novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 534 คำเชิญของฮัวซงเจี๋ย

  1. Home
  2. ยอดนักรบจอมราชัน
  3. ตอนที่ 534 คำเชิญของฮัวซงเจี๋ย
Prev
Next

ตอนที่ 534 คำเชิญของฮัวซงเจี๋ย

ฮัวซงเจี๋ยพูดอย่างชัดเจนแล้วดังนั้นเฉินจงข่ายจะสามารถพูดอะไรได้อีกและถ้าหากเฉินจงข่ายไม่เห็นด้วยล่ะก็มันจะเป็นการไม่ไว้หน้าฮัวซงเจี๋ย ซึ่งผลที่ตามมามันจะร้ายแรงอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกรมตำรวจส่วนกลางประจำมณฑลเหอหนานเลยเพราะถึงแม้ว่าเขาจะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกรมตำรวจส่วนกลางประจำมณฑลเหอหนานก็ตามแต่ถึงยังไงฮัวซงเจี๋ยก็สามารถใช้เครือข่ายของเขาเพื่อทำให้ตนนั้นตกต่ำลงได้อย่างแน่นอน

หลังจากมองเย่เชียนอีกครั้งแล้วฮัวซงเจี๋ยก็เดินนำเย่เชียนกับชิงเฟิงออกไปแล้ว ส่วนเฉินจงข่ายก็ถอนหายใจเบาๆ และเหลือบมองหลัวป้อด้วยท่าทางที่ดุดันแล้วพูดว่า “ฟังให้ชัดๆนะ! ..นายไปรวบรวมเงินและรีบส่งคืนให้เขาโดยเร็วที่สุดซะ..นายน่ะอยู่เฉยๆ ไม่เป็นหรือไงทำไมนายต้องทำให้เกิดปัญหาด้วย..ฉันบอกนายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอว่าการทำธุรกิจน่ะเราต้องโปร่งใสและสุจริต..นายไม่เพียงแค่ทำธุรกิจโดยอ้างชื่อฉันแต่ยังทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียหายอีกด้วยเพราะงั้นฉันขอเตือนนายเอาไว้ก่อนนะว่าถ้านายยังกล้าที่จะอ้างชื่อของฉันอีกในอนาคตก็อย่ามาโทษฉันที่หยาบคายก็แล้วกัน”

หลัวป้อก็ก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ ด้วยท่าทางที่เสียใจในขณะที่เฉินจงข่ายนำหนิเขาอยู่ ซึ่งหลังจากที่เฉินจงข่ายตำหนิเขาเสร็จหลัวป้อก็พูดว่า “พี่เขยแล้วผมจะไปรู้จักตัวตนของเย่เชียนได้ยังไง..เพราะถ้าผมรู้ผมก็จะไม่ทำแบบนี้อย่างแน่นอน..อีกอย่างพี่เขยครับเงินจำนวนสี่ล้านสองแสนห้าหมื่นหยวนนั้นมันไม่ใช่น้อยๆ เลยและตอนนี้ผมจะไปหาเงินมากมายแบบนั้นได้ที่ไหน”

เฉินจงข่ายก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำเวรทำกรรมกับนายในชาติก่อนเอาไว้หรือเปล่าฉันถึงต้องมาปวดหัวทุกวันแบบนี้..ไหนลองว่ามาซินายมีเงินเท่าไหร่? ”

“ผมมีแค่สามล้าน!” หลัวป้อพูด อย่างไรก็ตามคำพูดและสีหน้าของเขาก็ดูเสแสร้งอย่างมากเพราะเขานั้นประกอบการธุรกิจวัสดุก่อสร้างมานานหลายปีแล้วโดยอาศัยชื่อของเฉินจงข่ายในการจัดซื้อและขายดังนั้นแน่นอนว่ากำไรจากธุรกิจวัสดุก่อสร้างต้องไม่น้อยอยู่แล้วและเขาก็สามารถทำเงินได้มากกว่าสามล้านหยวนเป็นแน่

“นายกลับไปที่บ้านของฉันเดี๋ยวฉันจะโทรหาพี่สาวของนายและบอกให้เธอเอาเงินสดสองล้านหยวนให้นาย” เฉินจงข่ายพูดต่อ “นายต้องทำตัวให้ดีในอนาคตเพราะฉันจะไม่ช่วยนายเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว”

