ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2370
บทที่ 2370
ผู้ช่วยรีบพูดด้วยความเคารพว่า “เถ้าแก่ ผู้ยอดฝืมือที่ส่งอกไปได้ค้นหาโรงพยาบาลในเมืองจินหลิงทั้งหมดแล้ว และไม่พบพวกเขาทั้ง
สองคนเลย”
“ไม่พบเหรอ!?” ชูโสว่เต๋อขมวดคิ้ว และเอ่ยปากถามว่า “คุณแน่ใจหรือว่าได้ตรวจคันทุกโรงพยาบาลแล้ว?”
“แน่ใจครับ” ผู้ช่วยพยักหน้า และกล่าวอย่างจริงจังว่า “ไม่เยงแต่โรงพยาบาลชั้นนำ แม้แต่คลินิกเล็กๆ ธรรมดาก็ได้ค้นหาแล้ว และไม่
พบร่องรอยของพวกเขาเลย”
ซูโสว่ต๋อตบลิ้นทันทีและกล่าวว่า “เสียงตบลิ้น….แม่งนี่มันช่างน่าแปลกประหลาดจริงๆ เลย! ที่โรงพยาบาลก็ไม่มี หรือว่าจะตายไปแล้ว
จริงๆ งั้นเหรอ? ”
หลังพูดจบ เขาก็เปิดปากพูดทันทีว่า “ไปตรวจสอบความคืบหน้าของการสอบสวนของตำรวจในปัจจุบัน ว่ามีความคืบหน้าอะไรหรือไม่? ”
ผู้ช่วยบอกตามตรงว่า “เถ้าแก่ ผมได้สอบถามสถานการณ์ด้านตำรวจแล้ว ตอนนี้พวกเขาไม่มีเบาะแสใดๆ เลย ตอนนี้พวกเขากำลังเฝ้า
สังเกตกระสุนที่เก็บรวบรวมที่บริเวณอุโมงค์ และอยากจะค้นหาเบาะแสของมือปืนกลับจากกระสุน”
ซูโสว่เต๋อขมวดคิ้ว และถามเขาว่า “ตู้ให่ชิงและซูจือหยูล่ะ ตำรวจก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลยเหรอ?”
“ไม่มี” ผู้ช่วยพยักหน้า “ทางด้านตำรวจก็เป็นเช่นเดียวกับพวกเรา ตอนนี้ก็กำลังสับสนอยู่เหมือนกัน”
“ไอ้เวรเฮ้ย… …” ซูโสวเต๋อด่าด้วยเสียงต่ำ แล้วถามต่อไปว่า “มีผลการสอบสวนที่เกี่ยวกับกลุ่มคนสึกลับกลุ่มนั้นหรือไม? คนกลุ่มนั้นพุง
เข้าไปในอุโมงค์ และจับตัวไห่ชิงและซูจือหยูออกไปยังไม่ว่า และยังพาตัวพวกหมาฉงซิงออกไปอีกสี่คน ไม่ต้องพูดถึงคนเป็นๆ ทั้งหกคนเลย
แม้จะเป็นศพหกศพก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการได้เลย! ไม่ว่ายังไงก็ต้องทิ้งเบาะแสไว้บ้างใช่ไหม?”
ผู้ช่วยเปิดปากแล้วพูดว่า “สำหรับเรื่องนี้ ตำรวจยังไม่มีข่าวอะไรเลย”
ซูโสว่เต่อกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย และด่ว่า “เม่งเอ้ยมันช่างลึกลับจริงๆ เลย!”
หลังจากพูดแล้ว เขาก็ถามขึ้นอีกครั้งว่า “ตอนนี้เรื่องแอคหลุมบนอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
ผู้ช่วยตอบว่า “โดยฟื้นฐานแล้วแอคหลุมบนอินเทอร์น็ตได้ควบคุมสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว ในปัจจุบันมีเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของเนื้อหา
การสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ต มีแนวโน้มที่จะเป็นตระกูลชู โดยคิดว่าตระกูลซูเป็นผู้โดนทำร้ายที่ใหญ่ที่สุด และคนที่ต้องการจะ
วางแผนฆ่าตู้ให่ชิงและซูจือหยู จะต้องเป็นผู้อื่นแน่นอน เชื่อว่าตราบใดที่พวกเรายังคงรักษาการรายงานความคิดเห็นของสาธารณชนอย่าง
ท่วมทัน ภายในสองสามวัน คนทั้งประเทศก็จะเชื่อว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์”
ซูโสว่เต่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก และกล่าวว่า “ในเรื่องนี้คุณทำได้ดีมาก ถ้าคุณท่านก็พอใจด้วย ผมจะตอบแทนคุณอย่างดี
แน่นอน”
ผู้ช่วยโค้งคำนับทันทีและพูดว่า “ขอบคุณครับเก้าแก่!”
