ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) - ตอนที่ 74
ซุ่มในพุ่มได้ละเอียดมาก
หลิวฉาน?
เมื่อได้เห็นฮีโร่ตัวนี้พวกทีม 422-424 ทั้งห้าคนล้วนอึ้งไป จากนั้นก็เห็นว่าคลื่น7 ยืนยันแล้วก็เริ่มแลกเปลี่ยนฮีโร่กัน เจียงจื่อหยากลับไม่ได้ถูกส่งไปให้คนที่เล่นไม่เก่งที่สุดอย่างที่พวกเขาคิดกันแต่ว่าถูกส่งเข้ามือเกาเกอที่พวกเขาเกรงกลัวที่สุด ภัยคุกคามอันดับสองอย่างโจวม่อก็หยิบจงอู๋เยี่ยนไป เด็กใหม่เหออวี้ยังเป็นโฮ่วอี้เหมือนเกมก่อนหน้านั้น ส่วนจ้าวจิ้นหรานที่ตามรายงานบอกว่าเล่นได้แต่อาเคอตัวเดียวก็หยิบเอาหลี่หยวนฟางไปอย่างน่าแปลกใจ และหลิวฉานซึ่งเป็นฮีโร่ตัวที่ห้าที่เลือกมานั้นก็กลับถูกส่งไปที่มือของคนผ่านทางที่ได้มาเป็นสมาชิกในวินาทีสุดท้ายคนนั้นไป
การจัดทัพอย่างนี้ทำให้ทีม 422-424 ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ เกาเกอกับโจวม่อที่เป็นสองแม่ทัพใหญ่ในไลน์อัพของคลื่น7 ครั้งนี้ดูจะไม่ได้มีตำแหน่งเป็นตัวหลักที่สำคัญเป็นพิเศษเลย คลื่น7 ใช้ไลน์อัพแบบนี้คิดจะเล่นกลยุทธ์อะไร ด้านทีม 422-424 ก็พอจะดูออกบ้างแล้ว
“นี่คิดจะเล่นดันเร็วรึเปล่า”
มองดูไลน์อัพแบบนี้ สำหรับผู้เล่นที่มีความเข้าใจ The Kings of Glory ปกติแล้วก็ต้องคิดถึงความเป็นไปได้นี้เป็นอันดับแรก ไม่ว่าอย่างไรลักษณะของฮีโร่หลิวฉานตัวนี้ก็ชัดเจนมาก สกิลติดตัวบาเรียร์สนามแม่เหล็กทำให้สกิลหนึ่งสองของเขามีผลขัดขวางการทำงานของป้อมได้ 1 วินาที ถ้าผู้ควบคุมเลือกใช้สกิล Disturb ด้วยก็จะมีความสามารถในการต่อสู้กับป้อมได้กล้าแกร่งมาก กลยุทธ์ที่ใช้กับหลิวฉานมักจะเป็นการเล่นแบบลุยไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วทั้งนั้น
“เจียงจื่อหยา, หลิวฉาน, สองแครี่ ก็เป็นไปได้อยู่” หลังจากหวงปินกวาดตามองฮีโร่ของคลื่น7 ทั้งหมดแล้วก็ครุ่นคิดอย่างหนัก
“งั้นพวกเราจะเล่นยังไง” เพื่อนร่วมทีมถามมา
“ตอนแรกก็ไปรวมกันที่เลนกลางก่อนรอบหนึ่ง พวกเขาคิดที่จะดันกลางจริง ๆ พวกเราก็เล่นห้าต่อห้า พวกเขาจะทำอะไรพวกเราได้ล่ะ” หวงปินกล่าว
“แล้วถ้าเกิดพวกเขาเริ่มเกมแบบธรรมดา ๆ ล่ะ” เพื่อนร่วมทีมถามอีกรอบ
“งั้นก็ไปเวดป่าของพวกเขาตรง ๆ เลย” หวงปินพูดอย่างภาคภูมิ “นี่ไม่ใช่แผนการเริ่มแรกของพวกเราหรือไง ตอนนี้ก็แค่ไปที่เลนกลางดูก่อนรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรนี่”
เพื่อนร่วมทีมกดไลน์ไปตาม ๆ กัน ตอนนั้นเองการแข่งขันก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เข้าสู่หน้าโหลดเกม ทีม 422-424 ทั้งห้าคนมองดูสกิลชาเลนเจอร์ของฝ่ายตรงข้าม จงอู๋เยี่ยนกับหลิวฉานทั้งสองคนต่างก็เลือกใช้ Disturb เจตนาชัดเจนจนไม่อาจชัดกว่านี้อีกแล้ว สกิล Disturb นี้มีหน้าที่ยับยั้งการทำงานของป้อม 5 วินาที สรุปก็คือเอาไว้ใช้เตรียมดันป้อมล้วน ๆ
ดูที่สกิลของผู้เล่นอีกสามคน เจียงจื่อหยากับโฮ่วอี้ใช้ Flicker ที่ค่อนข้างพบได้ทั่วไปมากกว่า หลี่หยวนฟางกลับใช้เป็น Roar สกิลชาเลนเจอร์ของทั้งห้าคนแม้แต่ Punish ก็ยังไม่มี แสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าอยากจะดันเร็วเพื่อคว้าชัยมา