“ครับพี่เขย..จากนี้ไปผมจะเชื่อฟังพี่” หลัวป้อพูดอย่างร้อนรน

เฉินจงข่ายก็ถอนหายใจอย่างลับๆ และส่ายหัวเดินเข้าไปในรถแล้วขับออกไป

เมื่อเย่เชียนเข้าไปนั่งอยู่ในรถของฮัวซงเจี๋ยแล้วเขาก็ยิ้มเบาๆ และพูดว่า “ประธานฮัวผมได้ยินมาว่าคุณเป็นผู้ประกอบการคาสิโนรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะงั้นคุณสามารถทำเงินได้มากมายในทุกๆ ปีใช่ไหมครับ”

ฮัวซงเจี๋ยก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะสืบข่าวเรื่องของตัวเองเช่นนี้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็พูดว่า “มันก็เยอะอยู่แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาคนจำนวนมากมาอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา..อีกอย่างเมื่อเร็วๆ ในนี้หลายๆ ประเทศต่างก็มีการทำธุรกิจการพนันเพราะงั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำหรอกใช่มั้ยล่ะ? ..ว่าแต่คุณสนใจเรื่องนี้ด้วยหรอ?”

“ผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้ผมแค่อยากรู้ว่าประธานฮัวที่มีธุรกิจใหญ่โตและยังมีคาสิโนทวีปเอเชียอีกเพราะงั้นทำไมคุณถึงยังต้องการครอบครองธุรกิจเหล่านี้ด้วย..มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่จะทำหรือมันมีจุดประสงค์อะไรอยู่อีก” เย่เชียนพูดเบาๆ

“คุณเย่หมายความว่าไงผมไม่เข้าใจ! ” ฮัวซงเจี๋ยพูด

“ผมคิดว่าประธานฮัวเองก็รู้เช่นกันว่าหลี่จื้อเทียนและผมเป็นหุ้นส่วนกันและการลงทุนทั้งหมดของเราในมณฑลเหอหนานก็อยู่ในระดับที่ถูกต้องและไม่ควรมีความขัดแย้งใดๆ กับประธานฮัวใช่มั้ยล่ะ..แล้วทำไมคุณถึงต้องการที่จะกำจัดพวกดผมออกไป?” เย่เชียนพูด “นอกจากนี้ศัตรูที่สำคัญที่สุดของประธานฮัวตอนนี้ไม่ใช่พวกเราแล้วแต่ทำไมคุณถึงยังคิดที่จะกำจัดพวกผมอยู่อีกล่ะ? ..มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยผมพูดถูกหรือเปล่าประธานฮัว?”

ฮัวซงเจี๋ยก็ขมวดคิ้วและหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณเย่พูดมาขนาดนี้แล้วผมก็จะบอกความจริงให้ว่าข่าวลือที่ว่ารัฐบาลกลางต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมการพนันในมณฑลเหอหนานนั้นเป็นเพราะความขัดแย้งของผมกับหลี่จื้อเทียน..ซึ่งรัฐบาลกลางของจีนน่ะมีอำนาจมากจนผมเองก็เกือบจะถูกพวกเขาปราบปรามและไม่สามารถอยู่อย่างสบายใจได้และการที่รัฐบาลกลางได้ออกเอกสารสั่งห้ามธุรกิจการพนันอย่างเป็นทางการนั้นก็เพื่อขจัดความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างหลี่จื้อเทียนกับผม..แต่แน่นอนว่าผมนั้นไม่ได้มีความขัดแย้งกับคุณเย่เลยพูดตามตรงเลยก็คือผมเองที่ส่งคนไปหาคุณที่สนามบินเซี่ยงไฮ้เพราะงั้นเรื่องนี้มันเป็นความผิดของผมเองดังนั้นก็แล้วแต่คุณเย่เลยครับว่าจะทำยังไงกับผม”

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะเพราะเขาไม่ได้คาดคิดว่าฮัวซงเจี๋ยจะยอมรับเรื่องนั้นก่อนเช่นนี้ซึ่งมันเกินความคาดหมายของเย่เชียนอย่างมาก นั่นเป็นเพราะฮัวซงเจี๋ยนั้นไม่ใช่คนโง่และแน่นอนว่าเขาเดาได้ว่าเย่เชียนนั้นรู้ว่าตนเป็นส่งคนไปทำเช่นนั้นกับเขาดังนั้นตนจึงเลือกที่จะสารภาพก่อนจนทำให้เย่เชียนไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ประธานฮัวอย่าคิดมากเกินไปเพราะผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย..เพราะยังไงตอนนี้พวกเราอยู่ก็ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องขัดแย้งกันเลยและยิ่งไปกว่านั้นนีมันเหมือนการเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์แบบนี้ผมคิดถูกใช่ไหม?”

