ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 641 นี่คือสิ่งที่เราหมายถึงเหรอ ?
ตอนที่ 641 นี่คือสิ่งที่เราหมายถึงเหรอ ?
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ปิดบังเช่นกัน เขาอธิบายแผนการของเขาโดยละเอียด
เย่กวงโต้วฟังและจดบันทึกลงในสมุดบันทึกของเขา เพราะไม่อยากพลาดรายละเอียดแม้แต่น้อย
แม้ว่ามู่เสี่ยวชิงจะฟัง แต่ความสนใจของเธอก็อยู่ที่เย่กวงโต้วมากกว่า เธอชื่นชมการจดบันทึกอย่างจริงจังของเย่กวงโต้ว ดวงตาของเธอเป็นประกายทันที
การที่ผู้ชายจริงจังกับงานของเขา มันช่างมีเสน่ห์จริง ๆ !
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเมื่อเห็นเธอ เขาสะกิดเธอด้วยแขนของเขาแล้วพูดว่า “ถ้าเธอไม่ฟังให้ดี โต๊ะหลุมไฟก็จะหายไป ! ”
“อ้อ อื้ม ! ” มู่เสี่ยวชิงตกใจมาก จนเธออุทานออกมาและกลายเป็นคนจริงจังอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น เย่กวางโต้วผู้ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาจึงได้ถามด้วยความไม่เข้าใจ “โต๊ะหลุมไฟอะไร ? ”
มู่เสี่ยวชิงพูดอย่างลนลานว่า “ฉันบอกหัวหน้าเจียงไปก่อนหน้านี้ว่าโต๊ะหลุมไฟของเราถูกประธานฟู่ย้ายออกไปแล้ว”
“อ้อ” เย่กวงโต้วพยักหน้าและไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาพูดว่า “หัวหน้าเจียง ต่อเลยครับ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม และอธิบายแผนของเขาต่อไป
เขาใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่ออธิบายรายละเอียดทั้งหมดที่เขาคิดได้
เย่กวงโต้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หัวหน้าเจียง เราจะทำเงินได้มากกว่า 5 ล้านจริงหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “อย่าประมาทพลังแห่งความหวัง”
มู่เสี่ยวชิงกล่าวว่า “ความโลภเป็นบ่อเกิดของความชั่วร้าย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอาล่ะ เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ไป หนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์จะเริ่มโฆษณา นอกจากนี้ฉันจะบอกโหยวโหย่วหยูในภายหลังว่ารถตู้ทั้ง 14 คันที่เหลือจะถูกมอบหมายให้กับนาย นายคิดสโลแกนไปติดที่ตัวรถตู้ เขียนบทความส่งเสริมการขาย หาพิธีกรทางสถานีโทรทัศน์ชื่อ……”
“หลี่หลิงหลิง ! ” มู่เสี่ยวชิงอุทานออกมา
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ใช่ หลี่หลิงหลิง ให้เธอช่วยบันทึกเสียงแล้วทำเทป นอกจากนี้ ซื้อเครื่องเสียงส่วนตัว 14 เครื่องและลำโพงเสียงคุณภาพดีมา 14 ตัว ขับรถตู้ไปตามถนนทุกสายในเมืองตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น. ในทุกวัน ให้เน้นประชาสัมพันธ์เวลาที่คนกำลังพักผ่อน”
มู่เสี่ยวชิงอ้าปากค้าง “โฆษณาแบบนี้ทำได้ด้วยเหรอ ? ”
เย่กวงโต้วที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดอย่างเฉยเมย “ตราบใดที่มันมีผลส่งเสริมการขาย จะให้ทำอย่างไรย่อมได้ทั้งนั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวอย่างพอใจว่า “ผู้จัดการเย่ นายได้พัฒนาขึ้นมากและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม ตราบใดที่มีผลลัพธ์ ย่อมถือเป็นการโฆษณาที่ดี”
เย่กวงโต้วพยักหน้า “หัวหน้าเจียง ผมจะจำไว้”
