จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 468 เทพสงคราม
หวางซืออวี่หัวสมองขาวโพลนยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง
ยันต์คุ้มครองนี่เป็นของพ่อบุญธรรมนี่นา
พ่อบุญธรรมบอกเอาไว้ว่านี่เป็นของวิเศษของเชื้อพระวงศ์ซ่ง เหนือเชียวนะ ศักดิ์สิทธิ์สุดๆ ในช่วงเวลาสําคัญกระทั่งว่าทดแทนการ ตายได้ครั้งหนึ่ง ดังนั้นนางถึงได้แอบขโมยออกมา ให้หลี่มู่ในตอนที่ สารภาพความรู้สึกกับเขา หวังว่าจะปกป้องหลี่มู่ให้ปลอดภัยเมื่ออยู่ใน สุสานเทพ
ตอนนั้นนางก็ตัดสินใจว่าจะต้องเข้าไปในสุสานเทพแล้ว และรู้ดีว่า หากเข้าไปด้วยฐานะคนธรรมดาจะต้องอันตรายยิ่งขึ้นไปอีกแน่ แต่นาง ก็ยังคงไม่เก็บยันต์คุ้มครองนี้ไว้กับตัวเอง เลือกที่จะให้หลี่มู่
แต่ใครจะรู้ว่า ยันต์คุ้มครองนี้คือ ‘ยันต์ผนึกพลัง’
กลับทําร้ายหลี่มู่
เป็นใครกันแน่ที่หลอกตน?
พ่อบุญธรรม?
หรือว่า…
หวางซืออวี่มองหลี่มู่ ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี
หลี่มู่กลับยิ้มอย่าง ‘วางใจเถอะ’ มาให้นาง ไม่มีท่าทีสงสัยแม้แต่ น้อย จากนั้นก็หันไปหาเจียงชิงหรวน “นี่คือไพ่ตายของเจ้า? ค่อนข้าง น่าสนใจ ผนึกปราณแท้ของข้าได้นานเท่าใด?”
เจียงชิงหรวนเอ่ยอย่างมั่นใจเต็มที่ “ต่อให้ผนึกปราณแท้ของเจ้าได้ แค่หนึ่งก้านธูป ก็มากพอที่จะจัดการเจ้าแล้ว”
“อาศัยเจ้าน่ะนะ?” หลี่มู่เอ่ยอย่างดูถูก “ในเมื่อเจ้าแอบติดตามข้า มานานขนาดนี้ก็ควรจะรู้ว่ากายเนื้อของข้าก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน แข็งแกร่งมากพอจะอัดเจ้าเละ”
เจียงชิงหรวนตอบ “ข้ารู้ว่ากายเนื้อเจ้าแข็งแกร่ง แต่ต่อให้ แข็งแกร่งแค่ไหนก็จะแข็งแกร่งเกินกว่าเทพสงครามข้างกายข้าพวกนี้ ได้หรือ?”
เขาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะถอยไปยังข้างองครักษ์ที่สวมชุด คลุมตัวโคร่งสีดําปกปิดทั้งตัว
ก่อนหน้านี้หลี่มู่ก็สังเกตองครักษ์ชุดดําพวกนี้แล้ว
กลิ่นอายพลังชีวิตอ่อนแอนัก และก็ไม่มีคลื่นพลังแข็งแกร่งอะไร ไม่มีภัยคุกคาม…นี่ก็คือเทพสงครามที่เจียงชิงหรวนว่า?
ในขณะที่เขากําลังขบคิด องครักษ์ชุดดําหนึ่งในนั้นก็พุ่งมา
ทั่วตัวของคนคนนี้ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ท่าวิ่ง วิธีออกหมัด กระบวนท่า วิถีการเคลื่อนไหว ฝีก้าว ความเร็วล้วนให้ ความรู้สึกที่แม่นยําอย่างน่าประหลาด เหมือนว่าใช้ไม้บรรทัดวัดอย่างไร อย่างนั้น ไม่เบี้ยวแม้แต่น้อย ทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวแม่นยําเป็นที่สุด
ตูม!
