ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 73 ตบปาก หนึ่งร้อยครั้ง
บทที่ 73 ตบปาก หนึ่งร้อยครั้ง
คำพูดนี้พูดออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปพร้อมกัน
กู้ตงเชินกำลังจะมีเรื่องกับไป๋กว่างยี่?
“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร? มึงรู้ไหมว่าคุณชายไป๋ของพวกกูคือใคร!”หวังเจียงชี้ไปที่กู้ตงเชินแล้วพูดตะคอก เป็นแค่อันธพาลระดับจังหวัด แต่กล้าไม่เห็นคุณชายใหญ่ตระกูลไป๋อยู่ในสายตา คงไม่รู้จริงๆว่าคำว่าตายเขียนยังไง!
“กูไม่สนใจว่ามึงจะเป็นคุณชายขาวคุณชายดำอะไร กล้าทำร้ายคุณหนูสวี กูก็จะทำให้มึงกลายเป็นคุณชายตาย!”กู้ตงเชินพูดด้วยเสียงเย็นชา ในเมื่อคิดดีแล้วว่าจะมีปัญหากับตระกูลไป๋ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่มีอะไรให้กลัวแล้ว เกิดเรื่องขึ้น ล้วนสามารถโยนไปให้เฉินเฟิง ถ้าหากว่าเฉินเฟิงไม่มีปัญญาจัดการ อย่างมากเขาก็เก็บข้าวของแล้วหนีไป
“มึงอยากตายใช่ไหม!”ใบหน้าของไป๋กว่างยี่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง เขาลุกขึ้นมาจากโซฟาอย่างแรง กู้ตงเชินรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ยังกล้าไม่เคารพเขา นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการรนหาที่ตายงั้นหรอ!
“คนนามสกุลไป๋ ที่นี่คือเมืองชางโจว ไม่ใช่จินหลิงของพวกมึง ถ้ามึงอยากจะทำตัวกร่าง ก็ไสหัวกลับไปที่จินหลิง!”กู้ตงเชินหรี่ตาลง พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ได้!ดีมาก!”ไป๋กว่างยี่กำหมัดแน่น นัยน์ตาของเขาเคล้าไปด้วยความอาฆาต
“คุณชายไป๋ พวกเรากลับกันก่อนเถอะครับ ผู้ชายที่ดีไม่ยอมเสียเปรียบกับเรื่องตรงหน้า ไว้รอกลับจินหลิง พวกเราค่อยให้ไอ้พวกบ้านนอกพวกนี้รู้ ว่าอะไรคือการตายทั้งเป็น!”เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี หวังเจียงก็ยิ่งอยากจะพาตัวไป๋กว่างยี่ออกไปจากห้อง
ถึงแม้ไป๋กว่างยี่จะรู้สึกไม่พอใจ แต่นี่คือถิ่นของคนอื่น เขาที่ไม่รู้จักคนและไม่คุ้นชินพื้นที่ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หาคนมาช่วยไม่ได้จริงๆ
“กล้าให้กูรู้จักชื่อของมึงไหม?” ไป๋กว่างยี่มองเขม็งไปที่กู้ตงเชิน ถามเสียงเหี้ยม
กู้ตงเชินหัวเราะในลำคอ แล้วพูดขึ้น:“กูนามสกุลกู้ ชื่อตงเชิน จำเอาไว้ให้ดี!”
“กู้!ตง!เชิน!ดี กูจำเอาไว้แล้ว!”ไป๋กว่างยี่จ้องมองไปที่กู้ตงเชิน แล้วเตรียมที่จะออกไป
“เดี๋ยวก่อน อยากจะไปแล้วหรอ?” กู้ตงเชินกลับยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วยืนอยู่ตรงหน้าไป๋กว่างยี่
“มึงทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?!”สายตาของไป๋กว่างยี่ลุกเป็นไฟ เขายอมถอยหลังหนึ่งเก้าแล้ว แต่กู้ตงเชินกลับไม่อยากปล่อยเขาไป!
“มึงทำร้ายคุณหนูสวี แล้วอยากจะไปแบบนี้ มันคงไม่เข้าท่ามั้ง” กู้ตงเชินพูดเสียงเรียบ ถ้าเป็นไปได้ แน่นอนว่าเขาอยากจะให้ไป๋กว่างยี่ไป แต่ถ้าเฉินเฟิงมาถึง เห็นสวีเฟยหรงถูกทำร้าย แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไร เฉินเฟิงคงจะถลกหนังเขาออกมา
“นางสารเลวนี่ไม่เคารพคุณชายไป๋ของพวกกู ทุบตีมันแล้วจะทำไมห๊ะ?!”ไป๋กว่างยี่ยังไม่ได้พูดอะไร หวังเจียงกลับพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผล
สีหน้าของกู้ตงเชินเย็นยะเยือก:“กูคุยกับหัวหน้าของมึง มึงมันก็แค่หมารับใช้ มาเสือกอะไร!”