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่มู่เสี่ยวชิงอีกครั้ง “เธอต้องเรียนรู้เพิ่มเติมจากผู้จัดการเย่ เข้าใจไหม ? ”
มู่เสี่ยวชิงพยักหน้าอย่างลนลาน แล้วพูดกับเย่กวงโต้วอย่างมีความสุข “คุณได้ยินไหม ? ตอนนี้ฉันได้รับคำสั่งให้เรียนรู้จากคุณ คุณต้องสอนฉันทีละขั้นตอน ถ้าคุณไม่สามารถสอนฉันได้ แสดงว่าคุณไม่เชื่อฟังและฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้าเจียง ! ”
“ฉัน……” เย่กวงโต้วพูดไม่ออก อยากจะโต้แย้ง แต่ไม่สามารถหาคำพูดมาแย้งได้
เขาจ้องมองมู่เสี่ยวชิงด้วยความโกรธ และพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมจะไปเตรียมวัสดุที่เกี่ยวข้อง”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ฉันได้ขอให้ผู้อำนวยการโรงงานพิมพ์สลากลอตเตอรี่แล้ว นายค่อยไปติดต่อเขาโดยตรงในภายหลัง สำหรับวัสดุและรางวัลอื่น ๆ นายสามารถจัดเตรียมได้ตามแผนที่เราเพิ่งกล่าวถึง”
“ครับ ! ” เย่กวางโต้วเห็นด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋เน้นย้ำว่า “การโฆษณาจะต้องทำได้ดีและต้องสร้างแรงผลักดัน”
“ผมเข้าใจแล้ว ! ” เย่กวงโต้วพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น
จากนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ออกจากสำนักงานหนังสือพิมพ์และกลับไปที่สำนักงานในโรงงานผลิตเครื่องปรุงรส
หลังจากเข้าไปในประตู เขาเห็นหลินเจียจวินและหลินเจียหงอยู่ที่นั่นด้วย จึงพูดด้วยความประหลาดใจว่า “พี่เจียจวิน พี่เจียหง พวกพี่กลับมาแล้วเหรอ ? ”
หลินเจียจวินพูดว่า “เราพักค้างคืนที่นั่นคืนหนึ่งแล้ว หากอยู่ต่อจะไม่สร้างปัญหาให้กับคุณน้าหรือไง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “พี่กับพี่หงไปที่นั่น พ่อกับแม่มีความสุขมาก พวกเขาไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาหรอก”
หลินเจียจวินโบกมือปัดเพื่อบ่งบอกว่าเขาจะไม่พูดเรื่องนี้อีก แล้วพูดว่า “พอคุณอากับคุณน้ารู้ว่าอินอินกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดชายหญิง พวกเขาก็ตื่นเต้นมาก”
เจียงเสี่ยวไป๋ตบหน้าผากแล้วอุทาน “โอ้ ไม่นะ ผมลืมบอกข่าวดีเรื่องนี้กับพวกท่านไปเลย ! ”
หลินเจียหงยิ้มและพูดว่า “อ่า นายจำได้แล้ว คุณอาบอกว่าเขาจะคิดบัญชีกับนายภายหลัง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถอนหายใจ: เฮ้อ… เขาผิดเองที่ละเลยเรื่องนี้ !
เมื่อเห็นท่าทางกังวลของเขา หลินเจียอินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “ดูสิ คุณกังวลอะไรขนาดนั้น ! ฉันรู้ว่าคุณงานยุ่ง ดังนั้นฉันจึงโทรบอกพ่อกับแม่ไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกโล่งใจมากเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้และจ้องมองไปที่หลินเจียจวินและหลินเจียหงด้วยความโกรธ สองคนนี้แกล้งเขา โชคดีที่ภรรยารักของเขาบอกก่อน เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “เมียจ๋า คุณสุดยอดมาก ! ”
หลังจากชมเชย เขาก็ล้อเลียนหลินเจียจวินและหลินเจียหงว่า “ดูสิ ภรรยาของผมมีคุณธรรม ไม่เหมือนคนโสดอย่างพวกพี่ คงไม่เคยได้สัมผัสกับความสุขของการมีครอบครัวสินะ ! ”
หลินเจียจวินโกรธมากจนจมูกของเขาเบี้ยว ไอ้หมอนี่ !
