ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1952
บทที่ 1952
ซ่งหวั่นถิงประหลาดใจอย่างห้ามไม่ได้ มพำขึ้นมาว่า “คุณฮาชิโมโตะโทรมดึกอะไรขนาดนี้?! หรือว่า…หรือว่าพวกเขาได้ข้อสรุป
แล้ว?! ”
คิดมาถึงตอนนี้ ในใจของซ่งหวั่นถึงก็อดรู้สึกประหม่ขึ้นมาไม่ได้ เธอรีบกดรับสาย เอ่ยพูดว่า “คุณฮาชิโมโตะ ด๊กขนาดนี้ คุณมีธุระ
อะไรหรือเปล่าคะ?”
คุณฮาชิโมโตะพูดยิ้มๆ “คุณซ่ง ความประสงค์ของคุณในวันนี้ ผมยื่นเรื่องให้ประธานผู้บริหารบริษัทแล้วนะ พวกเขายอมรับในความ
จริงใจของคุณ ดังนั้นผมเลยโทรมาแจ้งคุณว่า เราจะเซ็นสัญญากันในคืนนี้เลย”
ซ่งหวั่นถิงคิดไม่ถึงว่าข่าวดีที่รอคอยจะมาถึงเร็วขนาดนี้ จึงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นว่า “คุณฮาชิโมโตะ คุณพูดจริงไหม?! ”
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิพูดกลั้วยิ้มว่า “เรื่องนี้ผมไม่กล้าพูดไปเองมั่ชั่หรอก ถึงยังไงผมก็เป็นแค่ตัวแทนบริษัทมาเจรจากับคุณ คนที่มี
อำนาจตัดสินใจจริงๆคือประธานผู้บริหารของบริษัทเราต่างหาก ในเมื่อเขาพูดมาอย่างนี้แล้ว ก็ต้องไม่ใช่เรื่องโกหกอยู่แล้ว”
ซ่งหวั่นถิงเอ่ยพูดอย่างตื่นเต้น “นก็ดีเลย! คุณฮาชิโมโตะ ประธานบริษัทคุณต้องการเซ็นสัญญาคืนนี้เลยเหรอ?”
“ใช่! ” ฮาชิโมโตะ ชินคิจิเอ่ยพูดว่า “เจตนาของผู้บริหารก็คือ ในมื่อคุณซ่งจริงใจขนาดนี้ พวกผมก็ควรที่จะแสดงความจริงใจกลับ
โดยการเซ็นสัญญาให้เร็วที่สุด”
ซ่งหวั่นถิงรีบพูดว่า “ได้สิ! รบกวนคุณฮาชิโมโตะส่งที่อยู่มาให้ฉันด้วยค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิเอ่ยพูดว่า “อย่างนี้ครับคุณซ่ง ตอนนี้ผู้บริหารของเรากำลังพักผ่อนอยู่ที่คฤหาสน์บนเขตนิชิทามะโตเกียว ดังนั้นแล้ว
เจตนาของเขาก็คือ ให้คุณไปเซ็นสัญญาที่นั่น”
ซ่งหวั่นถิงเอ่ยถาม “เขตนิชิทามะโตเกียว? คือที่ไหน? ฉันไม่ค่อยรู้จักสถานที่ในโตเกียวเท่าไหร่ ต้องขออภัย…
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิพูดยิ้มๆว่า “เขตนิชิทามะโตเกียวตั้งอยู่ทางตะวันตกของโตเกียว ห่างออกไปประมาณเจ็ดสิบแปดสิบกิโล เดินทางหนึ่ง
ชั่โมงก็น่าจะถึง คนขับรถรู้ทางแน่นอนครับ ถ้าคุณสะดวก ก็มาตอนนี้ได้เลยครับ”
ซ่งหวั่นถิงพูดอย่างไม่ลังเลว่า “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ฉันจะออกเดินทางเดี่ยวนี้! ”
เมื่อวางสาย ซ่งหวั่นถึงก็รีบโทรหาผู้ช่วยทันที จากนั้นก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ม่สามารถปิดบังความตื่นเต้นเอาไว้ได้ “ย่านจื่อ ไป
เตรียมตัวเร็วเข้า อีกห้านาทีเราต้องออกเดินทางไปเซ็นสัญญากับผู้บริหารบริษัทนิปปอนสตีกัน!”
“คะ?! ” เฉินย่านผู้ช่วยของซ่งหวั่นถิงเอ่ยถามอย่างประหลาดใจว่า “ประธานซ่ง ฝั่งนั้นตกลงเซ็นสัญญาแล้วเหรอคะ?!”
“ใช่!” ซ่งหวั่นถิงหลุดปากพูดออกไปว่า “ผู้บริหารของพวกเขาให้เราไปเซ็นสัญญาตอนนี้! เธอกับเสี่ยวฮุ่ยบไปเตรียมตัว แล้วก็ฝาก
บอกคนขับรถให้เตรียมตัวด้วย!”
“รับทราบค่ะประธานซ่ง! ”
ห้านาทีต่อมา
ซ่งหวั่นถิงก็เดินออกมาจากห้องอย่างมีชีวิตชีวา
ผู้ช่วยทั้งสองคนรออยู่ที่ประตูอย่างพร้อมเพรียง เฉินย่านเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ประธานช่ง คนขับรถรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว เรารีบลงไปกัน
เถอะค่ะ”
“ได้” ซ่งหวั่นถึงพยักหน้า เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างอดรนทนรอไม่ได้ว่า “งั้นเรารีบลงไปข้างล่างกันเถอะ!”
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถ ซ่งหวั่นถึงก็บอกสถานที่ที่จะไปให้คนขับรถรับรู้
คนขับรถนำข้อมูลป้อนลงในแอพแผนที่ สตาร์ทรถไปพลาง พูดกับซ่งหวั่นถิงไปพลาง “คุณซ่ง ตอนนี้การจราจรกำลังดี
ระมาณ20นาทีเราก็น่าจะถึงแล้วล่ะครับ”
“โอเค” ซ่งหวั่นถิงพยักหน้า
ในตอนนี้เองเฉินย่านที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ประธานซ่ง บอกข่าวดีคุณท่านซ่งก่อนไหมคะ เขาจะได้ดีใจด้วย”
“เธอพูดถูก” ซ่งหวั่นถึงกำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาคุณปู่เพื่อบอกความคืบหน้า
แต่ว่า เมื่อนึกถึงคำพูดของซ่งหรงวี่เมื่อตอนเย็น เธอก็เริ่มลังเลขึ้นมา พึมพำขึ้นมาว่า “เมื่อเย็นพี่ชายให้กำลังใจพร้อมทั้งเอ่ยหยอกล้อฉัน
าพรุ่งนี้จะรอฟังข่าวดี ถ้าแบบนั้น รอให้เซ็นสัญญาก่อนแล้วค่อยบอกพวกเขาพรุ่งนี้ดีกว่า จะได้เซอร์ไพรส์พวกเขาด้วย”
คิดมาถึงตรงนี้ ซ่งหวั่นถึงก็เก็บโทรศัพท์ แล้วพูดกับเฉินย่านว่า “ยังไม่ได้เซ็นสัญญาเลย ถ้าบอกตอนนี้คงรีบไปหน่อย รอให้เซ็นสัญญา
สร็จ จนแน่ใจแล้วค่อยบอกพวกเขาดีกว่า! “