ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 667 สองเป้าหมายเล็ก ๆ
ตอนที่ 667 สองเป้าหมายเล็ก ๆ
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ยืนขึ้น ดวงตาของเขาก็กวาดไปทั่วใบหน้าของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
อันที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะออกมาพูด แต่เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็คะยั้นคะยอเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น
เขายิ้มและกล่าวว่า “เจียงเจียกรุ๊ปมีเป้าหมายเล็ก ๆ สองเป้าหมายภายในระยะเวลาสามปีนี้ ประการแรกคือมูลค่าผลผลิตของบริษัทจะต้องเกินหนึ่งหมื่นล้านหยวน ประการที่สองคือพนักงานทุกคนที่ทำงานใน เจียงเจียกรุ๊ปจะต้องมีรายได้ 10,000 หยวนต่อปี”
“นี่คือทั้งหมดที่ผมต้องการจะพูดในวันนี้ ขอบคุณครับ ! ”
หลังจากพูดจบ เขาก็นั่งลง
หลินเจียอิน เมิ่งเสี่ยวเป่ย หวังผิง เฉินหยวนเฉา และคนอื่นต่างก็ตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋ซึ่งปกติจะเป็นคนมีคารมคมคาย จะพูดเพียงสองประโยคเท่านั้น
แต่ข้อมูลที่ถ่ายทอดออกมาในสองประโยคนี้ กลับทำให้ทุกคนในห้องประชุมต่างก็ตกตะลึง
มูลค่าผลผลิตของเจียงเจียกรุ๊ปต้องได้เกินหนึ่งหมื่นล้านในระยะเวลา 3 ปี ประโยคนี้ไม่ต่างจากเอาทัพพีตักน้ำราดลงไปในน้ำมันที่กำลังเดือด
เงินหมื่นล้านเป็นอย่างไร ไม่มีใครกล้าจินตนาการ !
ถ้านายกเทศมนตรีจางได้ยินประโยคนี้ที่นี่ เขาคงจะกระโดดเหยงขึ้นมา
หากบอกว่าเป้าหมายแรกนั้นไม่น่าเชื่อแล้ว เป้าหมายที่สองก็คงเป็นเรื่องที่เกินจริงมาก
ให้พนักงานทุกคนมีรายได้ 10,000 หยวนต่อปี ในยุคนี้ใครก็ตั้งเป้าที่จะมีเงินหมื่นกันทั้งนั้น
ในบรรดาผู้คนที่อยู่ที่นี่ หวังผิง ช่างไม้ถาน เฉินอันผิง จวงปี้เฉิง และคนอื่นต่างก็มีเงินเก็บหมื่นหยวนมานานแล้ว แน่นอนว่ายังมีบางคนที่ยังมีเงินเก็บไม่ถึงหนึ่งหมื่นหยวน แต่เงินที่พวกเขามีก็ไม่ได้ห่างไกลนัก
ประเด็นสำคัญในสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดก็คือ ทุกคนที่ทำงานในเจียงเจียกรุ๊ปจะต้องมีรายได้หนึ่งหมื่นหยวนต่อปี ซึ่งหมายความว่า ค่าแรงขั้นต่ำของพนักงานในบริษัทจะต้องมากถึงหนึ่งพันหยวนต่อเดือน
ในยุคนี้ที่เงินเดือนเฉลี่ยเพียงไม่กี่สิบหยวน เงินเดือนที่มากถึงหนึ่งพันหยวนนั้นถือว่ามากกว่าบริษัทอื่นหลายเท่าตัว และองค์กรแบบนี้ก็จะที่ผู้มีความสามารถแย่งกันเข้ามาทำงานในบริษัทอย่างแน่นอน
หลี่เฉิงหรูยิ้มและพูดว่า “ผู้ช่วยเจียง คุณบอกว่าจะทำให้พนักงานมีรายได้ 10,000 หยวนต่อปี แล้วเราซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ล่ะ จะมีรายได้เท่าไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองเขาแล้วยิ้ม “ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ถ้าคุณไม่มีรายได้สุทธิหนึ่งล้านหยวนภายในสามปี คุณก็อย่าติดตามผมอีกเลยครับ ! ”
ซี๊ด !
ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
ถ้าคุณมีรายได้หนึ่งล้านในสามปี หมายความว่าคุณจะมีรายได้มากกว่าสามแสนต่อปีไม่ใช่หรือ ?
ซึ่งนี่คือข้อกำหนดขั้นต่ำ
หลี่เฉิงหรูซึ่งปกติเป็นคนมีอารมณ์ขันยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงในขณะนี้ เขามองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋อย่างเหลือเชื่อ “ผู้ช่วยเจียง คุณพูดจริงจังไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ถ้าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านมีรายได้ไม่ต่างจากผู้บริหารของบริษัททั่วไป มันก็ไม่สมเหตุสมผลน่ะสิ ? ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็มองหน้าทุกคนและพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม “แน่นอน ผมกำลังพูดถึงรายได้ที่ถูกกฎหมาย พวกคุณสามารถทำเงินได้มากมายอย่างเปิดเผยด้วยความสามารถของตัวคุณเอง ยังดีกว่าปล่อยให้พวกคุณใช้อำนาจในมือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และหารายได้ด้วยวิธีสกปรก”
หลังจากพูดประโยคนี้ เขาก็หยุดชั่วครู่และเน้นน้ำเสียงของเขาอีกครั้ง””ผมขอพูดอะไรที่น่าเกลียดสักหน่อยนะ ขอแค่พวกคุณตั้งใจทำงานให้กับบริษัท เราก็สัญญาว่าจะตอบแทนพวกคุณอย่างดีเช่นกัน แต่หากว่าใครคนใดหนึ่งคิดที่จะทุจริต คน ๆ นั้นก็ไม่มีวันที่จะได้ลืมตาอ้าปากอีกเลย”
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู ! ”
ในห้องประชุม บรรยากาศที่สนุกสนานแต่เดิมตอนนี้เริ่มกดดันขึ้นมาทันที หลังจากนั้นไม่นาน หวังผิงก็พูดเสียงดัง “ประธานหลิน ผู้ช่วยเจียง ไม่ต้องกังวล ถ้าใครในบริษัทกล้าคดโกง พวกพี่ไม่จำเป็นต้องลงมือ เพราะฉันหวังผิงจะจัดการเขาก่อนเอง”
เจียงเสี่ยวไป๋กลอกตามาที่เขา แล้วพูดว่า “ใครอยากให้นายเข้าไปยุ่งกันล่ะ ? บริษัทของเราไม่มีแผนกกฎหมายหรือไง ? คิดว่าที่ฉันตั้งแผนกกฎหมายขึ้นมาในบริษัทเพียงเพื่อเอาไว้ฟ้องร้องคนข้างนอกอย่างเดียวงั้นเหรอ ? ”
“ขอบอกชัดเจนตรงนี้เลยว่าจุดประสงค์ที่ฉันตั้งแผนกกฎหมายขึ้นมาคือการที่จะให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมายและกำกับดูแลทุกคนในบริษัท ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงพนักงานธรรมดาให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย”
ในตอนนั้น หลินเจียอินและเมิ่งเสี่ยวเป่ยเพิ่งได้เข้าใจว่านี่คือเหตุผลที่เจียงเสี่ยวไป๋ให้ความสำคัญกับแผนกกฎหมายเป็นอย่างมาก
เมิ่งเสี่ยวเป่ยเป็นคนแรกที่ยืนขึ้นและสนับสนุน “ผู้ช่วยเจียง คุณสรุปได้ดีมาก ในท้ายที่สุดเจียงเจียกรุ๊ปของเราจะเจริญเติบโตต่อไปได้ก็ต่อเมื่อเราปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว”
หลินเจียจวินพยักหน้า “ฉันเองก็ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย เดิมทีฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น แต่ฉันก็ไม่คาดคิดว่าผู้ช่วยเจียงจะให้ความสำคัญกับมันมากขนาดนี้ ฉันจึงอยากจะบอกว่าฉันเองก็สนับสนุนให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายเหมือนกัน”
