novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 เว็บสล็อต xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 441 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ... ต้องหาโอกาสทำเงินอยู่เสมอ?

  1. Home
  2. เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]
  3. บทที่ 441 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ... ต้องหาโอกาสทำเงินอยู่เสมอ?
Prev
Next

ตอนที่ 441 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ… ต้องหาโอกาสทำเงินอยู่เสมอ?

ทางด้านหัวหน้าคณะอาจารย์ทั้ง 3 ท่านอย่างฉู่เหิน หลิวฉีไห่ และพานเว่ยหมิน ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น

“นี่มันอะไรกัน?”

“นี่มันหลินเป่ยเฉินตัวจริงหรือตัวปลอมกันแน่?”

“กระบวนท่าเมื่อสักครู่นี้คืออะไร?”

ชายชราทั้ง 3 ท่านอุทานออกมาพร้อมกัน หัวใจเต้นรัวเร็วด้วยความพิศวง

พานเว่ยหมินหันมามองหน้าฉู่เหินและบอกว่า “อย่ามัวแต่นั่งเฉยอยู่สิ ยังไม่รีบทุบไหล่เฒ่าหลิวอีก…”

“ทุบทำไมล่ะ?”

ฉู่เหินถามกลับมาด้วยความไม่เข้าใจ แต่มือของเขาก็ทุบลงไปบนหัวไหล่ของหลิวฉีไห่เสียงดังผลั่ก

กร๊อบ!

ได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังขึ้น

บัดนี้ ฉู่เหินยังคงอยู่ในอาการตกตะลึงจึงไม่ได้ผ่อนแรงแขนกลลงขณะทุบกำปั้นไปบนหัวไหล่หลิวฉีไห่

พานเว่ยหมินหันขวับไปมองหน้าหลิวฉีไห่ แล้วถามว่า “เฒ่าหลิว เจ้าเจ็บหรือไม่?”

หลิวฉีไห่พยักหน้าทันที “ เจ็บ…”

พานเว่ยหมินพึมพำว่า “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ไม่ได้ฝันไป”

หลิวฉีไห่กับฉู่เหินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

ชายชราทั้งสองคนได้แต่สบถก่นด่าพานเว่ยหมินอยู่ในใจ

แต่ในกลุ่มคนทั้งหมด คงไม่มีใครตกตะลึงมากไปกว่าติงซานฉือ

เขาลุกขึ้นยืนอ้าปากค้าง ดวงตาจ้องมองไปที่เวทีด้วยความตะลึงงัน เหมือนเห็นพี่ชายที่พลัดพรากกันไปหลายสิบปีปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างไรอย่างนั้น

เจ้าเด็กคนนี้ใช้เวลาเพียงคืนเดียวก็ฝึกได้ถึงขนาดนี้แล้วหรือ?

ก่อนหน้านี้ที่เห็นหลินเป่ยเฉินใช้กระบวนท่าที่ 1 เอาชนะคู่ต่อสู้ ติงซานฉือก็ตกตะลึงมากพอแล้ว

แม้จะรู้ว่าหลินเป่ยเฉินสามารถฝึกวิชาได้ยามหลับใหล แต่ความยอดเยี่ยมในระดับนี้ มันฝืนกฎธรรมชาติเกินไปจริงๆ

และถึงจะรู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้ว แต่ติงซานฉือก็ไม่สามารถสงบจิตสงบใจลงได้อีกแล้ว

เขาเริ่มเกิดความสงสัยในตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง

ตอนที่เขายังหนุ่มแน่นและเป็นเซียนกระบี่แห่งเมืองไป๋หยุน ติงซานฉือได้รับการยกย่องให้เป็นมือกระบี่ผู้มีพรสวรรค์ ใช้เวลาเพียง 2 ปีก็สามารถฝึกวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรได้ถึง 2 กระบวนท่า แต่ถ้าหากนำมาเทียบกับความรวดเร็วในการฝึกวิชาของหลินเป่ยเฉิน ติงซานฉือยังจะหลงเหลืออะไรให้ภูมิใจในตัวเองได้อีก?

