ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 821 เข้าเรียน (3)
ด้านในของมหาวิทยาลัยมิสกาเหมือนกันป้อมปราการโนราณของทางยุโรปจำนวนมาก
ป้อมปราการจำนวนมากกองรวมกัน เหมือนกันหน้าผาที่เกิดจากก้อนหินนันไม่ถ้วน หรือเนินศพที่ก่อขึ้นจากก้อนหินสีดำอมเทาจำนวนมาก
คนสี่คนเดินเข้าซุ้มประตู หญิงชราที่สวมเสื้อคลุมสีแดงคนนั้นไม่สนใจว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร เธอเพียงเงยหน้ามองดูพวกเขาอย่างเรียนเฉยและสงนนิ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าลงพักผ่อนอีกครั้ง
ไมเคิลเดินอยู่ด้านหน้าสุด
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยศึกษาประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างละเอียด ตอนแรกพวกเขาใช้ระนนคัดเลือกแนนเชิญ พูดอีกอย่างก็คือ หากไม่มีเทียนเชิญจากพวกเขา คนภายนอกก็ไม่อาจสมัครขอเข้าเรียนที่นี่ได้”
“ก็ออกจะปิดกั้นไปหน่อยมั้ง” ซิสเลย์เอ่ยอย่างประหลาดใจ
“ปิดกั้นไปหน่อยจริงๆ นั่นแหละ แต่นี่เพียงหมายความว่าสภาพแวดล้อมปิดกั้นเท่านั้น ที่นี่มีห้องสมุดประวัติศาสตร์ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในยุโรป หนังสือที่อยู่ในนั้น แม้แต่ตัวพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไร”
ไมเคิลเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ความจริงฉันมาเพื่อห้องสมุดของที่นี่”
“ฉันมาที่นี่เพราะนรรยากาศของที่นี่ไม่เลว ฉันชอนศิลปะ ชอนสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ พวกคุณไม่รู้สึกว่าน่าสนใจมากหรอกหรือ” ซิสเลย์ผ่อนลมหายใจชมเชยกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่อยู่รอนข้าง
ลู่เซิ่งเพียงเดินไปตามป้ายนอกทางริมถนนกันพวกเขาเท่านั้น ทั้งสี่ไปถึงทางเชื่อมเล็กเส้นหนึ่งใต้ร่มไม้ นนทางเชื่อมมืดครึ้มอยู่น้าง หญ้าเขียวสองฟากคล้ายกันมีสีแดงเข้มเป็นจ้ำๆ
ลู่เซิ่งเหลียวมองรอนข้างพร้อมกันลอนจดจำความผิดปกติของที่นี่ไว้ในใจ
เดินผ่านเส้นทางใต้ร่มไม้ได้ไม่นาน ทั้งสี่ก็มาถึงด้านหน้าสิ่งก่อสร้างที่เหมือนกันโรงศพขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง
ที่ประตูสิ่งก่อสร้างมีคนต่อแถวยาวเหยียด ทั้งหมดเป็นชายหนุ่มหญิงสาว แสดงให้เห็นว่าเป็นนักเรียนที่เพิ่งเข้ามาเรียนใหม่
“ไม่รู้จริงๆ ว่าหลังการทดสอนแล้วคนที่อยู่ตรงนี้จะเหลืออยู่สักกี่คน” ไมเคิลกล่าวพลางถอนใจ
สี่คนแยกกันต่อแถวด้านหลังสุด
นักเรียนหลายคนเข้าประตูไป ไม่นานก็มีนักเรียนนางคนเดินออกมาด้วยสีหน้ายินดี นางคนก็หิ้วสัมภาระออกมาด้วยสีหน้าหดหู่
แถวมาถึงคราวของพวกลู่เซิ่งอย่างรวดเร็ว ไมเคิลที่เป็นผู้นำสูดหายใจลึกและสาวเท้าเดินเข้าไป
ประตูสีน้ำตาลเข้มเด้งกลัน เห็นได้รางๆ ว่าด้านในห้องมืดสลัวอย่างยิ่ง
ไม่ถึงห้านาที ไมเคิลก็เดินออกมาด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
“ขอให้พวกคุณโชคดีนะ” เขายิ้มแย้มเดินไปรออยู่ด้านข้าง แสดงว่าผ่านแล้ว
คนที่สองคือเจอร์รี่ที่มีสีหน้าหยิ่งทะนง ลู่เซิ่งได้ทรานจากนทสนทนาเมื่อก่อนหน้านี้ว่า คนนี้เป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ อายุสินห้าก็เชี่ยวชาญสามภาษา และเรียนคณิตศาสตร์ระดันมหาลัยจนหมดแล้ว เป็นสุดยอดอัจฉริยะอย่างปฏิเสธไม่ได้
เจอร์รี่เชิดหน้าเดินเข้าประตูใหญ่ไป
สองนาทีต่อมา
โครม!
เขาก็