน็บในใจนิดๆ ขณะเดียวกันยังแอบคิดว่าโชคดี

ดีที่พวกเขาฟังคำพูดของเจ้าเผ่าก่อน ให้เสิ่นเทียนดำรงตำแหน่งพันธมิตรมนุษย์เผ่าคุน จัดการความขัดแย้งไปแล้ว

ไม่เช่นนั้นด้วยท่าทีและด้วยศักดิ์ศรีในตอนนี้ เกรงว่าคงจะเลี่ยงการปะทะกันระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเผ่าคุนไม่ได้

ถึงตอนนั้นเจอศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เกรงว่าคงมีผู้อริยะเผ่าคุนไม่กี่คนที่ยินดีจะสู้ด้วย ถึงอย่างไรดีไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นปลาไฟฟ้าได้

เงียบ ผู้อริยะเผ่าคุนทุกคนไม่มีใครกล้าตอบ

ในที่สุด ราชาเทพคุนก็พูดด้วยรอยยิ้มเนิบนาบ “สหายจางเข้าใจผิดแล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สุภาพในเผ่าเรา ไม่เคยสร้างปัญหาอะไร ในทางตรงข้าม บุตรศักดิ์สิทธิ์กับบุตรสาวข้าคุนอวี้ยังสนิทสนมกัน หารือลงนามเทพคุนกันแล้ว ไม่รู้ว่าสหายจางยินดีจะให้ศิษย์ท่านดำรงตำแหน่งพันธมิตรมนุษย์ของเผ่าเราหรือไม่”

…..

ตำแหน่งพันธมิตรมนุษย์เผ่าคุนรึ

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวช้าๆ เขามองราชาเทพคุนอย่างเย็นชา

จิตสื่อสารที่มีเพียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับราชาเทพคุนที่ได้รับดังขึ้นในความคิดราชาเทพคุน

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าให้ผู้อาวุโสเผ่าคุนที่ไม่เชื่อฟังพวกนั้นเป็นคนดี ส่วนเจ้าเป็นคนเลว ให้สถานการณ์มั่นคงก่อน จากนั้นค่อยเรียกข้าออกมาช่วย แบบนี้ บุตรแห่งโชคก็จะรู้สึกดีกับเราทั้งคู่ เหตุใดข้าเพิ่งมาถึงเจ้าก็จัดการไปเรียบร้อยแล้วล่ะ นี่จะให้ข้าทำให้เทียนเอ๋อร์รู้สึกดีกับข้าต่อไปได้อย่างไร หรือว่าสหายคุนอยากจะประมือกับข้าอีกสักตั้ง”

ขณะพูดอยู่นั้น คลื่นของสายฟ้าประกายเซียนก็รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

ราชาเทพคุนมุมปากกระตุกเล็กน้อย เหมือนนึกถึงอดีตที่ไม่อยากย้อนกลับไปบางอย่าง

เขากระแอมไอเบาๆ “สหายจางเข้าใจผิดแล้ว นี่เป็นเพราะผู้อาวุโสในเผ่าต่อต้านรุนแรงเกินไป ข้าเองก็ไม่มีทางเลือก! แต่สหายจางวางใจเถอะ ข้าได้เน้นย้ำกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วว่า พอเจ้าได้ยินว่าเขามีปัญหาก็นำทุกคนมาทันที ทั้งยังตัดสินใจจะเข้ามาตายเอาดาบหน้า ได้ความรู้สึกดีไปเต็มๆ เลย แม้แต่ข้าเองยังซาบซึ้งใจ ไม่มีผสมน้ำเด็ดขาด!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “เช่นนั้นพันธมิตรเผ่าคุนนี่มันอะไรกัน เหตุใดไม่หารือกับข้าก่อน”

ราชาเทพคุนมีแววตาขาดความมั่นใจขึ้นมา ตลกแล้ว เรื่องนี้หารือกับเจ้าก่อนได้ด้วยรึ

ใครบ้างไม่รู้ว่าเจ้าอยากจะยกบุตรสาวของตนยัดใส่ในอ้อมกอดเสิ่นเทียนมาตลอด

ข้าให้เกียรติเจ้าสามส่วนจริงๆ แต่เรื่องความสุขของบุตรสาว เจ้าคิดว่าข้าจะเกรงใจรึ

ข้ากำหนดสัญญาของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับอวี้เอ๋อร์แล้ว เจ้าคนแซ่จาง ถ้าไม่พอใจ อย่างมากก็แค่ประมือกันอีกครั้ง

ก็แค่เจ็ดวันเจ็ดคืนไม่ใช่รึ!

เทียบกับความสุขหลังจากนี้ของอวี้เอ๋อร์แล้ว ไม่เท่าไรเลย!

สายตาของราชาเทพคุนค่อยๆ แน่วแน่ขึ้นมา “แค่กๆ ข้าลืมไป ต้องขอโทษสหายจางจริงๆ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองราชาเทพคุนอย่างเฉยชา ผ่านไปพักใหญ่ถึงพูดขึ้นช้าๆ

“นี่เป็นอีกราคาหนึ่ง~”

…………………….