novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 เว็บสล็อต xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 315 ข้าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง

  1. Home
  2. เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]
  3. บทที่ 315 ข้าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง
Prev
Next

บทที่ 315 ข้าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง

แต่ช่างน่าเศร้าที่คำสาบานของหลินเป่ยเฉินไม่ก่อให้เกิดผลใดๆ เลย

เจ้าหน้าที่มือปราบ 4 นายกรูเข้ามาห้อมล้อมเด็กหนุ่มเอาไว้ทั้งซ้ายและขวา

เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นายนี้มีพลังอยู่ในขั้นปรมาจารย์ระดับ 6

หลินเป่ยเฉินคำนวณดูความเป็นไปได้ หากเขาทุ่มเทสุดกำลังน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 ลมหายใจหลบหนีการจับกุมตัวได้สำเร็จ แต่นั่นต้องมีเจ้าหน้าที่มือปราบแค่ 2 คนเท่านั้น แต่นี่เล่นยกโขยงกันมาถึง 4 คน หลินเป่ยเฉินรู้ชะตากรรมแล้วว่าเขาไม่มีทางหลบหนีได้เลย

ให้ตายสิ

เขาอุตส่าห์ออกปากสาบานแล้วแท้ๆ

ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อใจกันบ้างเลยนะ

หลินเป่ยเฉินบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ

ไม่นานหลังจากนั้น องค์ชายเจ็ด ถังกู่จิน หลิงจุนเซวียนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายชีวิต ก็ออกเดินทางตรงไปที่จวนสกุลหลินทันที

ไป๋ไห่ชินไม่ได้ติดตามไปด้วย

เขาอยู่ที่นี่เพื่อเฝ้าดูหลินเป่ยเฉิน

บรรยากาศในลานจัตุรัสกลับมาอยู่ภายใต้ความสงบอีกครั้ง

สายตาจำนวนมากจ้องมองหลินเป่ยเฉินด้วยความสงสัย

การเป็นสาวกปีศาจคือความผิดที่ไม่อาจให้อภัย มันเท่ากับเป็นการทรยศต่อความศรัทธาของผู้คน แม้แต่องค์จักรพรรดิหากถูกกล่าวหาเช่นนี้ ก็จะต้องรับบทลงโทษขั้นรุนแรงที่สุดเช่นกัน

“ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ องค์ชายเจ็ดกับใต้เท้าหลิงจะต้องทวงคืนความยุติธรรมมาให้ท่านได้แน่นอน”

เยว่หงเซียงพยายามปลอบใจ

หลินเป่ยเฉินได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร

น้องสาวเอ๋ย ทำไมถึงได้โลกสวยขนาดนี้นะ

รู้ทั้งรู้ว่าพ่อเขาสร้างห้องใต้ดินไว้บูชาปีศาจขนาดนั้น ยังจะมองโลกในแง่ดีได้อีก

ฮันปู้ฟู่ก็พยายามให้กำลังใจเช่นกัน “ศิษย์น้องหลินไม่ต้องเป็นห่วง หากมีผู้คนใส่ร้ายเจ้า เดี๋ยวความจริงก็เปิดเผยออกมาเองนั่นแหละ”

มี่หรู่หยานพูดว่า “พวกเราทุกคนสามารถเป็นพยานให้ท่านได้”

ไป๋ชินหยุนพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “มิผิด อย่าลืมสิว่าข้ามีเงินมากมายขนาดไหน หลินเป่ยเฉินผู้น่ารัก ถ้าเกิดเจ้าต้องติดคุกขึ้นมาจริงๆ เดี๋ยวข้าจะใช้เงินทั้งหมดประกันตัวเจ้าออกมาเอง”

หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

เขาเพิ่งจะสูญเสียตำแหน่งผู้ชนะการแข่งขันประจำปีไปไม่ทันไร ยัยเด็กแซ่ไป๋กลับมาเรียกเขาเป็นเพื่อนเล่นอีกแล้ว

ในเวลาเดียวกันนี้ ไป๋ไห่ชินหัวเราะในลำคออย่างมีความสุข

เด็กพวกนี้น่ะหรือที่จะมาเป็นพยานให้แก่หลินเป่ยเฉิน?

