ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 712 การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ตอนที่ 712 การต้อนรับอย่างอบอุ่น
วันรุ่งขึ้น เจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะไปที่เจี้ยนหยาง
แต่เขาสัญญาว่าจะทำข้าวอบหม้อดินให้ลูกสาวเมื่อวานนี้ ดังนั้นหลังจากวิ่งออกกำลังกายเสร็จในตอนเช้า เขาจึงเริ่มเตรียมส่วนผสม ผัดวัตถุดิบสำหรับทำข้าวอบหม้อดินกับซี่โครงหมูและซอสถั่วดำ ข้าวอบหม้อดินเนื้อหมัก และข้าวอบหม้อดินหมู
เขาได้บอกหลินเจียอินถึงวิธีการอุ่นแล้ว เวลาจะกินเพียงแค่ทำตามที่เขาบอกก็พร้อมกินได้
หลังจากจัดการเรื่องที่บ้านเสร็จ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าไปในเมืองเพื่อไปพบกับหวังชิ่งซี
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋มาถึง อุปกรณ์และวัสดุสำหรับทำไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งก็ถูกขนขึ้นไปบนรถบรรทุก ซึ่งเพียงพอที่จะบรรจุในรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ห้าคัน
“เยอะแบบนี้เลยหรือ ? ” เจียงเสี่ยวไป๋เองยังต้องรู้สึกประหลาดใจ
หวังชิ่งซีกล่าวว่า “แม้ว่าอุปกรณ์สำหรับการผลิตไฟแช็คแบบใช้แล้วทิ้งจะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีหลายอย่าง อุปกรณ์เอาใส่รถบรรทุก 2 คัน ส่วนวัสดุเอาใส่รถบรรทุก 3 คันพอดี”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ยื่นกระดาษข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลหลายร้อยแผ่น แบ่งออกเป็นสองกองใหญ่
เจียงเสี่ยวไป๋ดูคร่าว ๆ และพบว่าข้อมูลที่ได้มานี้มีรายละเอียดมากมาย อุปกรณ์และวัสดุ รุ่น ข้อมูลจำเพาะ ปริมาณและราคาต่อหน่วยของวัสดุแต่ละรายการได้ถูกเขียนลงไปอย่างชัดเจน
เจียงเสี่ยวไป๋ใส่มันลงในกระเป๋าของเขาแล้วพูดว่า “งั้นไปกันเถอะ ! ”
หวังชิ่งซีพยักหน้าและบอกให้หวังไห่เฟิง หวังไห่ชวน และคนอื่น ๆ แยกย้ายกันขึ้นรถบรรทุก จากนั้นเขาก็ขึ้นรถจี๊ปของเจียงเสี่ยวไป๋
“ผู้ช่วยเจียง ฉันได้พูดคุยกับโรงงานกระดาษเฉิงซีเมื่อวานนี้ พวกเขาสามารถผลิตสติกเกอร์หน้าเดียวที่มีความทนทานให้เราได้ แต่ราคาจะสูงกว่าสติกเกอร์ธรรมดาถึง 8 หยวนต่อตัน”
หวังชิ่งซีได้กล่าวขึ้นมาขณะนั่งอยู่บนรถ
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ราคาไม่ใช่ปัญหา ให้พวกเขาผลิตให้เรา 10 ตันก่อน”
หวังชิ่งซีกล่าวว่า “ฉันได้บอกผู้อำนวยการเปาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และขอให้เขาติดต่อโรงงานกระดาษเฉิงซีโดยเฉพาะ ฉันคาดว่าคงได้อยู่ที่เจี้ยนหยางสักระยะหนึ่ง เรื่องนี้คุณสามารถติดต่อเปากันฉวนได้โดยตรง”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ต้องรบกวนคุณแล้ว คุณอาจต้องอยู่ที่นั่นสักสิบวันถึงจะได้กลับมา ส่วนถ้าฉันกลับมาถึงชิงโจวหลังจากมอบหมายงานให้คุณเสร็จ ฉันจะไปหาเปากันฉวน”
หวังชิ่งซียิ้มและพูดว่า “ไม่ใช่การรบกวนหรอก อย่างไรก็ตาม งานก็เหมือนกันทุกที่”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “คราวนี้เรากำลังจะไปในหุบเขาที่ห่างไกล ยากจนและแร้นแค้น ซึ่งแตกต่างจากการอยู่ในเมือง”
หวังชิ่งซีกล่าวว่า “ฉันมีชีวิตอยู่มาได้ 59 ปีแล้ว มีอะไรบ้างที่ฉันไม่สามารถอดทนกับมันได้ ? ”