กลางอากาศ หมัดเหมือนหุ่นยนต์นี่โจมตีมายังหลี่มู่
ความเร็วในการออกหมัดของเขาไม่เร็วไม่ช้า ประมาณขั้นผู้ แข็งแกร่งฟ้าประทาน หมัดหนึ่งโจมตีออกมา พลังก็มี แต่ไม่นับว่า แข็งแกร่งมากมายอะไร
หลี่มู่ยกฝ่ามือกําหมัดนี้เอาไว้
ทันใดนั้น พลังแฝงประหนึ่งน�าป่าไหลหลากทะลักก็แผ่มาจากหมัด นี้ขององครักษ์ชุดดํา
หลี่มู่ในใจตื่นตะลึง
เอ๋?
พลังสะท้อน?
เพียงชั่วพริบตา หมัดขององครักษ์ชุดดํากลับไม่เหมือนมนุษย์ ปะทุคลื่นสะท้อนความถี่สูงออกมา พลังที่ปะทุออกมาอย่างรวดเร็วของ คลื่นสะท้อนชนิดนี้มากพอที่จะทําลายทุกสิ่ง
ในความทรงจําของหลี่มู่ ใน ‘X-Men: สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต’ หนังฮอลิวูดที่เขาเคยดู เมื่อบลิงค์กับศาสตราจารย์ และวูล์ฟเวอรีนไป ช่วยแม็กนีโตที่ถูกขังอยู่ในคุก ใช้สองมือแตะไปยังกระจกที่เสริมความ แข็งแกร่งจนไม่อาจทําลาย ภายใต้คลื่นความถี่สูงต่อให้เป็นกระจกที่ แม้แต่กระสุนเจาะเกราะยังไม่อาจทะลวงได้ยังต้องกลายเป็นเศษแหลก ละเอียด
พลังที่ปะทุออกมาในชั่วเสี้ยวพริบตาจากหมัดขององครักษ์ชุดดํา พวกนี้ มีจุดคล้ายกันกับการสั่นสะเทือนคลื่นความถี่สูงที่บลิงค์แตะ กระจก พลังไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
แต่…
มุมปากของหลี่มู่ยกยิ้มดูถูก
เขาปล่อยแรงสั่นสะเทือนในหมัดนี้ไปตามสบาย
หลังจากนั้นชั่วขณะหนึ่ง กล้ามเนื้อของฝ่ามือและนิ้วทั้งห้าของเขา ไม่เสียหายแม้แต่น้อย
“แนวความคิดค่อนข้างน่าสนใจ แต่พลังยังห่างชั้นอีกไกล”
หลี่มู่หยอกล้อพลันปล่อยพลังกําหมัดนี้เอาไว้ในฝ่ามือทันที ทําให้ องครักษ์ชุดดําไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย ทําลายการสั่นสะเทือนคลื่น ความสูงนี่
ทว่า ในชั่วขณะต่อมา ความรู้สึกชาก็ส่งมาจากฝ่ามือ เป็นพลัง ไฟฟ้าไร้เทียมทาน
“ไฟฟ้าแรงสูง?” หลี่มู่ยิ่งตกใจขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกัน เสียงเคลื่องกลไกเสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ หมัดของ องครักษ์ชุดดํานี่ก็หลุดออกจากข้อมือ บริเวณข้อมือมีสลักโลหะสีเงิน ทั้งยังมีสายเส้นละเอียดเป็นสายๆ กะพริบแสงไฟฟ้า
“เอ๋? หุ่นยนต์?”
