ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 242 หัวหน้าหวัง บังเอิญจริงๆ
บทที่ 242 หัวหน้าหวัง บังเอิญจริงๆ
“เอ่อ…. คุณชายเฉิน จะต้องเป็นคนในบริษัทผมที่ไม่ลืมตาไปกินหัวใจหมีดีเสื้อโคร่งแน่ถึงได้กล้า เอาหน้าผมมาอ้าง คิดอยากจะหาเงินสีเทา คุณชายเฉิน คุณรอผมอยู่ที่508 ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เสิ่นหงชังกัดฟันพูด เรื่องมาถึงขั้นนี้ เรื่องราวแทบจะเห็นได้ชัดเจนแล้ว
ก่อนอื่นสามารถคัดห้องระดับสูงออกจากยู่ฉวนซาน คอนโดราคายี่สิบล้านนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาด้วยซ้ำ งั้นที่เหลือ ก็ต้องเป็นของผู้จัดการฝ่ายขายไม่กี่คนนั้น
เสิ่นหงชังกัดฟันดังเอี๊ยดอ๊าด เขาไม่ได้โกรธแบบนี้มานานแล้ว!
“แสดงเสร็จแล้วเหรอ?” เห็นเฉินเฟิงวางสาย จางหงพูดเฉื่อยๆ
“แสดงเสร็จแล้ว”เฉินเฟิงยิ้มเบาๆ เมื่อกี้ที่เขาโทรศัพท์ ไม่ได้เปิดลำโพง ดังนั้นคนที่อยู่ตรงนั้นไม่ได้ยินเสียงของเสิ่นหงชัง
“ประธานเสิ่นของพวกเราจะมาตอนไหน?” จางหงใบหน้าเยาะเย้ย คิดว่าที่เฉินเฟิงเสแสร้งได้ไม่เนียนเลย ไม่โทรหาคนอื่น ดันโทรหาประธานเสิ่น เห็นได้ชัดว่าสมองถูกลาถีบแล้ว
ที่เมืองชางโจว ขอแค่เป็นคน ก็ต้องรู้จัก เสิ่นหงชัง
“สิบนาทีมั้ง” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย
“สิบนาทีเหรอ? งั้นเกรงว่านายจะรอไม่ถึงประธานเสิ่นของพวกเรามาแล้ว” จางหงยิ้มเยาะ กล่าว: “เพราะว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดเรา จากนี้อีกห้านาที ก็มาถึงแล้ว”
“ถึงเวลานั้น พวกเขาจะจับนายโยนออกไปจากยู่ฉวนซาน”
“แน่นอน ถ้าตอนนี้นายยอมรับผิดกับฉันก่อน คุกเข่าลงขอร้อง ฉันสามารถให้พวกเขาปล่อยนายไป”
“ไอ้สวะ ยังไม่คุกเข่าให้กับผู้จัดการจางอีก!”หลินหลันโกรธมาก โดยไม่ต้องสงสัย เมื่อกี้เฉินเฟิงทำให้เธอเสียหน้าอีกครั้ง
ไอ้โง่สองคำนี้ไม่สามารถใช้บรรยายเฉินเฟิงในตอนนี้ได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีสมอง
แกจะแกล้งเป็นรู้จักใครไม่แกล้ง แกดันแกล้งทำเป็นรู้จักเสิ่นหงชัง?
คนเขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองชางโจว เถ้าแก่ใหญ่ของยู่ฉวนซาน แกเป็นใคร?
เด็กส่งอาหาร!
ฐานะของทั้งสอง เห็นได้ชัดว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว พูดออกไป กลัวว่าคนจะหัวเราะจนฟันร่วง
หลินหลันโมโหใกล้จะตายแล้ว เธอคิดไม่ถึง เฉินเฟิงในตอนนี้ ไม่มีสมองถึงขั้นนี้เลย
“คุกเข่าลง?”เฉินเฟิงยิ้มอย่างดูถูก มองไปที่จางหง พูดว่า: “แม่ คุณเชื่อไหมว่า หลังจากสิบนาที เขาจะคุกเข่าลงต่อหน้าผม?”
ใบหน้าของหลินหลันแข็งทื่อ ไอ้สวะนี่ ตอนนี้คิดไม่ถึงจะบ้าได้ถึงขั้นนี้?
