ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 624 ปฏิกิริยาของตระกูลเย่
“ผู้นา เกิดอะไรขึ้น ตราประทับของราชันยุทธอะไรหรือ”
หัวใจของทุกคนสั่นสะท้านเมื่อเห็นเย่อู๋เหินขมวดคิ้ว ความรู ้สึก เป็ นลางร ้ายพุ่งเข้ามาในหัวใจของพวกเขา
เย่อู๋เหินเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสและดูข้อมูลในซองจดหมาย อย่างระมัดระวังโดยไม่คิด “ถึงกับมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้อยู่ในโลกด้วย หรือ”
เย่อู๋เหินแตะตราประทับน้าตาบนหน้าผากและรู ้สึกสับสนมาก
ตราประทับราชันยุทธเป็ นมรดกตราประทับของราชันยุทธของ ตระกูลเย่ มันเป็ นสัญลักษณ์ของตระกูลเย่ สัญลักษณ์ของตัวตน
นอกจากคนของตระกูลเย่แล้ว ไม่มีใครในโลกนี้ที่ควรมีตรา ประทับราชันยุทธรูปน้าตา อย่างไรก็ตาม ตามที่อธิบายไว้ในซอง จดหมายของเย่ฉิงซวน มีตัวตนพิเศษปรากฏขึ้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เยียวยาสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น มีตราประทับที่เหมือนกับบนหน้าผาก
สิ่งนี้ทาให้เย่อู๋เหินตกอยู่ในความสงสัย
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดว่า “ตระกูลของข้ามีสมาชิกจาก สาขาอื่นที่ฝึกฝนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์หรือไม่”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ผู้อาวุโสก็ตกอยู่ในห้วง ความคิดทันที หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ชายชราในชุดด าก็พูดว่า “ผู้นา หากจาไม่ผิด สุสานกระบี่มีลูกชายชื่อเย่เฟิง ดูเหมือนว่าเขา กาลังบ่มเพาะอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์”
“บุคคลนี้แก่กว่านายน้อยคนโตสองสามปี เขามีพรสวรรค์ที่ไม่ ธรรมดา และเป็ นอัจฉริยะ หลังจากความโกลาหลในตอนนั้น พ่อได้ ส่งไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์อย่างลับ ๆ ไม่มีข่าวจากเขาจนถึงตอนนี้ เราไม่รู ้ ว่าเขาตายหรือยังหรือยังมีชีวิตอยู่”
“โอ้ เย่เฟิงรึ” เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเย่อู๋เหินก็ผ่อนคลายลง เล็กน้อย ในแง่ของอายุ บุคคลนี้ตรงกับคาอธิบายของเย่ฉิงซวน อย่างไรก็ตาม บุคคลในจดหมายถูกเรียกว่าเย่ชิว ไม่ใช่เย่เฟิง
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เย่อู๋เหินก็รู ้สึกโล่งใจทันที
เฟิ งหมายถึงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งก็คือชิว บางทีเย่เฟิ งอาจต้องการ ซ่อนตัวตนเพื่อไม่ให้คนอื่นสนใจ เขาจึงเปลี่ยนชื่อ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หัวใจของเย่อู๋เหินก็เย็นชาทันที เจตนาสังหารกระจายไปทั่วทั้งห้อง โถงทันที และมันก็หนาวถึงกระดูก
