ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1963 ทำเรื่องเล็กให้ใหญ่
ตอนที่ 1963 ทำเรื่องเล็กให้ใหญ่
………………..
ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ อี้เหวินเทาจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ก่อนเหวี่ยงขวานสุริยันมรกตออกไปอย่างรุนแรง ในขณะที่ตัวเขานั้นก็ถอยร่นลงไปอย่างรวดเร็ว!
ปลายกระบี่ที่แหลมคมเฉียดจมูกของเขาเพียงเล็กน้อย!
แม้ว่าร่างกายของอี้เหวินเทาจะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่วิธีการกวาดกระบี่ของฉู่หลิวเยว่นั้น ก็ทำให้เขารู้สึกปวดแสบปวดร้อน แทบจะกรีดผิวหนังของเขาออกไปแล้ว!
ฟิ้ว!
ขวานสุริยันมรกตพุ่งเข้าไปหาฉู่หลิวเยว่!
ฉู่หลิวเยว่ยกกระบี่ขึ้นต้าน
เคร้ง!
เสียงปะทะที่กระจ่างใสดังขึ้น
ง่ามนิ้วของฉู่หลิวเยว่ชาหนึบ!
ขวานสุริยันมรกตเปลี่ยนทิศทางออกไปในทันที!
ในตอนนั้นร่างของอี้เหวินเทาก็หยุดตัวลงทันที เพียงแค่นึกถึงขวานสุริยันมรกตก็กลับมาอยู่ที่กลางฝ่ามือของเขาอีกครั้ง!
ด้ามจับเย็นยะเยือก
หัวใจของอี้เหวินเทาจมดิ่ง
พลังของขวานสุริยันมรกตเล่มนี้ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์แล้ว!
เขาต้องการจะทำลายผนึกนี้ แต่ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่นั้นกลับเต็มไปด้วยแรงกดดันที่แข็งแกร่ง ภายในระยะเวลาสั้นๆ เขาไม่สามารถทำลายผนึกนี้ได้เลย
แต่นั่นก็หมายความทันทีว่าที่จื่อเฉินลงมืออีกฝ่ายก็สามารถทำลายอาวุธศักดิ์สิทธิ์คู่ใจของเขาลงได้แล้ว!
อี้เหวินเทารู้สึกไม่เข้าใจอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็โกรธแค้นจนต้องขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน
ฉู่หลิวเยว่หมุนข้อมือที่เจ็บปวดของนางอย่างไร้เสียง
ท้ายที่สุดแล้วขวานสุริยันมรกตเป็นหนึ่งในสิบสมบัติศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ เมื่อรวมกับพลังของอี้เหวินเทาแล้ว พลังการโจมตีเมื่อครู่นี้ก็นับว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ยังดีที่ตอนนี้ร่างศักดิ์สิทธิ์ของนางค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้จื่อเฉินก็ช่วยแช่แข็งพลังส่วนใหญ่ของขวานสุริยันมรกตไปแล้ว ไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็…
นางก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้แน่นอน!
“ประมุขอี้ ข้าเห็นว่าตอนที่ขวานสุริยันมรกตอยู่ในมือของท่านนั้น มันใช้การไม่ค่อยดีเท่าไรเลย ถ้าเช่นนั้น…เอามาให้ข้าลองใช้หน่อยดีหรือไม่?”
ใบหน้าของฉู่หลิวเยว่เผยรอยยิ้มออกมา พร้อมพูดด้วยความจริงใจเป็นอย่างมาก
หางตาของอี้เหวินเทากระตุกขึ้นด้วยความโกรธ
เหตุใดเขาจะฟังไม่ออกล่ะว่า ฉู่หลิวเยว่จ้องอยากจะได้ขวานสุริยันมรกตของเขาตาเป็นมัน?
ยังไม่ทันชนะเลย แต่ก็กำเริบเสิบสานเช่นนี้แล้ว!
เขาแค่นหัวเราะเสียงเย็น
“หากเจ้าอยากได้ ก็ต้องมีความสามารถในการแย่งชิงไปเสียก่อน!”