เมื่อถึงเวลานั้น เกรงว่าพวกเจ้าจะเอาตัวเองไม่รอดด้วยซ้ำ

ฉู่เหินและคณะอาจารย์คนอื่นๆ เดินขึ้นมาบนเวที แต่ยังไม่ทันจะเข้าถึงตัวหลินเป่ยเฉิน เจ้าหน้าที่มือปราบทั้ง 4 นายก็ได้ขยับมายืนขวาง คณะอาจารย์จึงทำได้เพียงยืนพูดปลอบใจเด็กหนุ่มอยู่ตรงนั้น ไม่กี่อึดใจให้หลัง ก็เริ่มมีเสียงตะโกนให้กำลังใจจากเพื่อนร่วมสถาบันดังออกมาจากกลุ่มคนดูบ้างแล้ว

ห่างออกมาไม่ไกล

ภายใต้รูปปั้นเทพีกระบี่

ดวงตาของนักพรตหญิงชินจับจ้องที่หลินเป่ยเฉิน

ดวงตาของนางปราศจากอารมณ์ความรู้สึก นักพรตหญิงชินเพียงจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลาด้วยเหตุผลบางประการ

แล้วกาลเวลาก็เดินผ่านไป

มีคนมาชุมนุมกันที่จัตุรัสหน้าวิหารมากขึ้นเรื่อยๆ

เสียงพูดคุยยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

“มีห้องบูชาปีศาจถูกสร้างอยู่ที่จวนสกุลหลินอย่างนั้นหรือ?”

“มันก็พูดยากนะ…”

“เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะถูกใส่ร้าย?”

“บัดนี้องค์ชายเจ็ด ผู้ตรวจการมณฑลถังกู่จิน และท่านเจ้าเมืองหลิงจุนเซวียน กำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเองแล้ว”

“แต่เจ้าก็เห็นไม่ใช่หรือว่าในช่วงหลังหลินเป่ยเฉินมีระดับพลังน่ากลัวขนาดไหน จากคนโหลยโท่ยกลายมาเป็นยอดอัจฉริยะในเวลาเพียงไม่นาน มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน”

“มิหนำซ้ำ พลังของเขามันก็แปลกๆ…”

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่านั่นเป็นพลังปีศาจ หรือว่าเจ้าเป็นสาวกปีศาจเสียเอง?”

เริ่มเกิดการโต้เถียงขึ้นในกลุ่มคนดู

ไป๋ไห่ชินรับฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“อาจารย์ขอรับ… อาจารย์ ช่วยข้าด้วย… ข้าเจ็บเหลือเกิน… ช่วยข้าด้วยขอรับ…”

พลัน เฉาพั่วเถียนที่นอนอยู่บนเปลหามร้องครวญครางออกมาอย่างน่าเวทนา ร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลชักกระตุกอยู่ตลอดเวลา

ไป๋ไห่ชินเดินเข้าไปส่ายหน้าและพูดว่า “ลูกศิษย์เอ๋ย เจ้าถูกพลังปราณปีศาจเล่นงาน อาจารย์ไม่สามารถช่วยเจ้าได้เลย ได้โปรดอดทนอีกสักนิด อาจารย์จะฆ่าหลินเป่ยเฉินเพื่อแก้แค้นให้เจ้าเอง…”

“ไม่เอาแล้วขอรับอาจารย์ ข้าน้อย…” เฉาพั่วเถียนพูดด้วยน้ำเสียงหมดหวัง “ได้โปรดอาจารย์ฆ่าข้าทิ้งเสียเถิด… ปลดปล่อยข้าน้อยให้เป็นอิสระ ข้าน้อยทนเจ็บปวดไม่ไหวอีกแล้ว”

ดูจากสีหน้าของเด็กหนุ่มผมทอง สำหรับเขา การมีชีวิตอยู่ก็ไม่แตกต่างไปจากการตกนรกทั้งเป็น

ไป๋ไห่ชินยังคงส่ายหน้า และหันมาพูดผ่านกระแสจิตแทนว่า “เฉาพั่วเถียน เจ้าจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป มิเช่นนั้นแล้ว ข้าจะแก้แค้นอาจารย์ของเจ้าได้อย่างไร?”

