novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 317 หินจันทราศักดิ์สิทธิ์

  1. Home
  2. พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)
  3. บทที่ 317 หินจันทราศักดิ์สิทธิ์
Prev
Next

อันที่จริงตอนนี้สีจิ้งหมิงได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวหรือสนใจอะไรกับคนหยาบคายเช่นหลิงตู้ฉิงอีก

แต่เมื่อเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงต้องการขายสิทธิ์ในการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นและเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ราคาเท่าไหร่?”

ทุกคนต่างเข้าใจดีว่าสิทธิ์ในการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับนั้นมีค่าเพียงใด ซึ่งแม้แต่ในสายตาของสำนักใหญ่ยังมองว่าสิทธิ์การเข้านี้เป็นล้ำค่าเป็นอย่างมาก

ด้วยการยืนยันของบรรดาสำนักขนาดใหญ่ที่ได้ทดสอบแล้วว่าภายในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับนั้นมีสมบัติที่มหัศจรรย์อยู่มากมาย แถมยังเป็นเขตแดนที่ผู้คนทุกระดับมีโอกาสในการเสี่ยงโชคแทบจะเท่าเทียมกัน

ความเท่าเทียมกันในที่นี้ก็คือเขตแดนแห่งนี้จะไม่อนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีขอบเขตสวรรค์ขึ้นไปสามารถเข้าไปด้านในได้ หากมีผู้เชี่ยวชาญคนไหนฝ่าฝืนกฎเหล็กนี้เข้าไป ผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นจะถูกทัณฑ์สวรรค์ลงโทษให้ตายอย่างอนาถทันที

และความเท่าเทียมกันอีกประการหนึ่งก็คือ ทางเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับนั้นไม่เคยปรากฏในที่เดิมซ้ำ ๆ ในแต่ละครั้งที่มันเปิดขึ้น

และจะมีแต่ผู้ที่มีกุญแจเท่านั้นที่จะรู้ว่าทางเข้านั้นมันอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีกุญแจสามารถมารบกวนการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับของผู้ที่มีกุญแจได้ทางอ้อม และยังทำให้แม้แต่บรรดาสำนักใหญ่ก็ยังไม่สามารถควบคุมหรือผูกขาดช่องทางการเข้าออกของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับได้

ในฐานะที่สีจิ้งหมิงเป็นศิษย์ของสำนักเบญจธาตุ เขาจึงเข้าใจความสำคัญและมูลค่าของสิทธิ์ในการเข้าไปเป็นอย่างดี

“บอกข้ามาเลยว่าเจ้ายินดีขายสิทธิ์นี้ในราคาเท่าไหร่?” สีจิ้งหมิงพูดด้วยความคาดหวัง “และอีกอย่าง เจ้าควรจะเอากุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับออกมาให้ข้าดูก่อน ไม่งั้นข้าจะเขื่อเจ้าได้ยังไงว่าเจ้ามีกุญแจนั่นจริง ๆ”

หลิงตู้ฉิงพูดว่า “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมถึงมีกฎมากมายที่ประตูของข้า? เพราะข้ารำคาญพวกคนที่สงสัยในความยุติธรรมในการแลกเปลี่ยนของข้า และในเมื่อเจ้ายอมทำตามกฎของข้าเจ้าก็ควรเชื่อมั่นในตัวของข้าเช่นกัน ส่วนราคาของสิทธิ์ในการเข้านั้นข้าคิดว่าเจ้าควรจะรู้ดีว่ามันควรจะมีราคาเท่าไหร่”

สีจิ้งหมิงยืนกราน “ข้าไม่สน ข้าขอดูกุญแจของเจ้าก่อน!”

