ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 534: น้องสาวผู้ถูกกลั่นแกล้ง (2)

หลังจากเวลาผ่านไปนานกว่าสัปดาห์ อลิเซียก็ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับ ตําแหน่งที่พักของเธอ ซึ่งก็คือตึกสีขาวที่ใกล้กับคฤหาสน์สีกรมท่าที่สุด ในบรรดาตัวเลือกทั้งหมดที่มี ไม่ไกลออกไปนักก็เป็นพื้นที่ของคลอง และพื้นที่ชายฝั่ ง มันแตกต่างจากทัศนียภาพที่ลึกเข้าไปในภูเขาแบบที่ โรเอลเลือก ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมสูงจากบรรดา นักเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า

โรเอลไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการตัดสินใจของอลิเซียแม้แต่น้อย แต่ คนภายนอกเข้าใจเป็นเช่นนั้น เพราะอย่างไรเสียความสัมพันธ์ระหว่าง ทั้งคู่ก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป ทว่าต่างจากความคิดของคนนอกที่คิดว่าการ เลือกตําแหน่งนี้ก็เพื่อการติดต่อที่ง่ายขึ้น เป้าหมายที่แท้จริงของอลิเซีย ที่เลือกที่นี่นั้นก็เพราะเพื่อลดระยะทางในการดอดไปหาโรเอลกลางดึก ต่างหาก

แต่พูดไปแบบนั้น ตั้งแต่เด็กสาวถูกโรเอลแกล้งแหย่ให้อายเป็นต้น มา ทุกครั้งที่อลิเซียเห็นโรเอลเธอจะหน้าแดง แล้วเธอก็ไม่ได้ไปหาเขา เลยในช่วงหลายวัน

โรเอลรู้สึกสงสารเด็กสาวอยู่นิดหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้ออกความเห็น อะไร และทําได้แค่ใช้พลังงานของเขาแทบทั้งหมดในการเรียนและ ภารกิจ

การรวบรวมข้อมูลในห้องสมุดเดินหน้าเต็มกําลังในทุกวัน และการ สัมมนาว่าด้วยการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่ป้อมปราการ ทาร์กก็มีการจัดเพิ่มเติมอีกหลายครั้งในเดือนที่ผ่านมา ทว่า ความก้าวหน้าก็ช่างเล็กน้อย แม้ว่านักโบราณคดีและโรเอลได้ทําการ พิสูจน์ว่าหกภัยพิบัติมีอยู่จริง แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะเชื่อมโยงมันกับ ป้อมปราการทาร์กได้ ประเด็นสําคัญคือมันไม่มีทางออก

จากการคาดการณ์ของโรเอล หกภัยพิบัติน่าจะสามารถถูกฆ่าได้ เหมือนกับที่บรรพบุรุษของเขา วินสเตอร์เคยทํา แต่ถ้าหากว่าโค่นมันลง ได้แล้ว คนที่หายไปจากป้อมปราการทาร์กจะสามารถกลับมาได้หรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ และที่สําคัญกว่านั้นก็คือ ยังไม่มีใครพบร่องรอยของ ม่านหมอกมรณะเลย

เช่นนี้เอง โรเอลกับพวกนักโบราณคดีจึงทําได้แค่ค้นหาหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์เพื่อหวังจะพบจดหมายเหตุเบาะแสในยุคเก่าๆ ไว้ บ้าง และเพื่อเร่งประสิทธิภาพให้สูงไว้ โรเอลจึงเกณฑ์คนมาช่วยจํานวน มากด้วย

เพราะว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวพันกับกุหลาบอรุณทั้งองค์กร ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกุหลาบทอง กุหลาบแดง หรือกุหลาบน�าเงินของโร เอลก็ตาม แต่ละฝ่ายต่างส่งคนมาจํานวนมาก นักเรียนเหล่านี้จะเป็น ด่านแรกที่คอยคัดกรองจดหมายเหตุที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ด่านที่สองคือ

เคิร์ตผู้มีความเข้าใจภาษาต่างๆ สูงกว่า และหลังจากนั้นจึงส่งผ่านมาที่ โรเอลเพื่อวิเคราะห์ต่อ