หลี่มู่ตกใจสุดตัว
ในเสี้ยวขณะนี้เอง องครักษ์ชุดดําหลุดพ้นจากพันธนาการของห ลี่มู่ ที่ข้อมือหลุดกะพริบประกายแสงสีฟ้าอ่อน คลื่นพลังแปลก ประหลาดแผ่มา ก่อนจะก่อเป็นกระบี่แสงยาวหกฉื่อ แผ่พลังงานร้อน
แผดเผาออกมา เหล็กแหลมที่แม่นยําเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกันพุ่งทิ่ม แทงมายังตาของหลี่มู่ด้วยความเร็วยิ่งยวด
หลี่มู่กระทั่งว่าไม่หลับตา ปล่อยให้แสงกระบี่นั่นทิ่มมาที่ตา
ชิงหรวนที่อยู่ห่างออกไปไกลเห็นภาพนี้ใบหน้าก็ฉายรอยยินดีทันที
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!
เสียงไฟฟ้าไหลดังขึ้น
ดวงตาของหลี่มู่ไม่เสียหายเลยแม้แต่น้อย
“อะไร?” เจียงชิงหรวนเห็นภาพนี้ในใจก็ตื่นตะลึง “ไม่มีการ ปกป้องจากปราณแท้ ดวงตาน่าจะเป็นตําแหน่งที่เปราะบางที่สุดของ เขาถึงจะถูกสิ ทําไมจึง…หรือวิชาฝึกร่างกายาทอง นั่นก็น่าจะมีจุดอ่อน สิถึงจะถูก”
เขาหันไปพูดกับองครักษ์ชุดดําที่อยู่ใกล้กับตัวเอง “เร็ว รีบคํานวณ พลังของมัน หาจุดอ่อนของมันเสีย”
เสียงเหมือนกระแสไฟฟ้าแปลกประหลาดดังออกมาจากในกาย ขององครักษ์ชุดดํา
“เป็นของที่น่าสนใจ” หลี่มู่หัวเราะขึ้นมา
ร่างของเขาเพียงขยับ ดาบแสงหนีบคอขององครักษ์ชุดดํา พลัง กายเนื้อแผ่กระจายออกมาเล็กน้อย ก็สะเทือนจนชุดคลุมดําบนร่างปลิว เผยให้เห็นร่างเปลือยครึ่งกายเนื้อ ครึ่งเครื่องกลข้างใต้
จริงๆ
การคาดเดาของหลี่มู่ก่อนหน้านี้ไม่ผิดเลย
เทพสงครามที่เจียงชิงหรวนว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ผ่านการพัฒนาจาก เทคโนโลยีขั้นสูง
เขาคิดถึงภาพฝาผนังบางภาพที่เห็นในโถงใต้ดินคฤหาสน์ตําบลสุข สงบทันที ภาพหนึ่งเป็นภาพร่างเงาสวมชุดอวกาศเดินออกมาจาก ดาวเทียมที่ดูเหมือนยานอวกาศที่มีอักษร NASA อยู่บนนั้นร่วงสู่พื้น ส่วนอีกภาพเป็นกลุ่มคนชุดดําหมอบเคารพยานอวกาศ…
ตอนนั้นหลี่มู่ก็เดาว่าเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นดาวเทียมบางดวงที่มา จากโลกมาตกอยู่ที่โลกใบนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง จากนั้นเทคโนโลยีที่ อยู่บนดาวเทียมบางอย่างและพลังอาวุธพัฒนาเกิดเป็นกลุ่มพวกนี้
เพียงแต่ภายหลัง ตามกาลเวลาที่ไหลไปกลับไม่มีข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับคนชุดดําปรากฏขึ้น หลี่มู่ก็ค่อยๆ ลืมเลือนเรื่องนี้ไป แต่ตอนนี้…
เขาตระหนักได้ทันทีว่า หุ่นยนต์เทพสงครามที่ว่านี่จะต้องเกี่ยวกับ กลุ่มคนชุดดํานั่นแน่นอน
ในที่สุดก็พบเบาะแสแล้วรึ?
