novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 484 กวาดล้างแก๊งยามากุจิ

  1. Home
  2. ยอดนักรบจอมราชัน
  3. ตอนที่ 484 กวาดล้างแก๊งยามากุจิ
Prev
Next

ตอนที่ 484 กวาดล้างแก๊งยามากุจิ

ความบ้าคลั่งของแก๊งยามากุจิเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเพราะจิตวิญญาณที่เรียกว่าพวกบูชิโดที่ของพวกเขาทำให้องค์กรของพวกเขาเป็นแน่นแฟ้นเป็นปึกแผ่นและพวกเขาสามารถต่อสู้กับศัตรูใดก็ได้ได้และนี่คือเหตุผลที่แก๊งยามากุจิสามารถมีสาขาของตัวเองในหลายประเทศทั่วโลก

ยกตัวอย่างเช่นถ้าไม่ใช่เพราะการต่อสู้ระหว่างองค์กรคูลอฟส์และองค์กรสลาดาร์ที่เป็นสององค์กรมาเฟียรายใหญ่ในประเทศรัสเซียแล้วแก๊งยามากุจิก็จะไม่มีโอกาสเลยเพราะในประเทศญี่ปุ่นหากมีการรุกรานจากต่างชาติโดยทั่วไปพวกเขาจะลดความขัดแย้งภายในและต่อสู้กับต่างชาติก่อนเป็นอันดับแรก

เหตุผลที่แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงสามารถอยู่รอดได้ในประเทศญี่ปุ่นและอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลเช่นนั้นได้หากไม่ใช่เพราะความสามัคคีที่แน่นแฟ้นของพวกเขาแล้วก็คงจะไม่สามารถต้านทานแก๊งยามากุจิและองค์กรอื่นๆ ได้เป็นแน่และอาจกล่าวได้ว่าการดำรงอยู่ของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับชาวญี่ปุ่นอย่างมาก

นอกจากแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงแล้วก็แทบจะไม่มีองค์กรใดๆ จากต่างประเทศที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งในประเทศญี่ปุ่นเลยและส่วนใหญ่พวกเขาเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่ไม่สามารถสร้างกระแสคลื่นขนาดใหญ่ให้สะเทือนวงการได้

ในคลับเฮาส์แห่งนี้ถึงแม้ว่าสมาชิกของแก๊งยามากุจิจะดูโหดร้ายมากก็ตามแต่ในตอนนี้พวกเขาทุกคนต่างก็ส่งเสียงร้องกันอย่างกระวนกระวายใจ อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดก็ยังคงมั่นใจเพราะในความคิดของพวกเขาเมืองมูร์มัคส์แห่งนี้เกือบจะเป็นดินแดนขององค์กรสลาดาร์แล้วและตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันกับองค์กรสลาดาร์ดังนั้นอีกฝ่ายก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องกำจัดพวกเขา แต่สำหรับองค์กรคูลอฟส์นั้นพวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แต่เนื่องจากพวกเขาเพียงสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแค่นั้นแล้วพวกเขาจะมาเดือดร้อนเช่นนี้ได้อย่างไร? เพราะถึงแม้ว่าองค์กรคูลอฟส์ต้องการตอบโต้แต่เป้าหมายแรกก็ควรเป็นองค์กรสลาดาร์ไม่ใช่หรือ?

น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าไม่ใช่องค์กรคูลอฟส์ที่ต้องรับมือกับพวกเขาในครั้งนี้แต่เป็นเย่เชียนและหลินเฟิง

เมื่อมองดูสุนัขพิตบลูวิ่งมาข้างๆ ชายหนุ่มคนหนึ่งก็คุกเข่าลงและลูบร่างสุนัขและในทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นว่ามีปลอกคอแปลกๆ อยู่ที่คอของมันและเมื่อเขาสังเกตดูอีกครั้งแล้วเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและอดไม่ได้ที่จะผงะไปเพราะปรากฏว่ามันคือระเบิดเวลาที่สวมแขวนที่คอของสุนัข