พวกเขาอาจจะนึกถึงความขมขื่นและความทรงจำที่หอมหวาน และทั้งสองก็พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่น่าจดจำในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ขบวนรถบรรทุกก็เข้าสู่เมืองเจี้ยนหยาง
เจียงเสี่ยวไป๋บอกให้คนขับรถบรรทุกที่อยู่ข้างหลังเขาหยุดพัก เพื่อรับประทานอาหารระหว่างทาง
ส่วนเขาและหวังชิ่งซีตรงไปยังที่ว่าการอำเภอ
เมื่อเขามาถึงสำนักงานของหลินต้าเหว่ย เจียงเสี่ยวไป๋ก็ต้องตกตะลึง เพราะในนี้มีคนนั่งล้อมวงอยู่รอบโต๊ะหลุมไฟเยอะมาก ไม่ใช่แค่หลี่กังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้นำคนสำคัญคนอื่น ๆ เช่น หราวชุ่นชิง เฉิงสิงเจีย สีเจิ้งเหว่ยและฉินหงซิง และยังรวมถึงคนที่เขาไม่รู้จักอีกหลายคน
“อ่า เถ้าแก่เจียง ฉันรอคุณอยู่ ! ”
เมื่อฉินหงซิงเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ เขาก็เข้ามาทักทายและพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็มองไปที่หวังชิ่งซีแล้วถามว่า “แล้วนี่คือใครหรือ ? ”
“สวัสดีผู้อำนวยการฉิน ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ทักทายก่อน แล้วจึงแนะนำ “นี่คือหวังชิ่งซี รองผู้จัดการด้านเทคนิคของโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติก เขาจะรับผิดชอบฝึกอบรมการทำไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านต้าชิ่ง”
แต่เขาไม่ได้บอกว่าหวังชิ่งซีเป็นคนผลิตอุปกรณ์ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง
เมื่อฉินหงซิงได้ยินว่าหวังชิ่งซีรับผิดชอบการฝึกอบรมนี้ เขาก็จับมือกับหวังชิ่งซีทันที “สวัสดีคุณหวัง ยินดีต้อนรับสู่เจี้ยนหยาง และขอขอบคุณที่จะมาให้ความรู้เรื่องการผลิตไฟแช็กให้กับชาวบ้านในการในหมู่บ้านต้าชิ่ง”
หวังชิ่งซีพูดอย่างสุภาพว่า “ผู้อำนวยการฉิน ไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ก็ได้ครับ ! ”
ในเวลานี้ หลินต้าเหว่ย หลี่กัง หราวชุ่นชิงและคนอื่นก็ยืนขึ้นและแสดงการต้อนรับหวังชิ่งซี
ผู้นำทุกคนแสดงความกระตือรือร้นเป็นพิเศษต่อ ‘ครู’ คนนี้ ซึ่งทำให้หวังชิ่งซีรู้สึกเป็นเกียรติมาก
หลังจากพูดคุยอย่างเป็นกันเอง สีเจิ้งเหว่ยก็พูดว่า “คุณหวัง มาทานข้าวก่อนเถอะ ฉันได้สั่งอาหารในโรงแรมของรัฐไว้ให้แล้ว”
หวังชิ่งซีมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ซึ่งพยักหน้าให้เขา “เอาล่ะ ไปทานข้าวกันก่อน”
คนกลุ่มหนึ่งมาถึงโรงแรมของรัฐอย่างรวดเร็ว แขกทั้งสองมาพร้อมกับผู้นำมากกว่าสิบคนรวมทั้งหลินต้าเหว่ย จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะทั้งสองโต๊ะ
เนื่องจากว่าพวกเขาต้องไปทำงานในชนบท จึงไม่ได้ดื่มในระหว่างมื้ออาหาร ทุกคนพูดคุยกันขณะรับประทานอาหารไปด้วย เจียงเสี่ยวไป๋ยังได้รู้ว่าผู้นำทุกคนที่นี่จะติดตามพวกเขาไปที่หมู่บ้านต้าชิ่งด้วยกัน แต่จะไม่อยู่ค้างคืนที่นั่น ส่วนสีเจิ้งเหว่ยที่เป็นรองนายอำเภอ ได้รับมอบหมายให้ติดตามพวกเขาอยู่ที่นั่น
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “รองนายอำเภอสี คุณและคุณหวังต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนักในชนบทห่างไกลที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และอากาศก็หนาวเหน็บขนาดนั้น”