ให้จางหงคุกเข่าให้เขา? เขามีสิทธิ์อะไร?!
“คุกเข่าให้กับนาย?”จางหงสีหน้าเป็นไปไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าคำพูดแบบนี้ของเฉินเฟิงก็กล้าพูด หยิ่งถึงขีดสุดอย่างชัดเจน
จางหงถูกยั่วโมโหจนหัวเราะออกมา: “วันนี้ฉันจะต้องคุกเข่าให้นายเหรอ งั้นฉันจะกระโดดลงไปจากตรงนี้”
จางหงชี้ไปที่หน้าต่าง ตรงนี้คือชั้นห้า กระโดดลงไป จะต้องตายอย่างอนาถแน่นอน
“ดี” เฉินเฟิงพูดเบาๆ จางหงอยากตายเอง เขาเองก็ไม่ห้าม
“งั้นถ้าฉันไม่คุกเข่าล่ะ? หรือว่านายจะกระโดดจากตรงนี้ลงไป?” จางหงยิ้มเยาะ
“ได้” เฉินเฟิงพยักหน้า
“ฮ่าฮ่า ถ้าฉันไม่คุกเข่า ฉันไม่ต้องการให้นายกระโดดจากตรงนี้ลงไป นายก็แค่คุกเข่าตรงหน้าฉัน แล้วก็ลอดใต้หว่างขาฉันไป เป็นไง?” จางหงทำหน้าทะเล้นพร้อมตอบเฉินเฟิง เขาแค่ชอบที่จะแกล้งให้เฉินเฟิงอับอายต่อหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา ไม่ใช่ให้เฉินเฟิงตายหรือพิการ.
“เอาที่นายสบายใจ” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย
“ปั่ง”
เสียงเพิ่งจบลง ประตูห้องก็ถูกผลักออก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนในเครื่องแบบถือกระบองไฟฟ้ารีบเข้ามา
“ผู้จัดการจาง คนไหนที่ไม่เบิกตามาก่อความวุ่นวาย?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนสีหน้าตาดุดัน
“ไม่ต้องแล้ว คนที่ก่อความวุ่นวายฉันจัดการแล้ว ตอนนี้พวกนายออกไปรอข้างนอกก่อน…” จางหงยิ้มพร้อมพูด แต่คำพูดของเขายังพูดไม่จบ แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“เฉิน……ท่านเฉิน?”
ดวงตาของหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเบิกกว้าง ลิ้นติดอ่าง ตีเขาให้ตายก็คิดไม่ถึงว่า จะเจอเฉิงเฟิงที่นี่อีกครั้ง
เดิมทีเขาอยากจะเรียกเฉินเฟิงว่าคุณชายเฉิน แต่หลังจากเผชิญหน้ากับการจ้องมองอันเฉียบคมของเฉินเฟิง เขาเปลี่ยนคำพูดทันที เสิ่นหงชังเคยกำชับเขา จะเปิดเผยฐานะของเฉินเฟิงไม่ได้
หวังต้าไห่?
สีหน้าของเฉินเฟิงก็แปลกใจ คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับหวังต้าไห่ที่นี่ อีกครั้ง
ครั้งแรกที่เจอหวังต้าไห่ อยู่ที่คฤหาสน์บนยอดเขา หวังต้าไห่ในตอนนั้นยังเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คฤหาสน์ เป็นเพราะว่าล่วงเกินเขาและถูกลดขั้นลงเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในตึกคอนโดธรรมดา
“หัวหน้าหวัง บังเอิญจริงๆ” เฉินเฟิงเอ่ยถามพร้อมกับยิ้ม
“บัง…..บังเอิญจริงๆ”หวังต้าไห่บีบรอยยิ้มบนใบหน้าที่แย่ยิ่งกว่าร้องไห้ ถ้าเป็นไปได้ละก็ ชีวิตนี้ของเขาไม่อยากเจอกับเฉินเฟิงอีก แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ วันนี้เขาดันถูกจางหงเรียกมาที่นี่
“พวกคุณรู้จักกันเหรอ?” จางหงขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าหวังต้าไห่กลัวเฉินเฟิงมาก นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
เฉินเฟิงก็แค่คนส่งอาหาร แม้ว่าหวังต้าไห่จะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่เขาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของยู่ฉวนซาน ทำไมเขาต้องกลัวเฉินเฟิง?
