novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 415 ดักฟัง

  1. Home
  2. เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
  3. ตอนที่ 415 ดักฟัง
Prev
Next

ตอนที่ 415 ดักฟัง!

เย่เฉินมองกัวเยว่หมิงที่สารภาพผิดแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมา

“คุณหมอกัวพูดเกินไป เราไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วหรอก ที่รัก เราดื่มให้คุณหมอกัวสักหน่อยดีไหม”

“ค่ะ ได้เลย”

ซูมู่ชิงเป็นผู้หญิงในเมืองหลวง หล่อนจึงดื่มเหล้าค่อนข้างเก่งทีเดียว

เย่เฉินเองก็จงใจให้กัวเยว่หมิงและซูมู่ชิงดื่มเหล้ากันทั้งสองคน ทางที่ดีคือพวกเขาสองคนดื่มกันจนเมาไปเลย

เพราะต่อไปเย่เฉินจะหาข้ออ้างหลบไปก่อน แล้วปล่อยให้พวกเขาสองคนอยู่กันตามลำพัง

หลังจากนั้นเย่เฉินก็จะแอบดูว่าหลังจากที่พวกเขาสองคนเมาแล้วจะพูดความจริงกันออกมาหรือไม่!

และแล้วทั้งสามคนก็จัดแจงใส่อาหารเข้าไปในหม้อพลางพูดคุยกันไปด้วย

“คุณหมอกัว เราต้องขอบคุณคุณมากๆ ต่างหาก คุณคิดดูนะถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมจะได้แต่งงานกับภรรยาดีๆ ที่สมบูรณ์แบบแบบซูมู่ชิงหรือเปล่า? ผมขอบอกแบบไม่อายเลยนะถึงเราจะแต่งงานกันได้แค่สี่วันแต่ก็รักกันมากๆ มีความสุขสุดๆ ตัวติดกันเป็นตังเมเลยล่ะ”

ซูมู่ชิงเองก็ส่งยิ้มหวาน เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหมอกัวก็ไม่ได้มีอะไรต้องเขินอาย

กัวเยว่หมิงกล่าวพลางระบายยิ้ม “ฮ่าๆ ทันทีที่ผมเข้าประตูมาก็เห็นแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกคุณสองคนดีกว่าแต่ก่อนมากเลยล่ะครับ เลยผมเองดีใจแทนคุณสองคนจริงๆ โดยเฉพาะคุณหนูซู! เย่เฉินคุณอาจจะไม่รู้ว่าสามปีที่ผ่านมานี้คุณหนูซูน่าสงสารขนาดไหน หล่อนต้องสะกดจิตเพื่อให้ได้อยู่กับคุณในฝัน ตอนนี้ผมไม่ต้องทนเห็นท่าทางน่าสงสารของหล่อนอีกแล้ว ฮ่าๆ”

ใบหน้าเย่เฉินแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจเขากลับไม่ได้คิดอย่างนั้น “ซูมู่ชิงเปล่าเปลี่ยวเดียวดายเหรอ? ตลอดสามปีที่ผ่านมาคุณก็อยู่เป็นเพื่อนหล่อนมาตลอดไม่ใช่หรือไง!”

กัวเยว่หมิงหยิบตะเกียบขึ้นมา “เนื้อนี่สุกแล้ว”

ทั้งสามคนคีบเนื้อแพะมาจิ้มน้ำจิ้ม กัวเยว่หมิงอดย้อนคิดไม่ได้

“ตอนนี้ผมยังจำได้อยู่เลยว่ามีครั้งหนึ่งที่คุณหนูซูเข้ารับการสะกดจิต กำลังถึงตอนที่คุณหนูซูจะได้กอดกับคุณ คุณหนูซูนอนอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้น แล้วยื่นมือขึ้นมาคว้าในอากาศ เหมือนว่ากำลังกอดคุณ เฮ้อ ตอนนั้นผมก็ภาวนากับสวรรค์อยากให้คุณหนูซูได้กอดเย่เฉินตัวจริง ในที่สุดตอนนี้ก็เป็นเรื่องจริงแล้วๆ! คุณหนูซูผมขอดื่มให้คุณนะครับ!”

