ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 369 กล้าท้าทายนางหรือ!
บทที่ 369 กล้าท้าทายนางหรือ!
……….
บทที่ 369 กล้าท้าทายนางหรือ!
ความปรารถนาของหลิงเยว่ที่อยากย้ายไปวุ่นวายที่อื่นไม่สำเร็จ เพราะนาง… เห็นแสงสีดำวูบผ่านเหนือศีรษะไป
เสียงคำรามของมังกรดังมาแต่ไกล ลูกปลาน้อยที่เพิ่งฟื้นตัวกลับตาเหลือกและพลิกท้องขึ้นอีกครั้ง
ปลาผู้นำและมหาปุโรหิตสีสันสดใสที่บาดเจ็บสาหัส “…”
ลูกปลาของพวกเขาจะไม่โตขึ้นจริง ๆ หรือ?
หลิงเยว่ไม่สนใจลูกปลาน้อยอีกต่อไป นางกลายเป็นลำแสงไล่ตามขึ้นไปเช่นกัน นางได้ยินเสียงของเมล็ดพันธุ์ปีศาจแล้ว!
หัวหน้าเผ่ากระทิงงามไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไล่ตามขึ้นไปติด ๆ พร้อมกับปลาหนามปีศาจและสิงโตเก้าหาง
เมล็ดพันธุ์ปีศาจต้องอยู่บนตัวของผู้นำเผ่าทิงมี่แน่นอน หลิงเยว่มั่นใจ!
เสียงคำรามของมังกรที่ดังมาคือเสียงของชิงหลง หลิงเยว่จำได้ และชิงหลงกำลังไล่ล่าผู้นำเผ่าทิงมี่อยู่!
เมล็ดพันธุ์ปีศาจใช้น้ำเสียงดูแคลนกระซิบข้างหูหลิงเยว่ว่านางเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ไร้ค่า!
“ทนไม่ไหวแล้ว!”
“ระบบ เจ้าได้ยินเช่นข้าหรือไม่?”
[ได้ยิน]
“เป็นเมล็ดพันธุ์ปีศาจสินะ?”
[ใช่แล้ว]
“จับมัน!”
“จับมันให้ได้!”
นี่คือเสียงจากเมล็ดพันธุ์ทั้งสองเมล็ด
ผู้นำเผ่าทิงมี่กลับมาอีกครั้ง เขาพบกับหลิงเยว่ที่นั่งอยู่บนหลังสิงโตเก้าหาง และยังมีหญิงงามอีกสองนางยืนอยู่ข้างกาย
อากาศเบื้องหน้าเริ่มบิดเบี้ยว ผู้นำเผ่าทิงมี่ที่ไร้ใบหน้าปรากฏกายขึ้น
แม้ใบหน้าภายใต้หน้ากากจะปิดบังมิให้เห็นแม้ดวงตา แต่ทุกคนรับรู้ได้ว่า เขากำลังจ้องมองหลิงเยว่อยู่
“ผู้พ่ายแพ้เช่นเจ้าช่างรู้ความนัก เห็นทีจะติดใจจนต้องตามมาให้ข้ากลืนกินกระมัง?”
“ผู้ใดจะเป็นผู้กลืนกินใครยังมิอาจรู้ได้!”
ที่นี่คือสถานที่ของหลิงเยว่ นางหาได้หวั่นเกรงไม่แม้แต่น้อย
“เจ้าที่เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเศษขยะเช่นนี้ ยังหวังจะกลืนกินข้าอีกหรือ? ฮ่า ๆ ๆ…”
เสียงเยาว์วัยแฝงไว้ด้วยความชั่วร้ายดังก้องอยู่ในใจของหลิงเยว่
“สวรรค์ช่างเข้าข้างข้ายิ่งนัก เมื่อกลืนกินเจ้าแล้ว ข้าย่อมแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น!”
“เหอะ แล้วให้เจ้าปีศาจนั่นกลืนกินต่อหรืออย่างไร?”
เสียงหัวเราะของมันหยุดชะงัก ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัดด้วยความโกรธ “เมื่อข้ากลืนกินเจ้าแล้ว ค่อยจัดการกับเจ้าปีศาจตนนั้นก็ยังไม่สาย!”
ช่างไร้เดียงสาเสียจริง!
หลิงเยว่เบ้ปากอย่างดูแคลน ทว่าคำพูดของเมล็ดพันธ์ปีศาจกลับเป็นดังคำเตือน
“ระบบ ข้าสามารถกลืนกินเผ่าพันธุ์ปีศาจที่สมบูรณ์ได้จริงหรือ?”
