ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 435 :คุณไม่เหนื่อยเหรอ ?
นายกเทศมนตรีจางเอ่ยถามว่า “มีธุระอะไรอีกหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “คุณช่วยให้ผมได้รับใบอนุญาตขับรถขนส่งผู้โดยสาร และตอนนี้ผมมีรถตู้หลายคันที่ให้บริการขนส่งในเมืองต่าง ๆ คุณต้องช่วยผมหาสถานที่ในชิงโจว เพื่อจอดรถในขณะที่พวกเขารอผู้โดยสารด้วย ! ”
นายกเทศมนตรีจางเลิกคิ้วถามว่า “แล้วไงต่อ ? ”
“ดังนั้น ผมจึงต้องการให้คุณช่วยหาที่ดินในเมืองสักผืน เพื่อที่ผมจะสร้างสถานีผู้โดยสารขนาดเล็ก ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างไร้ยางอาย
นายกเทศมนตรีจางลูบหน้าผากตัวเองอย่างหมดคำจะพูด
ทุกครั้งที่เขาหารือเรื่องต่าง ๆ กับเจียงเสี่ยวไป๋ เขาจะเริ่มต้นด้วยปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่จบลงด้วยด้วยความยุ่งเหยิงครั้งใหญ่เสมอ
“ฉันล่ะยอมใจคุณจริง ๆ ถ้าจะสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารก็บอกมาตามตรงก็ได้ ! ”
“คุณจะอ้อมค้อมทำไม คุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอ ? ”
นายกเทศมนตรีจางกล่าวด้วยความหงุดหงิด
เจียงเสี่ยวไป๋รีบโบกมือแล้วตอบว่า “นายกเทศมนตรีจาง คุณเข้าใจผมผิดแล้ว ผมไม่ได้วางแผนที่จะสร้างสถานีผู้โดยสารในตอนแรก ทั้งหมดนี้มันเป็นไปตามสถานการณ์ครับ”
“คุณลองคิดดู ถ้าผมให้บริการผู้โดยสารและไม่มีสถานีขนส่งผู้โดยสาร ใครจะรับผิดชอบในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ? ”
“ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีสถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อการควบคุมดูแลที่เหมาะสมและเพื่อป้องกันความปลอดภัย”
นายกเทศมนตรีจางกลอกตาใส่เขา แล้วพูดว่า “เฮอะ คุณพูดถูก ฉันจะหาที่เหมาะสมให้คุณ”
เขาโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ฉันขอถามหน่อย โรงเรียนของคุณยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเลย แล้วทำไมคุณถึงเริ่มรับสมัครครูแล้วล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเล่าเรื่องของหลี่ม่านม่านที่เป็นครูอาสาและคำสัญญาของเขาที่มีต่อครูใหญ่วัยชราของโรงเรียน
นายกเทศมนตรีจางตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ หลังจากได้ยินสิ่งนี้
จากนั้น เขาก็มองเจียงเสี่ยวไป๋อย่างลึกซึ้ง แล้วพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว ต่อไปนี้เวลาทำอะไรก็ระวังหน่อย พยายามอย่าทำอะไรที่ชวนให้คนปวดหัวอีก อีกอย่าง มันไม่ง่ายเลยกว่าครูคนหนึ่งจะเกษียณอายุราชการ ทำไมคุณถึงไปรบกวนพวกเขาล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกสงสัย จึงถามว่า “ผมไปรบกวนครูเกษียณเหล่านั้นตอนไหนล่ะครับ ? ”
นายกเทศมนตรีจางแค่นหัวเราะ แล้วพูดว่า “อย่าคิดว่าทุกคนจะโง่เขลา ใครจะไม่เห็นว่าการจ้างเงินเดือนสูงของคุณเป็นเพียงฉากหน้า แท้จริงแล้วคุณกำลังล่าครูจากโรงเรียนอื่นต่างหาก”
เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถ้าคุณเสนอค่าตอบแทนที่ดีเพื่อหาครูรุ่นใหม่ นั่นก็เรื่องของคุณ แต่การไปรบกวนครูที่เกษียณอายุราชการเหล่านั้นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนัก”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดคัดค้านว่า “นายกเทศมนตรีจาง คุณเข้าใจผมผิด ผมยอมรับว่าผมมีเป้าหมายในการสรรหาครูรุ่นใหม่ที่โดดเด่น แต่ผมไม่ได้หลอกลวงครูที่เกษียณแล้ว เพราะผมต้องจ้างครูที่เกษียณแล้วจริง ๆ ”
ฮะ ?
