เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 548 สถานการณ์วุ่นวาย
บทที่ 548 สถานการณ์วุ่นวาย
แม้ว่าการต่อสู้ที่ประตูเมืองจะจบลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีกองปืนไฟคอยสนับสนุน แต่เมื่อต้องเข้ามาต่อสู้ภายในเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้ราษฎรถูกลูกหลงไปด้วย พวกเขาจึงต้องหันมาใช้ดาบและหอกแทน
กองทัพทหารเกราะเหล็กก็มีคนได้รับบาดเจ็บและล้มตายอยู่บ้าง ดังนั้นเวลานี้วิธีการปฐมพยาบาลที่จี้จือฮวนเคยสอนจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์แล้ว เมื่อแพทย์ทหารมาถึงก็พบว่าพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
ส่วนทหารเมืองเจว๋เฉิงนั้นกำลังวุ่นวายเหมือนฝูงมด เมื่อถูกกองทัพทหารเกราะเหล็กไล่ล่า บางคนฉลาดก็ยอมจำนนแต่โดยดี ทว่าบางคนที่ไม่เชื่อก็ยังคงวิ่งหนีต่อไป ถึงขั้นสะดุดล้มลงไปในสระจระเข้บ้างก็มี
สรุปก็คือ เมื่อจี้จือฮวนที่ตั้งครรภ์มาถึงตรงทางเข้าเมือง ภายในและภายนอกเมืองเจว๋เฉิงก็ยังคงคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
ทุกที่ต่างมีคนกำลังเก็บศพอยู่ สนามรบนอกเมืองล้วนไหม้เกรียม ผู้คนจำนวนมากกำลังเก็บศพและลากออกไปนอกเมืองเพื่อเผาทีเดียว
แต่บางคนกลับอาศัยช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความโกลาหลนี้เที่ยวปล้นสิ่งของของผู้อื่น เผยยวนที่เพิ่งสู้จบยังไม่ทันได้นอนหลับพักผ่อน ก็ต้องสั่งให้เหล่ารองแม่ทัพไปวางกำลังคนทั้งภายในและภายนอกเมืองเจว๋เฉิงให้เรียบร้อยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนจับปลาในน้ำขุ่น* และไม่อาจปล่อยคนที่กำลังก่อความวุ่นวายในเมืองไปได้
* จับปลาในน้ำขุ่น (浑水摸鱼) หมายถึง ฉวยโอกาสในช่วงที่ชุลมุน
จี้จือฮวนมีพวกฉู่จิ้นมารอต้อนรับเข้าไปในเมือง ส่วนเผยยวนที่กำลังยืนอยู่บนกำแพงเมือง เมื่อได้ยินว่านางมาถึงแล้ว จึงรีบลงมาจากบนกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว
จี้จือฮวนมองไปทางทหารที่นอนอยู่ริมถนนแล้วพูดว่า “ทหารที่บาดเจ็บทั้งหมดได้รับการดูแลหรือยัง?”
