ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3774
เย่เฉินรีบกล่าว “ท่านล่าย คุณไม่ต้องเกรงใจมากขนาดนั้น มีเรื่องอะไรก็พูดออกมาได้เลย”
ล่ายชิงหวากล่าวว่า “ถึงแม้คุณจะหลุดพ้นจากสถานการณ์ของมังกรที่ติดอยู่ในสันดอนแล้ว และกลับไปเป็นดวงชะตามังกรตามเดิม! แต่มันยังไม่ใช่จุดจบ ตามบันทึกไว้ ราชวงศ์ใต้《ซู่ยี่จี้ Accounts of Marvels》หุ่ยใช้เวลาห้าร้อยปีแปลงร่างเป็นเจียว และเจียวใช้เวลาหนึ่งพันปีแปลงร่างเป็นมังกร แล้วมังกรใช้เวลาห้าร้อยปีแปลงร่างเป็นเจี่ยวหลง แล้วใช้เวลาหนึ่งพันปีแปลงร่างเป็นอิงหลง นั่นหมายความว่า ดวงชะตามังกรนั้นไม่ได้เป็นดวงชะตาเกิดอย่างแท้จริง นอกจากนั้นยังมีเจี่ยวหลงและอิงหลง”
ตอนนี้สมองของเย่เฉินปรากฏเนื้อหาของ 《ตำราเก้าเสวียนเทียน》และมีบันทึกของหุ่ย เจียว มังกร และเจี่ยวหลง รวมถึงอิงหลงอีกด้วย
เจี่ยวหลง อิงหลง ความจริงแล้วเป็นมังกรที่สูงขึ้นไปอีกระดับ
ล่ายชิงหวากล่าวต่อว่า “อาจารย์เย่ การที่ผมกล่าวถึงเรื่องพวกนี้ เพียงเพื่อบอกคุณว่าอนาคตของคุณยังอีกยาวไกล ถ้าคุณอยากจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก สองสามก้าวสุดท้ายนั้นมีความสำคัญมาก และตระกูลอานคือตัวเลือกดีที่สุดสำหรับคุณในช่วงสองสามก้าวสุดท้ายก่อนขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ดังนั้นคุณหาเวลาไปพบคุณตาของคุณสักครั้ง บางทีมันอาจจะเป็นการเปิดสถานการณ์ใหม่”
“ตระกูลอาน?” เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วหัวเราะเยาะตัวเอง “ช่างมันเถอะ ถ้าผมอยากปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุด ผมน่าจะไปถึงที่นั่นได้ด้วยตนเอง”
สำหรับเย่เฉินแล้ว เขาไม่เคยคิดที่จะอาศัยความช่วยเหลือจากตระกูลของคุณตา
สำหรับเขาแล้ว เมื่อตนเองยอมรับตระกูลเย่ ประเด็นหนึ่งเป็นเพราะตระกูลเย่ติดค้างครอบครัวตนเองมาก อีกประเด็นหนึ่งคือพ่อตนเองทุ่มเทเพื่อตระกูลเย่มาตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นตนเองก็แซ่เย่ ซึ่งเป็นหลานของตระกูลเย่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกหรือเหตุผล บุญคุณหรือความแค้น ตนเองก็จะต้องครอบครองพลังอำนาจของตระกูลเย่
อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งคุณตา เย่เฉินไม่มีความคิดเช่นนั้น
ท้ายที่สุด เพราะอย่างไรเสีย เย่เฉินรู้สึกว่าคุณตาไม่ได้ติดค้างพ่อแม่ของตนเอง
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขานั้นแซ่อาน ส่วนตนเองแซ่เย่ ไม่ว่าจะยังไงตนเองก็เป็นคนนอก แล้วจะใช้ตระกูลของคุณตาเป็นบันไดเป็นให้ตนเองปืนขึ้นไปได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลอานในฐานะหนึ่งในสามตระกูลอันดับต้น ๆ ของโลก จะต้องมีโครงสร้างภายในที่ซับซ้อนมาก ตอนนี้ตระกูลตนเองยังไม่สามารถเข้าใจได้ แล้วตนเองจะเอาอะไรไปหลอกใช้ตระกูลอาน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ล่ายชิงหวากล่าวอย่างจริงจังว่า “คุณชายเย่ แม้แต่ซุนหงอคงที่สามารถแปลงกายได้เจ็ดสิบสองร่าง ยังต้องพึ่งพากระบองวิเศษเพื่อกลายเป็นมหาเทพ และมีอาวุธทุกชนิดในโลก แต่กระบองวิเศษมีแค่อันเดียวเท่านั้น!”
เย่เฉินกล่าวอย่างจริงจังว่า “บางทีผมอาจไม่ใช่มหาเทพ ดังนั้นสำหรับผมแล้วกระบองวิเศษอาจไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
ล่ายชิงหวาส่ายศีรษะและกล่าวว่า “คุณชายเย่ หลายสิ่งหลายอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ยิ่งคุณรู้ทิศทางเร็วเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นเท่านั้น”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ท่านล่าย แม้ว่าผมจะเข้าใจปากว้าถูบ้าง แต่ผมไม่เชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นลิขิต ถ้าผมต้องการบรรลุเป้าหมายนี้ ถึงแม้จะไม่มีตระกูลอานผมก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้”
หลังจากนั้น เย่เฉินกล่าวต่อไปว่า “มันเหมือนกับซุนหงอคง ผมเชื่อว่าถึงแม้เขาจะไม่มีกระบองวิเศษ เขาก็สามารถกลายเป็นมหาเทพได้”
ล่ายชิงหวาส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้มและกล่าวราบเรียบว่า “คุณชายเย่ ดวงชะตานั้นมีอยู่ทุกทิศทาง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือซุนหงอคงไม่เพียงถูกลิขิตให้เป็นมหาเทพ แต่เขายังถูกกำหนดให้ครอบครองกระบอกวิเศษ คุณก็เหมือนกัน”
หลังจากนั้น ล่ายชิงหวายิ้มลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก “คุณชายเย่ มันถูกบันทึกไว้ในงานต้นฉบับของ 《ไซอิ๋ว》ที่ราชามังกรบอกซุนหงอคงว่า ก่อนที่เขาจะไปวังมังกรไม่กี่วัน กระบอกวิเศษเริ่มประกายระยิบระยับ ซึ่งหมายความว่าอาจไม่ใช่ซุนหงอคงที่เป็นคนเลือกกระบอกวิเศษ แต่อาจเป็นไปได้ว่ากระบอกวิเศษนั้นเลือกซุนหงอคง!”