novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 243 หวางอี้

  1. Home
  2. พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)
  3. บทที่ 243 หวางอี้
Prev
Next

บทที่ 243 หวางอี้

ไม่เพียงแต่คนที่อยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น ทุกคนที่หลิงตู้ฉิงบังคับให้ลงชื่อในสัญญากับหลิงยี่เทียนต่างก็จ้องมองไปที่ฟีนิกซ์

หากตอนนี้พวกเขายังไม่พอใจและรู้สึกถูกบีบบังคับให้ต้องศิโรราบอย่างไร้ยางอาย แต่หลังจากได้เห็นนกฟีนิกซ์แล้วพวกเขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง

“ถ้าข้าติดตามจักรพรรดิเช่นนี้ อานาคตของข้าอาจจะรุ่งโรจน์กว่าที่เคยเป็นมาก็เป็นได้” อู่หยุนจี๋พึมพำกับตัวเอง “แม้ว่าองค์จักรพรรดิใหม่ของข้าจะยังไม่รู้วิธีการบ่มเพาะ แต่บิดาของพระองค์ก็ไม่ใช่คนธรรมดา เขาจะต้องทำให้องค์จักรพรรดิกลายเป็นผู้ปกครองที่เหนือว่าผู้ปกครองใด ๆ ทั้งหลายได้แน่นอน”

ตอนนี้เหล่ากองทัพศักดิ์สิทธิ์เริ่มมีความคิดเต็มใจมากขึ้นบ้างแล้ว

ทางด้านของเสี่ยวเยว่เฟิง เมื่อนางบินวนไปวนมาอยู่บนท้องฟ้าได้อยู่สักพัก นางก็เรียกเปลวเพลิงที่ลุกท่วมตัวนางอยู่กลับกืนเข้าร่างและร่อนลงกลานลานคฤหาสน์สราญรมย์

เมื่อร่างแท้ของฟีนิกซ์จางหายไป เสี่ยวเยว่เฟิงก็กลับสู่ร่างมนุษย์ของนางเหมือนเดิม ซึ่งร่างของนางไม่ได้เปลือยเปล่าเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ร่างของนางสวมเสื้อคลุมสีแดงเพลิงอยู่

“เฟิง เสื้อผ้ามาจากไหน?” หลิงไช่หยุนถามด้วยความประหลาดใจ

เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะอย่างมีความสุข “นายหญิงน้อย ชุดสีแดงนี่คือขนจากร่างแท้ของข้าที่เสื่อมสภาพหลังจากข้าคืนร่างมนุษย์ เนื่องจากขนเหล่านั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของพลังของข้า ถ้าจำเป็นข้าสามารถเก็บมันกลับมาใช้ประโยชน์ได้”

“อย่าเรียกข้าว่านายหญิงเลย ข้าคิดว่าข้าจะต้องเรียกเฟิงว่า ‘น้า’ ในไม่ช้านี้แน่ ๆ” หลิงไช่หยุนหน้ามุ่ย

“หะ?” เสี่ยวเยว่เฟิงมองไปที่หลิงตู้ฉิง “นายท่าน ท่านต้องการข้างั้นเหรอ? ข้าว่ามันคงไม่ดีหรอกมั้ง!”

“พ่อของข้าได้เห็นร่างกายเจ้าหมดแล้ว เจ้าไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบเหรอ?” หลิงไช่หยุนขึ้นเสียง “และอีกอย่างท่านพ่อของข้าดูแลเจ้ามาตลอด เขาจะไม่สนใจเจ้าได้อย่างไร?”

เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะ “นายท่าน ข้าไม่ต้องการให้ท่านรับผิดชอบข้า! ด้วยฐานะที่ข้าเป็นสารถีให้ท่านและเป็นสาวใช้ของนายหญิงน้อย ถ้าหากให้นายท่านดูนิดหน่อย มันคงไม่เสียหายอะไรมากหรอก!”

หลิงตู้ฉิงรู้สึกโล่งใจและพยักหน้า “เยี่ยม! งั้นเอาตามที่เจ้าว่าก็แล้วกัน”

ผู้หญิงที่ไม่มีความรักให้เขา มันจะดีกว่าที่เขาจะไม่แต่งงานกับนาง!

“เฟิง แล้วเจ้าจะไม่เสียเปรียบเหรอ?” หลิงไช่หยุนถามด้วยความประหลาดใจ

เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะและพูดว่า “ด้วยพระคุณที่นายท่านถ่ายทอดวิชาอันแสนวิเศษให้ข้า ไม่เพียงแต่ข้าจะไม่สูญเสียอะไรไป ข้ายังได้รับประโยชน์มากอีกด้วย เอ๊ะจริงสิ! นายท่าน ท่านคงไม่ใช่ผู้อาวุโสของสำนักข้าใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นทำไมท่านถึงรู้วิชาระดับสูงสุดของสำนักหมื่นเซียน ยอดเขาฟินิกซ์ของข้า?”

หลิงตู้ฉิงเงียบ

เสี่ยวเยว่เฟิงและหลิงไช่หยุนมองหน้ากันด้วยความสับสน หลิงตู้ฉิงเงียบอยู่ชั่วขณะแล้วถามว่า “หวางอี้ ยังอยู่รึเปล่า?”

