ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 340 ฟ้ามืด
ตอนที่ 340 ฟ้ามืด
ผิงลี่คุกเข่าลงแทบเท้าแม่ทัพใหญ่ลั่ว สีหน้าหวาดกลัวและเสียใจ “ท่านพ่อ ท่านเข้าใจลูกผิดไปแล้วจริงๆ ลูกไม่เคยคิดทรยศท่าน ท่านไม่เชื่อข้า แต่เชื่อน้องห้า ข่าวที่ได้รับจากน้องห้าจะถูกต้องแน่นอนหรือ”
เสียงฝีเท้าไม่เป็นระเบียบดังขึ้น องครักษ์จิ่นหลินกลุ่มหนึ่งเข้ามาคุมตัวผิงลี่ไว้
“ท่านพ่อ ท่านพ่ออย่าหลงเชื่อคนบางคน ลูกถูกปรักปรำนะขอรับ ถูกปรักปรำจริงๆ…” จนเมื่อผิงลี่ถูกลากออกไปก็ยังได้ยินเสียงตะโกนของเขา
แม่ทัพใหญ่ลั่วยืนนิ่งที่เดิมเป็นเวลานาน
“ท่านพ่อ…”
แม่ทัพใหญ่ลั่วโบกมือให้อวิ๋นต้งเบาๆ “เจ้าก็ออกไปเถอะ จับตามองผิงลี่ให้ดี รอฟังข่าวอีกสักพัก”
นายอำเภอหลิวชิงสั่งให้พ่อค้ารายงานเรื่ององครักษ์จวนเจิ้นหนานอ๋อง โดยมุ่งเป้าไปที่เขา เรื่องนี้มีข้อสงสัยมากมาย
นายอำเภอหลิวชิงคือคนของใคร
นอกจากคนเบื้องหลังจะซื้อตัวนายอำเภอหลิวชิงได้แล้ว ยังหาองครักษ์จวนเจิ้นหนานอ๋องที่ซ่อนตัวมาสิบสองปีเจอ
เขาตาบอดเองที่เลี้ยงคนเนรคุณไว้ข้างตัวและไม่คิดว่าผิงลี่จะมีความสามารถขนาดนี้
เขาเชื่อว่าต้องมีอำนาจอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว ผิงลี่ถือโอกาสจับปลาในน้ำขุ่นหรือไม่ก็สมรู้ร่วมคิดกับอีกฝ่าย
หรือว่าบางทีเขาถูกอีกฝ่ายซื้อตัวนานแล้ว และกลายเป็นส่วนหนึ่งของอีกฝ่ายที่วางแผนทำร้ายเขา
นอกจากนี้ กลุ่มนักฆ่าที่มีสัญลักษณ์ประจำกายเป็นขวานไม้ท้อนั่นคืออะไรกัน เซิงเอ๋อร์เข้าเมืองหลวงเผชิญกับการไล่ฆ่า ผิงลี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องแค่ไหน
เขายังคงมีเรื่องคาใจมากมาย ดังนั้นชีวิตของเจ้าคนเนรคุณนั่นยังคงต้องรักษาไว้ชั่วคราว
แน่นอนว่าแม่ทัพใหญ่ลั่วไม่อยากปล่อยให้ยืดเยื้อ เพราะอุปสรรคจะยิ่งมาก แต่ก็ไม่อยากตัดหัวเขาเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทำให้ขาดเบาะแสไปด้วย
ตราบใดที่คิดว่ามีอีกฝ่ายที่ต้องการทำลายครอบครัวของเขา เขาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ
อำนาจอีกฝ่ายนั่นไม่ใช่ฮ่องเต้
อย่างน้อยตอนนี้ไม่ใช่
แม่ทัพใหญ่ลั่วไม่กล้าพูดเต็มปากว่าตนเองรู้จักจักรพรรดิหย่งอันเป็นอย่างดี แต่พวกเขาสองคนเป็นเจ้านายและลูกน้องมานานหลายปี ย่อมต้องรู้จักบ้าง