“ตามที่คุณเย่พูดเลย” ฮัวซงเจี๋ยพูด “แต่ผมสงสัยว่าคุณเย่เคยได้ยินชื่อเหล่ยเจียงหรือเปล่า? ”

“เหล่ยเจียงหรอ..ผมก็ได้ยินมานิดหน่อยแต่ไม่ได้รู้อะไรมากนัก..คุณฮัวมีอะไรหรือ?” เย่เชียนแสร้งทำเป็นสับสน

“ผมอยากจะบอกว่าเหล่ยเจียงน่ะเป็นศัตรูของพวกเราเพราะถ้าพูดตามล่ะก็ธุรกิจของเหล่ยเจียงในทุกวันนี้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นและความทะเยอทะยานของเขาก็เติบโตมากขึ้นและเขาก็เคยอยู่ในธุรกิจยาเสพติดแต่ทว่าตอนนี้เขาได้ก้าวเข้ามาและครอบครองธุรกิจการพนันและคาสิโนของผมและยังต้องการครอบครองอุตสาหกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายในมณฑลเหอหนานอีก..ซึ่งจุดประสงค์ของเขานั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการปกปิดธุรกิจยาเสพติดของเขาเท่านั้นแต่มันยังช่วยเขาฟอกเงินได้อีกด้วย” ฮัวซงเจี๋ยพูด

เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆ และพูดว่า “เนื่องจากเขาอยู่ในวงการยาเสพติดเพราะงั้นผมก็คิดว่าเขาต้องมีวิธีการฟอกเงินเป็นของตัวเองและอุตสาหกรรมที่เขาทำนั้นก็ต้องถูกกฎหมาย..ดังนั้นผมกับเขาก็ไม่ควรจะมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ใดๆ กันเลยไม่ใช่หรอ..เพราะฉะนั้นผลประโยชน์ด้านการพนันและคาสิโนมันตรงกับวิธีการฟอกเงินของเหล่ยเจียงเขาจึงต้องการกำจัดคุณจริงมั้ยล่ะ?”

ฮัวซงเจี๋ยก็ยิ้มอย่างเชื่องช้าและกำลังจะพูดแต่รถก็มาหยุดที่ประตูของสโมสรแห่งหนึ่ง “คุณเย่พวกเราเข้าไปดื่มและคุยกันเถอะ” ฮัวเจี๋ยพูด

“ครับ!” เย่เชียนพูดขณะที่เขาก้าวออกไปจากรถ

“เชิญครับคุณเย่! ” ฮัวซงเจี๋ยพูดด้วยท่าทางเชิญ

“เดี๋ยวก่อน..ผมขอพูดอะไรกับน้องชายของผมสักครู่” หลังจากที่เย่เชียนพูดจบเขาก็หันหลังเดินไปหาชิงเฟิงและเมื่อเขามาถึงด้านข้างของชิงเฟิงเย่เชียนก็กระซิบที่ข้างหูของชิงเฟิงและในทันใดนั้นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชิงเฟิงและชิงเฟิงก็พูดว่า “บอสนี่เป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ ”

เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูดว่า “ก็นะ..ฉันมันเป็นคนเจ้าเล่ห์”

“ตามนั้นเลยบอส! ” ชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็เข้าไปในรถของเขาและสตาร์ทรถเพื่อขับออกไป

จากนั้นเย่เชียนก็หันกลับและเดินไปหาฮัวซงเจี๋ยและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เราไปกันเถอะประธานฮัว..เชิญครับ”

“คุณเย่แล้วน้องชายคุณไปไหน..เขาไม่มาดื่มด้วยกันหรือ” ฮัวซงเจี๋ยพูด

เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ผมมีธุระบางอย่างที่ต้องให้เขาทำและยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนั้นก็ดื่มมากไม่ได้ด้วยเพราะถ้าเขาเมาแล้วเขาจะบ้าคลั่งแล้วพวกเราจะปวดหัวเมื่อถึงเวลานั้น”

ฮัวซงเจี๋ยนั้นไม่เชื่อคำพูดของเย่เชียนแต่ในเมื่อเย่เชียนพูดเช่นนี้เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากไปกว่านี้อีก จากนั้นเขาก็โอบไหล่เย่เชียนเข้าไปในสโมสรราวกับว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอเขามานานหลายปี

“คุณฮัวมีคนสะกดรอยตามพวกเราอยู่” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณฮัวอย่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเรามีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกันสิครับ”