“หวางอี้ องค์หญิงน้อยแห่งยอดเขาฟีนิกซ์?” เสี่ยวเยว่เฟิงตกใจมาก “นายท่านเป็นผู้อาวุโสแห่งยอดเขาฟีนิกซ์ของข้าจริง ๆ ด้วย!”

มิฉะนั้นเขาจะจำองค์หญิงน้อยแห่งยอดเขาฟีนิกซ์ได้อย่างไร?

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วและถามว่า “องค์หญิงน้อย?”

“ใช่แล้ว นายท่าน!” เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้า “ตอนที่ข้าออกมาจากยอดเขาฟีนิกซ์ องค์หญิงหวางอี้ยังอายุไม่ถึง 100 ปี แต่การบ่มเพาะของนางอยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 8 แล้ว องค์หญิงหวางอี้ถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะที่จุติลงมายังยอดเขาฟีนิกซ์ของเราในรอบ 10,000 ปี นางได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าของพวกเรา”

ใบหน้าของหลิงตู้ฉิงดูน่าเกลียดขึ้นเพียงชั่ววินาที เขาเก็บอาการและพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปจากไป

เสี่ยวเยว่เฟิงขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงหันหลังจากไป นางสงสัยมากว่าทำไมเมื่อครู่สีหน้าของหลิงตู้ฉิงถึงดูไม่มีความสุขเมื่อนางเล่าถึงความโดดเด่นขององค์หญิงหวางอี้?

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลิงไช่หยุนหัวเราะ “อายุยังไม่ถึงร้อยปีหรือ? และเรียกตัวเองว่าองค์หญิงน้อย?”

เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้าและยิ้ม “นายหญิงน้อย ถึงแม้ว่าร้อยปีจะถือว่าอายุมากแล้วในสายตาของท่าน แต่สำหรับผู้บ่มเพาะมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น! โดยเฉพาะพวกเราจากยอดเขาฟีนิกซ์ อายุขัยของเรายืนยาวกว่าคนอื่น ๆ”

“เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?” หลิงไช่หยุนถามด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ

เสี่ยวเยว่เฟิงตอบอย่างเขิน ๆ “ข้าอายุ 300 ปีแล้ว!”

หลิงไช่หยุนอ้าปากค้างทันที

“นายหญิงน้อย อายุของท่านหากเทียบกับข้าแล้วมันเป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของท่านเท่านั้นเอง!” เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะ “แต่ด้วยพรสวรรค์ของนายหญิงน้อยที่แข็งแกร่งกว่าข้า บางทีเมื่อท่านอายุเท่าข้า ท่านคงจะไปไกลกว่าข้ามากแล้ว”

“ข้าต้องแข็งแกร่งกว่าหวางอี้!” หลิงไช่หยุนกำหมัดแน่นให้กำลังใจตัวเอง นางพูดกับ เสี่ยวเยว่เฟิงอย่างมีเลศนัยว่า “แต่ว่าเฟิง เป็นไปได้ไหมที่ท่านพ่อของข้าจะอยากแต่งงานกับหวางอี้ แต่เมื่อเขาได้ยินว่านางอายุมากแล้ว พ่อของข้าเลยทำสีหน้าไม่สบอารมณ์?”

“หา! นายหญิงน้อยท่านอย่าได้เดาสุ่มเช่นนี้สิ ข้าว่ามันคงไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดหรอก!” เสี่ยวเยว่เฟิงพูดอย่างกระอักกระอ่วน

“แล้วทำไมท่านพ่อถึงดูไม่มีความสุขล่ะ?” หลิงไช่หยุนขมวดคิ้ว “ข้าไม่เคยเห็นเขาดูไม่มีความสุขแบบนี้มาก่อน!”

อันที่จริงนี่ก็เป็นสิ่งที่เสี่ยวเยว่เฟิงสงสัยอยู่เช่นกัน ทำไมหลิงตู้ฉิงถึงต้องแสดงอาการไม่มีความสุขเช่นนั้นขึ้น? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ที่ผ่านมาตั้งแต่นางได้ติดตามเขามาเป็นเวลาหลายปีนางไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้เลยสักครั้งเช่นกัน

ในขณะนี้หลิงตู้ฉิงกลับมาดูสงบและไร้กังวลตามปกติ เขามาที่ลานของหลิงฟ่างหัว

“นังหนูปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นข้าจะกินเจ้า!” จี้จู่กำลังคุกคามหลิงฟ่างหัว

แต่น่าเสียดายที่ขณะนี้ระดับการบ่มเพาะและสายเลือดของเขาต่างถูกปิดผนึกจนหมด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคนธรรมดามากนัก การคุกคามของเขาจึงไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

“เจ้าจะกินข้างั้นเหรอ? ได้! เจ้ารอให้ท่านพ่อของข้ามาก่อนเถอะ ข้าจะบอกให้เขาจัดการกับเจ้า!” หลิงฟ่างหัวพูด “เอาล่ะ เจ้ารีบ ๆ มอบความลับในการเดินทางผ่านมิติมาให้ข้าได้แล้ว ไม่งั้นข้าจะให้น้าจื่อซินมากินเจ้าซะ!”

