novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 เว็บสล็อต xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 319 การกลายร่างที่น่าสะพรึง

  1. Home
  2. เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]
  3. บทที่ 319 การกลายร่างที่น่าสะพรึง
Prev
Next

บทที่ 319 การกลายร่างที่น่าสะพรึง

ถังกู่จินเฝ้ารอสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

เขาขยิบตาส่งสัญญาณให้ไป๋ไห่ชิน

ในที่สุดก็ได้เวลาปิดฉากทุกอย่างแล้ว

หลินเป่ยเฉินไม่มีทางหลุดรอดไปได้อีกเด็ดขาด

อย่าว่าแต่ข้อกล่าวหาเดิมของเด็กหนุ่มเลย หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี หลิงจุนเซวียน นักพรตหญิงชินและองค์ชายเจ็ดก็จะต้องเดือดร้อนด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าเขาคงไม่สามารถกำจัดทุกคนได้พร้อมกัน

แต่อย่างน้อย เหตุการณ์ครั้งนี้ก็จะทำให้ถังกู่จินสามารถครอบครองอำนาจได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น

คิดได้ดังนั้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกายแวววาว

ทว่า ผ่านไปถึงสิบลมหายใจก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้นอยู่ดี

นี่มันอะไรกัน?

ถังกู่จินเหลือบมองไป๋ไห่ชินโดยไม่รู้ตัว

ไป๋ไห่ชินก็มีสีหน้ามึนงงเช่นกัน

ในวินาทีชี้เป็นชี้ตาย ยังจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อีกหรือ?

“หลินจิ้นหนานบูชาปีศาจมานานกว่า 10 ปี นั่นอาจจะส่งผลให้บุตรชายของเขากลายเป็นสาวกคนสำคัญของพวกปีศาจก็ได้ นี่หมายความว่าแผนการที่พวกเราวางเอาไว้ทั้งหมด อาจต้องพบกับความล้มเหลวแล้ว”

ถังกู่จินคิดได้ดังนั้นก็รีบมองหาทางออกให้กับตนเองโดยเร็ว

หลิงจุนเซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ท่านกล่าวแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? นี่ท่านกำลังดูถูกความสามารถของนักพรตหญิงชินอยู่หรือ?”

ถังกู่จินหรี่ตาลงเล็กน้อยขณะตอบว่า “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่บางทีนักพรตหญิงชินอาจมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไปก็ได้ บัดนี้ นอกจากเราจะปล่อยตัวหลินเป่ยเฉินไม่ได้แล้ว เราต้องคุมขังเขาให้แน่นหนา และกฎหมายของจักรวรรดิเราก็เป็นที่รู้ดีว่าผู้ใดเป็นสาวกปีศาจ มันผู้นั้นจะต้องถูกประหารชีวิต อย่าว่าแต่นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรมใต้เท้าฟางเจิ้นหรู่ ซึ่งมีความสำคัญอย่างใหญ่หลวง”

“ท่านจะคุมขังหลินเป่ยเฉินไม่ได้” ทันใดนั้นมีเสียงของใครบางคนพูดขึ้น “เขาได้รับเหรียญตราผู้สร้างความดีความชอบใหญ่หลวง จึงทำให้มีสถานะเป็นผู้ที่อยู่เหนืออำนาจกฎหมายทั้งมวล”

ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง

และพบว่าคนพูดก็คือพานเว่ยหมิน

“หึหึ ท่านกำลังหมายถึงเหรียญตราเกียรติยศ สำหรับพลเรือนชั้นสามใช่หรือไม่? มันเป็นเหรียญที่สามารถใช้ได้ก็แต่ในเมืองหยุนเมิ่งเท่านั้น” ถังกู่จินหัวเราะเยาะและพูดต่อ “เรื่องที่เขามีเหรียญตราข้าเองก็รู้ดี แต่น่าเสียดายที่ทุกคนคงไม่รู้ว่าหลินเป่ยเฉินได้รับการประดับเหรียญตราเพราะเหตุใด… ซางหยาน ช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้ทุกคนได้เข้าใจหน่อยซิ”

อู๋ซางหยานก้าวเดินออกมาข้างหน้าอย่างแช่มช้าและหยิบศิลาฉายภาพออกมาก้อนหนึ่ง

หลังจากนั้นมันก็ฉายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหุบเขาชายแดนเหนือ

มันเป็นการบันทึกภาพตอนที่หลินเป่ยเฉินเพิ่งจะสังหารหมู่กลุ่มกองโจรบนภูเขาเสร็จเรียบร้อย คาดว่าผู้ที่บันทึกภาพเอาไว้น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่มือปราบสักคนสำหรับนำมาทำสำนวนคดีในภายหลัง

