novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 347 เสิ่นเทียนปะทะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

  1. Home
  2. บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
  3. บทที่ 347 เสิ่นเทียนปะทะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต
Prev
Next

บทที่ 347 เสิ่นเทียนปะทะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

สิ่งใดคือกายทองเบิกฟ้าสวรรค์ประทาน

นี่คือกายทองสูงสุดที่บันทึกไว้ในคัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้า ใช้หมอกเบิกฟ้าขัดเกลากายและจิต

ฝึกถึงระดับสูงสุด กระทั่งใช้กายเนื้อข้ามผ่านมิติเบิกฟ้าได้ เรียกได้ว่าไม่ดับสูญในหมื่นเคราะห์ภัย มีระดับความแกร่งของกายเนื้อที่ทำให้เซียนแท้จริงยังต้องตื่นตกใจ

แน่นอนว่าระดับความแกร่งกายทองของเสิ่นเทียนตอนนี้ยังห่างไกลจากระดับนั้นอีกมาก

ถึงอย่างไรกายทองเบิกฟ้าเก้ารอบสวรรค์ประทานที่แท้จริงก็ต้องเริ่มใช้หมอกเบิกฟ้าขัดเกลากายและจิตตั้งแต่รอบแรก ค่อยๆ หล่อหลอมพื้นฐานไปทีละรอบ

แต่เสิ่นเทียนฝึกถึงกายทองแปดรอบแล้วถึงเริ่มหลอมรวมหมอกเบิกฟ้า แม้ระดับความแกร่งกายเนื้อจะเหนือกว่ากายทองเก้ารอบปกติ แต่ก็ยังมีพื้นที่ในการยกระดับที่ค่อนข้างมาก

‘ดูท่าจากนี้ถ้ามีเวลาคงต้องไปเก็บหมอกที่เขตทะเลเบิกฟ้ามาหน่อยแล้ว’

ห้องลับปิดด่านบำเพ็ญสลายเป็นผุยผงไปแล้วในคลื่นพลังอานุภาพตอนเสิ่นเทียนทะลวงพลังเมื่อครู่ เขายืนอยู่ตรงส่วนลึกก้นทะเลสามพันจั้งอย่างโอหัง ใบหน้ามีรอยยิ้มไม่ใส่ใจแต่มั่นใจ

ตอนนี้สำเร็จกายทองเก้ารอบแล้ว ทั้งยังรู้จักการเสริมด้วยพลังแห่งเบิกฟ้าส่วนหนึ่ง ศักยภาพเขาจึงเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

หากจู่โจมอย่างฉับพลันในระยะประชิด ต่อให้เป็นผู้อริยะที่ค่อนข้างอ่อนแอก็อาจจะเสียเปรียบให้กับพลังแห่งเบิกฟ้าได้

ต้องรู้ว่าตอนนี้เสิ่นเทียนเป็นเพียงผู้จริงแท้!

แน่นอนว่าหากผู้อริยะรู้ไพ่ตายทั้งหมด เสิ่นเทียนคงเอาชนะผู้อริยะไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเช่นกัน

ถึงอย่างไร ต่อให้เป็นผู้อริยะที่อ่อนแอที่สุดก็ฝ่าเคราะห์สวรรค์ก้าวสู่เขตแดนวิถีเซียนแล้วครึ่งก้าว ศักยภาพย่อมไม่ใช่สิ่งที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์จะเทียบได้

ถึงพวกเขาจะจัดการหมอกเบิกฟ้าไม่ได้ แต่ก็จัดการเสิ่นเทียนได้แน่นอน

ขอแค่ทิ้งระยะห่างมากพอ ใช้พลังอริยะมหาศาลสำแดงวิชาโจมตีเสิ่นเทียน ต่อให้เสิ่นเทียนมีหมอกเบิกฟ้าก็ยังรับมือได้ยากมาก

แต่ถ้าเสิ่นเทียนคิดจะสู้ชนะผู้อริยะก็ยังยากมาก มีแต่ลอบโจมตีเท่านั้นถึงมีโอกาส ในทางตรงข้ามก็เช่นกัน

