ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3628
“ฉันแน่ใจ!” เฟ่ยเข่อซินพูดอย่างแน่วแน่ “ถ้าไม่ใช่เขา งั้นพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้ ฉันผิดพลาดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ถ้าในเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีส่วนที่ถูกบ้าง ก็ต้องใช่เขาแน่นอน!”
พูดถึงตรงนี้ เฟ่ยเข่อซินรีบหยิบข้อมูลของเซียวฉางควนขึ้นมา พูดว่า “ตอนนี้เซียวฉางควนเป็นรองประธานสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเมืองจินหลิง สืบภาพรวมของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเมืองจินหลิงให้ฉัน ฉันอยากลองดูว่าจะหาจุดสำคัญอะไร จากตัวเซียวฉางควนได้บ้าง!”
สองสามวันมานี้เซียวฉางควนมักจะออกจากบ้านตั้งแต่เช้า และกลับมาดึกดื่น
สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเมืองจินหลิง ถึงในนามจะเป็นองค์กรภาคประชาสังคมโดยเฉพาะ แต่ในความเป็นจริง ก็มีส่วนที่เป็นของทางการครึ่งหนึ่ง
พูดโดยรวม มันเป็นองค์กรของทางการครึ่งหนึ่ง และเป็นของประชาชนครึ่งหนึ่ง
ถ้าไม่มีบริการสาธารณะอะไร มันก็เป็นที่รวมตัวเล็กๆ ของผู้ที่มีความสนใจในงานอดิเรก
แต่ถ้ามีกิจกรรมของทางการ มันก็จะเป็นตัวแทนของการเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการ
งานแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างเมืองจินหลิง กับเมืองพี่เมืองน้องเกาหลีใต้ครั้งนี้ สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด จึงกลายเป็นตัวแทนที่เป็นมิตรภาพของทางการ และเป็นทูตแลกเปลี่ยนด้วย
ดังนั้นเพื่อให้กิจกรรมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบผลสำเร็จอย่างราบรื่น สองสามวันนี้เซียงฉางควน จึงติดตามประธานเพ๋ย ประธานสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ไปร่วมงานสัมมนาต่างๆ ในเมือง
ถึงแม้จะยุ่งมาก แต่ช่วงนี้เซียวฉางควนกระฉับกระเฉงมาก
เขาเคยชินกับความธรรมดาทั้งชีวิต ห้าสิบปี ไม่เคยทำเรื่องที่มีหน้ามีตา ตอนนี้เป็นผู้ช่วยของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ร่วมประชุมทางการต่างๆ นานาทุกวัน เจอกับผู้มีความสามารถและผู้นำด้านต่างๆ ทำให้เขาคิดไปเองว่าตัวเองก็มีความสามารถเหมือนกัน
บ่ายวันนี้ ตัวแทนสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ไปประชุมในเมือง ครั้งนี้เป็นการพูดคุยกับเหล่าเพื่อนร่วมงานอย่างสมาคมอุปรากร สมาคมนักเขียนรวมไปถึงมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ เกี่ยวกับรายละเอียดการแลกเปลี่ยนพูดคุยกับเกาหลีใต้ครั้งนี้
คนที่มาประชุม ไม่ได้มีแค่ตัวแทนสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด อย่างเซียวฉางควน ยังมีตัวแทนในการเข้าร่วมของมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ หานเหม่ยฉิง รักแรกของเซียวฉางควน รวมไปถึงเพื่อนเก่าของแม่เย่เฉิน เฮ่อหยวนเจียง พ่อของเฮ่อจือชิว
หานเหม่ยฉิงกับเฮ่อหยวนเจียง ล้วนเป็นดอกเตอร์ที่จบมาจากสหรัฐอเมริกา หานเหม่ยฉิงทำงานเกี่ยวกับกฎหมาย ที่สหรัฐอเมริกาอยู่หลายปี ประสบการณ์มากมาย ส่วนเฮ่อหยวนเจียง เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ถึงสองคนนี้เข้าร่วมมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุได้ไม่นาน แต่ไม่นานด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยม กลายเป็นศาสตราจารย์รับเชิญ ที่มีชื่อเสียงที่สุดสองคนของมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ
หลังเปรียบเทียบกัน เซียวฉางควนก็ไม่สะดุดตาแล้ว
ถึงเขาเป็นรองประธาน สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด แต่มีความรู้ด้านการเขียนพู่กันและภาพวาด เพียงผิวเผินเท่านั้น
ถ้าให้พู่กันกับเขา เขาก็ไม่สามารถเขียนตัวหนังสือได้สวยขนาดนั้น ไม่สามารถวาดภาพออกมาได้สวยขนาดนั้น เป็นเพียงแค่ระดับมือสมัครเล่นเท่านั้น
ตอนแรกที่เขาเข้ามาเป็นสมาชิกทั่วไป ในสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด มีการพูดโม้เยอะมาก ตอนนี้สามารถปีนถึงระดับรองประธานได้ ตำแหน่งรองผู้ช่วยนี้ ล้วนอาศัยการสนับสนุนจากประธานเพ๋ยทั้งนั้น
ตั้งแต่ประธานเพ๋ยเห็นหงห้านอบน้อมและถ่อมตนกับเซียวฉางควน ที่เทียนเซียงฝู่ครั้งนั้น เขาจึงให้ความสำคัญกับเซียวฉางควนมากมาก
ตอนนี้การประชุมใหญ่ๆ เขาจะเป็นฝ่ายพาเซียวฉางควนออกมาเปิดหูเปิดตา
แต่เซียวฉางควนไม่ได้มีความสามารถแท้จริง ถ้าให้เขาออกความคิดเห็นอะไร เกี่ยวกับด้านการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ผู้เชี่ยวชาญฟังดูก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้เรื่อง
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาทำขายหน้า เป็นตัวตลกในแวดวง ดังนั้นประธานเพ๋ยจึงพาเขาออกมาร่วมกิจกรรม กำชับเขาว่าพูดให้น้อย ฟังให้เยอะ จะได้ไม่พูดผิดพลาดเยอะ