“หนีไป!” ชายหนุ่มคนนั้นตะโกนและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไปแล้วและมีเพียงเสียงที่ดังกระหึ่มไปทั่วห้องส่วนตัวและห้องทั้งห้องก็ถูกระเบิดและเศษแก้วก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้น สมาชิกของแก๊งยามากุจิก็ล้มลงกับพื้นทีละคนโดยทั้งหมดมีแผลจากการถูกกระจกบาดและปักเข้าเนื้อและทั้งห้องก็โดนเศษของระเบิดเต็มไปหมดซึ่งห้องส่วนตัวที่หรูหราก็เปลี่ยนไปเป็นซากปรักหักพัง

เย่เชียนและหลินเฟิงผู้กระทำทั้งหมดเดินเข้ามาจากทางเดินอย่างพลิ้วไหวและเมื่อมองไปที่ซากศพและกระจกที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างมีความสุข ซึ่งเขาเรียนรู้วิธีการนี้จากภาพยนตร์ดูเหมือนว่าจะเรียกว่าเอฟเฟกต์จะดีจริงๆ

“ไอ้บ้าเอ๊ย..นายเล่นระเบิดทีเดียวแบบนี้เลยเหรอ!” หลินเฟิงพูดอย่างไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังประกาศสงครามกับแก๊งยามากุจิแต่การระเบิดพวกเขาเช่นนี้ในคราวเดียวกันนั้นหมายความว่าอย่างไร?

เย่เชียนก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ยังมีบางคนที่ยังไม่ตาย..พี่ก็ไปยิงเขาและสนุกกับมันสิ”

หลินเฟิงมองเย่เชียนด้วยความว่างเปล่าและพูดว่า “ฉันขี้เกียจทำแล้วมันน่าเบื่อ”

ด้วยการยักไหล่เล็กน้อยเย่เชียนก็ชักปืนพกของเขาออกมาเพื่อยิงสมาชิกแก๊งยามากุจิที่ยังไม่ตายจากนั้นเขาก็เดินสำรวจต่อไปอีกสักพักและพบเงินจำนวนมากและแน่นอนว่าเขาไม่ได้เพิกเฉยแต่เก็บเข้ากระเป๋าเช่นเคย จากนั้นเขาก็ส่งระเบิดสองสามลูกให้หลินเฟิงและฉีกยิ้มอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า “อย่าพูดว่าผมไม่ให้โอกาสพี่..เพราะหลังจากที่เราออกไปแล้วพี่ก็ขว้างมันออกไปสักสองสามลูกดู..มันสนุกมากสุภาพบุรุษอย่างเราๆ มันต้องสู้กับศัตรูง่ายๆ แบบนี้แหละพี่ไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”

“ตอนนี้เรามาบุกรังของแก๊งยามากุจิแบบนี้แล้วนายไม่คิดเหรอว่าพวกสลาดาร์จะคิดว่ามันเป็นพวกคูลอฟส์ที่มาตอบโต้กลับแบบนั้นเหรอ..และพวกเขาคงจะเริ่มการโจมตีที่บ้าคลั่งมากกว่าเดิมอีก” หลินเฟิงพูด

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะเขาไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้และตอนนี้เขาพึ่งจะพาอัสลานฮอร์ดมิลฟ์มาบุกรังของแก๊งยามากุจิซึ่งเป็นพันธมิตรขององค์กรสลาดาร์เช่นนี้ ดังนั้นสิ่งนี้จะทำให้องค์กรสลาดาร์คิดว่ามันเป็นฝีมือของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์และพวกเขาก็จะเริ่มโต้กลับและจะทวีคูณความรุนแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นเพราะพวกสลาดาร์ไม่ได้โง่กันขนาดนั้น..เพราะงั้นผมก็เชื่อว่าพวกเขาคงจะสะกดรอยตามอัสลานฮอร์ดมิลฟ์อย่างเคร่งครัดและต้องชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์..ดังนั้นพวกเขาต้องชัดเจนว่ามันไม่ใช่ฝีมือของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์และไม่ต้องกังวลว่ามันจะกระทบกับแผนการของเรา”

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกสลาดาร์ไม่ได้สะกดรอยตามอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ล่ะ..มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาเริ่มโจมตีโต้กลับอย่างบ้าคลั่งและนอกจากนี้ที่นี่ก็เป็นเขตของพวกเขาเพราะงั้นพวกเขาคงจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก..ฉันกลัวว่าพวกเขาจะส่งคนไปมากกว่านี้และมันจะยิ่งลำบากมากกว่าเดิม” หลินเฟิงพูด