ผู้อริยะธรรมดาคิดจะสังหารเสิ่นเทียนก็แทบจะเป็นไปไม่ได้

ระดับความแกร่งกายเนื้อของกายทองเบิกฟ้าเก้ารอบเรียกได้ว่าแกร่งจนน่าขนหัวลุก หากสู้สุดกำลังยังฉีกร่างผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้

ผนวกกับมีอาวุธอริยะระดับสูงสุดอย่างเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร รวมถึงพลังชีวิตและพลังฟื้นฟูทรงพลังที่มาจากสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินปัญจธาตุในตัวเสิ่นเทียน ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังยากจะปลิดชีพเสิ่นเทียนได้ในทีเดียว

และขอแค่ปลิดชีพเสิ่นเทียนในทีเดียวไม่ได้ เขาก็จะสำแดงวิชามิติหนีเข้าไปในมิติได้

หากเป็นคนอื่นที่ฝึกฝนวิชาคล้ายๆ กับหวังเสินซวี แม้จะฝึกวิชามิติลึกล้ำหนีเข้าไปในมิติได้ แต่ก็ไม่อาจอำพรางกลิ่นอายพลังได้

การคงอยู่ระดับผู้อริยะจับกลิ่นอายพลังเจ้าได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังฉีกมิติตามไปล่าสังหารเจ้าได้ตลอด

แต่เสิ่นเทียนอำพรางพลังได้อย่างสมบูรณ์ หนีเข้าไปในมิติก็เหมือนน้ำหยดหนึ่งหลอมรวมไปในมหาสมุทร ไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมายใดๆ

อย่าว่าแต่ผู้อริยะธรรมดาเลย ถึงจะเป็นระดับมหาอริยะ ก็ยากจะพบร่องรอยใดๆ

……

ตอนนี้ขอแค่เสิ่นเทียนไม่รนหาที่ตายเองในห้าดินแดนนี้ ก็จะมีคนที่คุกคามเขาได้ไม่มากแล้ว

ชัดๆ อะไรคือรนหาที่ตาย

ง่ายมาก อย่างเช่นตอนนี้ทะลวงไประดับนิพพาน

ถึงตอนนั้นดวงชะตาคัมภีร์คบเพลิงจะแว้งกัด ทำให้ดวงชะตาของเสิ่นเทียนลดลงอย่างมาก

หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะเจอเรื่องซวย และไม่รู้ว่าซวยเพียงใด

เสิ่นเทียนแอบตัดสินใจเงียบๆ ว่าหากยังหลอม ‘กายทองเบิกฟ้า’ ไม่สำเร็จ เขาจะไม่ทะลวงระดับนิพพานเด็ดขาด

ถ้าไม่ไหวจริงๆ ทะลวงระดับนิพพาน ก็ต้องเตรียมผักกุยช่ายระดับสูงสุดมาไว้สองสามต้น พร้อมเสริมดวงชะตาทุกเมื่อ

แต่ในด้านศาสตร์หลอมปราณแก่นพลังทอง เสิ่นเทียนเตรียมจะทุบแก่นเป็นดรุณก่อนได้

เขาอยากรู้ว่าแก่นพลังทองขนาดเท่าฟักทองนั่นทุบแก่นเป็นดรุณแล้วจะให้กำเนิดดวงจิตดรุณแบบใดออกมา หรือจะเป็นดรุณยักษ์กัน

ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ในอกเสื้อสั่นไหวเบาๆ เปล่งแสงทองอ่อนๆ นั่นคือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กำลังเรียกหา

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกางปีกทองคำเซียนปีกปักษาสว่างจ้าข้างหลังทันที

ฟิ้ว~

ก้นทะเลสามพันจั้งมีแรงดันน้ำถึงจุดสูงสุด ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน แรงดันน้ำมหาศาลนี่แทบจะไม่มีแรงกดดันใดๆ เลย

สองปีกเขาเหมือนกับดาบฟันใส่น้ำทะเลทั้งหมด ทั้งตัวเขากลายเป็นประกายแสงสีทองสายหนึ่งพุ่งไปบนผิวทะเล!