“ชิงเฉิง แสดงกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับของเจ้าให้เขาดู” หลิงตู้ฉิงสั่ง

เมื่อได้ยินคำสั่ง เย่ชิงเฉิงจึงได้หยิบกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับของนางเองออกมาแสดงให้สีจิ้งหมิงดู จากนั้นนางก็เก็บมันไป

สีจิ้งหมิงขมวดคิ้ว และมองไปที่เย่ชิงเฉิงก่อนที่จะหันไปมองหลิงตู้ฉิง

เขาไม่แปลกใจเลยที่สำนักอักขระสวรรค์จะมีกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ เพราะสำนักเบญจธาตุของพวกเขาก็มีมันในครอบครองเช่นกันและสิ่งที่พวกเขาต้องกังวลก็มีเพียงเรื่องเดียวก็คือพวกเขาต้องมานั่งหาว่าใครเป็นผู้เหมาะสมที่สุดที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้า

แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือตามข้อมูลที่เขาได้รับมา หลิงตู้ฉิงและเย่ชิงเฉิงนั้นทั้งคู่เพิ่งพบกันได้ไม่นาน แต่เหตุใดเย่ชิงเฉิงจึงดูเชื่อฟังแแถมยังหยิบของล้ำค่าเช่นกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับออกมาตามคำสั่งของหลิงตู้ฉิงง่าย ๆ แบบนี้?

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าทั้งสองเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ว่าเขาจะอยากรู้อยากเห็นแค่ไหนและสนใจในตัวเย่ชิงเฉิงแค่ไหน เขาก็ทำได้เพียงเก็บความคิดนี้ไว้ในใจ

“เอาล่ะในเมื่อเจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าข้าเป็นคนของสำนักเบญจธาตุ เจ้าควรเข้าใจว่าตราบใดที่ราคาของมันไม่แพงเกินไป ข้าก็ยินดีซื้อมัน สรุปแล้วถ้าเจ้ากล้าขาย ข้าก็กล้าซื้อ!” สีจิ้งหมิงกล่าวขึ้นพร้อมกับทำสีหน้ามั่นใจ

เมื่อเห็นว่าสีจิ้งหมิงยังคงยืนกรานให้เขาเสนอราคา หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ดินซับพลังวิญญาณครึ่งกิโลกรัม ไม้มรกตศักดิ์สิทธิ์ 1 ท่อน และวัสดุระดับสวรรค์อีก 10 ชิ้น คือราคาที่ข้าต้องการขาย”

สีจิ้งหมิงครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะพูดว่า “แพงไป! ข้าให้เจ้าได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น!”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างชัดเจนว่า “ราคาครึ่งหนึ่งที่เจ้าต่อรองนั้นมันคือโอกาสที่เจ้าจะได้รับบางสิ่งจากข้าในอนาคต ส่วนโอกาสนั้นมันคืออะไรเจ้ารู้เมื่อเจ้าได้พบกับข้าอีกครั้ง

“นี่ข้าต้องการให้เจ้าให้โอกาสข้าด้วยงั้นเหรอ?” สีจิ้งหมิงหัวเราะล้อเลียนเขา

“งั้นก็แล้วแต่เจ้า ถ้าเจ้าคิดว่ามันไม่มีความจำเป็น ข้าก็หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจในภายหลัง!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างไม่แยแส

สีจิ้งหมิงขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปที่หลิงตู้ฉิง ในใจเขานึกอยากจะตะโกนด่า เพราะเขาเริ่มที่จะทนต่อท่าทีหยิ่งผยองของหลิงตู้ฉิงไม่ไหวแล้ว

เขาเป็นใคร? ทำไมเขาต้องมานั่งทนให้ใครก็ไม่รู้มาทำตัวไม่ให้เกียรติเขาแบบนี้ด้วย?

แต่ด้วยประสบการณ์การเป็นจักรพรรดิมาหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถระงับอารมณ์ของตัวเองได้อยู่

“ถ้างั้นข้าตกลงในราคาที่เจ้าขอมาก็ได้!” สีจิ้งหมิงที่เบื่อจะโต้แย้งกับหลิงตู้ฉิงต่ออีก เขาจึงยอมตกลงในราคาเดิมที่หลิงตู้ฉิงเสนอ “แต่ไหน ๆ ภรรยาของเจ้าก็ขายสิทธิ์มาสิทธิ์หนึ่งแล้ว อีกสองสิทธิ์ที่เหลือทำไมเจ้าถึงไม่ขายให้ข้าซะเลยล่ะ?”