เย่เชียนแตะที่มุมปากของเขาและเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเขาก็หัวเราะและพูดว่า “พี่หลินผมมีความคิดอะไรดีๆ ..แต่ผมต้องรบกวรพี่ด้วย”

หลินเฟิงก็ชะงักไปเล็กน้อยและถามว่า “ไอ้บ้านายไม่ต้องเอาฉันมาเป็นโล่กำบังเลย..ความขัดแย้งมากมายระหว่างเขี้ยวหมาป่าและแก๊งยามากุจิมันคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ สินะ”

“มันก็ใช่แต่ถ้ามีใครรู้ว่าเขี้ยวหมาป่ามาที่มูร์มัคส์ล่ะก็มันก็จะเป็นปัญหาในการจัดการกับจิ้งจอกหิมะ..แต่พี่ต่างออกไปเพราะเซเว่นคิลนั้นเป็นความลับ..พวกเขาหาพวกพี่ไม่พบและถึงแม้ว่าคนของจิ้งจอกหิมะจะรู้มันก็ไม่สำคัญ” เย่เชียนพูด

หลินเฟิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ไอ้บ้าเอ๊ย..ฉันรู้ว่าการร่วมมือกับนายมันไม่มีอะไรดีเลยทั้งๆ ที่ราคาก็ลดแล้วนายยังจะเรื่องมากอีก..ถ้างั้นพรุ่งนี้ก็เลี้ยงมือเย็นฉันก็แล้วกันไม่งั้นฉันจะไม่ทำ!”

“อย่าสั่งคาเวียร์ก็แล้วกัน!” เย่เชียนฉีกยิ้มอย่างมีความสุขและพูด

เนื่องจากเสียงดนตรีในคลับเฮาส์แห่งนี้มีเสียงดังและห้องส่วนตัวนี้อยู่ค่อนข้างไกลจากที่อื่นจึงไม่ได้ยินเสียงระเบิดภายในเลย ซึ่งคลับเฮาส์แห่งนี้ไม่สามารถเป็นระดับไฮเอนด์ได้เพราะแขกส่วนใหญ่เป็นพวกอันธพาลและหญิงสาว..เพราะงั้นมันแทบจะเหมือนผับบาร์เลย”

เย่เชียนและหลินเฟิงก็เดินออกจากประตูคลับเฮาส์อย่างโอ่อ่าลูกระเบิดก็ถูกโยนทิ้งโดยเย่เชียนและมีเสียงระเบิดดังกึกก้องและเสียงกรีดร้องจากผู้คนและมีแสงไฟก็พุ่งออกมาจากประตูพร้อมกับเปลวเพลิง ซึ่งเย่เชียนและหลินเฟิงก็ซ่อนตัวกันอย่างรวดเร็วจนพวกเขาดูเหมือนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ เลย

“นี่มันคือระเบิดมือจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย..ทำไมมันรุนแรงจัง” เย่เชียนถอนหายใจและพูด

“ให้ฉันทิ้งรอยไว้” หลังจากที่หลินเฟิงพูดจบเขาก็ใช้กริชสลักเครื่องหมายที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์กรเซเว่นคิลบนผนังจากนั้นก็เรียกและเดินจากไป

สิ่งที่เกิดขึ้นแก๊งยามากุจิที่สำนักงานใหญ่มูร์มัคส์นั้นลามไปถึงหูของสลาดาร์อาร์ตันอย่างรวดเร็วและปฏิกิริยาแรกของเขาคือการคิดว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์เริ่มต่อสู้กลับ อย่างไรก็ตามคนที่อยู่ด้านล่างบอกทันทีว่าพบสัญลักษณ์ขององค์กรเซเว่นคิลบนผนังคลับเฮาส์

สลาดาร์อาร์ตันก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะในฐานะบุคคลสำคัญในวงการมาเฟียของประเทศรัสเซียเขาก็มักจะได้ยินชื่อขององค์กรเซเว่นคิลและเขาก็คิดไม่ออกว่าเหตุใดองค์กรเซเว่นคิลจึงต้องการสังหารแก๊งยามากุจิหรืออาจเป็นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ได้ทำการว่าจ้างองค์กรเซเว่นคิลเช่นนั้นหรือไม่ ซึ่งสัญลักษณ์ขององค์กรเซเว่นคิลนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะกล้าล้อเล่นเลยเพราะเหล่านักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลจะออกตามล่าคนคนนั้น ดังนั้นเมื่อเห็นสัญลักษณ์ขององค์กรเซเว่นคิลที่ผนังคลับเฮาส์แล้วก็มีไม่ต้องสงสัยเลยซึ่งคงจะเป็นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ที่ว่าจ้างมานั่นเอง

