ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) - ตอนที่ 38 - novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Ch.38 – ระดับมืออาชีพ

Translator : Asiran / Author

ตอนที่ 38 – ระดับมืออาชีพ

ก่อนที่เจงกิสข่านจะตายลงไปก็ใส่ดาเมจทั้งหมดทั้งมวลลงบนร่างของอาธีน่าที่กำลังเปิดท่าอัลติมีโล่ศักดิ์สิทธิ์กันอยู่ ทำให้ไม่สามารถทำดาเมจได้สักกี่มากกี่น้อยเลย อาธีน่าฆ่าเจงกิสข่านเสร็จแล้วก็พุ่งตรงไปสังหารเตียวฉานต่อ

ฮีโร่อาธีน่าตัวนี้มีพลังป้องกันไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ แต่มีสกิลวาร์ปเยอะมากทำให้นางสามารถจะหลบเลี่ยงจากดาเมจได้เป็นจำนวนมากด้วยการขยับเคลื่อนที่ในเวลาต่อสู้จริง และนี่ก็ต้องใช้ความสามารถในการควบคุมขั้นสูงจากผู้เล่น

แมวของชเรอดิงเงอร์คนนี้เป็นผู้เล่นระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย การเดินและการเปิดสกิลที่หนึ่งใช้โล่ให้เป็นประโยชน์ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก หลังจากเจงกิสข่านร่วงลงไปแล้วเกาเกอก็ตระหนักทันทีว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีจึงส่งสัญญาณให้ถอยออกไป เห็นได้ชัดว่าเตียวฉานก็อยากจะทำตามแต่โดนอาธีน่าเกาะติดเข้าแล้วนึกอยากจะไปก็ไปได้เหรอ จางเฟยของเกาเกอใช้สกิลที่หนึ่งกวาดหอกงูออกไป อาธีน่าก็ใช้เดินทัพศักดิ์สิทธิ์ป้องกันจากการถูกผลักได้อย่างแม่นยำ กุ่ยกู๋จื่อและจางเหลียงที่ใส่รองเท้าเร่งความเร็วพอ ๆ กันปรากฏตัวขึ้นในวิชั่นทีละคน เกาเกอก็รู้แล้วว่ารอบนี้มั่นใจเกินไปจะต้องไม่รอดแน่ ๆ

ฮีโร่ทั้งสองตายลงไปทีละคน เกาเกอหันไปหาเหออวี้แสดงความกังขาออกมา “นายห่วยขนาดนี้เลยเหรอ”

สามต่อสอง สุดท้ายกลับพ่ายแพ้อย่างหมดรูปแบบนี้ การสนับสนุนจากฮีโร่อีกสองตัวเป็นเรื่องรองลงไป การที่เจงกิสข่านไม่สามารถทำดาเมจได้เลยถึงเป็นสาเหตุหลัก ไม่เช่นนั้นก่อนที่จางเหลียงกับกุ่ยกู๋จื่อจะมาถึงพวกเขาก็คงสามารถจะสร้างความได้เปรียบจนฆ่าได้คนหนึ่งหรือแม้แต่สองคนไปได้แล้ว ถึงตอนนั้นจางเหลียงกับกุ่ยกู๋จื่อจะมาสนับสนุนก็เป็นเหมือนไข่กระทบหิน มาหนึ่งคนฆ่าหนึ่งคน มาสองคนฆ่าหนึ่งคู่

“สกิลสองของเตียวฉานลากอาธีน่าเข้ามา…” เหออวี้พูดด้วยความเซ็งสุดขีด การควบคุมของเขาเมื่อเทียบกับผู้เล่น conqueror พวกนี้แล้วเทียบกันไม่ได้เลย ทั้งหมดต้องพึ่งพาการคาดการณ์วิธีการโจมตีของพวกเขาอย่างแม่นยำแล้ววางแผนการล่วงหน้า ถึงจะเห็นว่าเป็นแค่ตำแหน่งที่ห่างกันไม่กี่ก้าว แต่ว่ามันก็มีรายละเอียดมากมายที่นำมาใช้ในการคำนวณ ผลก็คือโดนเตียวฉานเดินมาทีเดียวแพ้ทั้งกระดาน