ภาพที่ทุกคนได้เห็นก็คือศพของโจรภูเขาเหล่านั้น ต่างก็ถูกตัดศีรษะคว้านหัวใจ เลือดเป็นสายไหลนองกองเต็มพื้น นับว่าเป็นภาพที่สยดสยองเกินพรรณนา

“กลุ่มคนพวกนี้ถูกหลินเป่ยเฉินฆ่าตายทั้งหมด”

ถังกู่จินหันกลับไปทอดสายตามองชาวเมืองนับหมื่นคนที่มารวมตัวกันอยู่ในลานจัตุรัส พลัน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์กระแทกกระทั้น “ทุกคนคิดว่าเหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไร? เด็กหนุ่มตัวคนเดียวจะสามารถสังหารนักล่าอสูรฝีมือร้ายกาจนับร้อยคนได้จริงหรือ? และแม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นผู้ร้ายก็จริง แต่เมื่อพวกเขาเสียชีวิต หลินเป่ยเฉินกลับกระทำการตัดหัวคว้านหัวใจอย่างอำมหิตนัก…”

สีหน้าของชาวเมืองพลันแปรเปลี่ยนไป

คำพูดของถังกู่จินกระแทกเข้าไปในหัวใจของทุกคน

ที่ผ่านมา ชาวเมืองเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหลินเป่ยเฉินจำนวนมาก เนื่องจากได้รับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันค้นหาผู้มีพรสวรรค์ประจำเมือง เด็กหนุ่มสามารถแสดงฝีมือได้อย่างน่าประทับใจ เขามีนิสัยเหมือนบุตรชายคนเล็กในครอบครัวใหญ่ของใครสักคน แม้จะมีนิสัยดื้อดึงและทะเล้นเกินขอบเขตอยู่บ้าง แต่สุดท้ายเขาก็มีความจริงใจต่อทุกคนเสมอ

ทว่า ภาพเหตุการณ์สังหารหมู่ในหุบเขาชายแดนเหนือ ก็ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นมาของหลินเป่ยเฉินในจิตใจของชาวเมืองต้องพังทลายไม่เหลือชิ้นดี

หลายคนอดคิดไม่ได้ว่าหรือเขาจะเป็นสาวกปีศาจจริงๆ?

แม้ฉู่เหินกับพานเว่ยหมินจะพยายามส่งเสียงตะโกนอธิบายด้วยเหตุผลที่ควรรับฟัง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของชาวเมืองที่มีต่อเด็กหนุ่มได้อีกแล้ว

หลินเป่ยเฉินผู้ยืนอยู่บนเวทีได้แต่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น

ถังกู่จินเตรียมหลักฐานทุกอย่างมาแน่นหนาหมดแล้ว

ไม่ว่าหลินเป่ยเฉินพยายามอธิบายอย่างไร คำพูดของเขาก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี

แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มไม่เข้าใจเลยก็คือ

ถังกู่จินมีตำแหน่งเป็นถึงผู้ตรวจการมณฑลเฟิงอวี่ ถือว่าเป็นขุนนางระดับสูง แล้วทำไมถึงต้องลดตัวลงมามีปัญหากับปลาซิวปลาสร้อยอย่างเขาด้วย?

หลินเป่ยเฉินไม่สามารถหาคำตอบได้เลยจริงๆ

แน่นอนว่าเด็กหนุ่มไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าชาวเมืองจะมองตนเองเป็นบุคคลเช่นไร

คำถามสำคัญในขณะนี้ก็คือเขาจะนำพาตนเองออกจากปัญหานี้ได้อย่างไรต่างหาก

ในระหว่างที่หลินเป่ยเฉินกำลังใช้ความคิดจนสมองแทบแตกนั่นเอง

สิ่งที่น่าสะเทือนขวัญพลันเกิดขึ้น

“อ๊าก…”

“อ๊ะ อ๊าก!”

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นบนเวทีมอบรางวัล

เสียงนั้นฟังดูแปลกประหลาด เหมือนสัตว์ร้ายบาดเจ็บใกล้ตาย หรือไม่ก็เป็นเสียงที่หลุดรอดออกมาจากด้านหลังประตูนรก

และสิ่งที่ทุกคนได้พบเห็นก็คือเยว่หงเซียงกับมี่หรู่หยานกำลังมีควันสีดำโชยออกมาจากร่างกาย

นั่นคือพลังปราณปีศาจ!