เฉาพั่วเถียนสะดุ้งเฮือก

ไม่รู้ทำไม เขากลับรู้สึกหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจ

เด็กหนุ่มผมทองพลันเริ่มคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

แต่จังหวะนั้นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นจากที่ห่างไกล

ปรากฏว่ากลุ่มคนที่เดินทางไปสืบสวนที่เกิดเหตุในจวนสกุลหลิน ได้เดินทางกลับมาถึงวิหารเทพกระบี่แล้ว

หลินเป่ยเฉินหันหน้ามองด้วยความสนใจ

องค์ชายเจ็ดและหลิงจุนเซวียนมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด

มีเพียงถังกู่จินคนเดียวเท่านั้นที่พยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ แต่ถึงอย่างนั้น มุมปากของเขาก็ได้ปรากฏรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

หลินเป่ยเฉินหัวใจหล่นวูบ

งานเข้าแน่ๆ อีแบบนี้

นับว่าบิดาเขาสร้างห้องใต้ดินเอาไว้ฝังบุตรชายตนเองแท้ๆ

ภายใต้การจับจ้องของสายตาผู้คนจำนวนมาก หลิงจุนเซวียนเดินกลับขึ้นมายืนอยู่บนเวทีอีกครั้ง เขาหันมามองหน้าหลินเป่ยเฉินเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ และหันกลับไปพูดกับกลุ่มคนดู “จากการสืบสวนห้องใต้ดินที่จวนสกุลหลิน พวกเราก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าห้องใต้ดินแห่งนั้น ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่บูชาปีศาจจริงๆ มันถูกสร้างขึ้นมาได้สิบกว่าปีแล้ว หลักฐานสำคัญคือแท่นบูชาปีศาจที่พบอยู่ในห้องใต้ดิน มีสภาพการใช้งานที่บอกชัดว่า…”

พูดมาถึงตรงนี้ท่านเจ้าเมืองก็หยุดเล็กน้อย

หัวใจของผู้คนที่ยืนอยู่รอบตัวหลิงจุนเซวียนแทบจะหยุดเต้นด้วยความลุ้นระทึก

ได้ยินหลิงจุนเซวียนกล่าวต่อ “สภาพการใช้งานของมันบอกว่าแท่นบูชาปีศาจถูกสร้างขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใส่ความผู้คน นั่นเท่ากับว่าบิดาของหลินเป่ยเฉินใช้งานมันเพื่อบูชาปีศาจจริงๆ”

ชาวเมืองส่งเสียงอุทานออกมาดังสับสนอลหม่าน

เสียงอุทานของทุกคนดังไม่ต่างไปจากเสียงคลื่นลมในมหาสมุทรยามเกิดพายุ

ฉู่เหิน หลิวฉีไห่และพานเว่ยหมินยืนตกตะลึง

คณะอาจารย์คนอื่นๆ และลูกศิษย์จากสถานศึกษากระบี่ที่สามยืนทำอะไรไม่ถูก

ผู้เข้าแข่งขันรอบศึกชิงธงที่ยืนร่วมอยู่บนเวที ต่างก็มีสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน

แต่คนที่ตกตะลึงมากที่สุดก็คือหลินเป่ยเฉิน

“เป็นไปไม่ได้”

เขาตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว

แต่ไม่มีใครเชื่อหลินเป่ยเฉินอีกแล้ว

ชาวเมืองที่เคยตะโกนเรียกชื่อและปรบไม้ปรบมือให้กำลังใจเขาอยู่เมื่อสักครู่นี้ กำลังจ้องมองเขาเหมือนเด็กหนุ่มเป็นปีศาจร้ายตนหนึ่ง

