ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 660 คาดเดา
บทที่ 660 คาดเดา
ในฐานะเจ้าสำนัก ซือหลินเชื่อว่าอู๋ฝานจะสามารถคว้าเอาชัยชนะมาครอบครองได้ แต่คนอื่นในสำนักเล่า?
หลังทุกคนครุ่นคิด พวกเขาต่างก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของซือหลิน มันไม่ใช่เพราะพวกเขาเกิดเชื่อในความแข็งแกร่งของชายหนุ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่เพราะพวกเขาเชื่อในการตัดสินใจของซือหลินผู้เป็นเจ้าสำนักต่างหาก
สิบปีก่อน สำนักล้ำสวรรค์ยากจะรักษาตำแหน่งสำนักชั้นสามเอาไว้ แต่หลังซือหลินขึ้นเป็นเจ้าสำนัก ผ่านมาเพียงสิบปี สำนักล้ำสวรรค์ก็ก้าวหน้าขึ้นอย่างมหาศาล ช่วงเวลาสิบปีนี้พวกเขาเติบโตจากการที่แม้จะเป็นสำนักชั้นสามยังยากลำบาก ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของสำนักชั้นสองในเจียงโจว พวกเขาอยู่ห่างจากสำนักชั้นหนึ่งอีกไม่มากเท่านั้น และทั้งหมดนี้คือความดีความชอบของซือหลิน
ด้วยเหตุดังกล่าว หลังอยู่ร่วมกันมานานหลายปี เหล่าผู้อาวุโสสำนักล้ำสวรรค์จึงเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และการตัดสินใจของซือหลิน เมื่ออีกฝ่ายกล่าวว่าเชื่อในตัวอู๋ฝาน พวกเขาก็ไม่คัดค้านหรือเห็นต่าง
“ในเมื่อทุกคนไม่เห็นต่าง งั้นก็ถือว่าตัดสินใจตามนี้แล้วกัน” หลังซือหลินเอ่ยจบ เขาก็หันไปมองผู้อาวุโสเทียนเหอ “เทียนเหอ โทรหาอู๋ฝานทันที แจ้งเขาว่าพวกเรารับข้อเสนอ นับจากวันนี้ไปพวกเราจะเป็นเหมือนวังเมฆาสีชาด นั่นคือจะเชื่อฟังคำสั่งของเขา!”
“เรื่องนี้… เจ้าสำนักเร่งร้อนเกินไปรึเปล่าครับ? พวกเราตัดสินใจเร็วขนาดนี้อู๋ฝานจะไม่ดูหมิ่นพวกเราเหรอ?” ผู้อาวุโสเทียนเหอเอ่ยถาม
“ไม่ โทรหาเดี๋ยวนี้ ยิ่งเร็วยิ่งดี!” ซือหลินตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าอู๋ฝานเปิดโอกาสให้พวกเราได้ เขาก็เปิดโอกาสให้สำนักอื่นได้เหมือนกัน ฝ่ายใดก็ตามที่ตัดสินใจได้เร็วกว่าย่อมได้รับผลประโยชน์และการดูแลจากเขาที่ดีกว่า สถานะของพวกเราในใจเขาก็ยิ่งสูงขึ้นด้วย การตอบรับที่ทันทีจะยิ่งทำให้แสงสว่างส่องมายังพวกเรามากยิ่งขึ้น”
ซือหลินมีความคิดที่กระจ่างชัด ในเมื่อตัดสินใจเข้าร่วมกับอู๋ฝานแล้ว ยิ่งพวกเขาเปิดเผยท่าทีรวดเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น หากถ่วงเวลาออกไปมีแต่จะทำให้เกิดความข้องใจจนอีกฝ่ายอาจหมดอดทน สุดท้ายข้อเสนอที่เคยเป็นของพวกเขาก็จะกลายเป็นของสำนักอื่น
“ครับเจ้าสำนัก ผมจะรีบดำเนินการ!” หลังได้ยินคำพูดของซือหลิน ผู้อาวุโสเทียนเหอก็ลุกขึ้นยืนตอบรับ
ตอนที่อู๋ฝานรับสายโทรศัพท์จากผู้อาวุโสเทียนเหออีกครั้ง มันเป็นช่วงที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน และเขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับสายอีกครั้งรวดเร็วถึงขนาดนี้ อีกทั้งฝ่ายนั้นยังตัดสินใจได้เรียบร้อยแล้วด้วย
“เจ้าสำนักของพวกคุณตัดสินใจได้เร็วดีครับ” อู๋ฝานยังต้องเอ่ยด้วยความประหลาดใจ
เดิมนั้นเขาคิดว่าสำนักล้ำสวรรค์อาจจะรอดูสถานการณ์วันพรุ่งนี้ก่อนค่อยตัดสินใจ แต่ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะตัดสินใจกันเร็วขนาดนี้