เจ้าหน้าที่มือปราบสองนายซึ่งคุมตัวเด็กสาวทั้งสองคน ไม่มีเวลาได้ทำสิ่งใดทั้งสิ้น ร่างกายของพวกเขาชักกระตุกก่อนที่จะส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด พลังลมปราณถูกดูดออกไปจากภายในตัว และผ่านไปเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ร่างที่กำยำล่ำสันของพวกเขาก็เหี่ยวแฟบไม่ต่างไปจากผลไม้ตากแห้ง…

ลำแสงสองสายพุ่งออกมาจากลำตัวของเจ้าหน้าที่มือปราบผู้โชคร้าย ตรงเข้าไปในปากของมี่หรู่หยานกับเยว่หงเซียง… ซึ่งกำลังส่งเสียงคำรามแหบต่ำในลำคอ

ตามใบหน้า ลำคอและแขนขาของเด็กสาวทั้งสองขณะนี้ เต็มไปด้วยรอยอักขระสีดำน่าขนลุก ร่างอรชรของพวกนางบวมเป่ง เสื้อผ้าฉีกขาด ร่างกายที่ควรจะขาวเนียนกลับเต็มไปด้วยไอปีศาจดำขมุกขมัว เล็บมือของพวกนางงอกยาวออกมาเหมือนกับกรงเล็บของสัตว์ร้าย เพียงลมหายใจเดียวเท่านั้น เล็บมือทั้งสิบของมี่หรู่หยานกับเยว่หงเซียงก็มีความยาวเท่ากับกระบี่เล่มหนึ่ง…

วูบ!

กรงเล็บสาดประกายเย็นเยียบ

แล้วเจ้าหน้าที่ผู้ถูกดูดพลังทั้งสองคนนั้นก็ถูกกรงเล็บของพวกนางฟันจนร่างกายขาดกระจายเป็นหลายส่วน เศษเนื้อปลิวว่อนในอากาศ เช่นเดียวกับม่านหมอกเลือดที่สาดกระจายไปรอบทิศทาง

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้สร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกๆ คน

แม้แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังตั้งตัวไม่ทัน

นี่มันอะไรกันครับเนี่ย?

นี่มัน… อาการคลุ้มคลั่งหรืออย่างไร?

ตอนที่แข่งขันรอบคัดเลือก เซินเฟยก็กลายร่างเป็นปีศาจเช่นนี้ หมอนั่นดูดพลังไปจากเถาว่านเฉิงและหลี่เทา ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบานของตนเอง

ทำไมภาพเหตุการณ์ ณ ขณะนี้ มันถึงเหมือนเหตุการณ์ในตอนนั้นเหลือเกิน?

แต่ที่สำคัญก็คือ การกลายร่างของเยว่หงเซียงกับมี่หรู่หยาน มีระดับความรุนแรงมากกว่าเซินเฟยหลายเท่า

รัศมีทำลายล้างที่น่าขนลุกแผ่ออกมาจากร่างกายของเด็กสาวทั้งสอง

“พี่มี่ ท่าน…”

“หงเซียง เจ้าเป็นอะไรไป?”

ไป๋ชินหยุนกับฮันปู้ฟู่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ตกอยู่ภายใต้ความตื่นตะลึง

ทั้งสองคนรีบพุ่งเข้าไปหาเยว่หงเซียงกับมี่หรู่หยานด้วยสัญชาตญาณของความเป็นเพื่อน พวกเขาไม่คิดห่วงตัวเอง มีแต่ต้องการหยุดยั้งไม่ให้พวกนางฆ่าคนอีกต่อไป

หลินเป่ยเฉินตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอยออกจากร่าง

เขาเห็นมากับตาว่าตอนที่เซินเฟยกลายร่างเป็นปีศาจแล้วนั้น หมอนั่นสามารถฆ่าพี่น้องร่วมสาบานของตนเองได้โดยไม่มีความรู้สึกใดๆ

“อย่านะ…”

หลินเป่ยเฉินร้องตะโกนและกระโดดเข้าไปหาไป๋ชินหยุนกับฮันปู้ฟู่ด้วยความรวดเร็วมากที่สุดในชีวิต

แต่มันก็สายเกินไป

วูบ!

กรงเล็บสาดประกายเย็นเยียบ

เลือดสาดกระจายในอากาศ

ฮันปู้ฟู่กับไป๋ชินหยุนยืนตัวแข็งทื่อ สีหน้าแสดงออกถึงความเจ็บปวดสุดขีด