แม้ว่าเขาจะเป็ นผู้น าของตระกูลเย่คนปัจจุบัน ยังมีคน ทะเยอทะยานมากมายในตระกูลนี้ที่ไม่เต็มใจลดระดับตนเองลงให้กับ เขา ภายนอกพวกเขาดูยอมแพ้ แต่พวกเขารอโอกาสที่จะผลักเขาลง
ในบรรดาพวกเขา ผู้น าฝ่ ายค้านคือผู้ปกครองของมรดกสุสาน กระบี่ ชายคนนี้เป็ นคู่ต่อสู้เก่าของเขา
แม้ว่าภายนอกตระกูลเย่จะดูยิ่งใหญ่ ในความเป็ นจริง มีเจตนา สังหารอยู่ทุกที่ พวกเขาไม่ได้เป็ นหนึ่งเดียวกันอย่างที่หลายคนคิด เป็ นเพราะตระกูลนี้สืบทอดกันมานานนับพันปี มันใหญ่เกินไป ความสัมพันธ ์ของทุกกลุ่มมีความซับซ ้อน และทุกคนก็ยโสโอหัง
ใคร ๆ ก็อยากเป็ นผู้สืบทอดสายตรงและล้างชื่อของพวกเขา ดังนั้น ตราบใดที่ตระกูลนี้ยังคงอยู่ ข้อพิพาทจะไม่ยุติ
เย่อู๋เหินเข้าใจหลักการนี้อย่างลึกซึ้ง ไม่ต้องพูดถึงญาติ เพื่อ ประโยชน์ของมรดกดั้งเดิม แม้แต่พี่น้องทางสายเลือดก็ยังวาดกระบี่ ใส่กันเอง ความปรารถนาของมนุษย์เป็ นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อานาจ เป็ นอาวุธที่แหลมคมในการสังหาร
ตอนนี้ เมื่อเย่อู๋เหินเห็นจดหมายของเย่ฉิงซวน เขาก็รู ้สึกได้ถึง อันตรายในทันที
“ฮ่าฮ่า น่าสนใจ! เย่ชิว คน ๆ นี้อายุเท่ากับลูกชายคนโตของข้า โชคไม่ดี ที่ภูมิหลังลิขิตให้ไปได้ไม่ไกล” เย่อู๋เหินต้องการที่จะ สังหารเย่ชิวในขณะที่เขาเย้ยหยัน ความเกลียดชังและความโกรธใน ดวงตาถูกยับยั้งในใจเป็ นเวลาหลายปี
สุสานกระบี่ทาให้เขาต้องจ่ายราคามหาศาลในความโกลาหลใน ตอนนั้น เขาจาความแค้นนี้ได้เสมอ
จดหมายของเย่ฉิงซวนกล่าวว่าเย่ชิวได้กลายเป็ นเทพเยียวยา สวรรค์แล้ว เป็ นสิ่งมีชีวิตที่ต่ากว่าเพียงคนเดียวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เยียวยาสวรรค์และมีตาแหน่งสูงกว่าหนึ่งหมื่นคน
หากเขาได้รับการยืนยันว่าเป็ นผู้สืบทอดของสุสานกระบี่ คน ๆ นี้ จะต้องไม่รอดชีวิต เป็ นไปไม่ได้ที่เย่อู๋เหินจะปล่อยให้อันตรายที่ซ่อน อยู่ซึ่งอาจคุกคามเขาให้เติบโตอย่างปลอดภัย
“ไป… ” เย่อู๋เหินได้ตัดสินใจแล้วในใจ เขากลับไปที่ที่นั่งอย่าง กล้าหาญและสั่งด้วยท่าทีของผู้บังคับบัญชา “ส่งคนไปสอบสวน ค้นหาว่าบุคคลนี้มาจากใด”
“เข้าใจแล้ว ผู้อาวุโสตอบรับคาสั่งทันทีและออกจากห้องโถง เขา ได้ส่งยอดฝีมือหลายร ้อยคนไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์เพื่อ ตรวจสอบเบื้องหลังของเย่ชิว
ผู้อาวุโสที่เหลือกังวลและพูดว่า “ผู้นา จดหมายของนายน้อย บอกว่าบุคคลนี้คือเทพเยียวยาสวรรค์ และเป็ นที่ชื่นชอบของผู้อาวุโส เมิ่ง ถ้าเขาเป็ นศิษย์สายตรงของสุสานกระบี่จริง ๆ เราจะทาอย่างไร”
ทันทีที่ถามคาถามนี้ ก็ดึงดูดความกังวลของคนอื่นทันที
