ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) - ตอนที่ 56
ระบบโฮ่วอี้
ที่จริงแล้วเนื้อหาของช่วงเวลาแห่งราชาของพี่ห่าวก็มีไม่มากเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อเหออวี้บังเอิญไปเปิดดูคลิปของเจียอินเถียวเถียวคนนั้น หลังจากเหลือบดูจำนวนคลิปที่นักแคสอาชีพอัพโหลดขึ้นไป พี่ห่าวก็ยิ่งดูน้อยนิดไปกันใหญ่
ในคลิปพวกนั้นเกมที่พวกหวงเฉาห้าคนเล่นด้วยกันก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหมดล้วนเป็นเนื้อหาแบบพี่ห่าวฆ่าไปทั้งสี่ทิศอีกต่างหาก ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นพวกเหล้าเก่าในขวดใหม่มากกว่า เพียงแต่ว่าจุดมุ่งหมายหลักของเหออวี้ในตอนนี้เป็นจางเฉิงห่าว จากคลิปที่น่าทึ่งของเขายังไงเสียก็ยังศึกษาข้อมูลของจางเฉิงห่าวได้มากอยู่
“ระบบโฮ่วอี้ ใช้ได้!”
นี่คือสิ่งที่เหออวี้สรุปออกมาหลังจากศึกษามาตลอดทั้งคืน หลังจากส่งข้อมูลนี้เข้าไปในกลุ่มแชตของคลื่น7 แล้วเขาก็ล้มตัวลงนอน
เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่นขึ้นในกลุ่มแชตก็มีบทสนทนาขึ้นมาอีกหลายอัน เก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นโจวม่อที่รู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ ที่จะสามารถใช้ระบบชื่อดังอันนี้ได้ ส่วนเกาเกอนั้นก็เพียงพูดอย่างสงบนิ่งว่า “งั้นลองดู”
ลองก็ลอง
ในระบบโฮ่วอี้นอกจากฮีโร่โฮ่วอี้ตัวนี้แล้วฮีโร่ตำแหน่งอื่น ๆ ที่จริงก็ต้องมีข้อเรียกร้องด้วยเหมือนกัน เหออวี้ที่มีประสบการณ์ดู KPL มานานปีย่อมไม่ถึงกับไม่เข้าใจจุดนี้ เพื่อเป็นการรักษาเวลาและขจัดความยุ่งยากเขาจึงได้ดึงพี่ชายเหอเหลียงเข้ามาในกลุ่มแชตคลื่น7 ตรง ๆ เลย ให้เขาที่เป็นนักเล่นเกมอาชีพมาให้คำแนะนำทุกคนสักหน่อย
นี่ทำให้โจวม่อตื่นเต้นแทบเป็นแทบตายเลย
เดิมทีเขาที่ใช้หยางเจี่ยนก็ไม่ค่อยมั่นใจและกระวนกระวายอยู่บ้าง แต่พอเหอเหลียงบอกว่าหยางเจี่ยนดีมาก เหมาะที่จะใช้กับระบบนี้ตอนทีมไฟต์มากก็ทำให้เขาเกิดความฮึกเหิมเต็มที่ ฝึกซ้อมหนักกว่าคนอื่น ๆ ทุกคน
ส่วนเกาเกอ…
หลังจากเหอเหลียงพูดว่า “ที่จริงแล้วตัวซัพพอร์ตของคุณเป็นกุญแจหลักของระบบโฮ่วอี้เลย” เกาเกอตอบกลับว่า “แน่อยู่แล้ว” จากนั้นก็ไม่มีเรื่องให้พูดคุยกันอีกเลย
ทุกคนไม่ใช่ไก่ ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจระบบโฮ่วอี้เลย ที่หาเหอเหลียงมาไม่ใช่อยากจะให้เขามาสอนทุกคนว่าระบบโฮ่วอี้เล่นอย่างไร แต่เพียงหวังว่าเขาจะนำประสบการณ์อันล้นเหลือมาบอกทุกคนว่าการเล่นระบบโฮ่วอี้อาจจะพบเจอปัญหาอะไรได้บ้าง และตอนนี้ปัญหาที่หนักหนาสาหัสที่สุดของคลื่น7 ก็คือจ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ยสองสหายที่เป็นเพื่อนร่วมทีมระบบสุ่มที่ควบคุมไม่ได้เลย ระบบโฮ่วอี้ต้องใช้การร่วมมือกันสูงมาก ถ้าทั้งสองคนสามารถเล่นตอบรับได้ค่อนข้างดีก็จะมีพลังทำลายเพิ่มขึ้นมาก แต่ถ้าเพียงเอาแต่ลุยไปเดี่ยว ๆ ถึงแม้จะเป็นนักเล่นเกมอาชีพมานั่งอยู่ก็ยังทำอะไรไม่ได้