เรื่องนี้ทำให้ในใจของอู๋ฝานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยและนับถือเจ้าสำนักล้ำสวรรค์ที่ไม่เคยพบกันมาก่อน
บุคคลที่สามารถตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้อย่างรวดเร็ว ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา
“เจ้าสำนักบอกว่าหากนายน้อยอู๋มีคำสั่งใด ขอเพียงแค่เอ่ยปากออกมา พวกเราจะไม่มีแม้แต่ความคิดเห็นเป็นอื่นครับ” ผู้อาวุโสเทียนเหอบอก ท่าทีของเขาตอนนี้ยิ่งนอบน้อมและนับถืออู๋ฝานกว่าที่เคยเป็น อย่างไรนับจากนี้สำนักล้ำสวรรค์ของพวกเขาก็จะอยู่ภายใต้อาณัติของชายหนุ่ม มันไม่มีอะไรเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้ว
“ครับ” อู๋ฝานตอบรับ “วันพรุ่งนี้ให้เจ้าสำนักของพวกคุณไปรอผมนอกเมือง”
หลังวางสาย อู๋ฝานก็ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมเทเลพอร์ตเข้าสู่โลกแห่งเกม จนถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังประหลาดใจที่สำนักล้ำสวรรค์ยอมจำนน ความจริงแล้วตอนเอ่ยข้อเสนอไปนั้นเขาไม่ได้คาดหวังอะไรด้วยซ้ำ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตัดสินใจยังไงก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตนทั้งสิ้น เพราะต่อให้ไม่มีสำนักล้ำสวรรค์เข้าร่วม เขาก็ยังมั่นใจต่อชัยชนะ และต่อให้อีกฝ่ายไม่เข้าร่วมก็ยังมีตัวเลือกเป็นสำนักอื่นเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้คาดหวังอะไรกับสำนักล้ำสวรรค์มากนัก
หลังเที่ยงคืน อู๋ฝานเทเลพอร์ตสู่โลกแห่งเกม และทันทีที่มาถึงก็ได้กลิ่นไหม้เตะจมูก เขาสูดดมครู่หนึ่งก็ทราบว่าอะไรเป็นอะไร
เมื่อเปิดหน้าต่างออกไปและมองไปยังโรงเตี๊ยมแห่งเดิมที่เคยพักอาศัย ชายหนุ่มก็ได้เห็นความวุ่นวายที่อยู่ไกลห่าง จากนั้นจึงส่งอินทรีวายุออกไป ไม่นานเขาก็ได้เห็นภาพอันชัดเจน ว่าสิ่งปลูกสร้างที่เมื่อวานพวกเขาคิดใช้หลับนอนไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว มันเหลือเพียงเศษไม้ที่ถูกเผาไหม้ไม่หมดกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
และบรรดาบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงเตี๊ยมก็ยังได้รับความเสียหาย หลายหลังถูกไฟเผา
“เหอะ! โหดเหี้ยมได้ใจจริง ๆ เมื่อคืนคงมีคนตายไม่น้อย ไร้หัวใจจนเหมือนไม่ใช่คน” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเอง
หลังจากนั้นเขาก็ปิดหน้าต่าง ก่อนจะเดินกลับไปยังเตียงและนอนลงเพื่อรอให้ฟ้าสาง
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า เสียงเคาะประตูห้องเขาก็ดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าคนที่มาเคาะค่อนข้างร้อนใจอยู่พอสมควร
อู๋ฝานเดินไปเปิดประตู และคนที่มาคืออูหย่า
“เอาอะไรมาพูดว่าตื่นเช้า เพราะทั้งคืนข้านอนไม่หลับ!” หญิงสาวตอบกลับ
“เป็นโรคนอนไม่หลับหรือ?” เขาเอ่ยถาม
“เมื่อคืนเกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนั้นข้าจะเอาแก่ใจที่ไหนไปข่มตานอนหลับลงได้?” อูหย่าตอบกลับ “…ขณะที่เจ้าดูจะสงบนิ่งซะเหลือเกิน”
“จะเป็นอะไรไปล่ะ?” อู๋ฝานเอ่ย “ก็แค่ไฟไหม้เองไม่ใช่หรือ?”