แต่จะว่าไปแล้วเหออวี้ก็ชื่นชมแมวของชเรอดิงเงอร์คนนี้มาก หลังจากที่เจงกิสข่านของเขาเข้าพุ่มแล้วนางก็ไม่โจมตีออกมาทันที เห็นได้ชัดว่าทราบดีว่าตอนนั้นไม่สามารถจะโจมตีทำดาเมจใส่เจงกิสข่านออกไปได้เลย ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีเตียวฉานมาเป็นผู้ช่วย บางทีอาธีน่าก็คงจะสามารถเดินไปถึงตำแหน่งที่เจงกิสข่านซ่อนตัวอยู่ในพุ่มได้เหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นสถานการณ์จะกลายเป็นอย่างไรเหออวี้ก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน

เกาเกอไม่ได้สังเกตเห็นรายละเอียดข้อนี้ แต่เมื่อรู้ว่าฮีโร่เตียวฉานกับอาธีน่าสองตัวนี้มีสกิลอะไรบ้างก็ไม่ยากที่เธอจะคาดเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่ทอดถอนใจว่าช่างโชคร้าย

ความผิดพลาดเหรอ สำหรับทีมแล้วการใช้สกิลที่สองของเตียวฉานนี้ย่อมต้องเป็นความผิดพลาด แต่ว่านี่มันก็แค่เกมจับคู่กับคนสุ่ม ระดับของผู้เล่นและความรู้ใจกันมีจำกัด เกาเกอคาดว่าตัวเตียวฉานเองคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้ที่แพ้ไปมาจากการใช้สกิลที่สองอันนั้น ในเวลาทีมไฟต์มีรายละเอียดมากมายเหลือเกิน หากสามารถจะสังเกตเห็นและจัดการกับรายละเอียดทุกอย่างได้ก็ไม่ใช่เป็นผู้เล่นทั่วไปแล้ว นั่นเป็นระดับของนักเล่นเกมอาชีพ เกาเกอมีข้อเรียกร้องอย่างสูง แต่ก็ไม่ได้จะไปเรียกร้องกับคนสุ่มสูงถึงขนาดนั้น

ใจเย็น ๆ เราชนะได้น่า!

เตียวฉานหนุ่มดูเหมือนจะไม่ได้หงุดหงิดจากความพ่ายแพ้รอบนี้แต่อย่างใด ยังส่งข้อความให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมมาอีก ถ้ามองโดยภาพรวมแล้วในรอบนี้ที่ตายกันไปสามคนก็เป็นเพียงแค่การส่งความได้เปรียบที่ช่วงชิงมาได้อย่างยากลำบากกลับคืนไปเท่านั้นเอง อีกฝ่ายอาศัยความได้เปรียบตอนนี้เข้ามาเวดป่าโซนบัฟแดงของพวกเหออวี้ ตั๊กม้อที่เพิ่งจะเคลียร์ครีปป่าป่าโซนบัฟฟ้าเสร็จกำลังจะมาเคลียร์ป่าโซนบัฟแดงก็เผชิญกับความกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที มองเห็นศัตรูเต็มพรืดไปหมดก็ย่อมไม่กล้าเดินหน้าต่อ ตามมาด้วยป้อมแรกเลนกลางที่กันไม่อยู่ หลังจากเคลียร์ครีปของอีกฝ่ายไปแล้วก็ถอยออกมา

พวกเหออวี้สามคนเกิดใหม่แล้วรวมตัวกันไปสู้อีกครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายก็ระมัดระวังตัวขึ้นกว่าเดิมแล้ว เริ่มที่จะตั้งใจโรมไปรอบ ๆ ไม่ปล่อยให้พวกเหออวี้มีโอกาสได้ซุ่มโจมตีอีก ในนาทีที่ 13.44 Dark Slayer ตัวที่สองเพิ่งเกิดใหม่ ทั้งสองฝ่ายก็เข้ามาทีมไฟต์ จางเฟยกับตั๊กม้อร่วมมือกันควบคุมสนามได้เป็นอย่างดีอีกครั้ง แต่ว่าก็ยังปล่อยให้อาธีน่าของอีกฝ่ายหนีรอดไปได้

แล้วก็เป็นอาธีน่าที่หลุดรอดจากการควบคุมนี้ที่สังหารเจงกิสข่านได้ในพริบตาเดียวจากนั้นก็กวัดแกว่งดาบปลายปืนอย่างตระการตา สู้หนึ่งต่อสี่ก็ยังได้เปรียบ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะตายลงไป แต่ในทีมไฟต์นี้ก็ได้ใช้สี่แลกห้า ได้เปรียบอย่างเหลือเฟือ ซุนซ่างเซียงเลิกตี Dark Slayer หันมาดันเลนเดี่ยว ๆ ดันจนป้อมในแตกจนไปถึงฐานในรวดเดียว

