ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 552: แนวคิด
บทที่ 552: แนวคิด
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ลมหายใจของพวกเขารุนแรงและรัวถี่ขึ้น แต่มันกลับไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้น หลักจากผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินเย่ก็ยกมือขึ้นและเรียกโชคชะตาออกมา จากนั้น ทำตามวิธีที่สวีหยางอี้ ได้สอนเขาเอาไว้ เด็กหนุ่มเขียนอะไรบางอย่างบนอากาศ ทันใดนั้น ความว่างเปล่าตรงหน้าของเขาก็ผันผวนอย่างรุนแรง
เขาสามารถติดต่อกับจ้าวนรกองค์ที่สองของยมโลกได้สามครั้ง
ทันใดนั้น ภาพของสุนัขฮัสกี้ตัวอ้วนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของทั้งสาม
“โฮ่ง โฮ่ง! หยางอี้ นี่มันอะไรกัน? ข้ากินมันได้หรือไม่?”
เสี้ยววินาทีต่อมา เจ้าขนฟูตัวอ้วนก็ถูกเตะออกไป และใบหน้าของสวีหยางอี้ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอแสงในที่สุด “มีอะไร?”
ฉินเย่รีบเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาได้รู้มาจนถึงตอนนี้ และถามว่า “ข้าอยากจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากข้าเข้าไปขัดขวางแผนการที่ยิ่งใหญ่ของโลกใต้พิภพแห่งรุสและชำระล้าง ดินแดนทั้งหมดแทนที่จะเป็นหลิวอวี้”
แววตาของสวีหยางอี้เป็นประกายขึ้น จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา “หากเจ้าสามารถทำสิ่งนั้นได้ โอกาสในการสร้างโลกใต้พิภพแห่งฮันยางของพวกเขาก็จะถูกปิดลง ในขณะเดียวกัน ความศรัทธาที่เ เจ้าได้รับก็น่าจะเพียงพอในการผลักให้เจ้าขึ้นไปสู่ขั้นฝู่จวินได้ ชื่อของเจ้าจะถูกเผยแพร่ผ่านโบราณวัตถุทั้งหมดที่อยู่ภายในแดฮัน…”
หัวใจของฉินเย่กระตุกเล็กน้อย “เช่นนั้น…มันก็จะหมายความว่าข้าก็จะถูกรู้จักในฐานะของชาวแดฮันอย่างนั้นหรือ?”
ข่าวลือจะถูกแพร่กระจายออกไป บอกว่าตำนานของยมโลกแห่งใหม่นั้นถือกำเนิดขึ้นที่แรกในดินแดนอันห่างไกลอย่างแดฮัน!
หากพูดกันตามตรง พวกมันอาจจะยิ่งใหญ่กว่าเทศกาลวิญญาณทั้งสามที่ได้ทำการเฉลิมฉลองที่จีนมาโดยตลอดอีกด้วย!
“นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ” สวีหยางอี้สบตาฉินเย่ “สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือเจ้าจะต้องคิดมันให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจ อันตรายนั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย เจ้าจะต้องจัดการกับหลิว วอวี้อย่างเด็ดขาด และมันก็จะไม่มีทางให้ถอยกลับอีกแล้ว”
“ผู้ที่ดำเนินการตามบทละครที่ถูกเขียนโดยซาร์อาร์ตูโรจะต้องเป็นผู้ช่วยคนสนิทของเขาอย่างแน่นอน เจ้าอาจจะมีวัตถุหยินที่ทรงพลังอย่างตะเกียงเถาฮวาและโชคชะตาอยู่ในครอบครอง แต่น นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้านั้นไม่สามารถพ่ายแพ้ได้ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับว่าพวกเขายินดีที่จะจ่ายบางสิ่งบางอย่างเพื่อสังหารเจ้าหรือไม่ หรือหากพูดง่าย ๆ ก็คือ…”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง “สุดท้ายแล้ว ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโลกใต้พิภพแห่งรุสทั้งสิ้น”
ฉินเย่ขมวดคิ้ว
เด็กหนุ่มได้เผชิญหน้ากับโลกใต้พิภพแห่งรุสในร่างยมทูตของตัวเองไปแล้ว และอีกฝ่ายก็จะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเขาอย่างแน่นอน เส้นทางข้างหน้าจะต้องเต็มไปด้วยอันตร รายหากไม่วิเคราะห์แผนการในตอนนี้ให้ดี
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินเย่ก็เอ่ยขึ้น “ท่านพอจะมีสิ่งใดที่ทำให้จิตใจของข้าสงบลงบ้างหรือไม่?”
สวีหยางอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อืม… หากมันจะช่วยให้อะไรดีขึ้น โลกใต้พิภพแห่งรุสได้ตัดสินใจไปแล้ว”
“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
“การวิเคราะห์ของเจ้านั้นถูกต้อง หลิวอวี้กำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ความคิดเกี่ยวกับการบรรลุความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่อย่างการก่อตั้งรัฐของตัวเองได้อัดแน่นอยู่ภายในหัวของเขา ถึงขนาดที่เขาส่งจดหมายเชิญมาให้เราก่อนที่บทละครของเทพแห่งความตายไร้นามจะออกผลเสียอีก”
“อย่างที่เจ้าได้พูดไป ก้าวที่สำคัญที่สุดในบทละครของเทพแห่งความตายก็คือการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของวิญญาณร้ายและกลายเป็นลำแสงแห่งความหวังในวินาทีที่มืดมนที่สุด การเข้าไปข ขัดขวางการเก็บเกี่ยวในเรื่องนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลกใต้พิภพ หากพูดกันโดยทั่วไปก็คือ ช่วงเวลาสำหรับการแจ้งเกี่ยวกับพิธีเปิดไม่ควรจะมากเกินหนึ่งเดือน น่าเสียดาย ด้วยความกระตือรือร้นของหลิวอี้ เขาได้เปิดหน้าต่างแห่งโอกาสในการขัดขวางให้กับเจ้า”
“เอาเถิด ข้าคิดว่าเราเองก็ไม่ควรไปโทษเขาเช่นกัน เขาไม่ใช่เทพแห่งความตาย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ถึงหน้าที่ที่แท้จริงของตำแหน่งนั้น แต่เจ้าเคยสงสัยหรือไม่ว่าเหตุใด…” สวีหยางอ อี้แย้มยิ้มอย่างลึกลับ “ซาร์…จึงไม่ห้ามเขา?”
แววตาของฉินเย่วูบไหว เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเพิ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง
“ซาร์อาตูโรอยู่เบื้องหลังหลิวอวี้อย่างไม่ต้องสงสัย การสันนิษฐานของข้าในเรื่องนี้ไม่มีทางผิด และด้วยเหตุนี้ หลิวอวี้จะต้องขอความยินยอมจากซาร์ก่อนที่เขาจะส่งจดหมายเชิญมาให้เ เราอย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้น…ซาร์อาร์ตูโรกลับไม่เอ่ยเตือนเขาเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำเช่นนั้น…”
ฉินเย่สูดหายใจเข้าช้า ๆ และเอ่ยขึ้น “ท่านกำลังจะบอกว่าซาร์อาร์ตูโรมีเจตนาซ่อนเร้นและต้องการติดต่อกับยมโลกผ่านทางหลิวอวี้อย่างนั้นหรือ? และเขาก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำลายค ความสัมพันธ์ของตัวเองกับยมโลก?”