หลี่มู่ลิงโลด
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาสนใจกลุ่มนี้มาก
องครักษ์ชุดดําที่ถูกพันธนาการเอาไว้ แขนขวาในมือหลี่มู่กลับหด ลงได้ แสงกระบี่ทิ่มแทงไปตามตําแหน่งต่างๆ ของหลี่มู่ไม่หยุด ใน ขณะเดียวกัน นิ้วมือทั้งห้าข้างขวาก็กางออก ปล่อยนิ้วเปิดออก ยิง ลําแสงมายังหลี่มู่ไม่ขาดสาย
แม้แต่ขาและเท้าทั้งสอง และบางตําแหน่งก็กลายเป็นอาวุธโจมตี ไปยังหลี่มู่
อาวุธเลเซอร์ กระสุนเจาะเกราะความถี่สูง และยังมีของแปลก ประหลาดหายากต่างๆ
สําหรับจอมยุทธ์ของโลกใบนี้ ไม่ ต่อให้เป็นผู้ฝึกฝนนอกพิภพ การ โจมตีนี้ก็มีพลังคุมคามอย่างมาก โดยเฉพาะหากเสียการปกป้องจาก ปราณแท้ เทวะของโลกใบนี้เกรงว่าก็ยังไม่อาจต้านทานการโจมตีของ อาวุธพวกนี้ได้
ส่วนพวกผู้ฝึกฝนนอกพิภพนอกจากผู้ฝึกฝนขั้นนักรบแล้ว ผู้ฝึกฝน ขั้นแมลงและขั้นสามัญทั่วไป เมื่อไม่มีปราณแท้ เผชิญหน้ากับอาวุธ ประเภทนี้ถ้าไม่ตายก็พิการ
น่าเสียดายที่หลี่มู่เป็นตัวประหลาด
‘หมัดยุทธ์แท้’ ทําให้กายเนื้อของเขาอยู่เหนือขอบเขตความเข้าใจ ของโลกใบนี้
นี่ก็เป็นเหตุผลที่วัวดําเลือกหลี่มู่มารับพลังวิถียุทธ์ร่างแยกของเขา …เปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าในเสี้ยวพริบตาที่พลังชนิดนั้นหล่อเลี้ยงเข้า ไปในร่างกายก็คงระเบิด
อาวุธของหุ่นยนต์โจมตีมายังร่างของหลี่มู่อย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่อาจ ทําให้บาดเจ็บได้แม้แต่เส้นขน
หลี่มู่มองหุ่นยนต์ชนิดนี้ประหนึ่งมองเหยื่อน่าสนุก
อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนที่ได้รับการศึกษาจากโลกยุคปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่เข้าใจเทคโนโลยีพวกนี้ แต่ก็คุ้นเคยดี รู้ทฤษฏีในการ ขับเคลื่อน ไม่เหมือนกับจอมยุทธ์ของโลกใบนี้ที่พอพบของแปลกๆ แบบนี้ก็ทําอะไรไม่ถูก
หลังจากสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง หลี่มู่ก็ตัดสายเส้นที่ซ่อนอยู่ที่คอเส้นหนึ่ง ขององครักษ์ชุดดําทิ้ง ได้ยินเพียงเสียงแซ่ดๆ ดังขึ้น จากนั้นแขนขาของ องครักษ์ชุดดําก็อ่อนยวบ ไม่อาจขยับได้ทันที
“เก็บเอาไว้ นี่เป็นของดี”
หลี่มู่โยนองครักษ์ชุดดําคนนี้ไปยังเบื้องหน้าของวงเป่าสีดีดร้องทั้ง สี่ ให้พวกเขาดูเอาไว้ให้ดี
จากนั้นก็ก้าวประชิดไปยังเจียงชิงหรวน
“เร็ว สกัดเขาเอาไว้เร็ว…” เจียงชิงหรวนรู้สึกไม่สู้ดี
เขาไม่อาจเข้าใจภาพเมื่อครู่ได้
‘เทพสงคราม’ กลุ่มคนชุดดําหลังจากปรับปรุงสําเร็จ ผ่านการ ทดสอบมานับครั้งไม่ถ้วน ภายใต้เงื่อนไขที่จอมยุทธ์ของโลกใบนี้ไม่มี ปราณแท้ปกป้องกายจะสามารถบดขยี้ผู้แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างแน่นอน ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงจากการฝึกกายเนื้อก็ไม่อาจต้านทาน
เขาก็รู้ว่าหลี่มู่ได้รับการขนานนามว่ากายเนื้อแข็งแกร่งนานแล้ว แต่จากสถิติที่รวบรวมได้ก็แสดงให้เห็นว่านั่นเป็นเพราะพลังเยอะ ไม่ใช่ กายเนื้อแข็งแกร่งทนทาน ในเมื่อหลี่มู่ก็เคยได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้…
กายเนื้อของหลี่มู่ทําไมถึงแข็งแกร่งได้ถึงระดับนี้กัน?