ทุกคนล้วนเป็นดั่งเมล็ดพันธุ์ ในขณะที่เมล็ดพันธุ์ปีศาจนั้นสมบูรณ์ แต่หลิงเยว่กลับเป็นเมล็ดพันธุ์ครึ่งซีก…
[ย่อมได้!]
เหตุใดเพียงได้ยินก็ยากที่จะเชื่อเช่นนี้
ดูเหมือนผู้นำเผ่าทิงมี่จะไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างหลิงเยว่และเมล็ดพันธุ์ปีศาจ เพียงแต่มองนางอย่างเงียบงัน
รอจนกระทั่งเมล็ดพันธุ์ปีศาจและหลิงเยว่ ‘พูดคุยกันอย่างเป็นมิตร’ จบสิ้น เขาจึงค่อย ๆ เอ่ยปากขึ้น “ข้ารู้ว่าการฝึกฝนนั้นไม่ง่าย จงมอบมนุษย์ผู้นั้นให้ข้า แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า!”
การรวมตัวกันของมนุษย์ ผู้นำเผ่ากระทิง ปลาหนามปีศาจ และสิงโตเก้าหางทำให้ผู้นำเผ่าทิงมี่ประหลาดใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องนี้ รอให้เขากำจัดการไล่ล่าของมังกรโง่เง่านั่นได้อย่างราบคาบ จากนั้นส่งเมล็ดพันธุ์ปีศาจเข้าสู่หอคอยมารอย่างปลอดภัยแล้ว ค่อยหาโอกาสพูดคุยกับผู้นำเผ่ากระทิงอย่างละเอียด!
ส่วนสาเหตุที่เผ่าพันธุ์ปีศาจสั่งให้เขารวบตัวมนุษย์ผู้นี้ ผู้นำเผ่าทิงมี่ไม่จำเป็นต้องรู้
“ฝันไปเถอะ!” ชิงหลงคำรามอย่างเย็นชา ก่อนจะปรากฏร่างเป็นมนุษย์ ขวางหน้าสิงโตเก้าหางไว้
ผู้นำเผ่ากระทิงงามมิได้เอื้อนเอ่ย เพียงยืนนิ่งสงบอยู่กับที่ ปลาหนามปีศาจและสิงโตเก้าหางต่างมิได้ละทิ้งหลิงเยว่ไปไหน
พวกนางยืนหยัดล้อมรอบหลิงเยว่ไว้ภายใน
ยามนี้หลิงเยว่ผู้ถูกปกป้องอยู่กลางวงล้อมของสี่สาวงาม รู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก ช่างเป็นผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับความยากลำบากยิ่ง!
“เจ้าพวกนี้เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันกับหมอกแดง”
หลิงเยว่ได้รับกระแสจิตจากชิงหลง ดวงตากลมโตเบือนไปเล็กน้อย นางโยนค่ายกลสะกดพลังระดับเทพขึ้นไปบนอากาศ แผ่นค่ายกลหมุนควงอย่างรวดเร็ว ก่อกำแพงแสงโปร่งใสแผ่ขยายออกไปทั่วทุกสารทิศ…
ผู้นำเผ่าทิงมี่เห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงแปลงร่างเป็นหมอกดำแผ่กระจายไปทุกทิศทางในชั่วพริบตา
“มังกรปิดผนึก!”
ในที่สุดชิงหลงก็ยอมใช้กระบวนท่านี้ ในวินาทีที่ผู้นำเผ่าทิงมี่กำลังจะหลบหนี
นอกจากการปิดผนึกของมังกรแล้ว ยังมีค่ายกลสะกดพลังระดับเทพอีกชั้น ดูซิว่าผู้นำเผ่าทิงมี่จะหนีไปไหนได้!
หลิงเยว่สังเกตเห็นความอ่อนแอของชิงหลง จึงก้าวถอยหลัง ใช้วิชารักษาขั้นสูงเยียวยาบาดแผลทั้งภายในและภายนอกของชิงหลง รวมถึงเติมพลังวิญญาณที่สูญเสียไปทั้งหมด
ความรู้สึกช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่บนร่างของเขา!”
ชิงหลง สิงโตเก้าหางและผู้นำเผ่ากระทิงงามโจมตีไปที่หมอกดำพร้อมกัน ส่วนปลาหนามปีศาจยืนอยู่ข้างหลิงเยว่อย่างมั่นคง เพื่อป้องกันการโจมตีแบบไม่คาดคิดจากผู้นำเผ่าทิงมี่
“พวกเจ้า… เป็นพวกเดียวกัน! กล้าทรยศข้าเช่นนี้รึ!”
ผู้นำเผ่าทิงมี่จนมุม จำต้องเผยร่างจริง สิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ล้วนถูกต้อง มังกรปีศาจทรยศเขาแล้ว แถมยังมีเผ่ากระทิง และสิงโตเก้าหางอีก!