“โจวจิ้งหลง ตบปาก!หนึ่งร้อยครั้ง!”
“ครับท่านเชิน”โจวจิ้งหลงยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วมองไปด้านหน้า เขาไม่ชอบหวังเจียงมานานแล้ว ทั้งๆที่เป็นแค่หมารับใช้ตัวหนึ่ง แต่กลับเห่าเสียงดังกว่าเจ้านายของมันอย่างไป๋กว่างยี่
“ทำอะไร!กูขอเตือนพวกมึงเอาไว้ก่อนนะ กูเป็นถึงคนของตระกูลไป๋……”
“เพี๊ยะ”
หวังเจียงยังไม่ทันพูดจบ โจวจิ้งหลงก็ตบไปที่หน้าของหวังเจียงอย่างแรง
ตบไปหนึ่งครั้ง ก็ทำให้ฟันของหวังเจียงร่วงออกมาสองซี่ เห็นได้ชัดว่าโจวจิ้งหลงใช้แรงมากขนาดไหน
“คุณชายไป๋……”หวังเจียงจับหน้าแล้วมองไปที่ไป๋กว่างยี่อย่างขอความช่วยเหลือ
สีหน้าของไป๋กว่างยี่ดูไม่ดีเท่าไหร่:“กู้ตงเชิน อย่ารังแกคนมากเกินไป!”
“ยังตบปากไม่เสร็จเลย ก็บอกว่ารังแกคนมากเกินไปแล้วหรอ?” กู้ตงเชินหัวเราะออกมา แล้วพูดขึ้น
“จิ้งหลง ตบต่อ”
“ครับ ท่านเชิน” โจวจิ้งหลงพยักหน้าด้วยความดีใจ
ไป๋กว่างยี่กำหมัดแน่น แต่ก็ไม่ได้ห้าม
“เพี๊ยะ”
“บอกว่าพวกกูเป็นคนบ้านนอกหรอ?”
“เพี๊ยะ”
“บอกว่าพวกกูเป็นคนดอยหรอ?”
“เพี๊ย”
“บอกว่าท่านเชินของพวกกูเป็นหมาแมวหรอ?”
…………
โจวจิ้งหลงให้คนจับตัวหวังเจียงเอาไว้ แล้วตบไปที่หน้าของหวังเจียงเหมือนไม่ต้องการเงิน
ตอนแรกเริ่ม หวังเจียงยังมีการขอร้องให้ปล่อยเขา แต่พอตบไปตบมา หวังเจียงก็ไม่มีเสียงร้อง เขาถูกโจวจิ้งหลงตบจนสลบไป
หลังจากนั้นสองนาที โจวจิ้งหลงหายใจหอบ มองไปที่กู้ตงเชินด้วยความเคารพ แล้วพูดขึ้น:“ท่านเชินครับ ไม่มากไปไม่น้อยไป ครบหนึ่งร้อยทีพอดีครับ”
“อืม ไม่เลวๆ” เวลานี้หน้าของหวังเจียงบวมเหมือนหัวหมู มองดูแล้วไม่เหมือนคนเลยแม้แต่น้อย กู้ตงเชินยิ้มแล้วพยักหน้า ด้วยความพอใจ
“คนนามสกุลไป๋ หมารับใช้ของมึงกูได้สั่งสอนแทนมึงแล้ว ตอนนี้เรามาควรมาคุยกัน เรื่องระหว่างมึงกับคุณหนูสวีแล้ว” กู้ตงเชินมองไปที่ไป๋กว่างยี่ แล้วพูดขึ้น
“มึงอยากจะคุยยังไง?” ไป๋กว่างยี่กัดฟันกรอดแล้วพูดทีละคำ
“มึงคุกเข่าลงแล้วขอโทษคุณหนูสวี จากนั้นตบหน้าตัวเอง ตบจนกว่าคุณหนูสวีจะยกโทษให้มึง” กู้ตงเชินพูดเสียงเรียบ แต่เขารู้สึกว่าตนเองมีเมตตามากพอแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นเฉินเฟิง เกรงว่าไป๋กว่างยี่คนนี้ อย่างน้อยๆต้องทิ้งนิ้วมือเอาไว้ที่นี่สองนิ้ว
“กู้ตงเชิน ฆ่าได้หยามไม่ได้!”หน้าของไป๋กว่างยี่แดงก่ำ ให้เขาคุกเข่าให้ผู้หญิงคนหนึ่ง และยังต้องตบหน้าตัวเอง แบบนี้มันต่างอะไรกับฆ่าเขา ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ชีวิตนี้ของเขาไป๋กว่างยี่อย่าคิดจะเงยหน้าอีกต่อไป
“อั๊ยโย ยังจะมาพูดต่อความยาวสาวความยืดกับกูอีก คนนามสกุลไป๋ มึงคิดว่ากูไม่กล้าฆ่ามึงจริงๆหรอ!”กู้ตงเชินขมวดคิ้วเป็นปม แล้วพูดขึ้น
