novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 660

  1. Home
  2. บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
  3. บทที่ 660
Prev
Next

บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 660

เฟลิซิตี้ชะงักไปเมื่อได้ยินคำเรียกนั้น แต่เธอรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเจเรมี่ในทันที

“เจเรมี่” เธอเรียกชื่อของเจเรมี่ออกพร้อมรอยยิ้มและเดินมายืนเขียงข้างเขา เธอหันไปมองเมเดลีนซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าวิลล่า “มีผู้หญิงยืนอยู่ตรงประตูน่ะค่ะ เธอมาคุณเหรอคะ?”

“ผมไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น” คำตอบของเจเรมี่ชัดเจน

เมเดลีนจูงมือแจ็คสันเดินออกไป “แจ็ค ไปกันเถอะลูก”

“แต่ว่าพ่อเขา…”

“เป็นเด็กดีนะลูก” เธอเกลี้ยงกล่อมเด็กน้อยด้วยรอยยิ้ม แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงฝืนยิ้มออกไปแบบนั้น

เฟลิซิตี้จ้องมองแผ่นหลังของเมเดลีนด้วยความเกลียดชังและรังเกียจ เธอไม่ยอมละลายตาเลยจนกระทั่งเจเรมี่เดินเบี่ยงตัวออกไป เธอถึงยอมละสายตาจากเมเดลีน

“คุณวิทแมนคะ คุณรู้จักผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงประตูจริง ๆ ไม่ใช่เหรอคะ?

“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะ คุณวอล์คเกอร์” เจเรมี่ไม่ตอบคำถามของเฟลิซิตี้ เขาเพียงแค่ขอบคุณเธอ “ผมไม่ค่อยมีอารมณ์ที่จะทำการรักษาวันนี้ ดังนั้นคุณกลับเลยก็ได้ครับ”

หลังพูดจบ เขาจึงเดินเข้าไปในบ้าน เมื่อเผชิญหน้ากับเมเดลีนเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้เขาไม่ได้มีอิสระหรือความสบายใจอยู่อีกต่อไปแล้ว

เฟลิซิตี้ไม่ต้องการที่จะแสดงท่าทีที่รุนแรงออกไปเพราะว่าไม่ต้องการให้เจเรมี่ไม่สบายใจ

อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นเมเดลีนปรากฏตัวที่นี่ ตอนนี้เมเดลีนน่าจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปเมืองเอฟไม่ใช่เหรอ?

…

เมเดลีนและแจ็คสันเดินทางมายังโรงพยาบาล

เธอต้องการพบคุณหมอที่รักษาเจเรมี่หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้วันนั้น

เมื่อเอ่ยถามถึงอาการบาดเจ็บของเจเรมี่ตอนนั้น คุณหมออธิบายรายละเอียดทุกอย่างให้เมเดลีนฟัง “คุณเป็นภรรยาของคุณวิทแมนใช่ไหมครับ? ผมจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดีเลย คุณวิทแมนถูกช่วยชีวิตไว้โดยนักดับเพลิงที่เข้าไปวันนั้น ตอนนั้นขณะที่ถูกนำตัวมาส่งที่โรงพยาบาล เขายังไม่ได้สติขึ้นมาเลย มือและขาเลือดไหลออกมาไม่หยุด โดยเฉพาะบริเวณน่องขวา กล้ามเนื้อและกระดูกเสียหายเนื่องจากมีของหนักบางอย่างทับเป็นเวลานาน และเขายังยืนตรง ๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ”

คุณหมอถอนหายใจและพูดขึ้น “แต่สิ่งที่เกินคาดไปจริง ๆ คือดวงตาของเขาได้รับบาดเจ็บมากที่สุด ม่านตาของเขาได้รับความเสียหายจากควันไฟจำนวนมาก และเขาแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย เรียกได้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาแทบจะเข้าขั้นวิกฤต และเขาควรที่จะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน แต่เขาดึงดันที่จะออกจากโรงพยาบาลให้ได้ในบ่ายวันนั้น”

