ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4093 มติพลิก
หลังจากที่เธอจากไป เฉียวเฟยหยุนก็สาปแช่งว่าผู้หญิงคนนั้นว่าไม่รู้จักมองดูตัวเอง อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกปวดใจกับนาฬิกา Richard Miller รุ่นจำนวนจำกัดของเขาเรือนนั้น
แม้ว่าตระกูลเฉียวจะมีทรัพย์สินหลายแสนล้าน แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาวางแผนด้วยความตั้งใจไปทีละน้อยๆเพื่อให้ได้มันมา
เพื่อที่จะได้มาซึ่งเงินจำนวนพวกนี้ เขาไม่รู้ว่าตนนั้นฆ่าหญิงสาวเช่นเดียวกับสาวใช้เมื่อครู่นี้ไปกี่คนแล้ว
ดังนั้น จะให้เขาจะยอมเสียนาฬิกาหลายล้านดอลลาร์ไปกับผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไรกัน
อย่างไรก็ตาม เขาก็เกิดความคิดขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว เขาอดคิดขึ้นไม่ได้ว่า “ถ้าเรื่องนี้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น อย่างนั้นก่อนที่ฉันจะออกจากบ้านตระกูลเฟ่ย เขาก็จะหลอกเธอออกมาและให้ใครสักคนจับเธอไป และเอานาฬิกาคืนมา ก่อนจะขายเธอทิ้งซะ ด้วยความงามของเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ขึ้นขั้นเอาไปประมูลได้ แต่ก็ยังขายออกไป 100000 ดอลลาร์ได้ง่ายดาย ขอแค่แก๊งแอลจีเรียพาเธอไปยุโรปตะวันออกแล้ว ภายในสองสามปีก็จะหาเงินกลับมาได้!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดเฉียวเฟยหยุนก็รู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย
ดูท่า นาฬิกาเรือนนี้หนีไปไหนไม่ได้
……
ในเวลาเดียวกัน วิดีโอหลายรายการก็ได้รับความนิยมบนอินเทอร์เน็ตในทันใด
วิดีโอนี้สิ่งที่ต่างจากภาพเฟ่ยเสวปิงจูบโสเภณีก็คือ วิดีโอเหล่านี้เป็นภาพผลที่ตามมาจากการจูบโสเภณีของเฟ่ยเสวปิง
เมื่อคนเห็นเฟ่ยเสวปิงได้หูคนสองข้างมาจากมือของโสเภณี ทุกคนก็ต่างคิดว่าพวกเขาตาพร่าไป
เมื่อผู้คนเห็นเฟ่ยเสวปิงจับหูคนสองข้าง แล้วร่ำไห้ตะโกนชื่อลูกชายของเขาเฟ่ยฮ่าวหยาง ทุกคนก็ตกตะลึงตาค้าง!
ในเวลานี้ ชาวเน็ตหลายคนกำลังเริ่มออกความคิดเห็นชี้นำในสาธารณชน
ในฐานะคนวงใน พวกเขาบอกชาวเน็ตทุกคนว่าเฟ่ยเสวปิงไม่ได้กำลังมองหาหญิงสาวข้างถนนจริงๆ แต่เหตุผลที่แท้จริงก็คือ เฟ่ยฮ่าวหยาง ลูกชายสุดที่รักของเขาถูกลักพาตัวไป!
อีกทั้งโจรลักพาตัวยังตัดหูทั้งสองข้างของบุตรชายเขาอย่างโหดเหี้ยมและมอบให้แก่หญิงโสเภณีรายนี้
และการจูบของเฟ่ยเสวปิงกับหญิงโสเภณีก็เป็นเพียงการเล่นละครตบตาโจร
สำหรับว่าเฟ่ยเสวปิง เขาไม่เพียงแต่ต้องแบกรับความเจ็บปวดของลูกชายที่ถูกลักพาตัวไปและถูกทำร้ายร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องแบกรับความบ้าคลั่งในโลกออนไลน์ของชาวเน็ตที่ไม่รู้ความจริงด้วย
ในขณะนี้ ผู้คนต่างตระหนักว่าที่แท้พวกเขาเข้าใจเฟ่ยเสวปิงผิดไปอย่างสิ้นเชิง!
ก่อนหน้านี้ วิดีโอของเฟ่ยเสวปิงจูบโสเภณีข้างถนนทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนรู้สึกรังเกียจเขาสุดขีดและเขาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโลกอินเทอร์เน็ต.
แต่ตอนนี้ ทุกคนล้วนตระหนักได้ว่าที่แท้เฟ่ยเสวปิงเป็นพ่อที่ยิ่งใหญ่คู่ควรแก่ความเคารพและชื่นชมจากทุกคน
ทุกคนที่ด่าเขา ในใจต่างรู้สึกสำนึกผิดอย่างยิ่งและรู้สึกละอายต่อคำพูดก่อนหน้านี้ของตน
ทันใดนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนก็เริ่มหันมาสนับสนุนเฟ่ยเสวปิง และมีคนไม่น้อยที่เริ่มเอ่ยขอโทษสำหรับความคิดเห็นที่ผิดพลาดก่อนหน้านี้ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น โดยใช้น้ำเสียงและทัศนคติที่จริงใจอย่างมาก!
วิกฤตของตระกูลเฟ่ยที่ถูกความคิดเห็นของสาธารณชนโจมตีนั้นได้รับการแก้ไขในทันที นี่ไม่เพียงแต่ขจัดผลกระทบด้านลบไปทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังทำให้ตระกูลเฟ่ยได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก
เมื่อเห็นการขอโทษอย่างท่วมท้น ความเห็นอกเห็นใจ และการยกย่องบนอินเทอร์เน็ต เฟ่ยเสวปิงก็รู้สึกดีขึ้นมากในทันที เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับเฟ่ยซานไห่ด้วยความตื่นเต้น: “พ่อ วิธีการของพ่อยอดเยี่ยมมากจริงๆ แบบนี้แทบจะถือได้ว่าเป็นการพลิกกระแสน้ำและต่อสู้กลับ…”
เฟ่ยซานไห่โล่งใจเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ถูกตนเองควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่มชนตัวเอง
เขาจับเคราของตนและพูดว่า “ตอนนี้เรามีสิ่งสำคัญที่สุดสองอย่างอยู่ในมือ หนึ่งคือค้นหาตัวตนที่แท้จริงของนินจาญี่ปุ่นเหล่านั้นโดยเร็วที่สุด และอีกอย่างคือรีบตีเหล็กตอนยังร้อน อาศัยสื่อให้มีประโยชน์อย่างสูงสุด หากสามารถรับการสัมภาษณ์ได้ก็ให้ทำ หากทำไม่ได้ก็จัดงานแถลงข่าวขึ้น”