คราวนี้นายกเทศมนตรีจางถึงกับงงงวย
เขามองไปที่เจียงเสี่ยวไป่อย่างสงสัย “คุณต้องการรับสมัครครูที่เกษียณอายุแล้วกี่คน ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ทั้งหมดประมาณ 10-20 คนครับ ! ”
นายกเทศมนตรีจางถามอย่างไม่เข้าใจว่า: “ทำไมคุณจึงรับสมัครครูที่เกษียณอายุราชการจำนวนมากขนาดนั้น ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ประการแรก ครูที่มีอายุมากกว่าจะมีความอดทนมากกว่าและสามารถเข้ากับเด็กได้ดี และที่สำคัญกว่านั้น ครูหลายคนมีความเชี่ยวชาญด้านวรรณคดีและการเขียนอักษรจีน เนื่องจากพวกเขามักจะเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ โรงเรียนที่ผมกำลังจะสร้างจะมีชั้นเรียนกวดวิชาและชั้นเรียนเสริม ดังนั้นผมจึงจ้างครูเกษียณอายุที่มีทักษะพิเศษ เพื่อใช้ความเชี่ยวชาญของพวกเขาให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
นายกเทศมนตรีจางไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้ และอดไม่ได้ที่จะสนใจโรงเรียนที่เจียงเสี่ยวไป๋วางแผนจะเปิดสอน
“ไหนช่วยบอกแผนการบริหารโรงเรียนของคุณหน่อยสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบบุหรี่ออกมายื่นให้นายกเทศมนตรีจาง ก่อนจะจุดบุหรี่ จากนั้นก็เล่าวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาและแผนบริหารโรงเรียนของเขาไปทีละส่วน
หลังจากฟังแล้ว นายกเทศมนตรีจางไม่ได้แสดงความคิดเห็นมากนัก แต่มองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน เขาสงสัยว่าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นคนแบบไหนกัน ? ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็มักจะคิดไอเดียใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ ?
“เอาล่ะ รอให้โรงเรียนของคุณเปิดทำการแล้ว ฉันจะไปดูที่นั่นอีกที”
“ตอนนี้ ควรออกแบบที่คุณพูดถึงและมุ่งเน้นไปที่การเริ่มต้นโครงการนำร่องการพัฒนาชนบทใหม่ของเจียงวาน นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคุณ”
นายกเทศมนตรีจางยืนขึ้นกล่าว
เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยืนขึ้นและยิ้มรับเช่นกัน “ท่านผู้นำ นี่คุณจะไล่ผมไปแล้วเหรอ ? เอาล่ะ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “เฮ้อ……ร้านข้าวต้มหัวปลาตกแต่งภายในเสร็จแล้ว ตอนแรกผมตั้งใจจะเชิญคุณไปลองชิมอาหารสักหน่อย ! ”
“งั้น…..เอาไว้วันอื่นแล้วกัน ! ”
พูดแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็หันหลังและเดินออกไป
นายกเทศมนตรีจางตกตะลึง ดูเหมือนว่าเขาอาจจะไล่แขกเร็วเกินไป เขาจึงรีบพูดว่า “งั้นมาคุยกันอีกหน่อย คุยให้ถึงมื้อเที่ยงเลย แล้วฉันจะไปชิมอาหารกับคุณ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ ในขณะที่เขาเดินจากไปและพูดว่า “ท่านผู้นำ ผมแค่ล้อเล่นครับ ผมต้องไปก่อน คุณไปที่ร้านตอนเที่ยงวันแล้วกัน แล้วพวกเราไปกินข้าวต้มหัวปลาด้วยกัน”
นายกเทศมนตรีจางเห็นด้วยทันที หลังจากได้กินไปเมื่อครั้งก่อน เขาก็ไม่สามารถลืมรสชาติของข้าวต้มหัวปลาได้ และในที่สุด เขาก็จะได้กินอีกครั้ง
หลังออกจากศาลากลาง เจียงเสี่ยวไป๋ไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของบางอย่าง จากนั้นขับรถไปที่ถนนซานเฉิงในทางเหนือของเมือง
ขณะที่เขาเข้าไปในลานบ้านหลังเล็กที่คุ้นเคย เจียงเสี่ยวไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็ก ๆ
ครั้งสุดท้ายที่เขาไปเยือน ซุ้มองุ่นถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี โดยมีพวงองุ่นแวววาวห้อยอยู่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เถาและใบองุ่นส่วนใหญ่ร่วงหล่นลงสู่พื้น มีใบสีเหลืองเพียงไม่กี่ใบเท่านั้นที่ยังคงอยู่บนเถาองุ่น ให้ความรู้สึกรกร้าง
“เหล่าหลิน ! เหล่าหลิน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนอยู่ที่ลานบ้านและตะโกนเรียกเจ้าของบ้านเสียงดัง
ไม่นาน หลินฉางเกิงที่สวมแว่นก็เดินออกมาจากในบ้าน เมื่อเขาเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ ใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา “ฉันก็นึกว่าเป็นใคร ที่แท้ก็นายนี่เอง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มรับ “ผมมาเที่ยวหา ! ”
“เข้ามาสิ ! ”
“ครับ ! ”
ระหว่างพวกเขาไม่จำเป็นต้องมากพิธีการ
เจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปในบ้าน วางของขวัญที่เขานำมาไว้บนโต๊ะแปดเซียน จากนั้นจึงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กัน
หลินฉางเกิงเหลือบมองของขวัญแล้วหัวเราะเบา ๆ “เวลานายให้ของขวัญ มักจะมีการขอความช่วยเหลือเสมอ คราวนี้คือเรื่องอะไรล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ชูนิ้วโป้งชื่นชม “คุณรู้จักผมดี”
เขาหยิบแบบร่างที่เขาวาดออกมา แล้วส่งให้หลินฉางเกิงโดยพูดว่า “คุณลองดูเจ้านี่ก่อน ! ”
หลินฉางเกิงหยิบมันขึ้นมา เขาปรับแว่นตาของเขาและมองแต่ละภาพอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็มองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความสับสน และพูดว่า “นายวาดมันเองหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า
หลินฉางเกิงกล่าวว่า “การจัดวางค่อนข้างแปลกใหม่ และมีองค์ประกอบของบ้านยกสูงแบบดั้งเดิมจากกลุ่มชาติพันธุ์ถูเจีย รูปแบบมีความสวยงามน่าดึงดูด แต่ก็ไม่ใช่อาคารเก่าแก่ ทำไมนายถึงให้ฉันดูล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “แน่นอนว่าผมอยากจะเชิญคุณร่วมงานด้วย และขอให้คุณช่วยสร้างภาพจำลองสีสักสองสามภาพด้วยครับ”
หลินฉางเกิงหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ยังคงไม่เกรงใจกันเหมือนเดิมเลยนะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ทำไมผมต้องเกรงใจคุณด้วย ? แบบนั้นก็ดูเป็นคนนอกต่อกันน่ะสิ ! ”
หลินฉางเกิงพยักหน้า เขาชอบความตรงไปตรงมาของเจียงเสี่ยวไป๋ “ในเมื่อนายพูดแบบนั้นและยังนำของขวัญมาติดสินบนฉันด้วย ฉันจะปฏิเสธได้อย่างไร ? ”
“งั้นนายบอกฉันมาก่อนว่าจะนำแบบร่างพวกนี้ไปทำอะไร”
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายแผนส่งเสริมการพัฒนาชนบทใหม่ในชิงโจวให้ชายชราฟัง ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยนายกเทศมนตรีจาง เขากล่าวว่า “ในอนาคต ชาวชิงโจวจะใช้แบบแปลนเหล่านี้เพื่อสร้างบ้านเรือน เมื่อมีบ้านรูปแบบนี้มากขึ้น มันก็จะกลายเป็นภาพที่สวยงามในชิงโจว”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หลินฉางเกิงก็ตกใจ “นี่เป็นโครงการที่ค่อนข้างใหญ่และเป็นประโยชน์ต่อชาวชิงโจวอีกด้วย นายทิ้งแบบแปลนไว้ที่ฉันได้เลย และฉันจะรีบวาดแบบจำลองให้ ! ”
“ขอบคุณครับเหล่าหลิน ! ”
หลินฉางเกิงโบกมือปัดแล้วพูดว่า “เอาล่ะ ฉันจะเริ่มวาดรูปให้ แล้วนายค่อยกลับมารับพวกมันได้ในอีกไม่กี่วัน”