“ตอนนั้น อาการบาดเจ็บบริเวณขาของเขาหนักหนาสาหัสพอสมควร และการขยับขาเพียงนิดเดียวอาจทำให้เขาเดินไม่ได้อีกเลย ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมสามีของคุณถึงได้อยากออกจากโรงพยาบาลเร็วขนาดนั้น”

คุณหมออธิบายอาการของเจเรมี่ด้วยท่าทีเรียบเฉย แต่ตรงกันข้าม หัวใจของเมเดลีนกลับกระสับกระส่ายมาก

เธอกลับไปที่คฤหาสน์มอนต์โกเมอรีพร้อมกับแจ็คสันด้วยสภาพสติไม่เต็มร้อย เอโลอิสที่อยู่ในบ้านทั้งรู้สึกประหลาดใจและดีใจในเวลาเดียวกันเมื่อได้พบแม่ลูกคู่นี้

“เอวลีน ลูกไม่ได้กลับไปเมืองเอฟพร้อม ๆ กับแจ็คและลิลลี่เหรอ? ลูกกลับมาอีกทำไม?”

“เพราะว่าแจ็คพูดอะไรผิดไป แม่ก็เลยพาแจ็คออกจากเครื่องบินแล้วไปหาพ่อ” ดวงตาที่ใสซื่อและกลมโตกะพริบขึ้นลง พร้อมกับน้ำเสียงที่เจือปนไปด้วยความรู้สึกผิด

“พูดบางอย่างผิดไป?” เอโลอิสเริ่มเข้าใจขึ้นมาทีละน้อย “เอวลีน นี่ นี่ลูกไปหาเจเรมี่มาเหรอ? ถ้างั้น ลูกรู้แล้วสินะว่าเขา…”

“หนูรู้แล้วค่ะ เขาตาบอด” เมเดลีนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาราวกับว่าพูดถึงเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรกับชีวิตเธอ แต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้หัวใจเธอกระสับกระส่ายแค่ไหน “ทุกคนรู้อยู่แล้วใช่ไหมคะ ว่าเขาตาบอด?”

“เอวลีน เราไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังลูกนะ” เอโลอิสรู้สึกเสียใจอย่างมาก “เจเรมี่สั่งห้ามไม่ให้พวกเราบอกความจริงกับลูกว่าเขาสูญเสียประสาทการมองเห็นไป”

หลังจากที่ได้ยินคำตอบ เมเดลีนรู้สึกรับไม่ได้เล็กน้อย

จากนั้น เธอฟังเอโลอิสเล่าต่อ “ความจริงแล้ว ในเหตุการณ์ไฟไหม้วันนั้น เจเรมี่ไม่สนใจเลยว่าตัวเองจะเป็นอันตรายหรือไม่เพื่อเข้าไปช่วยชีวิตลูก แต่เขาไม่อยากจะให้ลูกเข้าใจว่าการที่เขาได้รับบาดเจ็บหนักและตาเขามองไม่เห็นเป็นเพราะลูก เขาก็เลยออกไปจากโรงพยาบาลภายในบ่ายวันนั้นโดยที่ไม่ได้บอกลูก แม่โกหกลูกไปว่าการที่เขาออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขนาดนี้แสดงว่าอาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่ว่าความจริงแล้ว เขาเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ”

ทุกคำพูดของเอโลอิสทิ่มแทงไปที่หัวใจเมเดลีนจนเป็นแผลฉกรรจ์ เธอรู้สึกว่าตนเองหายใจได้อย่างไม่ทั่วท้อง

ในตอนนี้ความรู้สึกของเธอซับซ้อนไปหมด “ทำไมเจเรมี่ต้องทำแบบนั้นด้วย? ทำไมเขาถึงไม่อยากบอกหนู?”