สวีเฟยหรงเม้มริมฝีปากแดง รู้สึกว่ากู้ตงเชินทำแบบนี้เกรงว่าจะเกินไปแล้ว แต่นั่นไม่ได้เป็นเพราะเธอสงสารไป๋กว่างยี่ ความเป็นจริงนั้น เวลานี้เธอมีใจคิดที่จะฆ่าไป๋กว่างยี่ แต่ว่าเธอเป็นกังวล กลัวว่าถ้ากู้ตงเชินทำผิดต่อไป๋กว่างยี่มากเกินไป จะทำให้ไป๋กว่างยี่แก้แค้นด้วยความบ้าคลั่ง
การแก้แค้นนี้ กู้คงเชินคงไม่สามารถแบกรับได้
สีหน้าของไป๋กว่างยี่เขียวช้ำไปหมด กัดฟันกรอดเสียงดัง
“คุกเข่า หรือว่าตาย? นามสกุลไป๋ รีบเลือกเร็วขึ้น ถ้ายังเลือกไม่ได้เดี๋ยวกูเลือกให้มึงเอง!”กู้ตงเชินพูดอย่างเหลืออด
“กู้ตงเชิน กูจะทำให้มึงเสียใจที่ทำแบบนี้ลงไป!”ไป๋กว่างยี่มองไปที่กู้ตงเชินด้วยสายตาอาฆาต
จากนั้นก็มีเสียงผละดังขึ้น คุกเข่าอยู่ตรงหน้าสวีเฟยหรง
“ขอโทษ!”ไป๋กว่างยี่กัดฟันพูด
หลังจากที่พูดจบ ก็ยกมือขึ้น แล้วตบไปที่หน้าของตนเอง
“ให้ตายสิ!มึงใช้แรงมากกว่านี้หน่อยได้ไหม ไม่ได้กินข้าวมาหรอ!”กู้ตงเชินพูดแล้วเอาขาเตะไปที่หน้าของไป๋กว่างยี่
ความอับอายที่รุนแรงนี้ทำให้ไป๋กว่างยี่โมโหจนแทบจะเป็นลมไป
“ท่านเชิน ช่างเถอะค่ะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ” สวีเฟยหรงถอนหายใจแล้วพูดขึ้น การที่กู้ตงเชินทำแบบนี้กับไป๋กว่างยี่ เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่มีทางแก้ไขหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว
“ในเมื่อคุณหนูสวีพูดแล้ว มึงก็ไสหัวออกไปเถอะ” กู้ตงเชินผายมือ เหมือนไล่แมลงวัน แล้วพูดขึ้น
ไป๋กว่างยี่ไม่ได้พูดจาเหี้ยมโหดอีก เพียงแค่มองไปทางกู้ตงเชินและสวีเฟยหรงด้วยความโกรธแค้น จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
รอให้เขากลับไปถึงจินหลิง เขาจะทำให้กู้ตงเชินชดใช้!
หลังจากไป๋กว่างยี่ไปแล้วนั้น สวีเฟยหรงถามด้วยความไม่เข้าใจ:“ท่านเชิน เมิ่งเหยาเป็นคนบอกคุณหรอว่าฉันอยู่ที่นี่?”
สามารถทำให้กู้ตงเชินออกหน้าได้ เกรงว่าจะมีแค่เสี้ยเมิ่งเหยาเท่านั้น เพียงแต่ เสี้ยเมิ่งเหยามีความสามารถที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“เอ่อ ใช่ครับ คุณหนูเสี้ยให้ผมมา” กู้ตงเชินลังเลพักหนึ่ง จากนั้นพูดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่เสี้ยเมิ่งเหยาจะไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเฉินเฟิงคือใคร ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่กล้าบอกว่าเป็นเฉินเฟิง
สวีเฟยหรงไม่ได้พูดอะไรอีก เห็นได้ชัดว่าท่าทีของกู้ตงเชินในตอนนี้กำลังพูดโกหก
เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น ก็คือเฉินเฟิงเป็นคนบอกให้เขามา อีกทั้งเฉินเฟิงยังไม่ยอมให้เขาพูด