สมแล้วที่โบราณเคยมีคำกล่าวเอาไว้ว่าคลื่นลูกใหม่ย่อมไล่หลังคลื่นลูกเก่า

ติงซานฉือรู้สึกเหมือนตนเองเป็นคลื่นลูกเก่าที่กำลังจะถูกซัดจมหายไปบนชายหาดในเวลาอีกไม่ช้า

ชายชรากำชับกับตนเองว่าหลังจากนี้เขาต้องหาเวลาพัฒนาฝีมือบ้างเสียแล้ว

มิเช่นนั้น สักวันหนึ่งหลินเป่ยเฉินคงมีพลังรุดหน้าเกินอาจารย์คนนี้เป็นแน่แท้

เขาต้องรีบเร่งมือเลื่อนระดับพลังในยามที่ยังมีโอกาส

…

บนอัฒจันทร์ซึ่งเป็นเขตที่นั่งของแขกคนสำคัญ

ถึงแม้ว่าท่านเจ้าเมืองฉุยเฮาเฟิงจะพยายามควบคุมสีหน้าให้เป็นปกติอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายรอยยิ้มที่เบิกบานใจก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาอย่างไม่อาจควบคุมได้

ส่วนผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างหยิงอู๋จีกลับมีสีหน้าเป็นตรงกันข้าม

ทางด้านกลุ่มคนที่อยู่ด้านล่าง ฉุยหมิงโหลวผู้เป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านเจ้าเมืองแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนดู ส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความสะใจ ลืมเลือนปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไปชั่วคราว

อาจารย์ฝึกหัดเถียนเถียนถือสมุดและปากกาค้างอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มจดข้อความลงไปอย่างแช่มช้าว่า : หนึ่งในเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ต้องหาโอกาสทำเงินอยู่เสมอ?

หลังจากอ่านทวนข้อความดูหลายรอบ อาจารย์หนุ่มกับยกมือขึ้นตบหน้าตัวเอง

จากนั้นเขาจึงใช้ปากกาขีดฆ่าเครื่องหมายคำถามท้ายประโยคทิ้งไป

…

เมื่อหลินเป่ยเฉินทำการโฆษณาเสร็จสิ้น เขาก็กระโดดลงจากเวทีอย่างมีความสุข

เด็กหนุ่มได้เข้าใกล้เงินรางวัลของผู้ชนะเข้าไปอีกขั้น

ไม่รู้เหมือนกันว่าเซี่ยอู่เหรินจะต้องการมาขอคำปรึกษาเรื่องการเลื่อนระดับพลังกับเขาจริงไหม?

ถ้ามาจริง หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะคิดราคาเท่าไหร่ดี

บัดนี้ ตัวเขาเองก็มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ ค่าให้คำปรึกษาน่าจะต้องอยู่ที่หลายพันเหรียญทองคำกระมัง?

ระหว่างที่คิดเรื่องนี้ หลินเป่ยเฉินก็เดินกลับไปนั่งร่วมกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

ขณะนี้ แววตาของผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคน ไม่ได้มองหลินเป่ยเฉินด้วยความเหยียดหยามเหมือนเคยอีกแล้ว แต่พวกเขากลับมองด้วยความหวาดกลัวและความเคารพที่ไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไป

ในโลกของมือกระบี่ มีแต่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่ควรค่าต่อการมอบความเคารพ

นี่คือความจริงที่คงอยู่ตลอดกาล

หลินเป่ยเฉินแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

ย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

จึงสมควรแล้วที่หลินเป่ยเฉินจะได้รับความเคารพ

บนเวที

คู่ประลองคู่ใหม่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ซึ่งก็คือหยูเจี๋ยจุนกับเจียงหนานนั่นเอง

เมื่อไม่ต้องเป็นฝ่ายที่ขึ้นไปต่อสู้ หลินเป่ยเฉินจึงนั่งชมดูการประลองด้วยความสนุกสนาน นี่คือการต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง ต่างฝ่ายต่างมีระดับพลังไล่เลี่ยกัน คมกระบี่ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ประกายไฟพร่างพรมลงมาจากกลางอากาศเหมือนสายฝนสีทองแดง ผู้ชมที่ซื้อตั๋วติดขอบเวทีส่งเสียงฮือฮาตลอดเวลาด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่คิดเลยว่าการซื้อตั๋วมานั่งติดเวทีในครั้งนี้ จะช่วยมอบรสชาติความตื่นเต้นได้มากกว่าครั้งไหนๆ….