“เจ้าสามารถพูดได้ว่าเขากำลังพยายามจะยิงนกสองตัวด้วยปืนนัดเดียว” ความมากประสบการณ์ของสวีหยางอี้ฉายออกมาผ่านบทสนทนาของพวกเขา “หากหลิวอวี้ทำสำเร็จ เช่นนั้นความจงรักภักดี ของฮันยางก็จะเปลี่ยนไป และข้าก็รับรองได้เลยว่าเจ้าจะไม่สามารถนำมันกลับคืนมาได้เมื่อยมโลกเปิดพรมแดนของตัวเองในอนาคต ด้วยการที่ตั้งอยู่ ณ จุดกึ่งกลางของโลกใต้พิภพที่ยิ่งใหญ ญ่ทั้งสาม คาบสมุทรแดฮันนั้นมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างเห็นได้ชัด ซาร์อาร์ตูโรไม่มีทางต้านความเย้ายวนในการครอบครองดินแดนแห่งนี้ได้แน่”
“ในอีกด้านหนึ่ง ความเป็นไปได้ในการล้มเหลวนั้นมีก็อยู่ และนั่นก็คือหากเจ้าเข้าขัดขวางการเก็บเกี่ยวของหลิวอวี้ สังหารวิญญาณทั้งหมดที่ซาร์ได้เตรียมไว้ และกลายเป็นตัวหลักขอ องบทละครนี้ อีกนัยหนึ่งก็คือ เจ้าจะกลายเป็นแสงแห่งความหวังของแดฮัน ในขณะที่ซาร์จะสร้างความดีความชอบให้ยมโลก และนำไปสู่การวางรากฐานสำหรับคำขอต่าง ๆ ของเขาในภายภาคหน้า”
“ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นไร พวกเขาก็ยังได้ผลประโยชน์ จงเรียนรู้จากพวกเขาน้องข้า โลกใต้พิภพทุกแห่งที่ยังอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ล้วนมีความยอดเยี่ยมในตัวเองทั้งสิ้น”
ฉินเย่พยักหน้าหนักแน่น ก่อนจะสะบัดมือและทำให้หน้าจอตรงหน้าหายไป
นี่คือความแตกต่างทางประสบการณ์
สวีหยางอี้คือผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในฐานะจ้าวนรกแห่งยมโลกมาเป็นเวลากว่าพันปี และความมากประสบการณ์ในการณ์รับมือกับการเมืองระหว่างประเทศก็ทำให้เขามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ช ชัดเจนกว่าฉินเย่
“แต่…มันมีอีกสิ่งหนึ่งที่ท่านไม่ได้สังเกต...” ฉินเย่ยิ้มและเดินไปรอบ ๆ โดยที่ไพล่มือไว้ด้านหลัง “หากซาร์อาร์ตูโรและโลกใต้พิภพแห่งรุสตั้งใจที่ฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อน นเดียวจริง ๆ เช่นนั้น…พวกเราก็จะไม่ต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังต่อต้านที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน!”
“ไม่…อันที่จริง หากข้าเป็นเขา ข้าอาจจะอยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งถึงช่วงต้นเดือนตุลาคมก่อนจะติดต่อกับหลิวอวี้ด้วยซ้ำ “ข้าเพิ่งได้รับรายงานว่าเจ้าเปิดเผยข่าวเกี่ยวกับพิธีเปิดของ โลกใต้พิภพแห่งฮันยางก่อนกำหนดอย่างนั้นหรือ?!”
เขาพึมพำกับตัวเอง “เขาจะบอกให้หลิวอวี้ได้รู้ว่าตัวเองไม่พอใจเพียงใด แล้วจึงบอกว่ามันอันตรายเพียงใดที่ทำเช่นนั้น ก่อนที่จะ…”
ฉินเย่แย้มยิ้มบาง
“เขาจะยุยงให้หลิวอวี้วางมาตรการป้องกันสำหรับอันตรายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และอาจจะบอกหลิวอวี้ถึงข้อเท็จจริงที่ว่ายมทูตของยมโลกจีนได้แทรกซึมเข้ามาและสังหารหมายเลข 03 ไปแล้ว”
“สิ่งนี้จะทำให้ซาร์คาดคะเนถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดของผลลัพธ์ได้ แต่…เขาคิดจริง ๆ น่ะหรือว่าโลกใต้พิภพแห่งฮันยางจะสามารถขวางทางข้าได้?”
เขาไม่ได้พยายามจะดูถูกอีกฝ่าย…
แต่หลิวอวี้และลูกน้องของเขานั้นยังห่างชั้นเกินไปจริง ๆ!
ตอนนี้เขามีโชคชะตาและตะเกียงเถาฮวาอยู่ในครอบครอง! หลิวอวี้ยังคิดอีกหรือว่าเขายังเป็นคนเดียวกันกับอีกฝ่ายที่ได้พบในการประชุมราชสำนักเมื่อปีที่ผ่านมา?