กัวเยว่หมิงดื่มเหล้าในซูมู่ชิงอย่างตื้นตันใจ

ซูมู่ชิงมองกัวเยว่หมิงด้วยความซาบซึ้งใจ “คุณหมอกัวคะ ตลอดสามปีที่ผ่านมาฉันต้องขอบคุณคุณมากๆ เลย ถ้าไม่ได้คุณฉันก็ไม่รู้ว่าสามปีที่ผ่านมาฉันจะผ่านมันไปได้ยังไง”

ถ้าเป็นเมื่อก่อนบทสนทนานี้ของพวกเขา คงทำให้เย่เฉินซึ้งตามไปด้วย แต่คงจะไม่คิดอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

แต่ตอนนี้เย่เฉินกลับกลับพิจารณาบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในทุกคำพูดและทุกตัวอักษร!

“ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีกัวเยว่หมิงคุณคงผ่านมันไปไม่ได้เหรอ? เหอะๆ ไม่ใช่เพราะเขานอนกับคุณตั้งหลายครั้งแล้ว คุณเลยขอบคุณเขาล่ะสิ!”

เย่เฉินไม่ได้แฉทั้งสองคน แต่กล่าวออกมาแทนว่า

“ที่แท้ทุกครั้งที่ซูมู่ชิงกอดผมตอนโดนสะกดจิตเป็นแบบนี้เองเหรอ? แล้วถ้าจูบกันล่ะ? แล้วอย่างอื่นด้วยน่ะ? ฮ่าๆ อย่าว่าผมพูดเรื่องน่าเกลียดเลยนะ ผมคิดว่าที่ซูมู่ชิงต้องอยากทำแน่เลย หลายวันมานี้ผมสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นของหล่อนอย่างมากเลยล่ะ ฮ่าๆ”

สีหน้าซูมู่ชิงแดงระเรื่อแล้วตีเย่เฉินเบาๆ “น่าเกลียด อย่าพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคุณหมอกัวสิคะ”

ฮ่าๆ มีเรื่องอะไรน่าเกลียดกัน? อย่างไรก็คนเคยๆ กันทั้งนั้น!!

ทันใดนั้นเองกัวเยว่หมิงก็มีท่าทีตึงเครียด “ก็มีอยู่นะครับ เพราะผมคต้องอยควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วคุณหนูซูเองก็โดนสะกดจิต ในฐานะที่เป็นหมอ ผมไม่มีทางเป็นฝ่ายชักนำให้คุณหนูซูทำเรื่องแบบนี้แน่ อย่างไรเสียชายหญิงไม่เหมือนกัน ผมที่คอยดูอยู่ตลอด จริงๆ ก็อายมากเหมือนกัน แต่ว่าตอนที่คุณหนูซูเริ่มมีความคิดและกำลังจะไปในทางนั้น ผมก็จะออกจากห้องรักษาปล่อยหล่อนไว้คนเดียว แล้วให้หล่อนค่อยๆ จัดการตัวเอง”

ซูมู่ชิงเริ่มรู้สึกว่าหัวข้อนี้ออกจะอ่อนไหวเกินไป หล่อนจับมือเย่เฉินแล้วกล่าว “ครอบครัวคุณหมอกัวเป็นหมอกันทั้งบ้าน นิสัยและศีลธรรมของเขาไม่มีทางมีปัญหาอะไรแน่”

ปากเย่เฉินก็กล่าวว่า “แน่นอน ผมเชื่อคุณหมอกัว”

แต่ในใจเขากลับคิดว่า “เชื่อก็บ้าแล้ว! เดียรัจฉานอย่างนั้นจะต้องแอบลวนลามซูมู่ชิงตอนที่หล่อนรับการรักษาแน่!”

ตอนนั้นซูมู่ชิงอยู่ในสภาวะกึ่งกลับกึ่งตื่น นายออกจากห้องรักษาหรือเปล่า ใครจะไปรู้?

ผู้ชายคนไหนจะทนได้ไหวเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวงามล่มเมืองแบบนี้?

บวกกับที่พี่ชายคนโตของเขาเป็นคนบอกเขาเองอย่างชัดเจนว่าสองคนนี้มีอะไรในกอไผ่กัน!

“เดียรัจฉานกัวเยว่หมิงจะต้องมีปัญหาแน่ๆ! แต่ซูมู่ชิงอาจจะไม่ได้มีอะไร! บางทีตอนที่โดนสะกดจิตหล่อนอาจจะโดนแต๊ะอั๋งก็ได้”

ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็เริ่มมีความคิดอะไรแบบนี้โผล่เข้ามาในหัว เขาเองก็คิดว่าซูมู่ชิงคงจะไม่ใช่ผู้หญิงที่เลวร้ายอะไร ไม่อย่างนั้นหล่อนชักจะเสแสร้งเก่งเกินไปแล้ว

