novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 493 การมาเยือนของม่อหลง

  1. Home
  2. ยอดนักรบจอมราชัน
  3. ตอนที่ 493 การมาเยือนของม่อหลง
Prev
Next

ตอนที่ 493 การมาเยือนของม่อหลง

หลังจากออกมาจากห้องอาบน้ำเย่เชียนก็หยิบเช็คเงินสดออกมาและแบ่งให้หลินเฟิงเท่าๆ กันและถึงแม้ว่าทั้งเย่เชียนและหลินเฟิงจะดูเหมือนคนหน้าเงินแต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่มีความคิดเรื่องเงินมากนัก เพราะตอนนี้แค่รายได้จากเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เย่เชียนไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเครื่องดื่มและที่อยู่อาศัยไปตลอดชีวิต

เช้าวันรุ่งขึ้นลูกน้องของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็มาเคาะประตูและเมื่อเห็นท่าทางขี้เกียจและความไม่สบอารมณ์ของเย่เชียนแล้วมาเฟียคนนี้ก็ตัวสั่นเล็กน้อยและรีบพูดว่า “เอ่อมิสเตอร์เย่..คนชื่อม่อหลงกำลังรอคุณอยู่ข้างนอก” อย่างไรก็ตามเขาก็พูดเป็นภาษารัสเซีย

เย่เชียนก็มองเขาอย่างเหม่อลอยเพราะไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไรดังนั้นเย่เชียนจึงหันกลับไปและตะโกนว่า “พี่หลินมาช่วยผมแปลที..ผมไม่เข้าใจที่เขาพูด ”

“ไอ้บ้านี่รบกวนฉันแต่เช้าเลย..เขาบอกว่าคนที่ชื่อม่อหลงรอนายอยู่ข้างนอก!” หลินเฟิงตอบอย่างหดหู่หันกลับไปแล้วงีบหลับต่อ ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะคุ้นเคยกับการตื่นเช้าแต่ก็ไม่เช้าเช่นนี้ใช่ไหม? เพราะมันยังคงมืดอยู่และเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ม่อหลง? ” เย่เชียนก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะและรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเพราะม่อหลงนั้นกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาสาวกม่อจื๊อไม่ใช่หรือ? แล้วเขาจะมาที่ประเทศรัสเซียโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้ได้อย่างไร เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วกำลังจะพูดแต่เขาก็ตระหนักได้ว่ามาเฟียตรงหน้าเขานั้นไม่เข้าใจภาษาจีนเขาจึงส่ายหัวแล้วเดินออกไป

อุปสรรคด้านภาษานั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เย่เชียนนั้นก็คิดว่าเขาอาจจะต้องมีล่ามและนักแปลอยู่เคียงข้างเขาในอนาคตแล้วค่อยพูดอย่างสบายใจเมื่อภาษาจีนกลายเป็นภาษาสากลของโลกเช่นนั้น

เมื่อเย่เชียนเดินไปที่ห้องโถงชั้นล่างเขาก็เห็นม่อหลงนั่งอยู่ที่นั่นและเมื่อเห็นเย่เชียนเดินลงมาม่อหลงก็รีบลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า “บอส!” พร้อมคำทักทายแบบทหาร

เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อยโบกมือให้คนของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ให้พวกเขาถอยออกไป จากนั้นเขาก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับม่อหลงและทำสัญญาณมือให้เขานั่งลงแล้วพูดว่า “พี่ไม่ได้ยุ่งอยู่กับการตามหาสาวกม่อจื๊อหรอ..ทำไมพี่ถึงมาประเทศรัสเซียล่ะ? ..หรือว่าที่ประเทศจีนเกิดอะไรขึ้น?”