เมื่อพูดจบเขาก็รวบรวมสมาธิ แล้วยกมือขึ้น
จากนั้นลำแสงสีเขียวเข้มที่เหมือนกับน้ำหลากก็พวยพุ่งที่กลางฝ่ามือของเขา!
ลำแสงเหล่านั้นแผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นแสงดาวพร่างพราวกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า
ไม่ว่าผ่านไปที่ใด อากาศก็ถูกแช่แข็ง
“คิดไม่ถึงว่าท่านประมุขจะใช้อาณาเขตเทพเซียน?”
คนตระกูลอี้ที่อยู่ในฝูงชนก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
อย่าโทษที่เขาตื่นตูมเลย ความจริงแล้วภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็ต่างจากที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้มาก
ต่อให้จะเห็นการปรากฏตัวของจื่อเฉินและถวนจื่อ แต่พวกเขาก็ยังคิดว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอี้
เหวินเทา
ด้วยความช่วยเหลือจากจื่อเฉินและถวนจื่อ อย่างน้อยก็ทำให้นางยืนหยัดได้นานมากขึ้นเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิมทุกประการ
สามกระบวนท่าไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นสิบกระบวนท่า?
เพราะว่าระดับพลังของฉู่หลิวเยว่และอี้เหวินเทานั้นแตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงคิดเช่นนี้ แต่หลังจากลงมือจื่อเฉินก็ได้สร้างแรงกดดันให้แก่อี้เหวินเทาเป็นอย่างมาก
ดังนั้นหลังจากเห็นว่าอี้เหวินเทาโจมตีไม่สำเร็จ แล้วอัญเชิญอาณาเขตเทพเซียนออกมา พวกเขาหลายคนจะรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่แข็งแกร่งจนสามารถบีบบังคับให้ประมุขอี้อัญเชิญอาณาเขตเทพเซียนออกมาได้เชียวหรือ?
ลำแสงสีเขียวพัดกระจายก่อนปกคลุมทั่วทุกพื้นที่บนท้องฟ้า!
แรงกดดันที่ยากจะบรรยายถาโถมเข้ามาอีกครั้ง!
ในตอนนั้นฉู่หลิวเยว่รู้สึกเหมือนมีภูเขาขนาดใหญ่มากดทับที่ร่างกาย ทำให้แต่ละก้าวย่างนั้นลำบากเป็นอย่างมาก
เมื่อได้รับผลกระทบจากแรงกดดันนี้ การโคจรพลังปราณดั้งเดิมภายในร่างกายของนางก็เชื่องช้าลง
อาณาเขตเทพเซียนแห่งนี้แตกต่างจากแรงกดดันของขวานสุริยันมรกตที่อี้เหวินเทาเพิ่งสำแดงไปเมื่อชั่วครู่
ภายในพื้นที่แห่งนี้ อี้เหวินเทาแทบจะสามารถควบคุมได้ทุกสิ่งทุกอย่าง!
“หึ อาณาเขตเทพเซียนของพี่ใหญ่นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงซั่งกวนเยว่ที่เป็นเพียงแค่ระดับเทพขั้นสูงเลย ต่อให้เป็นระดับเทพศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากก็ไม่มีทางดิ้นรนจากพื้นที่แห่งนี้ได้แน่นอน! ครั้งนี้ นางคงไม่สามารถใช้ลูกเล่นอันใดได้อีกแล้ว…”
ขณะที่อี้เหวินจั๋วพูด เขายังพูดไม่ทันจบ แต่ก็ถูกคนขัดจังหวะขึ้นมาแล้ว
“ดูนั่นสิ! มันคืออันใดน่ะ?”
อี้เหวินจั๋วขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วหันไปมองอย่างหมดความอดทน
ภาพเหตุการณ์นั้นก็ทำให้เขารู้สึกตกใจเช่นเดียวกัน
เขาเห็นเพียงฉู่หลิวเยว่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยแผ่นหลังเหยียดตรง แล้วหลับตาลงเบาๆ
ลำแสงสว่างวาบแสบตา แล้วยังแหลมคมดุจปลายมีดพร้อมผ่าอากาศที่ถูกแช่แข็งอย่างง่ายดาย!