ในตอนนี้เมื่อเขาได้รู้ว่าเย่ชิงเฉิงแต่งงานแล้ว ทัศนคติของเขาที่มีต่อนางก็เปลี่ยนไปทันที

เขาจึงลองขอซื้อสิทธิ์ทั้งหมดที่เขาเองก็เดาไว้ว่าหลิงตู้ฉิงคงไม่ยอมขายให้แน่เพราะ หลิงตู้ฉิงคงต้องเหลือเก็บไว้ให้ตัวเขาเองและเย่ชิงเฉิง ซึ่งการกระทำเช่นนี้มันเป็นการไม่ไว้หน้าเย่ชิงเฉิงอยู่พอสมควร

“ยังมีสิทธิ์อีกตราบเท่าที่เจ้าสามารถจ่ายได้!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ยังมีอีก?” สีจิ้งหมิงตกตะลึงและพูดทันทีว่า “ถ้างั้นข้าจะขอซื้อมันอีกหนึ่งสิทธิ์!”

สีจิ้งหมิงตอนนี้รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าหลิงตู้ฉิงผู้นี้แปลกเป็นอย่างมาก ทำไมเขาถึงขายสิทธิ์ที่สามารถเปลี่ยนโชคชะตาของผู้คนได้ราวกับว่าเขาไม่เห็นค่าอะไรของมันเลยเช่นนี้กัน?

“ข้าขายให้อีกสิทธิ์ก็ได้!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “แต่ว่าสำหรับราคาของอีกสิทธิ์หนึ่ง ข้าต้องการหินจันทราศักดิ์สิทธิ์ หยดน้ำวิญญาณบริสุทธิ์ และวัสดุระดับสวรรค์ 10 ชิ้น”

สีจิ้งหมิงยืนครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ หลังจากถูกเรียกราคามาขนาดนี้ จากนั้นไม่นานในที่สุดเขาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าหมดหนทาง “ข้าสามารถตกลงให้หยดน้ำวิญญาณบริสุทธิ์แก่เจ้าได้ ส่วนวัสดุระดับสวรรค์ 10 ชิ้น ข้าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน แต่หินจันทราศักดิ์สิทธิ์อันนี้ข้าคงให้เจ้าไม่ได้ เนื่องจากข้าเองยังไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ เจ้าช่วยเปลี่ยนมันเป็นอย่างอื่นได้ไหม?”

“งั้นเปลี่ยนเป็นหินแก่นแท้ปฐพีก็แล้วกัน!” หลิงตู้ฉิงพูด “หรือว่าถ้าเจ้ายินดีที่จะมอบแร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ให้ข้า ข้าก็ตกลง!”

สีจิ้งหมิงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ มีคนไม่มากนักที่รู้เรื่องเกี่ยวกับแร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์นี้ของสำนักข้า เจ้าช่วยบอกข้าทีได้ไหมว่าเจ้าเป็นใครกันแน่? หรือว่าสหายของเจ้าบางคนเป็นคนของ สำนักเบญจธาตุ?!”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนั้น แค่เจ้าตอบมาก็พอว่าเจ้าตกลงตามเงื่อนไขของข้ารึเปล่า?”

