ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2031
บทที่ 2031
เดิมที่สิ่งที่ซูรั่งหลีคิดคือ รอตัวเองออกจากประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จ และหลังจากที่ผ่านพันข่าวลือช่วงนี้ไป ค่อยไปแก้แค้นผู้ชายที่น่า
รั่งเกียจคนนั้น
แต่ว่าเธอฝันก็คิดไม่ถึงว่ ในขณะที่ตัวเองกำลังจะออกจากประเทศญี่ปุ่น จะทำให้ตัวเองอยู่บนท่าเรือ เห็นผู้ชายคนนั้นที่ทำให้ตัวเอง
เกลียดเข้ากระดูกดำมาโดยตลอด!
ในขณะนั้น เลือดทั่วร่างกายของซูรั่วหลีก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในทันที
ดวงตาคู่นั้นของเธองดงามจนลืมหายใจ ในเวลานี้เป็นเพราะว่าความแค้น ได้กลายเป็นสีแดง!
ในขณะนี้ ในใจของเธอมีเพียงความคิดเดียว: “ฆ่าเขาซะ! ฉันซูรั่วหลีต้องฆ่าเขาอย่างแน่นอน!”
เย่เฉินในเวลานี้ เพราะว่าสายตาและความสใจอยู่ที่บนตัวของอิโตะ นานโกะที่นั่งอยู่ในรถ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นรถ
อเนกประสงค์ที่วิ่งผ่านท่าเรือคันนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นรถอเนกประสงค์เป็นมองทะลุได้ด้านเดียว ชูรั่วหลีข้างในรถสามารถเห็นเขาได้ แต่ว่าเขากลับมองไม่เห็นซูรั่วหลี ดังนั้นไม่รู้
ว่า ในเวลานี้มีคนคุ้นเคยเดินสวนทางกับตัวเอง
ในไม่ช้า เรือสำราญที่เย่เฉินโดยสารอยู่ ก็ถูกกนใบพัดที่หมุนช้าๆทำให้เกิดคลื่นของความผันผวนอย่างฉับพลัน
เรือยอชต์ด้วยการหมุนของใบพัด ค่อยๆออกจากท่าเรือ
ต่อจากนั้น ความเร็วของเรือก็ยิ่งอยู่ยิ่งเร็วขึ้น ในไม่ช้าในสายตาของอิโตะ นานาโกะก็กลายเป็นจุดสว่างเล็กๆ และในที่สุดก็หายไป
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า เรื่อยอชต์ที่ท่าเทียบเรืออยู่ข้างๆก็เร่งรีบออกจากท่าเรือเช่นก้น
ในเวลานี้ ในสะพานเดินเรื่อของเรือยอชต์ลำนี้ ซูรั่วหลืออกสั่งการกัปต้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “เร่งเครื่องอย่างเต็มที่! ไม่ว่ายังไง ต้อง
ตามเรือลำข้างหน้านั้นให้ทัน”
กัปต้นรีบพูดว่า: “คุณหนูซู สิ่งที่สำคัญเร่งด่วนที่พวกเราต้องทำในตอนนี้คือรีบออกจากทะเลอาณาเขตในประเทศและมุ่งหน้าไปยังน่าน
น้ำข้ามพรมแดน หลังจากที่ถึงน่านน้ำข้ามพรมแดนเท่านั้น คุณถึงจะถือได้ว่าปลอดภัยอย่างแท้จริง!”
ซูรั่วหลีกัดฟันและพูดว่า: “แกไม่เข้าใจ! บนเรือลำนั้นมีศัตรูที่ฉันไม่อยากอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน ฉันจะต้องฆ่าเขาด้วยมือตัวเอง!”
กัปตันพูดอย่างกระอักกระอ่วน: “คุณหนูซู ผมได้รับคำสั่งของคุณท่านใหญ่ซู ให้ส่งคุณไปที่น่านน้ำข้ามพรมแดนโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็น
ไปได้ ห้ามซักช้า ดังนั้นทำได้เพียงให้คุณลำบากแล้ว”
ชูรั่วหลีพูดอย่างโกรธเคือง: “เอาโทรศัพท์ให้ฉัน ฉันจะโทรหาคุณท่าน!”
กัปต้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หยิบโทรศัพท์ดาวเทียมบนเรือขึ้นมา และพูดด่า: “คุณหนูซู งั้นผมจะโทรหาคุณท่านใหญ่ซูเดี๋ยวนี้ คุณพูดกับเขา
เองเถอะ”
จากนั้น เขาใช้โทรศัพท์ดาวเทียม โทรหาหมายเลขโทรศัพท์ของซูเฉิงเฟิงผู้นำตระกูลของตระกูลซู
ทันทีที่รับสาย ซูเฉิงเฟิงก็ถามในทันทีว่า: “เรื่องเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
กัปต้นรีบพูดว่า: “คุณท่าน จู่ๆคุณหนูซูก็บอกว่าจะไล่ฆ่าคนคนหนึ่ง ดังนั้นผมก็เลยโทรไปขอคำแนะนำจากคุณ”
เสียงที่เข้มงวดของซูเฉิงเฟิงก็ดังขึ้นมา: “ในเวลานี้เธอยังไม่รีบออกจากประเทศญี่ปุ่นมุ่งหน้าไปน่านน้ำข้ามพรมแดน ไปไล่ฆ่าใคร? เกิด
โดนกรมตำรวจนครบาลญี่ปุ่นหรือว่ากองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินจับตัวได้ งั้นปัญหาก็จะใหญ่โตแล้ว! ชาตินี้เธอก็อย่าได้คิดที่จะออกจาก
ประเทศญี่ปุ่น!”
ซูรั่วหลีแย่งโทรศัพท์มาในทันที และแทบรอไม่ไหวที่จะพูดว่า: “คุณท่าน! หนูรั่วหลีเองนะ! เมื่อกี้นี้หนูอยู่ที่ท่าเรือ เจอกับคนคนนั้นที่เคย
หลอกพวกเรา! ตอนนั้นอยู่ที่โอซาก้า ก็เป็นเขานั่นแหละที่บอกที่อยู่ของพวกเรากองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นแล้วทำให้พวกเรา
ทั้งหมดโดนจับตัว! ความแค้นนี้หากหนูไม่ได้ชำระ ตายก็ตานอนตาไม่หลับ!”
ซูเฉิงเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และเอ่ยปากพูดว่า: “ก็ได้! ในเมื่อเป็นแบบนั้ งั้นก็จัดการปัญหานี้ก่อน! ไม่อย่างนั้นปล่อยเขาอยู่ในโลก ไม่รู้ว่าอีก
หน่อยจะเป็นภัยคุกคามอื่นต่อตระกูลซุของฉันต่อไปหรือเปล่า!”