เกมโอเวอร์ ทั้งสามคนถอนหายใจโดยพร้อมเพรียง จากสถานการณ์ตอนเริ่มต้นที่เลวร้าย พวกเขาก็ได้เคยเห็นความหวังที่จะพลิกกลับอยู่ครั้งหนึ่ง รวมไปถึงรอบสุดท้ายที่ไปตีกันหน้า Dark Slayer ด้วย สี่ต่อห้าก็ทำให้เห็นได้ชัดแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้ได้เปรียบอะไรมากมายเลย ถ้าท่าอัลติของจางเฟยกับตั๊กม้อร่วมมือกันควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ก็ยังเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวง เสียดายที่อีกฝ่ายยังมีอาธีน่าอยู่อีกคนหนึ่ง ในทีมไฟต์รอบสุดท้ายนี้เขาได้แสดงเทคนิคการเล่นที่แข็งแกร่งออกมาอย่างแท้จริง ทั้งหมดต้องพึ่งพาการแสดงออกอันยอดเยี่ยมของนางพลิกกลับสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาธีน่าเป็น MVP ของอีกฝ่ายแล้วก็ของผู้เล่นทั้งหมดด้วย สถิติ Quad Kill 13-2-7 เจิดจ้าสุด ๆ ฟาร์มได้เงินมากสุด คะแนน 14.2 ก็ควรค่าแก่การโอ้อวด แต่ว่านี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เหออวี้สนใจมากนัก ในระบบการเล่นของเกมอาชีพที่เขาคุ้นเคยไม่ได้มีคะแนนประเมินจากระบบแบบนี้ เพราะว่ามีหลายครั้งมากที่สิ่งที่ผู้เล่นลงแรงไปในสนามไม่ได้ปรากฏขึ้นมาจากข้อมูลเกมพวกนี้

ในทางตรงกันข้ามเหออวี้สนใจเรื่องดาเมจมากกว่า อัตราส่วนของข้อมูลพวกดาเมจที่ได้รับและดาเมจที่ทำได้มีความสำคัญกว่ามาก นี่แสดงถึงการเล่นของผู้ล่นที่อยู่ในสนามตามความเป็นจริงได้มากกว่า

เจงกิสข่าน ดาเมจที่ทำได้คือ 16%

เมื่อเทียบกับเกมก่อนหน้านี้ที่เล่นกับพวกซูเก๋อสี่คนก็ดีขึ้นมาหน่อย แต่ว่าก็ยังถือว่าล้มเหลวอย่างหนักอยู่ดี เตียวฉานหนุ่มของพวกเขาสุดท้ายแล้วมีดาเมจมากที่สุดในทีมที่ 43% ไม่ใช่เพราะว่าเขาเก่งกาจมากมาย แต่เป็นเพราะว่าตัวทำดาเมจที่สำคัญอีกคนในทีมอ่อนเกินไป ทำให้เขากลายเป็นตัวทำดาเมจหลักของทีม

ดังนั้นจุดเปลี่ยนในเกมนี้คือตอนที่เตียวฉานใช้สกิลที่สกิลวาร์ปมาจนทำให้อาธีน่าตามมาถึงเจงกิสข่านของเขางั้นเหรอ บางทีอาจจะไม่ใช่ ถ้าเกิดว่าตัวทำดาเมจของทีมตัวเองได้แต่ยืนบื้อยิงรัวก็ย่อมทำให้ภาระบนบ่าของทุกคนหนักขึ้น ที่จริงแล้วระหว่างเล่นเกมนี้เหออวี้รู้สึกได้เลยว่าท่าทีและความสำคัญที่เพื่อนร่วมทีมมีให้ค่อย ๆ ย้ายออกไป จางเฟยของเกาเกอและหลิวปังของโจวม่อต่างก็พยายามที่จะเล่นสนับสนุนเขาเผื่อให้ในกรณีที่ดาเมจของเจงกิสข่านไม่สามารถเอาอยู่ เพื่อชัยชนะแล้วเพื่อนร่วมทีมที่แท้จริงทั้งสองที่คอยดูแลเขามาโดยตลอดจึงได้ให้เตียวฉานเป็นตัวหลักของทีม

น่าขายหน้าไหมล่ะ

จะมากจะน้อยก็ยังพอมีอยู่บ้าง แต่ว่าพอถามใจตัวเองดูแล้ว เพื่อนร่วมทีมก็แค่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้นเอง

เป็นฉันที่ยังไม่ดีพอ

คำพูดที่พี่เหอเหลียงมักจะพูดซ้ำ ๆ ดังขึ้นมาในใจของเหออวี้ ตัวเขาในตอนนี้ไม่ดีพอเป็นอย่างมากจริง ๆ งั้นก็ได้แต่ฝึกหนักเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นเท่านั้น!