นี่ก็เป็นสาเหตุที่กลยุทธ์ดันเร็วไม่สามารถประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับสูงอย่าง KPL ได้ การต่อสู้แบบรวดเดียวจบที่ควรจะเป็นเรื่องไม่คาดฝันอย่างที่สุด แต่เนื่องจากการเลือกไลน์อัพและสกิลชาเลนเจอร์ กลยุทธ์ลอบโจมตีก็เลยกลายเป็นเหมือนการเป่าแตรประกาศก้องให้คู่ต่อสู้รู้อย่างไรอย่างนั้น แบบนี้ผลลัพธ์จะเป็นเช่นใดก็คงจะจินตนาการกันออก
ห้าคนของทีม 422-424 ตอนนี้ก็ยืนยันถึงเจตนาของคลื่น7 ได้อย่างมั่นใจแล้ว แล้วก็มีแผนการโต้ตอบแล้วด้วย สภาวะจิตใจจึงผ่อนคลายมาก เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการหวงปินก็ส่งเสียงว่า “ไปกัน” ออกมาคำหนึ่ง แล้วทั้งห้าคนก็เคลื่อนทัพไปที่เลนกลาง
“ไท้อี่ไปตีพุ่มเลย ซูลี่ตามเขาไปใกล้ ๆ อิ๋งเจิ้งนายเรียนสกิลหนึ่งก่อน หลานหลิงหวังนายรอบนี้ไม่ต้องใช้ค้อนแล้ว” หวงปินทางหนึ่งก็แจกจ่ายหน้าที่ อีกทางก็ยังไม่ลืมแซะหลานหลิงหวังว่าแอสซาซินตัวนี้มีประโยชน์ในทีมไฟต์เลเวลหนึ่งอย่างจำกัด ทั้งห้าคนหัวเราะด้วยกัน ท่ามกลางเสียงหัวเราะก็มาถึงที่เลนกลาง ไท้อี่เจินเหรินแทบไม่ลังเล คำนวณเวลาแล้วก็เปิดใช้สกิลหนึ่งอุบัติเหตุ พุ่งเข้าไปในพุ่มด้านซ้าย พอเห็นว่าพุ่มซ้ายไม่มีคนก็รีบพุ่งไปด้านขวาอีกรอบ มาร์โคโปโลของตัวหวงปินเองตอนนี้ก็ได้ชี้สกิลหนึ่งเล็งไปที่พุ่มด้านขวาแล้ว เพียงรอให้ไท้อี่เจินเหรินพุ่งชนจนเป้าหมายหลุดออกมาหรือว่าถ้าเป้าหมายหนีออกมาก่อนก็จะได้ทำดาเมจออกไปได้หนึ่งชุดทันที
ปัง!
ไม่มีใครสกัดไท้อี่เจินเหริน แล้วก็ไม่มีใครหนีออกมาจากพุ่มด้วย ไท้อี่เจินเหรินที่บุกเข้าไปในพุ่มระเบิดเตาหลอมออกมา ผลก็คือพุ่มด้านนี้ก็ไม่มีคนเหมือนกัน ปืนของมาร์โคโปโลที่เล็งออกไปถูกวางลง อิ๋งเจิ้งที่เตรียมจะเรียกคลื่นกระบี่ออกมาก็เก็บกลับไปก่อน ซูลี่ที่ยืนถือกระบองใหญ่อยู่กลางเลนกลางมองไปทั่วอย่างว่างเปล่า ส่วนหลานหลิงหวังก็ทำตัวเหมือนอย่างที่หวงปินแซะไปจริง ๆ หดตัวอยู่ที่เบื้องหลัง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
“คนล่ะ” หวงปินพึมพำ
ขณะที่พูดอยู่ครีปก็มากันแล้ว ด้านของคลื่น7 ยังไม่เห็นใครโผล่หน้ามา พวกทีม 422-424 ล้วนซุ่มกันอยู่ในพุ่มตรงเลนกลาง เห็นฝั่งโน้นยังไม่มีคนก็เฝ้ารออย่างกระสับกระส่ายอย่างนี้ดูครีปทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นกัน อารมณ์ความรู้สึกที่เดิมทีผ่อนคลายสบายใจกลับกลายเป็นความตึงเครียด อย่างที่เขาว่ากันว่าเรื่องราวผิดปกติย่อมต้องมีภูตผี ถ้าเกิดว่าจะดันเร็วก็ควรจะมีห้าคนมาด้วยกัน ถ้าเปิดเกมตามปกติเลนกลางก็ต้องมีคนมาเฝ้า ตอนนี้คลื่น7 แม้แต่คนเดียวก็ไม่มีมา นี่คิดจะทำอะไรกันแน่นะ
ยังไม่ทันจะได้ปรึกษากันก็เห็นบนมินิแมปว่าครีปทั้งสองฝ่ายในเลนล่างที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดมีรูปสามคนโผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หลิวฉาน!