ฮ่องเต้เป็นคนช่างสงสัย แม้จะสงสัยในตัวเขาบ้าง แต่ก็ไม่ได้สงสัยมากนัก ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถเดินออกมาจากเรือนจำของกรมยุติธรรมได้
หากฮ่องเต้อยากจะจัดการใครสักคน จะดูแค่หลักฐานจริงๆ ที่ไหนกัน เช่นเดียวกับเจิ้นหนานอ๋องถูกกวาดล้างเพราะกบฎ หลักฐานที่ไร้สาระเหล่านั้นก็แค่สิ่งปกปิดความอัปยศอดสูเท่านั้น
ฮ่องเต้ต้องการทำลายจวนเจิ้นหนานอ๋อง ดังนั้นหลักฐานเหล่านั้นจึงถือเป็นหลักฐาน
แม่ทัพใหญ่ลั่วปัดเสื้อผ้าเล็กน้อย ก้าวเท้าเดินออกไป
เนื่องจากผิงลี่ถูกจับอย่างกะทันหัน องครักษ์จิ่นหลินล้วนหวาดวิตกในใจ เมฆอึมครึมปกคลุมไปทั่วทุกมุมของศาลาว่าการ
แต่ว่าแม่ทัพใหญ่ลั่วกลับมาแล้ว แม้จะน่าหวาดวิตกเพียงใดก็ไม่ส่งผลต่อคนที่จับตัวผิงลี่โดยมีอวิ๋นต้งเป็นผู้นำ
แม่ทัพใหญ่ลั่วมองความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นกะทันหันในศาลาว่ากันก็รู้สึกยากที่จะอธิบาย
“อวิ๋นต้ง”
อวิ๋นต้งวิ่งเหยาะๆ เข้ามา “ท่านพ่อมีบัญชาอะไรหรือขอรับ”
“ไม่มีอะไร เมื่อเสร็จธุระแล้วเจ้าก็กลับจวนลั่วเถอะ คืนนี้มากินข้าวเย็นด้วยกัน”
อวิ๋นต้งลังเลครู่หนึ่ง “ลูกไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไร…”
หากเป็นไปได้ เขาอยากจะรักษาระยะห่างกับคุณหนูสามไว้ดีกว่า
“เซิงเอ๋อร์บอกว่าคืนนี้หอสุราปิด จะให้อาซิ่วกลับมาทำอาหาร”
อวิ๋นต้งตอบทันทีว่า “ลูกจะรีบจัดการให้เสร็จแล้วรีบกลับไปขอรับ”
แม่ทัพใหญ่ลั่วพยักหน้า ก้าวเท้าเดินออกไป
ฝั่งจวนเถาบรรยากาศกำลังมืดมนเศร้าโศก
หลังจากรองเจ้ากรมเถากลับมาจากจวนแม่ทัพใหญ่ลั่ว เขาก็กลายเป็นหุ่นไม้ที่ไม่พูดไม่จาและนิ่งไม่ขยับ ทำเอาเถาฮูหยินกระวนกระวายใจไม่น้อย
“นายท่าน ท่านอย่าทำให้ข้ากลัวสิ ท่านคือเสาหลักของครอบครัวนะ หากท่านล้มไป ครอบครัวของเรา…”
คำพูดที่เหลือกลายเป็นเสียงกรีดร้อง
รองเจ้ากรมเถากระชากเสื้อของเถาฮูหยิน คำรามด้วยใบหน้าเหยเกว่า “หากไม่ใช่เพราะเจ้านังสารเลว ครอบครัวของเราจะล้มได้หรือ!”
แค่ถอนหมั้น แม้แม่ทัพใหญ่ลั่วจะอาฆาตแค้น แต่ก็อาจจะแค่ไล่เขาลงจากตำแหน่งรองเจ้ากรมแห่งศาลต้าหลี่ ต่อจากนี้หากเจียมเนื้อเจียมตัว อาจจะยังมีโอกาสรอดชีวิต
แต่ตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว!
เขาแทบอยากจะฆ่าสตรีโง่เขลานางนี้จริงๆ
“ท่านพ่อ…” เถาต้าหลังพุ่งเข้ามา ห้ามรองเจ้ากรมเถาไว้
รองเจ้ากรมเถาตบหน้าเถาต้าหลังอย่างแรง พูดเสียงดุ “ไสหัวออกไป!”