“สถานการณ์ที่จีนตอนนี้ดีมาก” ม่อหลงพูดต่อ “ฉันพบข่าวเกี่ยวกับม่อจื๊อที่นี่เพราะงั้นฉันจึงมาที่ประเทศรัสเซีย”

“สาวกม่อจื๊ออยู่ในมูร์มันสค์หรอ?” เย่เชียนถึงกับผงะอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก..แต่ตามข่าวกรองนั้นมีสาวกม่อจื๊ออยู่ในเมืองมูร์มันสค์..ซึ่งเขามาจากรุ่นปู่ของฉันจริงๆ” ม่อหลงพูด

เย่เชียนพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “เขาชื่ออะไร..อยากให้ผมไปหาให้ไหม”

“เขาชื่อเฉินยี่” ม่อหลงพูดต่อ “ฉันรู้แค่ว่าเขาอยู่ในเมืองมูร์มันสค์ประเทศรัสเซีย..แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเขาอยู่ที่ไหน..คราวนี้ฉันก็เลยมาหาบอสเพื่อขอให้บอสไปบอกให้คนของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ช่วยส่งคนไปตรวจสอบให้หน่อย..เพราะพวกเขาเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่เพราะงั้นพวกเขาก็น่าจะตรวจสอบได้ง่ายและเร็วกว่าพวกเรา.

“ไม่มีปัญหา..ในเมื่อพี่มาอยู่ที่นี่แล้วพี่ก็ต้องพบข่าวเกี่ยวกับเฉินยี่แน่นอน..ถ้างั้นผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วผมจะรีบลงมาหาพี่” เย่เชียนพูดขณะที่เขายืนขึ้นและเดินขึ้นไปที่ชั้นบน

ม่อหลงตอบและลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบและนี่ก็เป็นปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณในเขี้ยวหมาป่าของเขาอยู่แล้วซึ่งแตกต่างจากหลี่เหว่ยและชิงเฟิงเพราะถ้าพวกเขาอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเขาก็จะไม่ยืนขึ้นอย่างแน่นอนและทำตัวสบายใจเฉิบและพวกเขาก็เอนกายลงบนโซฟาอย่างเกียจคร้าน

หลังจากนั้นเย่เชียนก็แนะนำม่อลองให้กับอัสลานฮอร์ดมิลฟ์และเย่เชียนก็พูดแค่ว่าม่อหลงเป็นพี่ชายเขี้ยวหมาป่าของเขาเท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่าคำพูดจะดูเรียบง่ายก็ตามแต่ทว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ชัดเจนเมื่อได้ยินว่าม่อหลงเป็นสมาชิกเขี้ยวหมาป่าเช่นนั้นเขาจึงเคารพอย่างมาก

สำหรับหลินเฟิงนั้นหลังจากที่เขามองดูม่อหลงอย่างใกล้ชิดเขาก็เพียงแค่กินข้าวของตัวเองโดยไม่พูดอะไรใดๆ เพราะจากประสบการณ์ของเขาในฐานะที่เป็นนักฆ่ามานานหลายปีจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นว่าท่อหลงนั้นไม่ใช่คนที่มีตัวตนธรรมดาเลยเพราะออร่าบนร่างกายของเขาก็เทียบไม่ได้กับคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิงจนหลินเฟิงนั้นมั่นใจอย่างมากและไม่แปลกใจเลยว่าการที่เขี้ยวหมาป่าได้เป็นถึงราชาแห่งโลกทหารรับจ้างนั้นได้ไม่เป็นเพียงเพราะเย่เชียนเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนดั่งพี่น้องที่จริงใจและแข็งแกร่งเช่นนี้อีกด้วย

เช่นเดียวกับองค์กรเซเว่นคิลที่สามารถกลายเป็นตำนานนักฆ่าได้นั้นแน่นอนว่าการทำสิ่งต่างๆ คนเดียวมันก็ไม่เพียงพอกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เพราะถึงยังไงองค์กรเหล่านี้ต่างก็ต้องการมีกลุ่มพี่น้องที่ทรงพลังกันทั้งนั้น

“มิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ผมต้องขอรบกวนคุณเรื่องหนึ่งน่ะ” หลังจากแนะนำตัวเย่เชียนก็พูดต่อ

“บอกมาได้เลยมิสเตอร์เย่! ..ผมจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ด้วยความเคารพ

“ผมต้องรบกวนคุณให้ช่วยหาที่อยู่และข้อมูลส่วนตัวของบุคลในมูร์มันสค์น่ะ” เย่เชียนพูด

อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เอ่อ..ไม่มีปัญหาเลย..มิสเตอร์เย่อยากสืบข้อมูลของใครหรือ?”