หลี่หยวนฟาง!
โฮ่วอี้!
หนึ่งคนควบคุมป้อม สองคนเป็นตัวหลักในการทำดาเมจใส่ป้อม แกนหลักทั้งสามคนจากไลน์อัพดันเร็วกลับไปปรากฎตัวขึ้นที่เลนล่างอย่างเหนือความคาดหมาย
“ไปดันเร็วที่เลนข้างเหรอ” ทีม 422-424 ร้องโหยหวนออกมาแล้ว สายตาของทั้งสี่คนหันไปมองกัปตันหวงปินที่นั่งอยู่ตรงกลาง สถานการณ์แบบนี้จะต้องจัดการยังไง ยังไม่ได้คุยกันเลยอะ!
“อยากไปช่วยกันไหม” คนหนึ่งถาม
“อยากให้พวกเราดันกลางไหม” คนที่สองพูด
“จะตีป้อมพวกเราก็ไม่เร็วเท่าพวกเขานะ!” คนที่สามพูด
“ตอนนี้จะไปช่วยกันก็สายไปแล้วปะ” คนที่สี่พูด
สี่คนสี่ประโยค หวงปินได้แต่รู้สึกสมองพองโต เขาผู้เป็นกัปตันคนนี้ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนที่มีความสัมพันธ์อันดีมากที่สุดในหมู่สหายห้าคน ในหมู่คนทั้งห้าเป็นคนที่มักจะตัดสินใจบ่อย ๆ ตอนที่ฟอร์มทีมต้องการกัปตันทีมหนึ่งคนก็ย่อมผลักภาระมาให้ตัวเขาอย่างเป็นธรรมชาติมาก ที่จริงแล้วระดับความตระหนักรู้ด้านกลยุทธ์เกมของเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าสหายอีกสี่คนที่ตรงไหน มาตอนนี้แต่ละคนพูดคนละประโยคแล้วรอให้เขาตัดสินใจ แต่ว่าที่จริงเขาก็ไม่รู้จะทำอะไรดีพอ ๆ กับอีกสี่คนนั่นล่ะ!
เพียงลังเลเล็กน้อยครีปเลนล่างก็ถูกกลืนกินหมดสิ้นแล้ว มาตอนนี้ถึงรีบไปก็รักษาป้อมไว้ไม่ได้ ทางที่ฉลาดก็คือแลกป้อมกันไป!