สีเจิ้งเหว่ยหัวเราะเบา ๆ “เถ้าแก่เจียง ฤดูหนาวในหมู่บ้านต้าชิ่งนั้นค่อนข้างหนาวเป็นพิเศษ แต่แม้ว่าต้องทนทุกข์ทรมานสักหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่เราจะปล่อยให้คนอย่างคุณหวังลำบากไม่ได้ คุณเอาโต๊ะหลุมไฟมาให้เราสักตัวเถอะ ทางเราจะจ่ายเงินเอง”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่มีปัญหา ผมจะรีบกลับไปส่งโต๊ะหลุมไฟมาให้ในวันพรุ่งนี้”
เมื่อหลี่กังได้ยินแบบนั้น เขาก็ยิ้มและพูดว่า “เถ้าแก่เจียง คุณจะให้แค่สองโต๊ะไม่ได้นะ พวกเราในนี้มีมากกว่าสิบคน”
เมื่อนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตระหนักได้ว่าที่สีเจิ้งเหว่ยพูดแบบนี้ออกมาก็เพราะเขาต้องการให้เจียงเสี่ยวไป๋รับปากเรื่องโต๊ะหลุมไฟ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงจัดการได้ยากเล็กน้อย เขากล่าวว่า “รองนายอำเภอหลี่ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะส่งให้เพิ่ม แต่ขณะนี้สินค้ายังขาดแคลน เทศบาลชิงโจวและถู่เฉิงได้ทำเรื่องจัดซื้อไว้จำนวนมาก ดังนั้นสินค้าที่ผลิตออกมาล็อตนี้ต้องจัดส่งให้พวกเขาก่อน”
หลี่กังกล่าวว่า “เขตของเราก็มีการประชุมเพื่อหารือเรื่องนี้ด้วย เช่นเดียวกับทางชิงโจว ที่ให้ทางเทศบาลเป็นคนสั่งซื้อ”
หราวชุ่นชิงกล่าวว่า “เถ้าแก่เจียง พูดตามตรง ตอนนี้ก็เป็นการสั่งซื้อจากเทศบาลทั้งหมด หากสินค้าชุดนี้ผลิตออกมา คุณก็แบ่งสินค้าให้แต่ละพื้นที่เท่า ๆ กันไปเลย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างขมขื่น แม้ว่าแต่ละที่จะมีการสั่งซื้อเข้ามา แต่สัญญายังไม่ได้ลงนาม
นอกจากนี้ระบบมาก่อนได้ก่อนก็อาจจะใช้ไม่ได้
ขณะที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉินหงซิงก็หยิบสัญญาสองฉบับออกมาจากกระเป๋าถือของเขา ยื่นให้เจียงเสี่ยวไป๋และกล่าวว่า “นี่ สัญญาสำหรับสั่งซื้อโต๊ะหลุมไฟจากสำนักงานจัดซื้อของที่ว่าการอำเภอเจี้ยนหยาง ซึ่งคล้ายกับสัญญาของทางชิงโจว ทางเราจะจ่ายเงินมัดจำครึ่งหนึ่ง ผมได้ร่างสัญญาไว้แล้ว และมันจะมีผลก็ต่อเมื่อคุณลงนาม”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดไม่ออกจริง ๆ
ทำไมการเซ็นสัญญาถึงเหมือนกับการไล่เป็ดขึ้นคอนแบบนี้ล่ะ ?
“ผู้อำนวยการฉิน ผมยังไม่สามารถเซ็นสัญญากับคุณได้ในตอนนี้ ผมต้องโทรไปถามที่ถู่เฉิงก่อนเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถผลิตให้ได้ทันไหม”
ฉินหงซิงกล่าวว่า “พวกเราทุกคนในเจี้ยนหยาง เชื่อว่าปัญหาใด ๆ ก็ตามสามารถแก้ไขได้ ยิ่งเป็นเถ้าแก่เจียงแล้วคงจะจัดการได้ไม่ยาก ดังนั้นอย่าสุภาพและเซ็นสัญญากับเราเถอะ เราจะจ่ายเงินให้คุณภายในสองถึงสามวันนี้แน่นอน”
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่หลินต้าเหว่ย จากนั้นหราวชุ่นชิงก็กล่าวว่า “ไม่ต้องมองไปที่พ่อตาของคุณหรอก เพราะเขาก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้เหมือนกัน ! ”
หลี่กังยิ้มและพูดว่า “ใครบอกให้คุณส่งให้พ่อตาของคุณก่อนล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ที่ได้ฟังแบบนั้นก็เข้าใจสถานการณ์ได้ทันที “ผมเคารพพ่อตาของผม แล้วผมผิดอะไรล่ะ ? ”
เขาส่งโต๊ะหลุมไฟมาให้พ่อตาของเขาสองตัว เอาไว้ที่ทำงานหนึ่งตัว และเอาไว้ที่บ้านหนึ่งตัว
ใครจะไปคิดว่าเพียงเพราะโต๊ะหลุมไฟทั้งสองตัวนี้ ที่ว่าการอำเภอเจี้ยนหยางจึงกระตือรือร้นที่จะสั่งซื้อโต๊ะหลุมไฟจากเจียงเสี่ยวไป๋ทันที