เย่เชียนมองไปที่ม่อหลงเพื่อสงสัญญาณให้ม่อหลงพูด เมื่อเห็นเช่นนั้นม่อหลงก็พยักหน้าและพูดว่า “เขาคนนั้นชื่อเฉินยี่..และนี่คือรูปถ่ายของเขา..เขาอายุประมาณเจ็ดสิบปี” ม่อหลงพูดขณะที่เขาหยิบรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋าเสื้อและส่งให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์

อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ดูรูปภาพแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ปัญหาเลย..เมืองมูร์มันสค์ไม่ได้กว้างขวางอะไร..ถ้าคุณต้องการหาใครสักคนที่นี่ล่ะก็..ไม่เกินหนึ่งวันคุณก็จะรู้ข้อมูลของเขาแล้ว”

“ขอบคุณมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์” เย่เชียนพูดต่อ “ถ้างั้นก็ฝากด้วยเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก!”

“ทำไมหรือ? ..คนคนนี้ทำให้มิสเตอร์ม่อหลงขุ่นเคืองหรอ..ไม่ต้องกังวลไปเนื่องจากคุณเป็นพี่น้องของมิสเตอร์นั่นก็เหมือนพี่น้องของผมเช่นกัน..ผมจะส่งคนไปสืบข่าวให้ทันที..พวกคุณมั่นใจได้เลย!” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูดพร้อมตบหน้าอกของเขาอย่างจริงจัง

“ขอบคุณมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์มาก..แต่เขาคนนี้เป็นเพื่อนปู่ของผมไม่ใช่ศัตรู..ผมหวังว่าคนของมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์จะไม่ปรากฏตัวออกไปและเมื่อคนของคุณพบเขาแล้วช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะ..ผมต้องการไปหาเขาเป็นการส่วนตัว” ม่อหลงพูด

“ไม่มีปัญหา..ผมจะกำชับให้” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ตอบแล้วกวักมือเรียกลูกน้องคนหนึ่งของเขาแล้วพูดว่า “ไปบอกคนของเราว่าให้ไปสืบว่าคนคนนี้อยู่ที่ไหน..แล้วจำเอาไว้ด้วยว่าเมื่อพบเขาแล้วไม่ต้องทำอะไรและให้รีบรายงานฉันทันทีเมื่อได้ข่าว”

“ครับหัวหน้า!” มาเฟียคนหนึ่งตอบแล้วรีบเดินออกไป

เย่เชียนก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆ ซึ่งการที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์เป็นดั่งงูเจ้าถิ่นของที่นี่และตอนนี้เขาก็ได้ควบคุมเมืองมูร์มันสค์เอาไว้ทั้งหมดด้วยมือของเขาเองดังนั้นการตามหาตามสืบข้อมูลของใครสักคนนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย

หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันแล้วอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็กล่าวคำอำลากับเย่เชียนจากนั้นก็ออกจากบ้านไป ซึ่งการที่สลาดาร์อาร์ตันและแก๊งมาเฟียของเขาเพิ่งจะถูกกวาดล้างไปเมื่อคืนนี้ดังนั้นจึงยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่รอให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์จัดการเพราะงั้นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จึงไม่กล้าที่จะเพิกเฉยเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าตอนนี้สลาดาร์อาร์ตันจะพ่ายแพ้ไปแล้วแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีโอกาสหวนกลับมา ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจในความสมบูรณ์แบบของมูร์มันสค์ทั้งหมดนั้นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จึงต้องทำสิ่งต่างๆ ให้เคร่งครัดมากขึ้นและนอกจากนี้ตราบใดที่เขาเหนื่อยในตอนนี้เขาก็จะมีเวลาสะดวกสบายในภายภาคหน้า

หลังจากที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์จากไปเย่เชียนก็แนะนำม่อหลงให้หลินเฟิงรู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนม่อหลงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจและตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินว่าเย่เชียนแนะนำว่าชายที่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงเล็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาคือผู้นำขององค์กรเซเว่นคิลในตำนานหลินเฟิงคนนั้น หลังจากนั้นม่อหลงก็ทักทายหลินเฟิงอย่างสุภาพซึ่งหลินเฟิงก็สุภาพและเรียบง่ายมากจนทำให้โมหลงประหลาดใจมากกว่าเดิม ซึ่งเมื่อม่อหลงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นคนที่เป็นนักฆ่าก็ควรจะเย็นชาและไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสเช่นนี้แต่ม่อหลงนั้นไม่ได้คาดหวังเลยว่าหลินเฟิงจะเป็นคนง่ายๆ เช่นนี้