“แต่สถานที่ที่ไฟมันไหม้คือโรงเตี๊ยมที่พวกเราจะใช้นอนค้างกันตอนแรกนะ!” นางตอบกลับ “ถ้าพวกเราไม่ตัดสินใจเปลี่ยนโรงเตี๊ยม ตอนนี้ก็โดนเผาไปกับเพลิงไหม้นั่นแล้ว”
“หายใจเข้าลึก ๆ พวกเรายังอยู่กันดี” ชายหนุ่มตอบ ก่อนจะบอกให้อูหย่านั่งลง
“อู๋ฝาน เจ้ารู้อะไรมากันแน่? ข้าอยากจะถามเจ้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ลั่วเยวี่ยห้ามเอาไว้ เพราะแบบนั้นทั้งคืนข้าถึงนอนไม่หลับและรอจนเช้าถึงมาพบเจ้า” อูหย่าบ่นออกมา
“ก่อนหน้านี้ข้าเพียงแค่คาดเดาและกังวลไปบ้างเท่านั้น” อู๋ฝานตอบกลับ
“คาดเดาและกังวลเรื่องอะไร?” อูหย่ารีบถาม
“เจ้ายังจำเรื่องที่เอาป้ายประจำตัวออกมาแสดงตรงประตูเมืองได้หรือไม่?” เขาถามกลับ
“ผู้บังคับบัญชาที่นั่นมองเจ้าด้วยสายตาแปลก ๆ เจ้าลองคิดตาม ราชวงศ์แห่งหนานปิงถูกฆ่าจนเกือบหมด เหลือเพียงเจ้ากับจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน ตอนนี้เจ้าปรากฏตัวและกลับมาอย่างปลอดภัย ปกติทหารในอาณาจักรหนานปิงที่ได้รู้เข้าคงตื่นเต้นกันยกใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่คนนั้นกลับไม่มีท่าทีตื่นเต้นอะไร สิ่งที่แสดงออกมาคือความตกใจก่อนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง” อู๋ฝานตอบกลับ
“เจ้าก็เลยคิดว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นมีเรื่องราวปิดบัง?”
“คนที่ไม่เคยพบเจ้าและไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน มีเหตุผลอะไรที่เขาจะตอบสนองอย่างผิดปกติเช่นนั้นกัน มันต้องเป็นเพราะมีคนอยู่เบื้องหลัง จนทำให้เขาคิดอ่านด้วยสีหน้าแบบนั้นแน่” เขาตอบกลับ
“เจ้ากำลังบอกว่าเป็นจ้าวชิวซานงั้นหรือ?” อูหย่านึกถึงความพยายามของอู๋ฝานที่บอกให้นางปฏิเสธคำเชิญไปพักอาศัยในจวนเจ้าเมือง
“ใช่ มีแต่คนตำแหน่งสูงถึงจะสามารถตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นได้” ชายหนุ่มตอบรับ “แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดก็เป็นเพียงสิ่งที่ข้าคิดและคาดเดาเท่านั้น ตอนนั้นไม่มีหลักฐาน แต่ข้าเชื่อว่าใช่ ดังนั้นจึงไม่ไว้ใจ ยังไงการระวังเอาไว้ก่อนก็ไม่ได้เสียหายอะไร”
หญิงสาวพยักหน้าตอบ
“อันที่จริงระหว่างทางมาที่นี่ ลั่วเป่าซงและข้าได้พูดคุยถึงเรื่องจ้าวชิวซานมาแล้ว อีกฝ่ายเป็นข้ารับใช้ที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์ชายสี่อูเฉียน เพราะแบบนั้นเขาถึงเป็นบุคคลที่ข้ามองว่าควรต้องระวัง” อู๋ฝานบอกต่อ
……….