ฮัวซงเจี๋ยก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ยื่นมือออกและกวักมือเรียกบอดี้การ์ดทั้งสองจากนั้นบอดี้การ์ดทั้งสองก็รีบวิ่งเข้ามาฮัวซงเจี๋ยจึงพูดว่า “พวกแกตาบอดกันรึไง! ..มันคนสะกดรอยตามพวกเรามาตั้งนานแล้วแต่พวกแกไม่ได้สังเกตเห็นกันเลยเหรอ..ไปซะ! ..ไปจับตัวมันมาเดี๋ยวนี้! ” ฮัวซงเจี๋ยตะโกนอย่างเร่งรีบ

บอดี้การ์ดทั้งสองก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะและเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะไม่เห็นใครสะกดรอยตามมาเช่นนี้แต่ฮัวซงเจี๋ยนั้นกลับรู้ได้อย่างไร เมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียนที่มีรอยยิ้มที่มั่นใจเช่นนั้นพวกเขาก็เหมือนจะเข้าใจและดูเหมือนว่าเย่เชียนจะเป็นคนที่เห็น ในตอนแรกนั้นเมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียนที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองก็รู้สึกว่าเย่เชียนเป็นแค่ชายหนุ่มอารมณ์ร้อน เพราะพวกเขาทั้งสองเป็นถึงทหารผ่านศึกและพวกเขาก็เคยปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยรบพิเศษของประเทศฝรั่งเศสเพราะฉันนั้นพวกเขาจึงสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของทหารที่แข็งแกร่งจากเย่เชียน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมองเย่เชียนใหม่และพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะลังเลในตอนนี้ ซึ่งหลังจากที่ตอบกลับแล้วพวกเขาก็รีบเดินออกไปทันที

“ช่างน่าขันสิ้นดี..พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังถูกสะกดรอยตามและถ้าไม่ใช่เพราะคำเตือนของคุณเย่ล่ะก็ผมเองก็ไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นยังไงต่อไป” ฮัวซงเจี๋ยพูด

เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ผมไม่คิดว่าคนๆนั้นจะมามุ่งร้ายหรอก..แต่ผมแค่ไม่รู้ว่าคนๆนั้นกำลังสะกดรอยตามคุณหรือผมกันแน่”

“ถ้าผมเดาไม่ผิดคนพวกนั้นน่าจะเป็นคนของเหล่ยเจียงและมีแค่เขาเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้ได้” ฮัวซงเจี๋ยพูดต่อ “เราเข้าไปข้างในกันและปล่อยให้พวกลูกน้องจัดการเถอะ”

สโมสรแห่งนี้เป็นธุรกิจที่ฮัวซงเจี๋ยเป็นเจ้าของ ซึ่งแน่นอนว่าจุดประสงค์ของเขานั้นไม่ใช่เพื่อหาเงินง่ายๆ อย่างที่เป็นอยู่แต่ใช้เพื่อติดสินบนเหล่าเจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการบรรณาธิการของสำนักข่าวและสื่อและบุคคลที่มีตำแหน่งในแขนงต่างๆ จากทุกสาขาอาชีพ เพราะฮัวซงเจี๋ยนั้นรู้ดีว่าถ้าหากเขาต้องการอยู่อย่างมั่นคงเขาก็จำเป็นต้องดึงคนเหล่านี้มาอยู่ข้างเขาให้มากขึ้นและสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ขนาดใหญ่ให้มั่นคง

ฮัวซงเจี๋ยก็สั่งห้องส่วนตัวVIPและพาเย่เชียนเดินเข้าไปภายใต้การนำทางของบริกร ซึ่งการตกแต่งในห้องนั้นเรียบง่ายและหรูหรามาก “คุณเย่ต้องการสาวๆ สักสองคนหรือเปล่า..ที่นี่มีนางแบบสวยๆ อยู่เยอะแยะเพราะงั้นคุณสามารถเลือกใครก็ได้ที่คุณต้องการ” ฮัวซงเจี๋ยก็ตบไหล่เย่เชียนเบาๆ แล้วพูดว่า “อย่าเกรงใจไปเลย..คิดเสียว่าเหมือนอยู่บ้านของตัวเองเพราะงั้นถ้าคุณอยากได้อะไรก็แค่บอกมา”

เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ไม่ครับ..เพราะนางแบบพวกนั้นดูเหมือนจะบริสุทธิ์แต่ส่วนใหญ่พวกเธอก็เป็นเชื้อราดำกันหมด”

.

.

.

.

.

.

.