ซูโสว่เต๋อส่งเสียงฮัม และสั่งไปว่า “มีอีกเรื่องหนึ่ง คุณช่วยจัดการให้ผมหน่อย”
ผู้ช่วยรีบพูดว่า “ครับเถ้าแก่เชิญพูด”
ซูโสว่เต่อพูดด้วยสีหนำาบูดบึ้งว่า “แม้ว่าคนในครอบครัวของหลิวจัานจะไม่รู้ว่าผมให้เงินพวกเขาไปยี่สิบล้าน และขอให้พวกเขาบอกหลิว
จ้านให้ฆ่าซูจือหยูอีกหนึ่งคน แต่เมื่อพวกเขาปล่อยให้เรื่องนี้รั่ออกไป มันก็จะถูกส่งต่อไปยังในหูของคุณท่าน งั้นผมก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่
ใหญ่ที่สุด ดังนั้นในคืนนี้คุณส่งคนไปที่บ้านเกิดของเขา และจุดไฟ เพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด เข้าใจไหม?”
ผู้ช่วยพยักหน้า “ครับ เถ้าแก่ ผมเข้าใจแล้วครับ!”
ขณะที่พูด ผู้ช่ายก็ได้รับหนึ่งข้อความ มองดูอย่างรวดเร็ว และรายงานกับซูโสว่เต่อว่า “เถ้าแก่ เครื่องบินของคุณหนูเจิ้งได้ลงจอดที่สนาม
บินจินหลิงแล้ว อีกประมาณสี่สิบนาทีก็จะมาถึงโรงแรม”
เมื่อซูโสว่เต๋อได้ยินเช่นนี้ ร่องรอยของความปรารถนาแวบเข้ามาในดวงตาของเขา และหัวใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระเพื่อมเล็ก
น้อย
คุณหนูเจิ้งในปากของผู้ช่วย ก็คือเจิ้งเสี่ยวฉีหนึ่งในสี่สาวที่มีพรสวรรค์ในวงการบันเทิงของปัจจุบัน
จิ้งเสี่ยวฉีคนนี้อายุเพียงยี่สิบหกปีในปีนี้ เธอจบการศึกษาจากโรงเรียนภาพยนตร์เป็นเวลาสี่ปี เธอสวยมาก แต่เนื่องจากทักษะการแสดง
ที่ย่ำแย่ และไม่มีภูมิหลังะไร ดังนั้นเธอจึงไม่ป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์มาตลอดสองปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปีที่แล้ว เจิ้งเสี่ยวฉีได้รับทรัพยากรภาพยนตร์จากผู้กำกับชั้นนำมากมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถบอกได้ว่าเป็นการ
ก้าวกระโดดสู่ท้องฟ้า และในไม่ช้าก็ติดอันดับหนึ่งในนักแสดงแถวหน้าที่ยอดเยี่ยม
หลายคนคาดเดาว่าต้องมีนายทองอยู่เบื้องหลังของเธอแน่นอน แต่ตรามใดที่มิโพสต์การคาดเดาที่เกี่ยวข้องถูกโพสต์ออกมา ก็จะถูกลบ
ออกไปในทันที และไม่มีทางที่จะถูกแพร่กระจายเลย
เหตุผลที่แน่ชัด ก็คือเจิ้งเสี่ยวฉีถูกซูโสว่เต๋อเห็นชอบ และรับเลี้ยงเข้ามา และกลายเป็นนกขมิ้นของเขา
ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ตราบใดที่ซูโสว์เต่อมีโอกาสออกจากปักกิ่ง ก็จะให้เจิ้งเสี่ยวฉีมาหาเขาอย่างลับๆ และวันนี้ก็ไม่มีข้อยกเวันเช่น
ตอนที่ซูโสต๋อตัดสินใจมาที่มืองจินหลิง เขาก็ขอให้เจิ้งเสี่ยวฉีที่กำลังถ่ายทำละครอยู่ในหนานไห่เตรียมตัวมาหาเขาในทัน ดังนั้นเจิ้ง
เสี่ยวฉีจึงเร่งการถ่ายทำฉากของวันนี้ให้เสร็จ และลาป่วยกับทีมงานถ่ายละครทันที แอบขึ้นเครื่องบินส่วนตัว แล้วรีบมาที่เมืองจินหลิง
ทันทีที่ได้ยินว่าเจิ้งเสี่ยวฉีกำลังจะลงจอด ซูโสว่เต่อก็รู้สึกตื่นเต้นเลีกน้อยอย่างอดใจไม่ได้ และพูดกับผู้ช่วยของเขาว่า “เอาล่ะ คุณออก
ไปเถอะ ผมต้องการจะอาบน้ำ และอีกสักครู่เมื่อคุณหนูจิ้งมาถึงแล้ว ก็ส่งเธอเข้ามาเจอผมที่ห้องโดยตรง!”