บึ้ม~

บนทะเลสีครามไร้พรมแดนพลันระเบิดคลื่นลูกใหญ่หลายร้อยจั้งขึ้น

ร่างเงาสีทองสว่างจ้าขยับแสงสว่างแสบตาภายใต้แสงตะวันส่องสะท้อน ราวกับเทพมาเยือน

“เด็กดี ตอนนี้ศักยภาพแกร่งขึ้นอีกแล้ว มาประมือกับอาจารย์ลุงหน่อยเถอะ!”

เกิดเสียงตะโกนดังขึ้นในอากาศ นักพรตชราฉู่หรงเหอถือกระบองเทพทองพุ่งเข้าใส่เสิ่นเทียน กระบองยาวในมือฟันใส่เสิ่นเทียนด้วยพลังตัดขุนเขา

กระบองตามใจนึก…กระบองฟาดเศียร!

ถึงฉู่หรงเหอจะเป็นเพียงผู้สูงศักดิ์สวรรค์ แต่มีน้อยคนนักที่จะมองเขาเป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดา รวมถึงเสิ่นเทียน

ถึงอย่างไรเมื่อหลายปีก่อนเจ้านี่ก็เคยสู้ตายกับผู้อริยะเจ็ดคนมาแล้ว แม้ตอนนี้จะสิ้นวิชาย้ายไปฝึกศาสตร์หลอมกายเทพมารใหม่ แต่กำลังรบก็ยังเหนือกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดาไปไกลมาก

อย่างอื่นไม่ว่า แต่ฉู่หรงเหอเคยทุบตีประมุขวิหารเสวี่ยซาคนนั้นในรอบแรกสนามรบบรรพกาลมาแล้ว ทุบตีอีกฝ่ายอย่างอนาถเลย

ตาแก่นี่~

เพิ่งดื่มชาตระหนักรู้ไปก็มาลอบโจมตีข้ารึ

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย พลันรวมแสงเทพมืดหม่นขึ้นมือ

หลังแสงเทพนั้นปรากฏขึ้นในมือเสิ่นเทียนแล้ว ก็ส่งพลังฤทธิ์มากมายเข้าไป มันยาวขึ้นตามสายลม ไม่นานก็มีความยาวถึงหลายสิบจั้ง

กระบองเทพทองยาวหลายร้อยจั้งฟาดเข้ามาที่ศีรษะเสิ่นเทียน มวลอากาศพลันกลายเป็นผุยผง กระบองเทพกับแสงเทพมืดหม่นนั้นปะทะกันอย่างรุนแรง

ปัง!

กระแสคลื่นพลังมหาศาลโหมซัดสาดไปบนมหาสมุทร

พลันหมุนม้วนคลื่นยักษ์หลายร้อยลี้ ตรงหัวคลื่นสูงหลายสิบจั้ง ทั้งยังมีสายฟ้าไหลเวียนกลางเมฆดำ

เหมือนกับวันสิ้นโลก!

นี่คือพลังของผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนแข็งแกร่งที่แท้จริง สำหรับคนธรรมดาแล้ว คนที่มีพลังเช่นนี้ ปกติจะไม่ต่างอะไรกับเซียนแล้ว

หากเสิ่นเทียนยินดี ด้วยการควบคุมสายฟ้าและปีกเทพข้างหลังเขาตอนนี้ รวมถึงพลังเรียกลมเรียกฝนยิ่งใหญ่ ถึงขนาดที่สร้างอาณาจักรที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งในดินแดนบูรพาได้หนึ่งดินแดน

กรรซ์~

แสงสีดำและสีทองปะทะกัน พลันเกิดเสียงมังกรร้องดังสนั่นหูกลางอากาศ

“เจ้าเด็กนี่ มีพละกำลังเช่นนี้เชียว!”

กระบองเทพทองในมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์ถูกค้อนเทพกำราบสมุทรกระแทกดีดขึ้น

นักพรตชราหรี่ม่านตาลง กระบองเมื่อครู่นี้แม้จะเป็นเพียงแค่การหยั่งเชิง ไม่ได้ใช้ศักยภาพแท้จริง แต่ก็ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ส่วนใหญ่ต้องใช้กำลังทั้งหมดต้าน

ไม่นึกเลยว่าศิษย์หลานแค่ฟาดค้อนง่ายๆ จะกระแทกพละกำลังมหาศาลที่มากับกระบองเทพทองกระเด็นออกไปทั้งหมด

กระทั่งหากไม่ใช่เพราะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตโต้ตอบไว เสริมพละกำลังทันกาล เกรงว่าแรงสะท้อนกลับคงกระแทกเขากระเด็นไปแล้ว

…..

“อาจารย์ลุง ท่านคิดจะทำอะไร”

เสิ่นเทียนมองผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตด้วยความจำใจ ตาแก่นี่จริงๆ เลย ขนาดพวกเดียวกันยังฟาดกระบองใส่

กระบองเทพทองในมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตส่องแสงสว่างจ้า ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าก่อเรื่องในทะเลอุดรไม่น้อย ข้าก็อยากรู้ว่าตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว”

“อย่ามัวพูดมาก ดูกระบองนี่!”

กระบองเทพทองลากผ่านอากาศพุ่งเข้าใส่เสิ่นเทียน

ทุกอานุภาพกระบองแฝงไว้ด้วยพลังไร้ขีดจำกัด สั่นสะเทือนมวลอากาศแหลกเป็นผุยผง เห็นได้ชัดมากว่ากระบองเมื่อครู่นี้ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่ได้จู่โจมอย่างเต็มที่เลย ตอนนี้เพิ่งจะเอาจริง

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “ในเมื่อเช่นนั้น ก็ขอคำชี้แนะจากอาจารย์ลุงด้วย”

ในเมื่อมีคู่ซ้อมส่งมาถึงที่ เสิ่นเทียนก็จะไม่ให้เสียเปล่า ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็อยากรู้มากเหมือนกันว่าตนแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว

“เปลี่ยนน้ำมวลหนัก เปลี่ยนวัฏจักร เปลี่ยนปีกปักษา เปลี่ยนอัคคี เปลี่ยนฟากฝั่ง!”

แสงเทพห้าสีพลันห่อหุ้มทั่วร่างเสิ่นเทียน กลิ่นอายพลังรอบตัวเสิ่นเทียนพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว

เขาถือค้อนเทพกำราบสมุทรไว้ในมือขวา ภายนอกค้อนหุ้มด้วยของเหลวสีเงินอ่อน นั่นคือน้ำมวลหนักปฐมกาลที่หนักที่สุดในโลกหล้า

เปรี้ยง~

สายฟ้าอัสนีบาตร มังกรคำรามสะท้านฟ้า

เสิ่นเทียนกางปีกสองข้างด้านหลัง ทั่วร่างพลันกลายเป็นเศษเงาร่างหนึ่ง

บึ้ม~!

มหาสมุทรกว้างใหญ่เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ปลาทุกชนิดในระยะหลายร้อยลี้หนีไปด้วยความตกใจลนลาน

กระบองเทพทองกับค้อนเทพกำราบสมุทรปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า สู้กันอย่างสูสี เวลานี้ต่างไม่มีใครเหนือกว่าใคร

‘สมกับเป็นอาจารย์ลุงบัวมรกต แข็งแกร่งจริงๆ!’

เสิ่นเทียนแอบตกใจอยู่ภายใน หลังสำเร็จกายทองเบิกฟ้าเก้ารอบเขาก็มั่นใจขึ้นมา เดิมทีคิดว่าด้วยศักยภาพของตนคงจะชายตามองระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้แล้ว

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต เขาแทบจะไม่ได้เปรียบอะไรเลย ทุกกระบองของอีกฝ่ายรับค้อนเทพกำราบสมุทรของเสิ่นเทียนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แม้เสิ่นเทียนจะยังไม่ได้ใช้กระบี่ฟ้าสังหาร และยังไม่ได้สำแดงเคล็ดกระบี่เซียนเหินฟ้าที่แกร่งที่สุด แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็มีไพ่ตายที่ยังไม่ได้ใช้อีกมากมาย กระทั่งอาจจะยังไม่ได้สู้เต็มที่ด้วยซ้ำ

ความรู้สึกลำพองใจอันน้อยนิดที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจเสิ่นเทียนถูกกดกลับไปอีกครั้ง

มีพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนในห้าดินแดน ต้องอยู่เงียบๆ ไว้จะดีกว่า!