“นายท่าน เราควรจะทำเช่นไร?” โนบูทาดะถามอย่างตื่นเต้น
พวกเขามีโอกาสในการเข้าไปขัดขวางบทละครของเทพแห่งความตาย! เขาสามารถพูดได้เลยว่าการเมืองระหว่างประเทศนั้นซับซ้อนและมีหลายมิติกว่าที่เขาคิดไว้มาก ช่างน่าตกตะลึงจริง ๆ!
นี่คือการแข่งขันเพื่อหาผู้ที่เหมาะสมที่สุด มีเพียงหมาป่าที่มีคมเขี้ยวที่คมที่สุดเท่านั้นที่สามารถเดินเตร็ดเตร่ไปตามผืนป่าอันมืดมิดของโลกใต้พิภพได้
ความคิดเกี่ยวกับการเข้าไปร่วมสนามรบเช่นนั้นทำให้โนบูทาดะตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะเดียวกัน เขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจว่าอีกไม่นานวันที่พวกเขาจะสามารถพิชิตญี่ปุ่นได้อย่างร ราบคาบจะมาถึง!
ความแข็งแกร่งและทรัพยากรอันไร้ขอบเขตของโลกใต้พิภพระดับสูงนั้นอยู่เหนือจินตนาการของเขา… ช่างน่าขันเสียจริงที่โทกูงาวะ อิเอยาซุและวิญญาณตนอื่น ๆ เทินทูนอิซานามิพอ ๆ ก กับเทพแห่งความตายของโลกใต้พิภพแห่งอื่น เขาอยากรู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายจะแสดงสีหน้าเช่นไรเมื่อได้รู้ว่ายมโลกไม่แม้แต่จะมีญี่ปุ่นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ…
สายตาของยมโลกนั้นจับจ้องไปยังจุดยืนที่พวกเขาเคยครอบครองในเวทีระดับโลก ตำแหน่งของโลกใต้พิภพที่แข็งแกร่งที่สุด คู่ต่อสู้ของพวกเขานั้นมิใช่ใครอื่นนอกจากโลกใต้พิภพแห่งอาร์โกส ส โลกใต้พิภพแห่งอียิปต์ และอื่น ๆ ที่นำโดยอานูบิส แทนาทอส และพระศิวะ… แล้วแผ่นดินแห่งความมืดมนของญี่ปุ่นปรากฏอยู่ส่วนใดของเรื่องนี้?
เด็กหนุ่มไม่ได้รับรู้ถึงความคิดที่อยู่ภายในหัวของโนบูทาดะเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงกระนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ฉินเย่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ บออกมา “ง่ายมาก”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการเปิดเผยแนวคิดของโลกใต้พิภพแห่งรุส ทั้งหมดที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงการอนุมานและการคาดเดาของเราทั้งสิ้น มันไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าก การพิสูจน์ความจริง”
“หากโลกใต้พิภพแห่งรุสตั้งใจที่จะปกป้องหลิวอวี้ เช่นนั้นมันก็ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะอยู่เฉย ๆ และปล่อยให้พวกเราขัดขวางการเก็บเกี่ยวที่หลิวอวี้พยายามอย่างหนัก และหากพวกเรา าต้องการจะรู้ว่าซาร์กำลังคิดอะไรอยู่…”
ฉินเย่ยิ้ม “ทางที่ดีที่สุดก็คือการทดสอบการคาดเดาของเรา”
“จะว่าไป ไม่ใช่ว่าคิมแทจีกำลังเอ้อระเหยไปหน่อยหรือ…”
ทว่าทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของชั้นที่ 25 ก็ดังขึ้นในเวลาเดียวกับ แทบจะเหมือนกับว่ามันถูกนัดหมายมาก่อน
เป็นคิม แทจีนั่นเอง
หลังจากที่ฉินเย่อนุญาต เธอก็เดินขึ้นมายังชั้นที่ 25 และรายงานเขาด้วยตัวเอง “คุณฉินคะ ฉันได้ทำการตรวจสอบประวัติของเขาเรียบร้อยแล้ว ชายคนนี้ชื่อมูคอฟ เป็นสมาชิกของ คริสต ตจักรพระกิตติคุณสมบูรณ์ที่ยออิโด หากพูดให้ละเอียดกว่านี้ก็คือ เขาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ที่นั่นและได้รับการรายงานว่าเป็นสาวกคาทอลิกผู้เคร่งในศาสนา ยังไม่ได้แต ต่งงาน ไม่มีบุตร ไม่มีงานอดิเรก และไม่มีเพื่อนสนิท”
นี่คือชื่อจริงของหมายเลข 02!