และเรื่องนี้ก็แก้ไขได้เพียงจากการพูดคุยเท่านั้น จนถึงตอนนี้เหออวี้ก็ยังไม่กล้าพูดว่ารู้จักสองคนนั้น แต่ดูเกาเกอกับโจวม่อเหมือนจะไม่ได้กังวลเกี่ยวกับจุดนี้เป็นพิเศษเลย คาดว่าในใจของพวกเขาก็รู้ ๆ กันอยู่ก็เลยไม่ไปสนใจมันซะเลย เขาเปลี่ยนจากเจงกิสข่านมาเป็นโฮ่วอี้ ส่วนตัวเลือกฮีโร่ของเกาเกอกับโจวม่อกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ระบบโฮ่วฮี้เริ่มมีพลังจริง ๆ ก็ตอนที่โฮ่วอี้มีเลเวลสี่และมีท่าอัลติศรดับสุริยัน
ระยะการโจมตีของศรดับสุริยันไปได้ทั้งสนาม ทำให้เป้าหมายที่โดนได้รับดาเมจแถมยังติดสตันอีกด้วย ระยะเวลาที่ติดสตันขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดที่ยิงศร ถ้าเกินครึ่งแมปก็ได้รับผลสตันนานสุดที่ 3.5 วินาที ที่เรียกว่าระบบโฮ่วอี้ก็คือการใช้สกิลหนึ่งเดียวของโฮ่วอี้อันนี้สนับสนุนจากไกล ๆ ใช้ประโยชน์จากผลควบคุมสนามที่กล้าแกร่งทำลายเป้าหมายของศัตรูทำให้เพื่อนที่อยู่ในการสู้รบได้เปรียบ ทำให้ศัตรูต้องตั้งรับ และโฮ่วอี้ที่เข้าร่วมด้วยจากที่ไกล ๆ อย่างนี้ก็ยังจะได้การเงินมาจำนวนหนึ่ง เร่งให้เกิดได้ไวขึ้น หลังจากได้อุปกรณ์มาครบชุดแล้วก็ยังจะกลายเป็นตัวดาเมจแบบระเบิดพลัง พอเข้าร่วมทีมไฟต์อย่างเป็นทางการแล้วศัตรูที่การเงินตามหลังไปแล้วก็ยากมากที่จะต่อต้านพลังโจมตีอันกล้าแข็งแบบนี้ได้ จนสุดท้ายได้รับชัยชนะมา
ไอเดียโดยคร่าว ๆ ของระบบโฮ่วอี้ก็ประมาณนี้ แต่ในเกมจริง ๆ ก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย คลื่น7 ทั้งสามคนช่วงนี้ฝึกซ้อมกันไม่หยุดไม่หย่อน หลังเรียนคาบบ่ายเสร็จแล้วก็มาอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากกลับไปที่ห้องนอนกันแล้วก็ยังเล่นเกมทีมสามคนต่อไป ในช่วงนี้โจวม่อก็ได้เชิญจ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ยให้มาด้วยกันอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าพวกเขาจะเล่นระบบระดับอาชีพอันนี้พวกเขาก็สนใจมากเหมือนกัน สัญญิงสัญญาว่าจะให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่ว่าซ้อมเหรอ ผ่านไปไม่กี่วันทั้งสองคนก็อิดออดไม่ยอมมาอีกแล้ว