สีหน้าของสีจิ้งหมิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาและพูดขึ้นว่า “ระหว่างนี้ข้าจะพยายามตามหาหินจันทราศักดิ์สิทธิ์ หรือหินแก่นแท้ปฐพีก็แล้วกัน ในเมื่อมันยังเหลือเวลาให้ข้าอีกตั้ง 10 กว่าปี ใครจะรู้ว่าข้าอาจจะโชคดีหามันเจอก่อนหน้านั้นก็ได้”

“งั้นก็เอาตามนั้น แต่ในระหว่างที่เจ้ายังหามันไม่เจอ ข้าจะยังคงต้องขายสิทธิ์ของข้าต่อไป ข้าหวังว่าเจ้าคงเข้าใจในข้อนี้!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม

“นั่นเป็นสิทธิ์ของเจ้า ถ้าหากข้าไม่ทันงั้นก็ช่างมัน!” หลังจากสีจิ้งหมิงพูดจบ เขาก็เดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่ทันทีด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด

หลังจากสีจิ้งหมิงจากไป เย่ชิงเฉิงก็ถามอย่างสงสัยว่า “สามี ท่านต้องการหินจันทราศักดิ์สิทธิ์ และหินแก่นแท้ปฐพีไปทำอะไรงั้นเหรอ? ข้าคิดว่าข้าเคยเห็นพวกมันทั้งสองอย่างนี้อยู่ในคลังของสำนักข้าอยู่นะ”

“งั้นส่งคนไปเอามาให้ข้าที” หลิงตู้ฉิงสั่งทันที “ข้าจะใช้สิ่งนี้เพื่อช่วยเจ้าสร้างสมบัติประจำกายของเจ้า”

เมื่อได้ยินที่สั่ง เย่ชิงเฉิงตอบกลับอย่างกระอักกระอ่วน “เอ่อ…สามี ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากจะมอบให้ท่านนะ แต่สถานการณ์ในครอบครัวของข้าเองก็กำลังลำบากอยู่เช่นกัน เนื่องจากพ่อของข้าหายตัวไปเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว ซึ่งทำให้หลายคนในสำนักของข้าเริ่มเตรียมการเสนอชื่อแต่งตั้งเจ้าสำนักคนใหม่ ซึ่งแม่ของข้าเองก็คัดค้านมาโดยตลอดและโชคดีอีกอย่างที่พ่อของข้าได้นำของวิเศษลับบางอย่างที่ใช้ในการรับตำแหน่งเจ้าสำนักไปด้วย คนพวกนั้นจึงก่อการกันไม่สำเร็จ”

“แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชิงตำแหน่งเจ้าสำนักไม่เร็จ แต่พวกเขาก็ยังกดดันข้า ให้ข้ามอบสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับอีก 2 สิทธิ์ที่เหลือ ซึ่งข้าเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องมอบสิทธิ์เหล่านั้นให้กับทางสำนักไป จากที่ข้าเล่า ท่านคงน่าจะพอเดาได้ว่าตอนนี้ครอบครัวของข้าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแค่ไหน ดังนั้นหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนั้น ต่อให้แม้กระทั่งแม่ของข้าเป็นคนออกปากเองมันก็อาจจะไม่ง่ายนักที่จะได้มา”

“พูดตามตรงถ้าข้ามีหนทาง ข้าก็คงไม่ต้องมาตามหาท่านถึงที่นี่หรอก! แต่ว่ามันก็เป็นเหมือนโชคชะตาสวรรค์ลิขิตซึ่งมันกลับกลายเป็นว่าให้ข้าได้มาเจอท่าน ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายล่ะนะ!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวถอนหายใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เย่ชิงเฉิงเมื่อเห็นอาการผิดหวังเช่นนี้ นางจึงพูดขึ้นต่อ “งั้นเอาแบบนี้ไหม ทำไมเราไม่รอจนกว่าท่านจะไปที่สำนักอักขระศักดิสิทธ์แล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที?”

หลิงตู้ฉิงยังคงส่ายหัวอีกรอบและพูดว่า “จริง ๆ แล้ว หินจันทราศักดิ์สิทธิ์ นี้เป็นของที่ข้าจะให้เจ้า”

“สำหรับข้า?” เย่ชิงเฉิงตกตะลึง นางต้องการที่จะพูดต่อ แต่เปียนเฉียวเฉียววิ่งเข้ามาและพูดว่า “นายท่าน นายหญิง คนที่ชื่อ หานซ่งหยวน มาที่นี่อีกแล้ว”