สิ่งที่เด็กหนุ่มผมดําจะต้องทําคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือ อะไรจริงและอะไรหลอก ทั้งหมดจะถูกบันทึกแยกกันไว้ ข้อมูลที่สําคัญ ก็จะถูกแยกออกมาทีละชิ้น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นงานที่น่าหดหู่และน่าเบื่อในสายตาผู้คน แต่ความสําคัญของมันสูงลิบลิ่ว มันถึงขั้นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความ ตายของผู้คนนับร้อยนับพัน โรเอลเน้นย�าเรื่องนี้เมื่อเขาเกณฑ์คน ดังนั้นนักเรียนแต่ละคนที่คัดมาจึงมีแต่พวกที่จริงจังและมีความ รับผิดชอบสูง ภายใต้การร่วมมืออย่างเป็นหนึ่งเดียวแบบนี้ หลังจาก ทํางานหนักมาแรมเดือน ในที่สุดโรเอลและคนอื่นๆ ก็พบเบาะแสที่น่า สงสัยบางอย่าง

ร่องรอยของหกภัยพิบัติ เนื้อหาลักษณะนี้ไม่ค่อยจะถูกพูดถึงหลาย ครั้งนักไม่ว่าหนังสือจะโบราณแค่ไหน และส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่เป็นคํา สันนิษฐานลอยๆ แต่หนังสือเล่มหนึ่งในนั้นดึงดูดความสนใจของโรเอล

มันเป็นหนังสือโบราณที่เก็บมาได้ในสมัยของจักรวรรดิออสทีน โบราณในยุคที่ 2 ซึ่งไม่ทราบผู้แต่ง เพราะนี่เป็นเพียงชิ้นส่วนของ หน้ากระดาษกรอบๆ แต่มันมีเนื้อหาเกี่ยวกับหกภัยพิบัติและมารดา แห่งเทพธิดา และเรื่องต่างๆ ที่ตรงกับความรู้ของโรเอล

หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นถึงมุมมองหนึ่ง นั่นคือ แม้ว่าการลืมตาตื่น ของหกภัยพิบัติจะเกี่ยวพันกับมารดาแห่งเทพธิดา มันก็ยังมีสาเหตุอื่น เช่น ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์และวงจรบางอย่าง หลังจาก วิเคราะห์มุมมองนี้ โรเอลก็รู้สึกว่าเป็นเหตุผลง่ายๆ แต่มีความเป็นไปได้

กระทั่งในยุคที่สามนี้ มารดาแห่งเทพธิดายังคงอยู่ในสถานะจําศีล และเวลาที่เธอจะลืมตาตื่นนั้นบางทีอาจจะอีกไม่นานแล้ว ถ้าหากว่าหก ภัยพิบัติลงมือพร้อมกันในช่วงนั้นละก็ เกรงว่ามนุษย์จะได้สูญพันธุ์ก็ คราวนี้แหละ

มันจะต้องมีสาเหตุอื่นที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกมันแน่ และ หนังสือเล่มนี้ก็คาดไว้ว่าน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของดวงจันทร์

ดวงจันทร์นั้นถูกเปรียบเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงมานับแต่โบราณ กาล และมันยังเป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับอีกด้วย คุณสมบัติแก่น แท้ต้นกําเนิดและคาถาเวทในทวีปเซียหลายๆ อย่างนั้นจําเป็นต้องใช้ ร่วมกับดวงจันทร์ จึงสามารถพูดได้เลยว่าดวงจันทร์มีส่วนตัดสิน เหตุการณ์ต่างๆ ครึ่งหนึ่งบนฟ้า และสีของดวงจันทร์ในทวีปเซียนั้นก็ ไม่ได้ตรงกับสามัญสํานึก และบ่อยครั้งที่มันจะมีกลไกต่างๆ แฝงมา

ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ดวงจันทร์สองดวงที่จะปรากฏทุกๆ สิบปี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประหลาดบนฟ้าที่พบได้บ่อยที่สุด หลายๆ ประเทศ เคยแม้กระทั่งจัดเทศกาลในช่วงนั้น ระหว่างปรากฏการณ์นั้นก็จะมี

ความเปลี่ยนแปลงทางระบบนิเวศน์ตามดวงจันทร์ เช่นความหนาแน่น ของพลังเวท…เดี๋ยวนะ!