พวกเขารู ้ดีกว่าใครว่าตัวตนของเมิ่งเทียนเจิ้งเป็ นอย่างไร เย่อู๋ เหินรู ้ดียิ่งกว่านั้น ไม่มีใครใครกล้าแตะต้องศิษย์ที่เขาให้ความสาคัญ ดูเหมือนว่าไม่มีใครในเก้าสวรรค์สิบแผ่นดินกล้าแตะต้องข้อห้ามนี้ใน ขณะนี้
ทันทีที่ถามคาถามนี้ ทุกคนเริ่มกังวล เย่อู๋เหินขมวดคิ้วเช่นกัน เขารู ้ดีว่าเมิ่งเทียนเจิ้งเป็ นสิ่งเป็ นตัวตนสูงสุดในเก้าสวรรค์สิบแผ่นดิน ทั้งหมด หากอีกฝ่ ายต้องการปกป้ องเย่ชิวจริง ๆ เขาก็ไม่กล้าขยับ อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดอีกครั้ง การปล่อยให้มีภัยคุกคามขนาดใหญ่ เช่นนี้ก็เท่ากับรนหาที่ตาย
ในช่วงเวลานั้น เขาตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สิ่งที่ สาคัญที่สุดในตอนนี้คือการตรวจสอบภูมิหลังของเย่ชิว
หลังจากนั้นไม่นาน เย่อู๋เหินดูเหมือนจะพบวิธีตอบโต้และพูดว่า “อืม… สิ่งที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล ตัวตนของอีกฝ่ ายในฐานะเทพเยียวยา สวรรค์นั้นลาบากจริง ๆ แต่… “
ณ จุดนี้ เย่อู๋เหินยิ้ม เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร “โลกนี้ไม่เคยขาดอัจฉริยะ ผู้ที่หัวเราะได้เป็ นคนสุดท้ายคือราชาที่ แท้จริง ข้ามั่นใจในตัวลูกชายของข้ามาก ตราบเท่าที่เขาขับไล่เย่ชิว ฮ่าฮ่า… “
รอยยิ้มนี้เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน เมื่อได้ยินสิ่งนี้ และความกลัวมาจากก้นบึ้งของหัวใจ หลังจากคิด ทบทวนค าพูดของเย่อู๋เหิน พวกเขาก็เข้าใจบางอย่างในทันทีและเผย รอยยิ้มที่คล้ายกัน
สาเหตุที่เย่ชิวปลอดภัยดีในตอนนี้เป็ นเพราะตาแหน่งที่สูงส่งใน ฐานะเทพ เทพย่อมไม่สั่นคลอน แต่หากวันหนึ่ง มีคนเอาชนะเขาและ แทนที่เขา จากนั้นการสนับสนุนทั้งหมดจะหายไป
ในเวลานั้น เย่อู๋เหินอาจไม่ต้องทาอะไรเป็ นการส่วนตัวด้วยซ้า ศัตรูจะโจมตีเย่ชิวตามธรรมชาติ หากไม่มีต้นไม้สูงตระหง่านอย่างเมิ่ง เทียนเจิ้ง โอกาสในการอยู่รอดในเก้าสวรรค์สิบแผ่นดินที่ซับซ ้อนนี้ ซึ่งครอบครองโดยตระกูลขุนนางนั้นน้อยมาก
“บังเอิญว่าลูกชายของข้าได้ท าลายสถิติวิหารสวรรค์สิบแห่งและ เข้าสู่ขอบเขตจ้าวสวรรค์ได้สาเร็จ พรสวรรค์เช่นนี้ไม่มีใครเทียบได้ ในโลก มีเฉพาะนักบุญหญิงเยียวยาสวรรค์เท่านั้นที่สามารถ เปรียบเทียบกับเขาได้ ข้าเชื่อว่าเขาจะสามารถเอาชนะเย่ชิวและก ลายเป็ นเทพได้ส าเร็จอย่างแน่นอน”
ณ จุดนี้ เย่อู๋เหินมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เขาเชื่อมั่นว่า เช่นเดียวกันทั้งพ่อและลูก ลูกเขาต้องสามารถสังหารเปิดทางให้พ้น จากความวุ่นวายและความโกลาหลในตระกูลที่ซับซ ้อนได้ ลูกชายยัง สามารถกลายเป็ นมังกรในหมู่มนุษย์ ตัวตนที่ผู้คนนับหมื่นนับถือ
เขามั่นใจในเย่ฉิงซวนเต็มสิบส่วน