ดวงตาของผู้นำเผ่ากระทิงงามฉายแววสังหาร ผู้นำเผ่าทิงมี่ต้องตายสถานเดียว!
ผู้นำเผ่าทิงมี่ถูกต้อนจนสิ้นหนทาง เมื่อเผชิญหน้ากับสามบุคคลที่ปลดปล่อยจิตสังหารออกมาจนสัมผัสได้ เขากลับหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา
หน้ากากไร้รูปลักษณ์ค่อย ๆ สลายหายไป เผยให้เห็นรอยดำปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้วของเขา รอยดำนี้… ช่างละหม้ายคล้ายเมล็ดพันธุ์ยิ่งนัก แถมยังเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีลวดลายแปลกประหลาด!
“พวกเจ้าคิดจะสังหารข้ารึ? อย่าได้ฝันไปเลย!”
ทันใดนั้นเองก็มีดอกไม้สีดำผลิบานกลางอากาศ กลีบดอกไม้ปลิวล่องลอย ก่อนจะระเบิดออก กลายเป็นเปลวไฟสีดำในชั่วพริบตา เปลวไฟสีดำโหมกระหน่ำเข้าปะทะการโจมตีทั้งสาม และพุ่งโจมตีทุกคนในเวลาเดียวกัน!
“ฮึ่ม! วันนี้คือวันตายของพวกเจ้า!”
น้ำเสียงของผู้นำเผ่าทิงมี่เปลี่ยนไป นอกจากพลังปีศาจแล้ว จะเป็นสิ่งใดไปได้!
“ถึงคราวตายของเจ้าแล้ว!”
เปลวเพลิงสีม่วงแดงพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ปกคลุมดอกไม้สีดำที่กำลังแผ่ขยายเข้ามา
ท่ามกลางเพลิงพิสดารสีม่วงแดง พลันปรากฏสัตว์กินดอกไม้ออกมาหลายตัว!
มันเป็นแค่เมล็ดพันธุ์ ไม่มีร่างกายเป็นของตัวเอง แถมยังต้องอาศัยร่างของหัวหน้าเผ่าทิงมี่ พวกมันจะเก่งกาจอะไรได้เชียว!
หลิงเยว่ประมาทพลังของมันเสียแล้ว
จู่ ๆ ปลาหนามปีศาจก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของนางสั่นไปมา ราวกับกำลังต่อสู้กับบางสิ่งบางอย่าง ปรากฏว่าเหล่าดอกไม้สีดำเล็ก ๆ เหล่านั้นเกาะตามชายกระโปรงของนางอยู่
เปลวไฟสีม่วงแดงไล่ตามดอกไม้สีดำอย่างบ้าคลั่ง ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่ได้อยู่เฉย แต่ดูเหมือนว่าพวกนางจะถูกพันธนาการไว้
“จิตมังกรของข้าถูกสะกดไว้งั้นรึ?”
ชิงหลงหัวเราะอย่างเกรี้ยวกราด เสียงหัวเราะของนางทำลายพันธนาการเป็นชั้น ๆ แต่ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายของดอกไม้สีดำเหล่านั้นได้
ดูเหมือนว่ามีเพียงสัตว์กินดอกไม้ที่จุติจากเพลิงพิสดารเท่านั้นที่สามารถกัดกินดอกไม้ปีศาจได้ ส่วนสามผู้ยิ่งใหญ่กลับไม่สามารถทำอะไรได้
“ข้าจะเป็นคนเปิดทางให้เอง” หลิงเยว่กัดฟันกรอด หากวันนี้นางไม่ได้กลืนกินมัน นางก็จะถูกกลืนกินแทน!
ตอนนี้นางมีผู้ช่วยอยู่สามคน คิดดูแล้วโอกาสชนะก็ไม่น้อย
ไม่สิ ต้องชนะเท่านั้น!
เพลิงพิสดารสีม่วงแดงที่ล้อมรอบอาณาเขตเผาไหม้อย่างบ้าคลั่ง พวกมันคลุ้มคลั่งกลืนกินดอกไม้สีดำเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบหัวหน้าเผ่าทิงมี่ราวกับคนเสียสติ เพื่อเปิดทางให้กับผู้ช่วยทั้งสาม
ทว่าดอกไม้พวกนั้นเหมือนไม่มีวันหมด กินเท่าไหร่ก็ยิ่งงอกออกมาไม่หยุดหย่อน
หลิงเยว่ “…”
วิชาเร่งการเจริญเติบโตของเจ้าหมอนี่ ช่างร้ายกาจกว่าของนางเสียอีก!
……….