ทุกอย่างกลับไปสู่จุดเริ่มต้นตอนที่เขาทะลุมิติมาอยู่ที่นี่วันแรก

หลินเป่ยเฉินรู้สึกเหมือนเทวดาตกสวรรค์ ความใฝ่ฝันทุกอย่างพังทลาย ความรู้สึกเดียว ณ บัดนี้ที่สัมผัสได้ ก็คือความเกลียดชังของผู้คนนับหมื่นที่พุ่งตรงมาหาเขาเป็นจุดเดียว

“ฮ่าฮ่าฮ่า หลินเป่ยเฉิน เจ้ามีคำใดจะพูดอีกหรือไม่?”

ไป๋ไห่ชินระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจ

หลินเป่ยเฉินสวนกลับไปเสียงแข็งกระด้าง “สิ่งที่บิดาของข้าเคยทำไว้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้าด้วยสักหน่อย อีกอย่างข้าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ซ้ำยังเป็นเด็กที่สมองมีปัญหา…”

“นั่นเป็นเพราะว่าบิดาเจ้าตามใจเจ้ามากเกินไปต่างหาก ทุกคนในเมืองรู้ดี แล้วทำไมเจ้าถึงยังไม่รู้ตัวอีก?” ไป๋ไห่ชินแสยะยิ้มเหยียดหยาม “ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสาวกปีศาจก่อนหน้านี้ จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าเลยอย่างนั้นหรือ? ไม่ว่าจะเป็นเซินเฟยหรือใต้เท้าฟาง ต่างก็ต้องตายเพราะถูกพลังปราณปีศาจเล่นงานหลังมีปัญหากับเจ้า เฉาพั่วเถียนลูกศิษย์ของข้าที่ต่อสู้กับเจ้า ก็ถูกพลังปราณปีศาจเล่นงานเช่นกัน… หรือเจ้าจะบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ?”

“สิ่งที่ข้ากำลังจะบอกก็คือ…” หลินเป่ยเฉินอยากจะโต้เถียงกลับไปแต่ก็พูดไม่ออก

เพราะว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ

เด็กหนุ่มพบว่าตนเองไม่มีหนทางอธิบายความบริสุทธิ์ได้เลย

“เจ้าหน้าที่ คุมตัวหลินเป่ยเฉินไปขังคุก ยุติพิธีมอบรางวัลผู้ชนะประจำปีไว้เพียงเท่านี้ รอจนกระทั่งสืบสวนได้ความจริงเมื่อไหร่ เราจะมาตัดสินใจกันอีกที”

หลิงจุนเซวียนออกคำสั่งเสียงดังเฉียบขาด

“ช้าก่อน”

ทันใดนั้น ถังกู่จินเดินออกมาข้างหน้า

ผู้ตรวจการมณฑลร่างผอมบางขึ้นมายืนอยู่บนเวที เขากวาดตามองชาวเมืองที่อยู่ด้านล่างและพูดเสียงดังฟังชัด “ข้าเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้จำเป็นต้องอธิบายให้ชาวเมืองทุกคนได้รับฟัง การสืบสวนหลินเป่ยเฉินจะเกิดขึ้นที่นี่ ต่อหน้าประชาชนและการถ่ายทอดสด มีแต่ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นถึงจะป้องกันไม่ให้เกิดการช่วยเหลือผู้กระทำผิดได้… หึหึ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว เมื่อคืนข้าได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสืบสวนเรื่องราวบางอย่างและได้พบหลักฐานมากมายที่สามารถเอาผิดหลินเป่ยเฉินได้อย่างแน่นหนา เมื่อประกอบกับการค้นพบห้องบูชาปีศาจในจวนสกุลหลิน ข้าก็เชื่อว่าเด็กหนุ่มผู้ชั่วร้ายคนนี้ ไม่มีทางรอดพ้นโทษประหารได้เด็ดขาด…”

ถังกู่จินตบมือส่งสัญญาณและพูดว่า “เบิกตัวพยานมาเดี๋ยวนี้ !”