ทว่า ทุกอย่างสายไปแล้ว
หลี่มู่ลงมือ ประดุจสายอัสนี เพียงชั่วพริบตา เส้นเงานับไม่ถ้วน เพียงไหววูบก็โจมตีองครักษ์ชุดดําข้างกายเขาทั้งหมดล้มลงทันที ตัด ศูนย์กลางการควบคุมร่างกายของแต่ละตัวๆ ทิ้ง พวกมันกองไปอยู่บน พื้น ไม่มีพลังโจมตีแม้แต่น้อยอีกต่อไป
รวมถึงองครักษ์ชุดดําที่กําลังรวบรวมสถิติคิดคํานวณข้างกายเจียง ชิงหรวนด้วย
“ตอนนี้พวกเรามาคุยกันดีๆ ได้แล้ว”
หลี่มู่คว้าเจียงชิงหรวนเอาไว้ พลิกมือตบปากไปสามสี่ที ตบจนเขา จมูกเบี้ยวตาเข ไม่มีพลังตอบโต้แม้แต่น้อย
“สามคําถาม หนึ่ง ยันต์คุ้มครองนี่มันอะไรกัน? สอง ศิษย์พี่คน อื่นๆ ของอวี๋ฮว่าหลงไปไหนกันหมด? สามหุ่นยนต์พวกนี้เอามาจาก ไหน?”
หลี่มู่จ้องเขาราวเหยี่ยวจ้องหนูนา
เจียงชิงหรวนหน้ามืดตาลาย เห็นประกายดาว ครู่หนึ่งถึงจะดึงสติ กลับมาได้ ก่อนจะดิ้นรนสุดชีวิต “ศิษย์พี่ของอวี๋ฮว่าหลง? ฮี่ๆ อยู่บนพื้น นี่หมดแล้ว เจ้าหาเอาเองเถอะ…”
พูดแล้วร่างของเขาก็ไถล เขี้ยวสัตว์สีขาวนั่นปรากฏขึ้นปกคลุมเขา เอาไว้ แค่สั่นขึ้นก็สะเทือนมือของหลี่มู่หลุด ห่อหุ้มเจียงชิงหรวนให้หลุด พ้นจากการควบคุมของหลี่มู่
หลี่มู่ตกใจแต่ก็ไม่ได้ไล่โจมตีไป
เขี้ยวสัตว์สีขาวนั่นค่อนข้างแปลกประหลาด แม้แต่จักรพรรดิ เซียนหมิงกวงตอนยังมีชีวิตอยู่ยังหวาดเกรง ดังนั้นจึงสามารถช่วยเจียง ชิงหรวนเอาไว้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่หลี่มู่ไม่ประหลาดใจ
“คิดไม่ถึงว่ากายเนื้อของเจ้าจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้” ในดวงตาของ เจียงชิงหรวนมีทั้งความเหี้ยมโหดและดูถูก ฉายไปด้วยประกายละโมบ “กายเนื้อที่สมบูรณ์แบบ หากจับเจ้าได้และเพิ่มการปรับปรุงล่ะก็ จะต้องสร้างเทพสงครามที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้ เทพสงครามที่ แท้จริง ฮ่าๆๆๆ!”
หลี่มู่เอ่ยอย่างดูถูก “ตื่นเถอะ ชีวิตน้อยๆ ของเจ้ายังอยู่ในกํามือข้า นะ”
………………………………………………