novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 645

  1. Home
  2. บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
  3. บทที่ 645
Prev
Next

บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 645

เอโลอิสเหนื่อยใจที่จะต้องต่อล้อต่อเถียงกับคาเลน เธอเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาที่สวยงามแต่กลับไร้ซึ่งแววของเขา เธอถอนหายใจและเอ่ยถาม “เจเรมี่ ฉันขอถามเธออะไรบางอย่างจะได้ไหม? เธอรักลูกสาวฉันไหม?”

คำถามนั้นทำให้เจเรมี่ประหลาดใจเล็กน้อย

“ตอบฉันมา เธอรักเอวลีนไหม?” เอโลอิสเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเชิงบังคับ

ดวงตาของเจเรมี่อ่อนโยนลง “แน่นอนครับ ผมรักเธอ”

“ถ้างั้น เพราะว่าเธอรักลูกสาวฉันจริง ฉันจึงมาที่นี่เพื่อบอกสิ่งนี้กับเธอ เอวลีนจะกลับไปที่เมืองเอฟกับเฟลิเป้พรุ่งนี้ และอาจจะไม่กลับมาอีกเลย”

ดวงที่ไร้ชีวิตชีวาของเจเรมี่ถูกแต่งแต้มไปด้วยความเปล่าเปลี่ยวและเศร้าโศก

“ผมรู้ครับ”

“อย่างนั้นเหรอ” เอโลอิสดูปฏิกิริยาอันนิ่งสงบของชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ

เจเรมี่กระตุกยิ้ม “สิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำให้เธอได้ คือไม่เข้ากวนใจและเกี่ยวข้องใด ๆ กับเธออีก”

เอโลอิสประหลาดใจกับคำพูดของชายหนุ่ม

เมื่อเห็นว่าเจเรมี่จับราวบันไดและหันหลังเดินกลับขึ้นไปชั้นบน เธอจึงก้าวมาด้านหน้า “พรุ่งนี้เช้า ตอน 10 โมง 30 นาที จะมาหรือไม่มา ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอเอง” หลังจากพูดจบ เอโลอิสก็เดินจากไป

เจเรมี่หยุดชะงักครู่หนึ่ง และเดินขึ้นไปชั้นบน

คาเลนเดินตามเจเรมี่ขึ้นมาและพูดกรอกหูเขาอยู่อย่างนั้น “เจเรมี่ ลูกห้ามไปนะ ลูกกับเมเดลีนไม่เหมาะสมกับเลยนะ”

“เจเรมี่ ฟังคำแม่นะ มีผู้หญิงบนโลกใบนี้ที่ดีกว่าเมเดลีนถมเถไป ลูกไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องเธออีกแล้วนะ”

เจเรมี่เมินเฉยทุกคำพูดที่คาเลนพยายามกรอกหูเขา

เขาค่อย ๆ ย่างก้าวเข้าไปในห้องนอนที่เคยมีภาพสะท้อนความทรงจำของเขาและเมเดลีน

แต่ตอนนี้ ไม่มีกลิ่นอันหอมหวานของเธอหลงเหลืออยู่อีกแล้ว มีเพียงแค่ความเปล่าเปลี่ยวและเดียวดาย

เขามองอัลบั้มภาพแต่งงานของพวกเขาด้วยดวงตาอันมืดบอดและกำภาพใบนั้นไว้ในมือ ปลายนิ้วของเจเรมี่เย็นเฉียบ ความหนาวเหน็บแผ่ซ่านเข้าไปกัดกินหัวใจของเขา

‘ลินนี่ ตราบใดที่คุณมีความสุข ผมก็เป็นสุขด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะหลงเหลือช่องว่างและความเสียใจที่ผมไม่สามารถลบเลือนไปได้ก็ตาม

‘ลินนี่ ผมเพิ่งจะเข้าใจว่ามีคนบนโลกใบนี้ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ เพราะเรื่องจังหวะเวลาอยู่จริง ๆ

‘ผมไม่เคยเห็นค่าช่วงเวลาที่คุณยังมองผมว่าเป็นคนรักของคุณอยู่เลย

‘ตอนนี้ผมเห็นแสงแห่งความจริงอันเจิดจ้าที่สาดส่องความผิดของผมแล้ว คุณเองก็คงเกลียดผมไปแล้วทั้งใจ และไม่รักผมอีกแล้ว

‘บางทีเส้นทางที่พวกเราแยกกันเดินคงเป็นจุดจบที่ดีที่สุดแล้ว’

…

วันต่อมาที่สนามบินเกลนเดล

เมเดลีนเดิมตามเฟลิเป้เพื่อมาเข้าแถว ณ จุดเช็คอินขึ้นเครื่อง

เฟลิเป้จับมือเธอไว้พร้อมรอยยิ้ม “เอวลีน ผมรู้ว่าคุณไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้นกลับไปเมืองเอฟเพื่อไปหาลิเลียนกับผมนะ แล้วพวกเราค่อยกลับมารับแจ็คไปอยู่ด้วยกัน”

เมเดลีนพยักหน้าและมองไปยังทิศทางที่เอโลอิสและฌอนยืนรอส่งเธอ แต่เธอกลับอดไม่ได้ที่จะมองผ่านพวกเขาไป

เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังมองหรือรออะไรอยู่กันแน่ แต่เธอตั้งหน้าตั้งตารอบางสิ่งอยู่ในใจ

แต่ท้ายที่สุด เธอไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว

เมเดลีนขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปยังเมืองเอฟ เมื่อเครื่องบินทะยานขึ้น เธอรู้สึกอ่อนแรง ราวกับว่าหัวใจของเธอหายไปในพริบตา

เธอหยิบที่คั่นหนังสือใบไม้ออกมา จากนั้น เธอไม่สามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มที่เธอพบบนชายหาดวันนั้นคือ เจเรมี่ หรือเฟลิเป้ กันแน่…

เจเรมี่ยืนอยู่ตรงริมระเบียงอย่างเงียบ ๆ ฟังเสียงลมหวีดหวิวพัดผ่านไป มีบางอย่างที่ทิ่มแทงเขาจากภายในจิตใจ

‘ลินนี่ ครั้งนี้คุณทิ้งผมไม่แล้วจริง ๆ สินะ

‘คุณจะไม่มีวันหันหลังกลับมาเจอหน้าไอ้คนไร้ประโยชน์คนนี้อีกแล้ว

‘ไม่มีวัน’

…

พระอาทิตย์และพระจันทร์สลับหมุนเวียนกันทำหน้าที่ของตน เข้าสู่ช่วงปลายหน้าร้อนและต้นฤดูใบไม้ผลิในพริบตา

แม้ว่าจะเป็นช่วงสองสามเดือนที่ร้อนที่สุด แต่หัวใจของเจเรมี่กลับหนาวเหน็บเหลือเกิน

เขาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากมาย ทั้งเล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่ไม่มีที่ไหนเลยรักษาอาการตาบอดของเขาให้หายสนิทได้เลย ไม่มีหมอคนไหนกล้าบุ่มบ่ามลงมือผ่าตัดดวงตาให้เขา

สุดสัปดาห์หนึ่ง วินส์ตันพาเจเรมี่ไปรักษาที่โรงพยาบาลจักษุแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้รับการตรวจสอบ คุณหมอบอกว่าม่านตาของเจเรมี่ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เหตุผลที่เจเรมี่ไม่สามารถฟื้นฟูและกลับมามองเห็นได้อีกครั้งมาจากปัจจัยอื่นมากกว่า