“อ๋อ…มันเป็นเจ้าเองสินะที่ทำให้ข้าไม่สามารถใช้พลังมิติของข้าได้เมื่อก่อนหน้านี้!” จี้จู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงหนีได้ไปนานแล้ว และพ่อของเจ้าก็คงจับข้าไม่ได้แน่นอน!”

หลิงฟ่างหัวพูดอย่างเหยียดหยาม “นั่นเป็นเพราะท่านพ่อของข้าต้องรับมือกับพวกเจ้าทั้งหมดพร้อม ๆ กันต่างหากล่ะ ไม่อย่างนั้นน้ำหน้าอย่างเจ้าจะเอาปัญญาที่ไหนมาหนีพ่อของข้าได้! เฮ้! เร็วสิเจ้ารีบบอกข้ามาได้แล้วว่าเจ้าเดินทางผ่านมิติได้ยังไง?”

หลิงตู้ฉิงที่ในขณะนี้เดินเข้ามาถึงพอดี เมื่อได้ยินคำถามของหลิงฟ่างหัวเขาตอบว่า “สาวน้อย สายเลือดของเขาคือ หนูมิติ มันเป็นสายเลือดของเผ่าอสูรมิติศักดิ์สิทธิ์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถเดินทางผ่านมิติได้ดั่งใจนึก”

“ท่านพ่อ ท่านมาแล้ว!” หลิงฟ่างหัวรีบลุกขึ้นยืนและพูด

ทันทีที่จี้จู่เห็นหลิงตู้ฉิง เขาพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดทันที “เฮ้ย! เจ้าน่ะ! รีบไปปล่อยข้าไป เดี๋ยวนี้ ข้าเป็นองค์รักษ์อันดับหนึ่งของโอรสสวรรค์ ผู้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ขององค์เหนือหัวคุนเป๋ง ถ้าเจ้ากล้าฆ่าข้า ท่านโอรสสวรรค์จะต้องไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”

หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แยแสว่า “โอรสสวรรค์ ลูกของคุนเป๋ง? เจ้านายของเจ้านี่คือคุนเป๋งจริง ๆ เลย หรือเป็นแค่อมนุษย์ที่มีสายเลือดของคุนเป๋ง? แล้วร่างแท้จริงคุนเป๋งของเขาสมบูรณ์แล้วรึยัง?”

จี้จู่พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “โอรสสวรรค์ของเราเป็นลูกหลานเชื้อสายหลักขององค์เหนือหัวคุนเป๋ง บรรพบุรุษแห่งปีศาจอย่างแท้จริง ฉะนั้นความเข้มข้นทางสายเลือดของเขาย่อมอยู่เหนือมากกว่าทุกคนในหุบเขาหมื่นอสูรและร่างจริงของเขาก็พัฒนาจนสมบูรณ์มานานแล้วไม่ว่าเจ้าจะใช้ ‘อาณาเขตสวรรค์เทียม’ หรือวิชาอักขระเวทย์ของเจ้า เจ้าก็ไม่สามารถคุกคามเขาได้”

หลิงตุ้ฉิงเลิกคิ้วและพูดว่า “โอ้! งั้นก็ดีแล้วที่นายของเจ้าสามารถพัฒนาร่างกายที่แท้จริงของเขาได้ ข้าเองก็ยังไม่เคยกินเนื้อของคุนเป๋งมาก่อน ดังนั้นนี่มันก็เหมือนเป็นโอกาสให้ข้าได้ลองชิมมันสักทีสินะ”

หัวใจของจี้จู่บีบแน่นขณะที่เขาโมโหจุดถึงขีดสุด “ไอ้เวร! ข้าหวังว่าเจ้าจะปากกล้าได้ขนาดนี้ตอนที่เจ้ายืนอยู่ต่อหน้าโอรสสวรรค์ของข้า! เพราะข้ารับรองได้ว่านายของข้าจะต้องสับปากเจ้าออกเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ ชิ้น!”

“นั่นเป็นเรื่องของในอนาคต เจ้าจะรู้เองเมื่อถึงเวลา” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “แต่ตอนนี้ เจ้าจงทำให้ลูกสาวของข้าได้เข้าใจในความสามารถของเจ้าไว ๆ แล้วข้าจะทำให้เจ้าตายเร็วขึ้นหน่อย ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องเสียใจ”

จี้จู่ตกใจและพูดอย่างไม่เชื่อหูว่า “นะ นี่เจ้ากล้าฆ่าข้างั้นเหรอ?”

“รีบบอกมาได้แล้ว!” หลิงตู้ฉิงตะคอก “ข้าบอกไว้ก่อนว่าตอนนี้ข้าอารมณ์ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ถ้าหากเจ้าให้ข้ารอนาน ข้าอาจจะอดใจไม่ไหวลงมือทำอะไรไป แล้วนั่นจะหมายถึงว่าทุกอย่างมันสายไปสำหรับเจ้าแล้ว!”