ถ้าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ได้ว่าจ้างนักฆ่าจากองค์กรเซเว่นคิลมาจริงๆ ล่ะก็เรื่องนี้ก็ยากที่จะจัดการ ซึ่งเมื่อคิดเช่นนั้นสลาดาร์อาร์ตันก็ถึงกับขมวดคิ้วโดยไม่สมัครใจและไม่มีใครในที่นี้ที่ไม่รู้ว่านักฆ่าขององค์กรนั้นไม่เคยล้มเหลวในภารกิจใดๆ เลย ซึ่งถ้าหากอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ได้ว่าจ้างนักฆ่าจากองค์กรเซเว่นคิลเพื่อจัดการกับเขาจริงๆ ล่ะก็มันจะเป็นอันตรายไม่น้อยเลย เมื่อนึกถึงสิ่งนี้สลาดาร์อาร์ตันก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัวขณะสั่งให้เหล่าลูกน้องส่งคนมาคอยปกป้องเขาให้มากขึ้นและเขาก็รีบโทรไปหาเหล่าผู้นำขององค์กรสลาดาร์จากนั้นก็ติดต่อไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อประสานงานกับเหล่าแก๊งยากูซ่ายามากุจิ

หลังจากนั้นสลาดาร์อาร์ตันก็มีความสุขถึงแม้จะกังวลกับเรื่องนี้มากก็ตามเพราะไม่ว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จะว่าจ้างนักฆ่าจากองค์กรเซเว่นคิลหรือไม่นั้นเขาก็สามารถผลักดันสิ่งต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสิ่งนี้จะกระตุ้นความขุ่นเคืองและความโกรธแค้นอย่างมากจากแก๊งยามากุจิและในเวลานั้นพวกเขาก็จะส่งคนจำนวนมากเพื่อมาจัดการกับอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือถ้าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ว่าจ้างนักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลมาจริงๆ ล่ะก็เขาจะต้องระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับการกินและการนอนในอนาคตไม่เช่นนั้นเขาอาจจะถูกฆ่าและเสียชีวิตไปอย่างลึกลับเมื่อไหร่ก็ได้

สลาดาร์อาร์ตันก็รู้ดีว่านักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลนั้นไม่สนใจตัวตนของเขาและพวกเขาก็ไม่เคยกลัวการแก้แค้นจากใครดังนั้นถ้าหากองค์กรเซเว่นคิลยอมรับงานในการลอบสังหารตัวเองจริงๆ ล่ะก็นักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลจะไม่ลังเลที่จะลงมือทำอย่างแน่นอนเพราะพวกเขาเคยรับภารกิจฆ่าแม้แต่ประธานาธิบดีแล้วนับประสาอะไรกับหัวหน้ามาเฟียผู้คุมเขตเช่นเขา? นอกจากนี้ดูเหมือนว่าไม่มีใครเลยที่รู้ว่าองค์กรเซเว่นคิลนั้นอยู่ที่ไหนและถึงแม้ว่าองค์กรสลาดาร์ต้องการหาทางแก้แค้นแต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาสถานที่หลบซ่อนของเหล่านักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลได้เลย ดังนั้นสิ่งเดียวที่สลาดาร์อาร์ตันทำได้ตอนนี้ก็คือการส่งคนมาคอยคุ้มกันและปกป้องให้มากขึ้นและเปลี่ยนกะกันเฝ้าเวรตลอด 24 ชั่วโมง

หลินเฟิงนั้นไม่ได้คาดคิดเลยว่าการที่เขาทิ้งสัญลักษณ์ขององค์กรเซเว่นคิลเอาไว้มันจะทำให้สลาดาร์อาร์ตันตกตะลึงถึงขนาดนี้ ซึ่งถ้าหากหลินเฟิงรู้แล้วเขาคิดที่จะทิ้งสัญลักษณ์ดังกล่าวเอาไว้ในห้องของสลาดาร์เช่นนั้นล่ะก็มันจะต้องน่าตื่นเต้นอย่างมากแน่ๆ

.

.

.

.

.

.

.