“นั่นมัน…อาณาเขตเทพเซียนของนางหรือ?”
มีบางคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“นางเป็นแค่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงไม่ใช่หรือ? อาณาเขตเทพเซียนแห่งนี้ เหตุใด…เหตุใดถึงสามารถต้านทานกับท่านประมุขได้ล่ะ?”
อาณาเขตเทพเซียนสีแดงเงินที่ส่องประกายยังคงขยายพื้นที่ออกไปอย่างต่อเนื่อง จากนั้นไม่นานก็ปกคลุมร่างกายของฉู่หลิวเยว่เอาไว้
ในที่สุดลำแสงสีเขียวที่อยู่ข้างกายของนางก็สลายหายไปจนหมดสิ้นแล้ว จากนั้นนางก็ลืมตากว้างขึ้นมาอีกครั้ง!
ในตอนนั้นเองอี้เหวินเทาก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง สายตาของเขากำลังประสานเข้ากับสายตาของฉู่หลิวเยว่
หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง!
แววตาดำขลับเหมือนกับมีดวงดาวอยู่ภายใน ในแววตาของนางนั้นไม่มีความตื่นตระหนกและหวาดกลัวเลย
มีเพียงแค่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่บ้าคลั่งเท่านั้น!
ตลอดชีวิตของอี้เหวินเทา เขาเคยประมือกับผู้บำเพ็ญเพียรมามากมาย และในบรรดาคนเหล่านั้นก็มีผู้แข็งแกร่งและคนที่มีพรสวรรค์จำนวนมาก
เขาไม่เคยเห็นใครที่มีแววตาเช่นนี้มาก่อน
เย็นชาราวกับขุนเขา ร้อนแรงราวกับเปลวไฟ! อีกทั้งยังมีพลังที่จะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่าง!
เหมือนกับว่าสำหรับนางแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเป็นเพียงแค่ฝุ่นควันเท่านั้น
ไม่มีค่าแก่การพูดถึง!
อี้เหวินเทาไม่รู้ว่าควรจะบรรยายความรู้สึกนี้อย่างใด
เห็นได้ชัดว่าเขาคือคนที่ระดับสูงกว่า เขาควรจะเป็นฝ่ายดูหมิ่นดูแคลนทุกสิ่งทุกอย่างสิถึงจะถูก
แต่ในตอนนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังของฉู่หลิวเยว่ แต่เขากลับมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฏขึ้นมา…
เขาไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของตนเองในตอนนี้ได้
ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ไม่เข้าใจ
อีกทั้งยังมีความรู้สึกตระหนกและกังวล…ที่แม้กระทั่งตัวของเขาเองไม่อยากจะยอมรับ
สายตาเช่นนี้ คนอย่างฉู่หลิวเยว่ไม่ควรจะมีมัน…
พรึ่บ!
สีเงินแดงของอาณาเขตเทพเซียนพวยพุ่งออกมา!
เหมือนกับระลอกคลื่นที่กระทบโขดหิน พลังเหล่านั้นแผ่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง และส่งเสียงดังลั่น!
หลังจากนั้นไม่นานอาณาเขตเทพเซียนของทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกัน!
ความจริงแล้วหากดูจากภายนอกละก็อาณาเขตเทพเซียนของฉู่หลิวเยว่กินพื้นที่ขนาดเล็ก มันครอบครองเพียงแค่พื้นที่ที่นาง จื่อเฉิน และถวนจื่อยืนอยู่เท่านั้น
แต่อาณาเขตเทพเซียนของอี้เหวินเทากินพื้นที่บริเวณกว้างมากกว่า
ดูไปแล้วเหมือนว่าอี้เหวินเทาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่
แต่ในความเป็นจริงแล้วพื้นที่รอบกายของนางนั้นได้ทำการแย่งชิงมาจากอี้เหวินเทา!
แม้ว่าอาณาเขตเทพเซียนของอี้เหวินเทาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ถูกขัดขวางให้อยู่เพียงด้านนอก และไม่สามารถทำลายอาณาเขตเทพเซียนของฉู่หลิวเยว่ได้!
………………..