“เจ้าวางใจเถอะ ท่านหมอเย่พาพวกป่านหลานเกินมาจัดการตั้งนานแล้ว บางคนที่อาการสาหัสก็ถูกหามเข้าไปไว้ในห้องที่สะอาดในจวนเจ้าเมือง เพื่อรอให้เจ้าไปตรวจดูอาการแล้ว”
จี้จือฮวนพยักหน้ารับรู้ “เช่นนั้นเจ้าไปทำงานต่อเถอะ ข้าจะเข้าเมืองไปดูพวกเขาก่อน”
ตอนนี้เรื่องทั้งในและนอกล้วนขาดเผยยวนไม่ได้ จี้จือฮวนเองก็ยุ่งกับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพราะบางครั้งหากช้าไปเพียงเล็กน้อยก็ช่วยคนกลับมาไม่ได้แล้ว
ขณะที่นางเตรียมจะลดม่านลง ก็นึกขึ้นได้จึงเปิดม่านออกอีกครั้ง และจ้องไปทางเผยยวน ก่อนถามว่า “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนนำทัพต่อสู้กับพวกเจ้าเล่ห์ที่ซือถูรุ่ยทิ้งเอาไว้เหล่านั้น
เผยยวนขยับแขนเล็กน้อย “หน้าอกถูกฟันหนึ่งที แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร”
เมื่อก่อนตอนเดินทัพทำศึกเขาเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสกว่านี้มาก ครั้งนี้จึงไม่ถือว่าร้ายแรงอะไร
จี้จือฮวนบีบมือเขาเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจวนเจ้าเมือง
จากนั้นนางก็พบว่ามีผู้บาดเจ็บมากกว่าที่นางคิดเอาไว้ บางคนแขนขาดขาขาด เย่จิ่งฝูก็ไม่กล้าเย็บ และยุ่งจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เมื่อจี้จือฮวนมาถึงนางจึงเหมือนเจอที่พึ่ง
“ครั้งนี้ข้าจะเป็นผู้ช่วยให้เจ้า เจ้ามาเย็บและบอกให้ป่านหลานเกินกับคนอื่น ๆ มาดูด้วย”
นางเพียงคนเดียวคงไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้นต้องให้พวกเขาเรียนรู้ให้เร็วที่สุด ศึกครั้งต่อไปมีแต่จะหนักขึ้น เพราะเผยยวนสามารถยึดสองเมืองคืนมาได้ติด ๆ กันในช่วงระยะเวลาไม่นาน ต้องเป็นการสร้างความกดดันให้กับเมืองอื่นอย่างแน่นอน
ดังนั้นพวกเขาคงจะร่วมมือกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนในหลงซีทั้งแปดเมืองได้ฝึกความสามารถในการปกป้องตนเองมานานแล้ว หากพวกเขาผนึกกำลังกัน เกรงว่าอาจจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบหรือยี่สิบปีทำศึกอยู่ที่นี่เป็นแน่
ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ตอนแรกที่เย่จิ่งฝูพาศิษย์พี่ศิษย์น้องมาเข้าร่วม จี้จือฮวนจึงให้พวกเขาเอาของใกล้มือมาฝึกเย็บเวลาที่อยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ
คนที่สามารถออกมาจากตระกูลหมอเทวดาได้ นอกจากลู่อวิ๋นเซียงที่รู้แค่งู ๆ ปลา ๆ แต่อาศัยชื่อเสียงหลอกลวงคนภายนอกแล้ว ศิษย์สายในที่เหลือย่อมมีทักษะทางการแพทย์ดีกว่าหมอทั่วไป
มิฉะนั้นก็คงไม่มีคนยกย่องพวกเขาอย่างรวดเร็วเพียงนี้
ตอนแรกที่เย่จิ่งฝูกราบนางเป็นอาจารย์ จี้จือฮวนก็นำเข็มที่ทำขึ้นเป็นพิเศษออกมาให้นางฝึกฝนด้วยตัวเองตอนที่ไม่มีอะไรทำ ตอนนี้ที่นางยังไม่กล้าก็เป็นเพราะยังไม่มั่นใจที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ก็เท่านั้น
“ข้า…”
“หากเจ้ายังทำไม่ได้และโอ้เอ้ต่อไปเช่นนี้ ขาข้างนี้ของเขาก็คงใช้การไม่ได้อีกแล้ว”
เย่จิ่งฝูจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “ข้าจะลองดู!”
ภายในค่ายปฐมพยาบาลที่แยกออกมา พวกเขาล้วนได้รับการฝึกอบรมจากจี้จือฮวนมาแล้ว นอกเหนือจากแพทย์ทหารแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยที่เหลือต่างก็สามารถทำการปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานได้
ในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงสั่งการที่สุขุมและมีพลังของพระชายาของตัวเอง จากนั้นทุกคนก็ค่อย ๆ สงบลง
มีพระชายาอยู่ พี่น้องเหล่านี้ต้องรอดไปได้อย่างแน่นอน!
เมื่อเย่จิ่งฝูตัดด้ายเสร็จ ก็มองไปทางจี้จือฮวนอย่างเป็นกังวล “ดะ…ได้หรือไม่? ดูเหมือนตะขาบนิดหน่อย”
จี้จือฮวนยกยิ้มขึ้นมา “เจ้าทำได้แล้ว!”
ความมั่นใจของเย่จิ่งฝูเพิ่มขึ้นมาอย่างมากทันที ประกอ