ผู้รับผิดชอบคนที่สองของบทละครแห่งความตาย!
“เกาะยออิโดนั้นตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำฮัน และอยู่ในเขตยองดึงโพ ในช่วงแรก เกาะนี้ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยแต่อย่างใด แต่ในปี 1924 ในช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองแดฮัน รัฐบาลได้สร้างส สนามบินทหารแห่งแรกของฮันยางขึ้นบนเกาะ ก่อนจะย้ายที่ตั้งของมันในปี 1971 ตอนนี้ ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของฮันยาง…หากคุณต้องการอะไรอีก คุณสามารถบอกฉันได้”
จากนั้นคิม แทจีก็โค้งคำนับ “เพียงแค่คุณเอ่ยออกมา ฉันจะเตรียมการและจองตั๋วรถไฟให้คุณทันที”
ฉินเย่พยักหน้า
พวกเขาจะสามารถรู้ถึงแนวความคิดของซาร์ได้จากการป้องกันของหมายเลข 02!
เพราะไม่ว่าอย่างไร ยมทูตของรุสก็ได้รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของฉินเย่ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายเสิ้งเต๋อแล้ว! หากซาร์อาร์ตูโรตั้งใจที่จะปกป้องหลิวอวี้จริง ๆ เขาจะต้ องแนะนำให้อีกฝ่ายจัดตั้งการป้องกันเพื่อกันการรั่วไหลของข้อมูลอย่างแน่นอน หากเขาทำเช่นนั้น มันก็คงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉินเย่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับบทละครแห่งความตายนี้ได้ !
แต่หากการป้องกันของหมายเลข 02 ยังคงอ่อนอยู่ เช่นนั้น…มันก็มีความเป็นไปได้เป็นอย่างมากที่โลกใต้พิภพแห่งฮันยางจะคึกคักในช่วงเดือนตุลาคม…
ฉินเย่ระงับความตื่นเต้นภายในใจและถามว่า “คุณระบุตำแหน่งของลีจองซุกได้หรือยัง?”
เขาอยากจะรู้เกี่ยวกับเรือข้ามฟาก เอ็มวี เซว็อลมากกว่านี้
“ไม่เลย…” คิม แทจีกัดริมฝีปากของเธอและตอบกลับเสียงเบา “สถานการณ์ของลีจองซุกนั้นค่อนข้างพิเศษ… เธอจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับชีวิตก่อนหน้าทันทีที่ตื่นขึ้น นอกจากนี้ เธอก็ไม่ได้นำเอกสารประจำตัวไปด้วย และที่ทำให้เรื่องแย่ลงกว่าเดิมก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าสถานีตำรวจส่วนใหญ่นั้นไม่มีคุณสมบัติพอที่จะตรวจสอบประวัติและข้อมูลของเธอจากฐานข้อมู ลของราชการ...”