……

เสิ่นเทียนตกตะลึงอยู่ในใจ แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตกใจคางแทบร่วงยิ่งกว่า

พวกเดียวกันย่อมรู้กัน ถึงเขาจะยังไม่ได้ใช้ศักยภาพทั้งหมดกับไพ่ตาย แต่ก็เอาจริงแล้ว

มองไปในผู้มีระดับพลังต่ำกว่าผู้อริยะในทั้งดินแดนบูรพา แทบจะไม่มีใครทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตสำแดงกระบองตามใจนึกได้อย่างเต็มที่เช่นนี้มาก่อน

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่อาจกำราบเสิ่นเทียนได้อยู่หมัด กระทั่งหากไม่ระวังได้โดนอันตรายจากค้อนเช่นกัน

ต้องรู้ว่าเจ้าหนูนี่ จนถึงตอนนี้เป็นเพียงผู้ฝึกบำเพ็ญระดับกายทองเท่านั้น!

ระดับกายทองบ้านใครบ้าระห่ำเช่นนี้ได้กัน

บึ้ม~

เกิดการปะทะกันอีกครั้ง ร่างเสิ่นเทียนพุ่งขึ้นฟ้าราวกับลูกกระสุน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตโดนพลังภูเขาไท่ซานทับจากค้อนหนักกระแทกจมลงทราย เกิดฝุ่นควันคละคลุ้ง

“เอาละ! หยุดมือเถอะ!”

ตอนนี้เอง ปรากฏแสงทองสว่างแพรวพราวขึ้นริมชายหาด

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลางสายฟ้าประกายเซียนเอ่ยอย่างเฉยชา “ศิษย์พี่ท่านเป็นผู้อาวุโส ไฉนถึงทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมุมปากกระตุกเล็กน้อย ก็เจ้าอยากหยั่งเชิงศักยภาพแท้จริงของเจ้าหนูนี่ เลยให้ข้าออกมือฟาดกระบองใส่เขาไม่ใช่รึ

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเสนอในราคาที่เย้ายวนข้า ข้าจะไม่มีทางลงมือกับเจ้าสัตว์ประหลาดน้อยนี่เด็ดขาด!

ทำดีไม่ได้ดี ตอนนี้เจ้ายังโดดออกมาเป็นพระเอกอีกรึ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตคิดจะร้องโวย แต่กลับโดนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขัดเอาไว้ “เทียนเอ๋อร์ ในที่สุดเจ้าก็ออกด่านบำเพ็ญแล้ว

มีข่าวจากทางศิษย์น้องหญิงบัวทอง ผนึกรอบนอกสุดของเกาะมหานทีถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้คนจากทุกขุมอำนาจเข้าเกาะไปแล้ว”

เกาะมหานที เข้าไปได้แล้วรึ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตาเป็นประกาย โยนเรื่องแฉเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไว้ข้างหลังก่อน

ถึงอย่างไรทุกคนก็รู้ว่าในสุสานมหาจักรพรรดิจินอูมีโชคลิขิตมากมาย และยังมีโอรสสวรรค์และผู้แข็งแกร่งที่ไปตามหาโชคลิขิตนับไม่ถ้วน พวกเขาจะต้องพกสมบัติล้ำค่าไปแน่

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเลียริมฝีปากก่อนจะแอบส่งกระแสจิตหาเสิ่นเทียน “ศิษย์หลานน้อย ตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งเช่นนี้แล้ว! ขึ้นเกาะมหานทีแล้วเราร่วมมือกันสักสองสามงานดีหรือไม่”

ถ้าได้เกาะดวงชะตา หนนี้ข้าได้เหนือกว่าเทพเซียนแน่!

…………………..