“ใช่รู้จัก” เฉินเฟิงพยักหน้า ยิ้มแล้วพูดว่า: “ฉันกับหัวหน้าหวังเป็นเพื่อนเก่ากัน”
“ใช่ๆ ผมกับท่านเฉินเป็นเพื่อนเก่ากัน” หวังต้าไห่ตอบด้วยรอยยิ้ม
“เพื่อนเก่า?” จางหงแสยะยิ้ม พูดว่า: “หวังต้าไห่ เพื่อนเก่าของนายกำลังสร้างปัญหาในยู่ฉวนซาน สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับยู่ฉวนซานของพวกเรา นายว่าควรทำไงดี?”
เดิมทีจางหงไม่คิดที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเฉินเฟิง เพราะว่าได้พนันกับเฉินเฟิงไว้แล้ว หลังจากสิบนาทีผ่านไปไม่คุกเข่าก็ให้เฉินเฟิงรอดหว่างขา หลังจากเห็นท่าทางมั่นใจของเฉินเฟิงในตอนนี้ จางหงกลับเปลี่ยนใจ รอดูสีหน้าของเฉินเฟิงไปก่อน
“ผู้จัดการจาง คุณเข้าใจอะไรผิดมั้ง”
หวังต้าไห่ขมวดคิ้วและพูด เฉินเฟิงก่อความวุ่นวาย?
ยังไม่ต้องหาว่าจริงหรือไม่ ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องจริง เขาจะกล้าทำอะไรเฉินเฟิงเหรอ?
อย่าว่าแต่เขาเลย ถึงจะเป็นเสิ่นหงชังเอง ก็ไม่แน่ว่าจะกล้าพูดคำว่าไม่ต่อหน้าเฉินเฟิง
“เข้าใจผิด? หวังต้าไห่ นี่นายกำลังสงสัยฉันเหรอ?”
สีหน้าของจางหงขรึมขึ้นมา ก็แค่หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คิดไม่ถึงว่าจะไม่ไว้หน้าผู้จัดการฝ่ายขายอย่างตัวเอง!
“ครับ”หวังต้าไห่ไม่อ้อมค้อม พูดว่า: “ผมรู้จักนิสัยของท่านเฉิน ผมไม่คิดว่าท่านเฉิน จะทำให้ยู่ฉวนซานของพวกเราเสียชื่อเสียง”
“งั้นความหมายของนายก็คือฉันทำให้เขาเสียชื่อเสียงเหรอ?” จางหงโกรธมากแต่กลับหัวเราะ
หวังต้าไห่พยักหน้า: “เป็นไปได้อย่างมาก”
พอคำนี้พูดออกมา บรรยากาศในห้องถูกระงับทันที
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพียงสองสามคนที่เพิ่งเข้ามายู่ฉวนซานต่างก็ตกตะลึง หัวหน้าหวังเป็นอะไรไป?
คิดไม่ถึงว่าเพื่อนของตัวเอง กล้าต่อกลอนกับผู้จัดการจาง?
“ดี! ดีมาก!”
จางหงถูกยั่วโมโหจนต้องกัดฟัน เขาคิดไม่ถึง หวังต้าไห่จะไม่ไว้หน้าเขาขนาดนี้ ไม่คิดว่าเพื่อเพื่อนที่ส่งอาหารแล้ว จะกล้าต่อกลอนกับเขา
“หวังต้าไห่ ฉันขอประกาศตรงนี้เลย นายถูกไล่ออก รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” จางหงพูดอย่างโมโห หวังต้าไห่ไม่ไว้หน้าเขา งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าหวังต้าไห่
“ไล่ผมออก? ผู้จัดการจาง ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีสิทธิ์นี้นะ” หวังต้าไห่ยักคิ้วขึ้น ทำอะไรไม่ได้โดยสิ้นเชิง เขาอยู่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย จางหงเป็นฝ่ายขาย ไล่เขาออกได้ มีเพียงผู้จัดการส้งเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจ