ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 305 พรางมารยาชิงมรรคา
บทที่ 305 พรางมารยาชิงมรรคา
เห็นใบหน้าไม่สะทกสะท้านของสวี่ชิง บอกว่าจะไปศึกษากับสำนักวิถีพิษออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ นายท่านเจ็ดยิ่งรู้สึกชื่นชม หลังจากหัวเราะก็พยักหน้า
“ย่อมมี ไป อาจารย์จะพาเจ้าไป” พูดพลาง นายท่านเจ็ดก็พาสวี่ชิงออกจากสำนักนี้
บนท้องฟ้า ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปาก สวี่ชิงก็หันหลังคารวะอย่างจริงจังไปยังสำนักเบื้องล่าง
นายท่านเจ็ดยิ่งพอใจ คารวะตามเช่นกัน พาสวี่ชิงเดินขึ้นไปบนเรือเวท
ส่วนติงเสวี่ยยังคงฝึกบำเพ็ญ พรสวรรค์ของนางค่อนข้างดาษดื่นอย่างชัดเจน ต่อให้มีไข่มุกวิญญาณช่วยเหลือ แต่ระดับความยากในการเปิดช่องเวทก็ยังไม่น้อยลงเลย
เวลาค่อยๆ ผ่านไปกับการเรียนรู้ของสวี่ชิงและนายท่านเจ็ด หนึ่งเดือนต่อมา จากการที่เรือเวทเข้าไปด้านในเขตแดนตะวันตกส่วนลึกของมณฑลรับเสด็จราชันแล้ว จากการที่วิชาที่นายท่านเจ็ดสร้างขึ้นเพื่อสวี่ชิงเสร็จสมบูรณ์ การเรียนรู้ครั้งนี้จึงถือว่าสิ้นสุดลง
สวี่ชิงได้รับวิชาหญ้าสมุนไพรมามากมาย มีส่วนช่วยวิถีพิษไม่น้อยต่อ โดยเฉพาะสำนักชั่วร้ายวิถีพิษหลายแห่งที่ไปในช่วงนี้ คัมภีร์พิษทำให้สวี่ชิงตกตะลึงอย่างมาก
เช่นวิชาปลูกพิษเป็นหนึ่งในนั้น วิชานี้จะนำเลือดเนื้อแปรเป็นเตาลูกกลอน ใช้สายเลือดเป็นคำสาป จากนั้นหลอมพิษร้ายแรงออกมา
แต่ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่จุดสำคัญสำหรับสวี่ชิงตอนนี้ ความร้อนแรงในดวงตาของเขา จ้องไปในฝ่ามือของนายท่านเจ็ดที่มีลูกกลมๆ สีดำลูกหนึ่งลอยขึ้นมา
ลูกกลมๆ ลูกนี้เกิดขึ้นมาจากอักขระนับไม่ถ้วน แฝงไว้ด้วยระลอกคลื่นที่น่าหวาดหวั่น ที่มหัศจรรย์กว่านั้นคือเมื่อมองก็เหมือนมีข้อมูลนับไม่ถ้วนหลั่งไหลผ่านสายตาเข้าสู่สมอง
“เจ้าสี่ นำดวงใจประหลาดของซือหม่าหรูมาให้ข้า” สีหน้านายท่านเจ็ดเคร่งขรึม เอ่ยขึ้นแช่มช้า
สวี่ชิงดวงตาแข็งค้าง เขาคิดถึงสิ่งที่อาจารย์เคยพูดกับเขาเมื่อตอนนั้นว่าดวงใจนั่นมีประโยชน์มหาศาล จึงล้วงดวงใจประหลาดของซือหม่าหรูในถุงเก็บของออกมา ยื่นให้นายท่านเจ็ด
นายท่านเจ็ดสะบัดแขนเสื้อ นำดวงใจประหลาดนี้หลอมเข้าไปในลูกกลมๆ สีดำ ทันใดนั้นลูกกลมๆ นี้ก็ลอยขึ้นมาราวกับมีชีวิต แผดเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนจิตวิญญาณออกมาไม่หยุด
“เจ้าสี่ วิชาที่อาจารย์สร้างให้เจ้า สร้างตามลักษณะพิเศษของเจ้า มันจะเกิดขึ้นเป็นตราประทับตราหนึ่งในจิตวิญญาณของเจ้า
“วิธีสืบทอดเช่นนี้ เป็นสิ่งที่อาจารย์อ้างอิงจากวิชาระดับจักรพรรดิ!” ระหว่างที่พูด เสียงคำรามของลูกกลมๆ สีดำในมือนายท่านเจ็ดหายไป กลายเป็นของเหลวสีดำ เมื่อนายท่านเจ็ดโบกมือก็ลอยไปทางสวี่ชิง
“เงยหน้าขึ้น!” เสียงนายท่านเจ็ดกึกก้อง สวี่ชิงมองของเหลวทรงกลมสีดำก้อนนั้นลอยมา เงยหน้าขึ้น
พริบตาต่อมาของเหลวนี้ก็สัมผัสหน้าผากสวี่ชิง ตอนที่รู้สึกเจ็บปวดเสียดแทงใจ ของเหลวนี้ก็ซึมเข้าไปในผิวหนังของสวี่ชิง ผสานเข้าไปในกระดูก และซึมเข้าอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็กลายเป็นพลังแปลกประหลาดหลายสาย รวมกันในจิตวิญญาณของสวี่ชิง ขณะที่พัวพันกัน ก่อตัวขึ้นเป็นตราประทับสีดำตราหนึ่ง!
เมื่อตราประทับนี้ปรากฏขึ้น สมองของสวี่ชิงก็เหมือนอัสนีผ่าครืนครัน ร่างกายเหมือนกลายเป็นเรือโดดเดี่ยวลำหนึ่ง กำลังโคลงเคลงไปมาท่ามกลางทะเลกราดเกรี้ยว
โดยเฉพาะตราประทับนี้ไม่ได้อยู่นิ่งๆ แต่มันกำลังเคลื่อนไหว!
เฉกเช่นหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้นความถี่การเต้นก็ยังเต้นตามหัวใจของสวี่ชิงด้วย รักษาระดับที่เหมือนกันไว้
จากเสียงตุบๆ ตุบๆ ที่กึกก้อง ข้อมูลมหาศาลก็ระเบิดออกมาจากในตราประทับอักขระนี้ ท้วมท้นอยู่ในทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง สวี่ชิงหลับตาลงด้วยสัญชาตญาณ ทำการบรรลุทั้งดวงใจ
ขณะเดียวกัน ในทะเลความรู้สึกของเขา ก็มีเสียงความภาคภูมิใจของนายท่านเจ็ดดังกึกก้อง
“เจ้าสี่ ศิษย์ทุกคนของอาจารย์ ล้วนฝึกวิชาที่แตกต่างกัน ล้วนค้นคว้าด้วยตนเองเพื่ออาจารย์ รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อตนเอง!
“วิชาแก่นลมปราณของเจ้า อาจารย์ใช้ดวงใจประหลาดเป็นพื้นฐาน ค้นคว้าวิชาแก่นลมปราณนับร้อย โดยเฉพาะวิชาที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวถ่ายทอดไว้ ในที่สุดก็สร้างออกมาได้
“วิชานี้อหังการขีดสุด สอดคล้องกับพลังการลงมือของเจ้า ชั่วช้าเลวทราม สอดคล้องกับลักษณะการลงมือของเจ้า โหดเหี้ยมไร้ปราณี นี่ยิ่งสอดคล้องกับนิสัยการสังหารของเจ้า”
“วิชานี้ มีชื่อว่า…วิชาพรางมารยาชิงมรรคา!
“วิชานี้จะทำให้แขนข้างหนึ่งของเจ้า เปลี่ยนสิ่งเป็นจริงสู่ความลวง แปรเปลี่ยนเป็นมือประหลาด และมือนี้สามารถแทรกเข้าไปในวังสวรรค์จิตวิญญาณทะเลความรู้สึกของศัตรูได้ ช่วงชิงแก่นลมปราณออกมาจากในวังสวรรค์ของอีกฝ่าย
“จากนั้นก็หลอมเอาส่วนที่ดีที่สุดของมัน ชุบเลี้ยงไว้ในวังสวรรค์ของตนเอง หลังจากช่วงชิงมารวมกันแล