“เธอไม่ได้นำเอกสารประจำตัวไปด้วยเหรอ?” ฉินเย่ขมวดคิ้ว แต่ก็เข้าใจถึงเหตุผลของมันได้ในทันที
ตัวตนของนางมีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากมันเกิดอะไรขึ้นและใครบางคนสามารถระบุตำแหน่งของนางจากเอกสารพวกนี้ได้ นางก็จะถูกส่งตัวกลับไปยังแซมซัง ที่ซึ่งปลาฉลามที่หิวโหยจำนวนมา ากกำลังรอที่จะจับตัวและกำจัดนาง และโชคชะตาของนางจะถูกปิดลงในทันที
แต่หากนางไม่นำเอกสารพวกนั้นติดตัวไปด้วย มันก็จะไม่มีผู้ใดรู้ว่าควรส่งตัวนางไปที่ใด แม้แต่สถานีตำรวจก็ไม่มีทางรู้ว่านางมาจากที่ไหน ทุกอย่างจะกลับไปเริ่มจากจุดเริ่มต้นจนกว่า านางจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดรอบตัว
ฉลาดมาก... สมแล้วที่มีชีวิตมานานกว่า 700 ปี…
ไม่กี่วินาทีต่อมา ฉินเย่ก็หันไปหาคิม แทจีอีกครั้ง “ผมต้องไปถึงที่โบสถ์ยออีโดก่อนเที่ยงคืนของวันนี้”
“รับทราบ ฉันจะไปเตรียมการให้ทันที”
…………
โบสถ์เมียงดง
มันตั้งอยู่ที่ใจกลางฮันยาง ติดกับย่านเมียงดง
โบสถ์แห่งนี้ถูกออกแบบเป็นซุ้มที่งดงามและงานศิลปะทางศาสนา แท่นบูชาและรูปแกะสลักทางศาสนาทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสง่างามเป็นอย่างมาก กระจกโมเสคแสดงถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ ในขณะที รูปแกะสลักเผยให้เห็นถึงความเคารพที่พวกเขามีต่อนักบุญของตนเอง นี่คือโบสถ์ที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแดฮัน
แท่นบูชาหลักตั้งอยู่ใจกลางโบสถ์ ในขณะที่พื้นที่ด้านล่างทำหน้าที่เป็นสถานที่สักการะและประกอบพิธีศีลมหาสนิท ห้องนี้ได้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตรตั้งอยู่เบื้องล่างพร้อมด้ว วยแท่นบูชาเก้าแท่นย่อย แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงสองแท่นเท่านั้น โดยมันถูกอุทิศให้กับเหล่านักบวชผู้เสียสละและนักบุญ
รูปปั้นจำนวนหนึ่งถูกตั้งอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของพื้นที่บริเวณนี้ ตามตำนานกล่าวว่าด้านหลังของรูปปั้นเหล่านี้จะมีประตูเหล็กอยู่ด้านหลังอีกที และอีกด้านหนึ่งของประตูเหล่านั้น… ก็ คือโลกแห่งความตาย
“เมื่อมันถูกเปิดออก มารีจะหลั่งน้ำตาเลือดของนางออกมา…” ชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำพึมพำกับตัวเองขณะที่เขาจ้องมองไปด้านหน้า
โลงศพหินสามโลงตั้งอยู่ตรงหน้าของเขา และทั้งหมดก็ถูกจับจองโดยอาร์คบิชอปสามคน
เขายังคงกวาดตามองไปรอบ ๆ จนหยุดลงที่รูปปั้นของพระแม่มารี
และจากนั้น ก็สังเกตเห็นว่ารูปปั้นดังกล่าวหลั่งน้ำตาเลือดออกมา!
ขณะที่น้ำตาดังกล่าวไหลริน เปลวไฟภายในห้องก็ลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง จากนั้น… มันก็แปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว สายลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาและก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนสีดำขนาดสามเมตร ไม่กี่วิน นาทีต่อมา ลูกไฟนรกสองลูกก็ปะทุขึ้นจากภายในราวกับดวงตาที่แดงก่ำ
เห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้คือหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของแดฮัน แต่ถึงกระนั้นมันกลับมีความลับที่ไม่สามารถบรรยายได้และมีวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวอาศัยอยู่!
“ท่านรัมยันต์เศว” ชายคนดังกล่าวคุกเข่าลงและถอดเสื้อคลุมของตนออก
เขาคือชายวัยกลางคน
ร่างทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยแผล และทั้งหมดก็ดูเหมือนว่าจะเป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นจากคมมีดทั้งสิ้น
“นกส่งสารของหมายเลข 03 หายไป” เขาโค้งคำนับกับพื้น “นายท่าน ข้าควรจะรอรับรถไฟของนางตามกำหนดเวลาหรือไม่?”