เวลาหลายวันผ่านไปในพริบตา โฮ่วอี้เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่เล่นให้ชำนาญได้โดยไม่ยากเย็น มีดาเมจที่ค่อนข้างแกร่ง อัตราการเล่นในเกมอยู่ที่ประมาณ 70% ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในรายการมาไม่รู้ว่ากี่ปีแล้ว จะเห็นได้ว่าผู้เล่นชอบและเชื่อมั่นในตัวฮีโร่ตัวนี้มาก ในทางตรงกันข้าม เจงกิสข่านที่เหออวี้ฝึกฝนมาตลอดมีอัตราการเล่นอยู่ที่แถว ๆ 5% เท่านั้น ถึงจะไม่ได้เป็นที่โหล่จากบรรดาฮีโร่ทั้งหมด แต่ก็เป็นฮีโร่แครี่ที่มีอัตราการปรากฏตัวในสนามน้อยที่สุดตัวหนึ่ง เรียกได้ว่าเหออวี้ก้าวข้ามจากเหนือสุดไปใต้สุดจากตัวที่ถูกทิ้งเป็นตัวที่สุดฮิต
ในระหว่างที่ซ้อมหนักหลายวันนี้บางครั้งบางคราวก็เจอแมวของชเรอดิงเงอร์ออนไลน์อยู่ แต่เหออวี้เพิ่มเพื่อนไม่ได้ แล้วเขาที่กำลังยุ่งอยู่กับการฝึกซ้อมก็ไม่มีเวลาเฝ้าอยู่ที่รายชื่อเพื่อนรอเขาจบเกมแล้วชวนมาเล่นเกม แต่ว่าการเจอกันเสมอ ๆ แบบนี้ก็แทบจะยืนยันได้แล้วว่าแมวของชเรอดิงเงอน่าจะเป็นสมาชิกคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยตงเจียง เกาเกอกับโจวม่อไม่เคยได้ยินชื่อนี้ในแวดวง The Kings ดังนั้นก็อาจจะไม่ได้เป็นนักศึกษาหรืออาจจะเป็นแอดเคาท์ลับที่จงใจซ่อนเอาไว้ แต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน เหออวี้เปลี่ยนมาเป็นโฮ่วอี้ นอกจากการร่วมมือกันเล่นหลังจากที่ไปถึงเลเวลสี่แล้ว การสู้กันในป่ารอบแรกก่อนที่จะเลเวลสี่พวกเขาสองคนก็ต้องปรับเปลี่ยนไปไม่น้อย
ถึงแม้ว่าเจงกิสข่านเองก็ไม่ได้มาช่วยเหลือการต่อสู้ด้านนี้เหมือนกันแต่ว่าสกิลหนึ่งตาเหยี่ยวของเขาสามารถทำให้มองเห็นวิชั่นที่แสนจะสำคัญได้ ทำให้คนทั้งสองรู้การเคลื่อนไหวของศัตรูมากกว่า ตอนนี้โฮ่วอี้ไม่มีวิธีการแบบนี้ การเกาะกุมสถานการณ์ของคู่ต่อสู้ก่อนที่จะเลเวลถึงสี่ต้องใช้วิธีการอย่างอื่น
สถานการณ์หลากหลาย รายละเอียดหลากหลาย ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหลากหลาย ทั้งหมดล้วนถูกฝึกซ้อมไปในช่วงหลายวันนี้ทีละอย่าง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยิ่งมายิ่งน่าวางใจ บางครั้งศัตรูที่เจอไม่ได้เป็นอย่างลูน่าที่พึ่งพาบัฟฟ้าเป็นพิเศษ แต่จะอย่างไรหลังจากที่โซนบัฟฟ้าถูกควบคุมได้โดยสิ้นเชิงแล้ว ระบบโฮ่วอี้ก็เป็นที่พึ่งพาได้จริง ๆ ไม่เพียงแต่เป็นการสู้แย่งบัฟตัวเดียวนี้เท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้เพื่อการเงินไปครึ่งแมป นี่จะทำให้ศัตรูอ่อนแอลงและเราก็แข็งแกร่งขึ้น