ส่วนหลินเจียหงกล่าวว่า “คำพูดของนายทำให้จิตใจฉันบอบช้ำอย่างมาก นายต้องชดใช้ให้ฉัน”
ขณะที่เธอพูด เธอก็ขยิบตาให้หลินเจียจวิน
แม้ว่าหลินเจียจวินจะไม่เข้าใจ แต่เขาก็เล่นตามน้องสาวของเขา “ใช่ ต้องชดเชยให้เรา ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ เฮอะ นี่คิดกรรโชกฉันแล้วหรือ !
แต่เขาไม่ใส่ใจ เขาพูดอย่างใจกว้างว่า “เอาล่ะ ผมจะชดเชยให้ บอกผมมาว่าพวกพี่อยากกินอะไร แล้วเราจะไปกัน ! ”
หลินเจียหงกลอกตาของเธอและพูดว่า “จะกินอะไรไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือฉันและพี่ชายนั่งอยู่ในรถตู้เก่า ๆ ที่นายจัดให้ไปเจี้ยนหยาง ทางก็เป็นหลุมเป็นบ่อ และตอนนี้ฉันก็เจ็บหลังไปหมดแล้ว……”
หลินเจียจวินเข้าใจสิ่งที่น้องสาวของเขาจะสื่อได้ในทันที
“ใช่ จะกินอะไรไม่สำคัญ ! ”
“น้องสาวของฉันมาจากเจียงเฉิง และนายไม่ได้เตรียมรถเล็กให้เธอนั่งด้วยซ้ำ แต่กลับให้เธอนั่งรถตู้คันเก่าแทน ! ”
“อย่าว่าแต่น้องสาวของฉันที่ไม่สามารถทนต่อความยากลำบากเช่นนี้ได้ แม้แต่ฉันที่เคยอยู่ในกองทัพก็ยังทนไม่ได้ ! ”
“……”
พวกเขาทั้งสองยังคงบ่นต่อไปและส่งเสียงดังมาก กระทั่งเจียงเสี่ยวไป๋เข้าใจ
พี่น้องคู่นี้อยากนวดเท้าอีกสินะ !
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะกลอกตาและคิดว่า: ถ้าพวกพี่อยากไปนวดเท้า แค่พูดมาตามตรง ! !
ทำไมต้องพูดจาอ้อมค้อมขนาดนี้ !
เช่นนั้นเขาจะขอโทษ และแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ
เจียงเสี่ยวไป๋รีบขอโทษโดยพูดว่า “ผมขอโทษ ! ผมขอโทษ ! มันเป็นความผิดของผม ครั้งต่อไปเมื่อผมพาพวกพี่ไปที่ไหนสักแห่ง ผมจะจัดรถจี๊ปให้พวกพี่อย่างแน่นอน”
“เอาล่ะ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ ! ”
“ดีเลย ! เพื่อให้สะดวกสำหรับงานที่กำลังจะมาถึง ผมได้จองเกสต์เฮาส์ชิงเจียงทั้งหมดแล้ว และห้องสวีทที่นั่นก็ว่าง ผมจะพาพวกพี่ไปที่เกสต์เฮาส์ตอนนี้ เพื่อที่พวกพี่จะได้นอนหลับพักผ่อน”
เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็ทำทีเป็นเดินนำไปที่ทางออก
หลินเจียจวินและหลินเจียหงมองหน้ากันด้วยความสับสน: นี่คือสิ่งที่เราหมายถึงงั้นหรือ ?