หลังจากการแนะนำให้รู้จักกันแล้วทั้งเย่เชียนและหลินเฟิงต่างก็ออกจากบ้านของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ไปเพื่อแยกย้ายกันไปติดต่อสมาชิกในทีมและรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ เพราะเวลาที่จะกวาดล้างพวกจิ้งจอกหิมะนั้นก็ใกล้เข้ามาแล้วและเย่เชียนกับหลินเฟิงก็ไม่กล้าที่จะลดละเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็เป็นที่รู้จักกันดีและยังเป็นองค์กรทหารรับจ้างชั้นหนึ่งของประเทศรัสเซีย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องให้ความสำคัญและแผนการและข้อมูลต่างๆ อย่างจริงจัง

ม่อหลงก็ติดตามเย่เชียนไปอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งตลอดทางนั้นม่อหลงเงียบมากและไม่พูดอะไรมากเขาเพียงแต่ขมวดคิ้วแน่นตลอดเวลา ซึ่งเย่เชียนก็เข้าใจความคิดของม่อหลงเป็นอย่างดีเพราะม่อหลงตามหาสาวกม่อจื๊อมานานแล้วแต่ก็ยังไม่พบเบาะแสแต่ในที่สุดเขาก็พบตู้เหลียงเฉิงแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าตู้เหลียงเฉิงจะแปรพักตร์ต์และคิดที่จะฆ่าม่อหลงเช่นนั้น

ตอนนี้หลังจากความยากลำบากมานานในที่สุดม่อหลงก็ได้พบข่าวที่เกี่ยวกับเฉินยี่ดังนั้นม่อหลงจึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะอาจกล่าวได้ว่าม่อจื๊อนั้นเป็นดั่งบ้านของม่อหลงดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่สำนักในปีนั้น ซึ่งถ้าเขาอยากจะหาเบาะแสและไขปริศนาเหล่านี้เขาก็ต้องตามหาสาวกม่อจื๊อให้ได้เสียก่อน

เย่เชียนตบไหล่ม่อหลงเบาๆ แล้วพูดปลอบใจว่า “สำนักม่อจื๊อมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปีและพี่ก็ออกจากบ้านมาตั้งแต่พี่ยังเด็กมากเพราะงั้นมันก็ไม่ง่ายหรอกที่จะตามหา..แต่อย่าเพิ่งท้อใจเพราะถ้าพี่มีความทะเยอทะยานล่ะก็ทุกๆ อย่างจะต้องสำเร็จ”

ม่อหลงก็พยักหน้าและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าการตามหาสาวกม่อจื๊อนั้นมีความหมายหรือเปล่า..เพราะถ้าฉันพบสาวกม่อจื๊อแล้วแต่กลับพบว่ามันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามที่ฉันจินตนาการเอาไว้ล่ะ..ฉันจะทำยังไงดีล่ะ? ”

“ถึงยังไงม่อจื๊อก็เป็นบ้านของพี่..แน่นอนว่าถ้าพี่ตามหาสักวันพี่ก็ต้องพบแต่ถ้าพี่คอยกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไปมันจะทำให้พี่เสียสมาธินะ” เย่เชียนพูดต่อ “นอกจากนี้ถ้าพี่ยอมแพ้ตอนนี้ถึงแม้ว่าพี่จะรอจนกว่าวันหนึ่งพี่จะตายไปแต่พี่ก็จะต้องเสียใจอยู่ดี”

“ฉันเข้าใจ..เพราะฉันตามหามานานแล้วแต่ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าสำนักและสาวกม่อจื๊อนั้นอยู่ที่ไหน..มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ฉันจะรู้สึกหลงทางน่ะ” ม่อหลงพูดต่อ “อย่างไรก็ตามฉันจะไม่ยอมแพ้..ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นและพ่อแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า..ขอบคุณมากนะบอส!”

เย่เชียนก็ยิ้มและตบไหล่ของม่อหลงเบาๆ แล้วพูดว่า “โถ่..เราเป็นพี่น้องกันทำไมพี่ถึงต้องขอบคุณผมด้วยล่ะ!”

.

.

.

.

.

.

.