เถาต้าหลังถูกตบจนเซเกือบล้มคะมำ
เถาฮูหยินกรีดร้อง “ต้าหลัง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
เถาต้าหลังปากแตก สีหน้าเศร้าหมอง “ลูกไม่เป็นอะไร…”
เถาฮูหยินร้องไห้ “นายท่าน ท่านมีอะไรก็ลงที่ข้า ตบต้าหลังทำไม”
รองเจ้ากรมเถาโมโหจนตัวสั่น “มารดามีเมตตา มากด้วยบุตรล้างผลาญ หากไม่ใช่เพราะเจ้าพูดจาเหลวไหลต่อหน้าต้าหลัง ต้าหลังจะไปสร้างปัญหาต่อหน้าคุณหนูใหญ่ลั่วได้อย่างไร”
เถาต้าหลังที่มาขวางข้างหน้าเถาฮูหยินก้มหน้าลงพูดว่า “ไม่เกี่ยวกับท่านแม่ ลูกวางคุณหนูใหญ่ลั่วไม่ลงเอง…”
หากรู้แต่แรกว่าคุณหนูใหญ่ลั่วจะไร้ความปรานีเช่นนั้น เขาจะจริงจังกับนางเช่นนั้นไปทำไมกัน ทำเอาเกิดเรื่องน่าอับอายเช่นนั้น
เถาต้าหลังยิ่งคิดยิ่งโมโห ความอาลัยอาวรณ์เพียงเล็กน้อยที่มีต่อลั่วอิงสลายไปนานแล้ว
ทว่ารองเจ้ากรมเถากลับชะงักทันทีหลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ เขาตกอยู่ในความคิด
เถาฮูหยินและเถาต้าหลังเห็นดังนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไร เหล่าคนใช้ก็ออกไปแอบตั้งแต่แรกแล้ว ในห้องเงียบสงัดขนาดที่เข็มเล่มหนึ่งตกบนพื้นก็ได้ยิน
“ต้าหลัง คุณหนูใหญ่ลั่วรู้สึกอย่างไรกับเจ้า” สายตาของรองเจ้ากรมเถามองเถาต้าหลังเป็นประกาย
ทุกคนรู้ดีว่าแม่ทัพใหญ่ลั่วรักบุตรสาว ตามใจบุตรสาวภรรยาเอกจนไม่เกรงกลัวกฎหมายและศีลธรรมจรรยา สำหรับบุตรสาวภรรยาน้อยแล้วแม้จะยากหน่อย แต่ก็คงไม่แย่มาก
หากคุณหนูใหญ่ลั่วมีใจให้ต้าหลัง บางทีอาจจะยังมีทางออก…
สำหรับรองเจ้ากรมเถาแล้ว แม่ทัพใหญ่ลั่วรับได้แม้กระทั่งบุตรสาวเลี้ยงนายบำเรอ เช่นนั้นหากบุตรสาวอยากคบหากับว่าที่สามีที่ถูกถอนหมั้นไปแล้วจะไม่ได้หรือ
เถาต้าหลังอ้าปากทำท่าจะพูดอะไร แต่ก็พูดไม่ออก
เถาฮูหยินยิ้มหยันพูดว่า “นายท่าน วันนั้นคุณหนูใหญ่ลั่วปฏิบัติกับต้าหลังอย่างไรท่านก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือ คุณหนูใหญ่ลั่วนั่นเหมือนกับน้องสาวของนาง ล้วนไร้หัวใจ…”
“หุบปาก ข้าถามต้าหลัง!”
ชายหญิงรู้สึกอย่างไร มีเพียงตัวพวกเขาเองที่รู้
ภายใต้การสังเกตของรองเจ้ากรมเถา เถาต้าหลังเอ่ยปากอย่างยากลำบาก “นาง… นางเคยมีใจให้ลูก”
“ตอนนี้เล่า”
เถาต้าหลังคิดถึงเรื่องบางอย่าง สีหน้าพลันเปลี่ยน “ท่านพ่อ แม้คุณหนูใหญ่ลั่วจะยังคงชอบลูกไม่เปลี่ยนแปลง ลูกก็จะไม่ไปง้อนางอีก”
เขาอับอายอีกไม่ได้
“บัดซบ จนถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังดื้อรั้น ข้าควรตีเจ้าให้ตาย!”
“ท่านพ่อตีข้าให้ตายเถอะ”
“ได้ ข้าจะตีเจ้าลูกทรพีให้ตาย!”
เถาฮูหยินจับแขนรองเจ้ากรมเถาแน่น “นายท่าน ท่านอย่าบังคับต้าหลังเลย วันนั้นฉีกหน้ากันไปแล้ว หากกลับไปอีกมีแต่จะสร้างความอัปยศอดสูให้ตนเอง แม่ทัพใหญ่ลั่วรู้เข้าอาจจะฆ่าต้าหลังตายก็ได้…”
รองเจ้ากรมเถาชะงักงัน ล้มนั่งลงบนพื้น
วิธีนี้ใช้ไม่ได้ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลาออกทันทีเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด
สำหรับจวนเถาแล้ว ฟ้ามืดลงในทันที ไร้ซึ่งแสงสว่าง
แต่สำหรับเว่ยหานแล้ว นี่ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวันนี้
ถนนชิงซิ่งในเดือนสิบสองอันหนาวเหน็บ ในยามค่ำคืนบรรยากาศเงียบเหงากว่าฤดูกาลอื่นมาก แต่ร้านค้าริมถนนเหล่านั้นกลับยังคงมีแสงแสว่างจากโคมไฟ
ทว่าหอสุราไม่เปิด