อีกทั้งจากส่วนลึกของจิตใจ เย่เฉินเองก็หวังว่าซูมู่ชิงจะเป็นผู้หญิงที่ดี

กินข้าวกันไปครึ่งชั่วโมง เย่เฉินก็มีสายโทรเข้ามาหา ซึ่งเย่เฉินได้สั่งเอาไว้

“ฮัลโหล อะไรนะ? ทำไม่เป็นแบบนี้ล่ะ? ก็ได้ นายจับเขาสองคนแยกกันก่อน เดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เย่เฉินกดวางสาย ซูมู่ชิงเห็นเย่เฉินหน้าเปลี่ยนสีก็รีบถาม“ที่รัก เป็นไรคะ? ใครโทรมาเหรอ?”

เย่เฉินกล่าว “ก็ลูกน้องผมน่ะสิ ซีกวากับเสี่ยวหวังไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร เขาสองคนทะเลาะกัน ผมเองต้องไปดูเองเสียหน่อย”

ซูมู่ชิงเองก็รู้ว่าเย่เฉินกับเสี่ยวหวังในตอนนี้เป็นลูกน้องที่ใช้ได้ที่สุดของเย่เฉิน และมีเพียงเย่เฉินเท่านั้นที่จะไกล่เกลี่ยได้

เย่เฉินลุกขึ้นแล้วกล่าว “ขอโทษด้วยนะครับ ผมมีธุระด่วน เลยอยู่ร่วมวงต่อไม่ได้”

“ไม่เป็นไรครับๆ ไว้ค่อยเจอกันคราวหน้า” กัวเยว่หมิงก็ลุกขึ้น

เย่เฉินจึงกล่าวถาม“คุณขับรถมาหรือเปล่า?”

กัวเยว่หมิงพยักหน้ารับ“ครับ ผมขับรถมาเอง”

เย่เฉินกล่าว “อ้อ เราไม่ได้เอารถมา เดี๋ยวพวกคุณกินข้าวเสร็จแล้ว รบกวนช่วยไปส่งภรรยาผมกลับบ้านหน่อยจะได้ไหมครับ?”

กัวเยว่หมิงรีบตอบ “ได้ครับๆ เดี๋ยวผมจัดการให้ ผมจะต้อไปส่งหล่อนกลับบ้านอย่างปลอดภัย คุณสบายใจเถอะ!”

เย่เฉินพยักหน้ารับ หลังจากนั้นก็กอดภรรยาก่อนจะเดินออกจากร้านไป

แน่นอนว่าก่อนจะออกไปนั้นเขาได้จัดกรแอบหยอดเครื่องดักฟังเข้าไปในกระเป๋าของซูมู่ชิง

หลังจากนั้นบทสนทนาของกัวเยว่หมิงและซูมู่ชิงก็ดังขึ้นในหูฟังของเย่เฉิน

ซูมู่ชิงและกัวเยว่หมิงตอนนี้ต่างก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อยแล้ว

บวกกับที่ ‘กขค.’ อย่างเย่เฉินก็ออกไปแล้วน่าจะเริ่มพูดความในใจหลังจากที่เมามายได้แล้ว

แต่ว่าเย่เฉินก็พบว่าบทสนทนาที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตนเองออกไปแล้วก็ปกติอย่างมาก

อีกทั้งสรรพนามของทั้งสองคนก็ยังคงเกรงอกเกรงใจกันอย่างมาก

ซูมู่ชิงยังคงเรียกกัวเยว่หมิงว่าคุณหมอกัว กัวเยว่หมิงเองก็ยังคงเรียกซูมู่ชิงว่าคุณหนูซู

พวกเขาสองคนให้เกียรติอีกฝ่ายอย่างมาก

เย่เฉินเองก็คิดว่าแปลกๆ ถ้าหากทั้งสองคนคบหากันจริงๆ ไม่น่าจะเกรงใจกันขนาดนี้

ทั้งสองนั่งต่อกันแค่สิบกว่านาทีแล้วก็ออกจากร้านกันไป

กัวเยว่หมิงเรียกคนขับมาขับรถแทน เดิมทีเขาและซูมู่ชิงเองสามารถนั่งอยู่ที่ด้านหลังรถด้วยกัน

แต่ว่ากัวเยว่หมิงกลับนั่งด้านข้างคนขับรถ ปล่อยให้ซูมู่ชิงนั่งด้านหลังรถ

อีกทั้งบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างทางของทั้งสองคนนั้นกลับปกติอย่างมาก

เย่เฉินเริ่มเกิดสงสัยขึ้นมาบ้างแล้ว….