แต่หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็หลับตาลงและเสแสร้งว่ากำลังนั่งสมาธิ

ในความเป็นจริง เขากำลังคิดกลยุทธ์เพื่อต่อสู้กับเจียงจี้หลิวต่างหาก

ถ้าเจียงจี้หลิวตกรอบไปก่อนที่จะมาเผชิญหน้าเขา ทุกอย่างก็คงง่ายขึ้นอีกเยอะ

จนถึงบัดนี้ หลินเป่ยเฉินก็ยังรู้สึกปวดหัวอยู่ไม่เสื่อมคลาย เมื่อคืนเขาลองโคจรพลังปราณธาตุไฟ และก็พบว่ามันยังเผาไหม้เสื้อผ้าของเขาอยู่เช่นเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่านี่คือเปลวไฟผีสางอะไรกันแน่ ทำไมถึงไม่ไหม้เสื้อผ้าคนอื่น แต่กลับเผาไหม้เสื้อผ้าของเขาเองเสียอย่างนั้น?

นี่คือเรื่องที่ผิดปกติหรือเปล่านะ?

แต่คิดไปคิดมา หลินเป่ยเฉินก็พยายามมองโลกในแง่ดีว่า อย่างน้อยเปลวไฟของเขาก็แค่เผาเสื้อผ้า ไม่ได้เผาร่างกายของเขาสักหน่อย

แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดในเวลานี้ก็คือ หลินเป่ยเฉินไม่แน่ใจเลยว่าพลังปราณธาตุไฟของตนเอง เมื่อนำมาใช้งานกับกระบวนท่าในวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรเหล่านั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และด้วยความที่เกาตี้ผิงกับเซี่ยอู่เหรินยังมีระดับพลังแข็งแกร่งไม่มากพอ หลินเป่ยเฉินจึงไม่กล้าโจมตีพร้อมกับใช้พลังปราณธาตุไฟออกไปด้วย ก็คงจะมีเพียงเจียงจี้หลิวคนเดียวเท่านั้นกระมังที่มีระดับพลังสูงล้ำมากพอจะทดสอบพลังของเขาได้

ว่าแต่ว่า ทำไมปืนอินทรีหิมะยังส่งมาไม่ถึงอีก?

เด็กหนุ่มเปิดดูแอป Taobao และพบว่าสถานะของปืนอินทรีหิมะกำลังอยู่ระหว่างการนําจ่ายภายในเมืองหยุนเมิ่งแล้ว…

อืม

รวดเร็วดีเหมือนกันแฮะ

ทันใดนั้น เสียงโห่ร้องของคนดูก็ดังก้องกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง

การประลองคู่ที่ 3 จบลงแล้ว

หยูเจี๋ยจุนสามารถเอาชนะเจียงหนานได้อย่างหวุดหวิด และกลายเป็นผู้ที่ได้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย

แล้วการจับสลากเพื่อหาผู้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศก็เริ่มขึ้น

ผลก็คือ เจียงจี้หลิวโชคดีอย่างเหลือเชื่อ เป็นอีกครั้งที่เขาจับได้แผ่นไม้ ซึ่งอนุญาตให้ผ่านเข้ารอบได้โดยไม่ต้องแข่งขัน

ส่วนหลินเป่ยเฉินกับหยูเจี๋ยจุนต้องมาประลองกัน เพื่อหาผู้ชนะเข้าสู่รอบชิงไปท้าดวลกับเจียงจี้หลิว

แต่ด้วยความที่หยูเจี๋ยจุนเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่แสนดุเดือดมาได้ไม่นาน เขาจึงได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการให้ใช้เวลาครึ่งชั่วยามฟื้นฟูสภาพร่างกายเป็นกรณีพิเศษ

การแข่งขันจึงหยุดลงชั่วคราว

คนดูจำนวนมากใช้จังหวะนี้แยกย้ายกันไปหาของรับประทาน หรือไม่ก็เข้าห้องน้ำปลดปล่อยของเสียออกจากร่างกาย

พ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งรถเข็นขายของอยู่หน้างาน พร้อมใจกันส่งเสียงร้องตะโกนดังไม่ขาดสาย

หลินเป่ยเฉินยังคงหลับตาแกล้งนั่งทำสมาธิอยู่อย่างนั้น

แต่แล้วเสียงใสๆ ที่เหมือนจะคุ้นหูแต่ก็ไม่คุ้นหูกลับดังขึ้นข้างหูของเขา

“คุณชาย… หลิน ขอบคุณที่ให้ข้ายืมเสื้อคลุมของท่าน”

เป็นเฉินปี้จุนรวบรวมความกล้า มาปรากฏตัวขึ้นข้างกายของเขาแล้ว