เขาเหลือบมองทุกคนที่อยู่ตรงนั้น แล้วพูดต่อ “หลายคนอาจจะยังไม่รู้ฉัน ฉันเคยเป็นผู้บัญชาการกองร้อยในกองทัพมาก่อน รูปแบบการทหารนั้นค่อนข้างจะไร้มนุษยธรรม ดังที่ผู้ช่วยเจียงพูด ทุกคนจงทำงานหนักและทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ในอีกสามปีข้างหน้า การได้จับเงินล้านนั้นก็จะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป อย่าทำลายอนาคตอันยิ่งใหญ่ของตนเองเพียงเพราะความโลภก็แล้วกัน”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยปรบมือทันที จากนั้นเฉินหยวนเฉา เจียงเสี่ยวเฟิง และคนอื่นก็ปรบมือตาม
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างรู้เท่าทัน อันที่จริงสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือการคอร์รัปชั่นเมื่อบริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือต้องป้องกันไว้ก่อน
นอกจากนี้ ในอนาคตเขายังวางแผนที่จะอบรมผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานระดับกลางในเรื่องความซื่อสัตย์อย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ แค่นี้ก็จะสามารถลดการทุจริตได้
แต่วันนี้เป็นวันเปิดตัวเครือบริษัทอย่างเป็นทางการ เขาจึงขอพูดแค่นี้ก่อน หากพูดมากเกินไปจะทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดเอาได้
เมิ่งเสี่ยวเป่ยยืนขึ้นในเวลานี้และพูดสรุปออกมาว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ทั้งประธานหลินและผู้ช่วยเจียงก็ได้ออกมาพูดแล้ว ทุกคนจะเห็นได้ว่าทิศทางของการพัฒนาบริษัทในอนาคตได้ถูกกำหนดไว้แล้ว นี่เป็นการสรุปการประชุมภายในของบริษัทในวันนี้ ต่อไปก็เชิญทุกท่านพักผ่อนและพูดคุยกันได้ตามสบาย หลังจากที่คณะผู้นำจากมณฑลและเทศบาลมาถึง เราจะลงไปร่วมพิธีก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปข้างล่างกัน”
“ขอให้ทุกคนปรบมือแสดงความยินดีกับการก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปอย่างเป็นทางการอีกครั้งค่ะ ! ”
หลังจากพูดอย่างนั้น ก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้อง
เจียงเสี่ยวไป๋หยุดปรบมืออย่างอบอุ่น แล้วลุกขึ้นอีกครั้งและพูดเสียงดัง “วันนี้ไม่เพียงแต่เป็นวันดีสำหรับการก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ยังเป็นวันเกิดของประธานหลิน ภรรยาของผมด้วย ดังนั้นผมจึงตั้งใจกำหนดให้วันที่ 12 ธันวาคมของทุกปีมีการเฉลิมฉลองสองครั้ง และนี่จะเป็นเทศกาลพิเศษของเจียงเจียกรุ๊ปของเรา”
“ดังนั้น หลังจากเข้าร่วมพิธีก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปซึ่งทางเมืองของเราเป็นเจ้าภาพแล้ว ผมขอเชิญชวนทุกคนให้ไปกินหม้อไฟด้วยกันที่ร้านหม้อไฟ ผมขอให้คุณทุกคนมีอาหารอร่อยให้กิน มีเครื่องดื่มให้ดื่มทุกวัน และมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองในอนาคต”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ตะโกนเสียงดังออกมาว่า “ผู้จัดการเจียงเสี่ยวหลี่ ร้านหม้อไฟพร้อมแล้วหรือยัง ? ”
เจียงเสี่ยวหลี่ลุกขึ้นยืนทันที “พี่เสี่ยวไป๋ ฉันได้เตรียมของสำหรับวันเกิดพี่สะใภ้ของฉันไว้แล้ว ทุกอย่างได้รับการจัดเตรียมตามคำสั่งของพี่ทั้งหมด ! ”