“ดันกลาง!” หวงปินตัดสินใจในที่สุด ห้าคนที่อยู่ในพุ่มกระโดดออกมา เพียงพริบตาเดียวก็เก็บครีปเล็กของคลื่น7 ไปได้หมด จากนั้นก็รวมตัวกับครีปเล็กบ้านตัวเองพุ่งไปข้างหน้า
ที่เลนล่างสามฮีโร่ของคลื่น7 ก็เริ่มตีป้อมกันแล้ว เนื่องจากไม่มีใครมาขัดขวาง การคงอยู่ของหลิวฉานจึงดูไม่ค่อยมีความจำเป็นเท่าไหร่ หลี่หยวนฟางโยนสกิลหนึ่งล่าจารชน* แล้วก็เปิดใช้ Roar โจมตีอย่างบ้าคลั่ง โฮ่วอี้ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างกายเขาก็หลับหูหลับตายิงธนู หวงปินดึงหน้าจอไปเหลือบดูเลือดของป้อมแรกเลนล่างก็รู้ว่ารักษาเอาไว้ไม่อยู่ ด้านนี้ถ้าตีป้อมแรกเลนกลางไม่ได้ก็จะเสียหายใหญ่หลวงแล้ว
ดึงสายตากลับมาที่เลนกลาง แถวครีปก็เดินเข้าป้อมไปแล้ว ด้านทีม 422-424 นี้ก็มีมาร์โคโปโลแค่หนึ่งตัวที่เป็นแครี่ อีกทั้งยังไม่ถือว่าเป็นพวกที่โดดเด่นด้านการตีป้อมอีกด้วย เพื่อที่จะสามารถตีป้อมให้แตกก่อนที่ครีปจะตายหมดทีม 422-424 ทั้งห้าคนจึงกรูกันเข้าไป แม้แต่ไท้อี่เจินเหรินก็ยังวิ่งไปใต้ป้อมเหวี่ยงโซ่แขวนเตาหลอมของตัวเองไปทางซ้ายทีขวาทีอย่างสุดความสามารถ
น่าจะโอเคมั้ง
ในขณะที่มองดูเลือดของป้อมที่ลดลงไปเรื่อย ๆ หวงปินก็คาดคำนวณในใจ แม้ว่าความสามารถในการดันป้อมของพวกเขาทางนี้จะธรรมดามาก แต่ว่าพลังการโจมตีจากคนห้าคนก็ยังมีน้ำหนักอยู่บ้าง
พักเดียวครีปเล็กหนึ่งตัวก็ล้มลง อีกพักหนึ่งครีปเล็กตัวที่สองก็ล้มลง ตอนนั้นเองระบบก็ได้ประกาศออกมาว่าหลี่หยวนฟางที่อยู่เลนล่างทำลายป้อมของพวกเขาไปได้หนึ่งป้อม ใจของหวงปินค่อนข้างร้อนรน ครีปเล็กตัวที่สามดันเป็นหน่วยโจมตีไกลซะด้วย ไม่ได้มีความสามารถเทียบเท่ากับหน่วยประชิดสองตัวก่อนหน้า ดูไปแล้วพวกเขาคงจะตีป้อมกลางอันนี้ไม่แตก
“น่าจะมาให้เร็วหน่อย สภาพของครีปมันไม่ค่อยดีอะ!”
“น่าจะตีป้อมก่อนหน่อยปกป้องครีปเอาไว้”
พวกสมาชิกทีมเริ่มแสดงความรู้สึกเสียดายออกมา ในใจหวงปินเองก็รู้สึกผิดหวัง อีกแค่นิดเดียว ตีให้แตกไปเลยดีไหมนะ ในขณะที่ใคร่ครวญอยู่ ใต้ป้อมก็มีวงแสงระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน
“เชี่ย!” สมาชิกทีมกรีดร้อง เห็นว่าในพุ่มริมป่าด้านซ้ายมือของป้อม เจียงจื่อหยากำลังชูไม้เท้าของเขาขึ้นสูง ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว ทนรอจนถึงช่วงเวลาที่ครีปเหลือเลือดเพียงสายใยเดียว สกิลหนึ่ง “กลับตัว” ถูกปล่อยออกมา ทำให้ฮีโร่ระยะประชิดสามตัวที่รวมตัวกันตีป้อมอย่างบ้าคลั่งอยู่ใต้ป้อมได้รับดาเมจหมู่
ครีปเล็กตัวที่สามก็ล้มลงไปพร้อม ๆ กัน ลำแสงจากป้อมเริ่มยิงเข้าถล่มฮีโร่ ซูลี่ใช้ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้ารีบพุ่งหนีออกจากเขตป้อม ไท้อี่เจินเหรินและหลานหลิงหวังไม่มีสกิลเช่นนั้น ได้แต่เดินไปทีละก้าวอย่างยากลำบาก — สกิลหนึ่ง “กลับตัว” ของเจียงจื่อหยานี้ทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องมากได้ถึง 5 วินาที และในระยะเวลาช่วงนี้ก็จะค่อย ๆ ลดความเร็วเคลื่อนที่ของเป้าหมายลง มากที่สุดลดได้ถึง 90%
ไท้อี่เจินเหรินและหลานหลิงหวังเคลื่อนที่ได้ช้าลง ๆ โชคดีที่ลำแสงจากป้อมสามารถเล็งเป้าได้แค่ทีละตัว แต่ว่าหลังจากกินไปสองเม็ดไท้อี่เจินเหรินก็รู้สึกว่าทนต่อไปไม่ได้แล้ว ใช้ Flicker ออกมาตามสัญชาตญาณอยากจะเร่งความเร็วหนีออกจากระยะของป้อม ใครจะคิดว่าเจียงจื่อหยาที่เลเวลสองแล้วจะใช้สกิลสองทำลายสิ้นทิ้งลงมาที่ตำแหน่งที่เขา Flicker ไปพอดี พลังงานที่ระเบิดออกมีผลผลักเป้าหมาย ถึงขนาดที่ผลักไท้อี่เจินเหรินกลับไปยังตำแหน่งเดิม แถมยังเข้าใกล้ป้อมมากกว่าเดิมอีกนิดหน่อยด้วย
“เชี่ย!”
ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนด่าไท้อี่เจินเหรินก็ล้มลง หลานหลิงหวังยังคงพยายามเดินอย่างหนักหน่วง เขาที่เป็นตัวป่าสกิลชาเลนเจอร์ที่หยิบมาก็คือ Punish ตอนนี้สกิลวาร์ปแม้แต่เล็กน้อยก็ยังไม่มี หลังจากป้อมสังหารไท้อี่เจินเหรินไปแล้วก็เริ่มยิงใส่เขา เจียงจื่อหยาตอนนี้ก็ออกจากพุ่มเข้าไปในป้อมตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ไล่ตามหลังเขาส่งมอบการโจมตีธรรมดามาให้ไม่เบา
อีกสามคนของทีม 422-424 ก็ไม่ได้เพียงแต่มองดูอยู่นอกป้อม อิ๋งเจิ้งปล่อยสกิลหนึ่งไป พยายามขัดขวางเจียงจื่อหยาที่เร่งฝีเท้าตามมา สกิลหนึ่งของมาร์โคโปโลยิงรัวไปชุดหนึ่ง ก็คืออยากจะให้เจียงจื่อหยาหยุดไล่ตามมาเหมือนกัน
แต่ว่าเจียงจื่อหยาดูไปแล้วไม่รีบไม่ร้อน คลื่นกระบี่ทองคำของอิ๋งเจิ้งเขาก็เดินอ้อมไป บุปผาพิรุณหมุนซ้ายของมาร์โคโปโลที่ยิงมาเขาก็หมุนตัวหลบเลี่ยงไปได้กว่าครึ่ง หลานหลิงหวังตอนนี้เพิ่งจะออกจากระยะการยิงของป้อมมาได้ ผลจากกลับตัว 5 วินาทีก็ยังอยู่บนร่าง
ฝีเท้าของเขาเชื่องช้ามาก ชีวิตของเขากำลังจะหลุดลอยไป ลำแสงของป้อมไล่ยิงใส่เป็นครั้งสุดท้าย เจียงจื่อหยาอ้อมผ่านคลื่นกระบี่ทองคำของอิ๋งเจิ้งไปแล้วสุดท้ายก็ยังไล่ตามเขาทัน การโจมตีธรรมดาถูกส่งออกมาอีกครั้ง
Double Kill!
ต่อจากไท้อี่เจินเหริน หลานหลิงหวังก็ล้มลงจนได้ในที่สุด
เจียงจื่อหยายืนโดดเดี่ยวอยู่บนเลนกลาง เผชิญหน้ากับศัตรูห้าคนที่พยายามดันกลาง แต่ก็ยังเอา Double Kill มาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
“การซุ่มในพุ่มนี่ มันช่าง…” เหออวี้ที่สนอกสนติดตามการต่อสู้ด้านนี้จากที่ห่างไกลหลังจากมองเห็นการวางแผนและควบคุมรอบนี้แล้วก็มีความรู้สึกท่วมท้น แต่เกาเกอกลับรีบใช้ Flicker อย่างรวดเร็วหันหลังกลับมุ่งหน้ามาทางเขาแล้ว
“ละเอียดมากเป็นพิเศษจริง ๆ!” เหออวี้มองหน้าจอโทรศัพท์มือถือถอนหายใจอย่างจริงจัง
……………………………………………………….
*ชื่อสกิล ล่าจารชน ภาษาจีนคือ 谍影重重 แปลตรง ๆ น่าจะเป็น สายสืบหลายชั้น? แปลก ๆ ยังไงไม่รู้เราเลยไปกูเกิ้ลดูปรากฏว่าเป็นชื่อหนังค่ะ เรื่อง Bourne Identity ชื่อไทยคือ ล่าจารชน ยอดคนอันตราย เพื่อให้เป็นการอ้างอิงตามชื่อหนังด้วยเราเลยเลือกใช้คำว่า “ล่าจารชน” ที่เป็นส่วนหนึ่งของชื่อหนังในภาษาไทยมาค่ะ
ปล. ยังไม่ออกแต่ตัวหลิวฉานมีสกิลอัลติที่ชื่อ “เป้าโจ่วแพนด้า” ซึ่งก็เป็นชื่อของเกมแนวป้องกันฐานของจีนด้วยค่ะ