ในที่สุดก็ถึงวันแข่งขันแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากว่านักศึกษาที่มาเข้าร่วมการแข่งขันมาจากทุกชั้นปีทุกภาควิชาจึงเป็นการยากมากที่จะจัดเวลาตามตารางเรียนของทุก ๆ คนถึงได้เอามาแข่งกันในวันสุดสัปดาห์ที่ไม่มีการเรียนการสอน ในรอบแรกมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากที่สุด ไม่สามารถจะให้ทุกคนแข่งในเวลาเดียวกันได้ คนส่วนมากที่เป็นผู้แข่งขันก็เป็นสมาชิกที่อยู่ในชมรม The Kings ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเกมการแข่งขันอย่างเช่นพวกงานเป็นกรรมการด้วย เรื่องอย่างการจัดตารางการแข่งขันนี้ชมรม The Kings ก็ต้องเป็นคนจัดการด้วยเหมือนกัน
พวกคลื่น7 ไม่มีใครเป็นสมาชิกชมรม The Kings ไม่ต้องใช้หนึ่งใจแยกเป็นสองทาง ในวันแข่งตามเวลาและสถานที่ซึ่งได้ถูกกำหนดไว้ — โรงยิมมหาวิทยาลัยตงเจียง — พวกจ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ยทั้งสองคนในวันนี้ก็ได้ทำตัวน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้างแล้ว มาถึงก่อนพวกเหออวี้สามคนเสียอีก
มีเกาเกอกับโจวม่ออยู่ พวกคลื่น7 ทั้งห้าก็ลงทะเบียนกันเสร็จอย่างราบรื่น ทั้งโรงยิมเต็มไปด้วยเสียงผู้คนเซ็งแซ่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าชมรม The Kings มีประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมนี้อย่างสูง ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ช่วงนี้เหออวี้ได้ยินมาว่าโรงเรียนปกติทั่วไปถ้าจะจัดกิจกรรมแบบนี้ จะมากจะน้อยก็ยังต้องมีการจำกัดแรงค์กันเพื่อลดจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขัน ถ้ามีคนมากเกินไปก็จัดการยากมากจริง ๆ
แต่ในมหาวิทยาลัยตงเจียงไม่มีข้อจำกัดแบบนั้น ถ้าเกิดว่ามีสถานะเป็นนักศึกษา จะเล่น The Kings of Glory เป็นหรือไม่เป็นก็ไม่ใช่ประเด็น แล้วก็กล่าวกันด้วยว่าความเปลี่ยนแปลงนี้มันเกิดขึ้นหลังจากที่ซูเก๋อได้กลายมาเป็นประธานชมรม The Kings of Glory ถึงได้เริ่มเปลี่ยน และก็เนื่องจากการที่เขาลดข้อจำกัดของกิจกรรมลงจนเกือบจะเรียกได้ว่าไม่มีข้อจำกัดนี้เองที่ทำให้ The Kings of Glory ในมหาวิทยาลัยตงเจียงนี้ยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่นจางเฉิงห่าวที่ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยมาก็ไม่ได้เล่นเกมมือถือ สุดท้ายแล้วก็ถูกบรรยากาศพาไปจนกลายมาเป็นแฟนเดนตายของ The Kings เสียได้ นักศึกษาแบบเขาในมหาวิทยาลัยตงเจียงแห่งนีมีไม่น้อยเลย
เพียงแต่ผู้เข้าร่วมแข่งขันในรอบแรกมีเยอะมาก ในขั้นนี้จึงไม่ได้มีการฉายภาพการแข่งขันขึ้นจอโปรเจคเตอร์ ทั้งหมดต้องรอจนการแข่งขันดำเนินไปถึงจุดหนึ่งจึงจะมีการจัดเตรียมที่หรูหราแบบนั้น ตอนนี้ในรอบนี้ หลังจากที่คลื่น7 ทั้งห้าคนเดินเข้ามาในโรงยิมแล้วก็ไปหากรรมการที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการแข่งขันของพวกเขาเพื่อลงทะเบียน จากนั้นก็รอให้พวกหวงเฉาทั้งห้าคนปรากฏตัว