การวิจัยที่เกี่ยวกับดวงดาวดึงดูดความสนใจของนักวิจัยหลายต่อ หลายคน แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีทฤษฎีที่สามารถพิสูจน์ได้ มันจึงจัดอยู่ใน เรื่องลึกลับและอยู่นอกเหนือจากความรู้ และหากมีความเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น มันก็จะถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกมุมโลก เพราะเช่นนั้นโรเอลจึงคิด ว่านี่น่าจะเป็นสัญญาณของการลืมตาตื่นของหกภัยพิบัติ

ทว่าปัญหาก็คือหนังสือโบราณที่โรเอลเจอชี้ไปที่ทิศทางเดียวและ ไม่ได้มีวิธีสืบค้นอย่างละเอียด คุณค่าทางวิชาการของมันสูงลิ่วจนพวก ศาสตราจารย์โบราณคดีที่รู้เกี่ยวกับมันจึงวางไม่ลง แต่ในฐานะของ หลักฐานแล้ว ถ้านําไปใช้โต้เถียงกันในการประชุม มันจะเต็มไปด้วย ช่องโหว่

แน่นอน เพราะมันเป็นข้อมูลสําคัญ โรเอลจึงให้เคิร์ตสืบประวัติ ของมัน แต่ว่าสิ่งที่ชายร่างกํายําเห็นนั้นกลับมีค่าเพียงเล็กน้อย คงเป็น เพราะว่าใครสักคนได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้เมื่อศตวรรษที่แล้ว ทว่าต่าง จากโรเอล เพราะเขาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับหกภัยพิบัติ นักอ่านคนนั้น จึงเลิกสนใจหนังสือที่เข้าใจไม่ได้นี้อย่างรวดเร็ว

กลับมาที่เดิม โรเอลยังคงล้มเหลวในการหาหลักฐานที่แน่ชัด แต่ เมื่อการค้นหาดําเนินต่อไป จํานวนจดหมายเหตุเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด

โบราณเหล่านั้นก็ถูกพบมากขึ้นเรื่อยๆ และในหอสมุดหลวงแห่ง จักรวรรดิเซนต์เมซิท ภารกิจในทํานองเดียวกันก็กําลังดําเนินอยู่ จนถึง ตอนนี้สองในสามของหอสมุดหลักของโลกได้เริ่มปฏิบัติการแล้ว มีเพียง จักรวรรดิออสทีนเท่านั้นที่ยังคงนิ่งเฉย

โรเอลไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะถึงอย่างไรจักรวรรดิเซนต์ เมซิทและจักรวรรดิออสทีนก็มักชอบทําอะไรตรงข้ามกันอยู่แล้ว เดิมที โรเอลอยากจะติดต่อลิเลียนเพื่อขอสืบค้นข้อมูล ทว่าหลังจากคิดอย่างถี่ ถ้วนแล้ว เขาก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม

สถานการณ์ปัจจุบันของลิเลียนภายในจักรวรรดิไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โรเอลจึงไม่อยากเพิ่มปัญหาให้เธอ ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่รู้ว่าคิดไป เองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกอยู่เสมอว่าช่วงนี้ลิเลียนกําลังหลีกเลี่ยงเขาอยู่

อย่างไรก็ตาม ระดับของการตรวจสอบและสืบค้นนั้นกว้างมากๆ อยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากในรอบศตวรรษ การค้นพบ เบาะแสสําคัญอื่นๆ อาจจะขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ทว่าขณะที่ทุกอย่าง เป็นไปอย่างราบรื่น ข่าวหนึ่งซึ่งสะเทือนไปทั่วโลกมนุษย์ตามด้วยการ ติดต่อฉุกเฉินจากเขตการปกครองฝั่ งตะวันออกก็ถูกส่งกลับมา ทําให้ เกิดความหวาดกลัวและกระสับกระส่ายไปทั่วโลก

พวกกลายพันธุ์เริ่มบุกแล้ว!