“อีกรอบไหมครับ” เหออวี้หันไปมองอีกสองคน

“ไม่ต้องรีบมั้ง พวกเรามาดูรีเพลย์ของเกมนี้ก่อนเถอะ ศึกษาแล้วก็วิเคราะห์เกมด้วยกันไหม” โจวม่อกล่าว

“นายอยากจะดูอาธีน่าของอีกฝ่ายอะดิ” เกาเกอมองแวบเดียวก็รู้ใจโจวม่อแล้ว

“ฮาฮา…มีอะไรให้ดูล่ะ…ฮาฮา…” โจวม่อพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน ปัญหาก็คือตอนนี้เหมือนจะไม่มีเรื่องอะไรให้หัวเราะเลย ทำให้เสียงหัวเราะของเขายิ่งฟังดูแปลกปลอม ท่าทางที่น่าขายหน้านี้กลับทำให้เหออวี้และเกาเกอขำขึ้นมา

“งั้นก็มาดูกันเถอะ พวกพี่ก็ช่วยพูดไอเดียของพวกพี่ออกมาด้วยก็ได้ครับ ผมจะได้เข้าใจวิธีการเล่นของพวกพี่” เหออวี้พูด

“ดูเถอะ” เกาเกอพยักหน้า

ดังนั้นคนทั้งสามจึงได้มามุงดูรีเพลย์ของเกมจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวกัน โจวม่อไม่สนใจมุมมองการเล่นของเจงกิสข่านของเหออวี้แม้แต่นิดเดียว สุดท้ายเกาเกอก็เลยเล่นง่าย ๆ เปลี่ยนมุมมองไปที่ตัวของอาธีน่าของอีกฝ่ายซะเลย โจวม่อหันมาตั้งใจดูทันที

“จังหวะการเล่นดีจริง ๆ” เกาเกอพูด

“จับจังหวะเวลาได้แม่นยำมากด้วยนะครับ” เหออวี้พูด

“การควบคุมก็ระวังมากเลย ไม่มีการเล่นอย่างสิ้นเปลือง ถ้าเกิดว่าเป็นฉันล่ะก็ไปเวดป่าแดงแล้วคงจะไม่มีมานาเหลืออยู่แน่ ๆ แต่เขายังมีมานาเหลือพอที่จะไปเลนกลางบวกตั๊กม้อ ควบคุมสนามได้น่าทึ่งสุด ๆ” ตอนนี้โจวม่อกลายเป็นคนที่พูดมากที่สุดไปแล้ว

“นายดูทุก ๆ ครั้งที่เขาใช้สกิลออกมาสิ มันไม่ได้เป็นแค่การใช้ทำดาเมจเท่านั้นหรอกนะ” เกาเกอพูด

“แข็งแกร่งจริง ๆ ด้วย แค่ก…” รีเพลย์ตอนนี้มาถึงตอนที่อาธีน่าฆ่าหลิวปังด้วยตัวคนเดียว โจวม่ออดกระแอมไอออกมาไม่ได้

“Flicker เร็วไป” ตอนอยู่ในเกมเกออวี้ก็ชี้ถึงปัญหาข้อนี้มาทีหนึ่งแล้ว มาตอนนี้ก็ย่อมมต้องบอกออกไปอีกครั้ง

“เอิ่ม…แบบว่าเล่นตามสัญชาตญาณอะ ไม่ได้คิดอะไรมาก” โจวม่อพูด

“อาธีน่าคนนี้เขาคิดเยอะมากเลย เล่นละเอียดมาก” เหออวี้พูด

“คงไม่ใช่นักเล่นเกมอาชีพคนไหนหรอกใช่ปะ” โจวม่อพูด

“ผมคิดจริง ๆ นะว่าเล่นได้ละเอียดถึงขั้นนี้แล้วก็พูดได้ว่าอยู่ในระดับมืออาชีพแล้วแหละ” เหออวี้พูด

………………………………………………

ใครหนอ