ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2413
บทที่ 2413
ในขณะนี้ ซูโสว่เต้ากำลังคุยโทรศัพท์กับซูจือเฟยลูกชาย
ซูจือเฟยเพิ่งจะขับรถจากเย่นจิงไปเมืองจินหลิงในตอนดึก แต่ท้นทีที่ถึงเมืองจินหลิง ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างวุ่นวาย
ส้บสนจนทำอะไรไม่ถูกในทันที
เขามาที่เมืองจินหลิง เพื่อตามหาที่อยู่ของแม่และน้องสาว แต่ทว่า ฝ่ายตำรวจของเมืองจินหลิงส่งคนหลายพันคนออกไปค้นหาทั่วเมืองมา
ทั้งวัน ก็ไม่มีผลลัพธ์ใด ซูจือเฟยด้วยกำลังเพียงลำพัง ก็ไม่รู้ว่าควรที่จะลงมือจากที่ไหน
เดิมที่เขาตั้งใจว่า กลับไปที่คฤหาสน์เก่าของตระกูลตู้ที่อยู่ในเมืองจินหลิงก่อน ขอความช่วยเหลือจากพ่อบ้าน แบบนั้น ก็ยังมีที่พักอยู่
แต่ทว่า เมื่อนึกถึงว่าเขาเพิ่งจะทำให้คุณปู่ขุ่นเคืองใจ คุณปู่ยังให้คนตามหาที่อยู่ของเขาอยู่ทุกที่ เขาก็ค่อนข้างมีความกังวลในทันที
ดังนั้น เขาโทรหาขอความช่วยเหลือกับซูโสว่ต้าที่อยู่ห่างไกลในออสเตรเลีย และพูดกับเขาว่า: “พ่อครับ คุณปู่รู้ว่าคุณตาซื้อคฤหาสน์
หลังหนึ่งไว้ที่เมืองจินหลิง ไม่แน่ตอนนี้ก็ส่งคนมาสำรวจอยู่ที่นั่นรอให้ผมไป ถ้าหากผมไปขอความช่วยเหลือกับพ่อบ้าน เป็นไปได้ว่ายังไม่ได้เข้า
ประตู ก็ถูกคนของตระกูลชูจับไว้แล้ว….
ซูโสว่เต้าพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า: “มีความเสี่ยงนี้จริงๆ! พ่อว่าแกควรระวังให้มากกว่านี้ อย่าเพิ่งติดต่อกับพ่อบ้าน”
ซูจือเฟยรีบถามว่า: “พ่อ งั้นตอนนี้ผมควรทำยังไงดีครับ?”
จากนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย และพูดด้วยความสะอื้นว่า: “พ่อ…ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีแล้ว…แม่และจือหยูก็
หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผมอยากจะตามหาพวกเธอ แต่ไม่มีความสามารถในการตามหาพวกเธอ ถึงขนาดไม่มีผู้ช่วยส้กคนอยู่ข้างกาย…ผม…
ผม…ผมรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นคนไร้ประโยชน์ทุกกระเบียดนิ้ว…
ซูโสว่เต้าถอนหายใจ และพูดปลอบใจว่า: “จื่อเฟย อย่าโทษตัวเองมานักมากเกินไป เรื่องแบบนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของแกแล้ว พ่อ
พูดไม่น่าฟังหน่อย ขนาดคุณปู่ของแกก็ควบคุมการเดินของเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับแกล่ะ?”
ซูจือเฟยร้องห้และพูดว่า: “ผมไม่อยากยุ่งเรื่องของเขา! ผมเพียงแค่อยากจะตามหาแม่และจือหยู ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอจะต้องปลอดภัย
ไม่อย่างนั้น ชาตินี้ผมก็ไม่มีทางยกโทษให้ไอ้แก่นั่น!”
จากนั้น ซูจือเฟยก็พูดอย่างเร่งรีบว่า: “พ่อ! พ่อกลับมาช่วยผมเร็วๆหน่อย! พ่อไม่อยู่ ผมคนเดียวความสามารถมีขีดจำกัดเกินไปแล้ว…
ซูโสว่เต้าลั่งเลอยู่ครู่หนึ่ง และเอ่ยปากพูดว่า: “จือเฟย แกหที่พักอยู่ในเมืองจินหลิงก่อน แต่อย่าเปิดเผยที่อยู่ของแกก้บภายนอก พ่อรอ
จะรอการเคลื่อนไหวคุณปู่ของแกอยู่ ดูว่าต่อไปเขาเตรียมที่จะเดิมหมากก้าวไหน….
อันที่จริงสำหรับซูโสว่เต้า แม้ว่าเขาจะเห็นรายงานข่าวแล้วดูวิดีโอที่เย่เฉินอัปโหลด ก็เกลียดซูเฉิงเฟิงเข้ากระดูกดำ แต่เขายังคงไม่กล้า
แตกคอกับซูเฉิงเฟิงในทันที
เหตุผลที่ไม่กล้าแตกคอก็ง่ายดายมาก ทั้งหมดก็คือความสามารถไม่เพียงพอ
นี่เป็นเหมือนกับเมื่อจักรพรรดิกวงเผชิญหน้ากับซูสีไทเฮา อำนาจของทั้งอาณาจักรและการปกครองทางทหารทั้งหมดอยู่ในมือของซู
สีไทเฮา แม้ว่าจักรพรรดิกวงซวี่จะเป็นจักรพรรดิ แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ซูโสว่เต้าแม้แต่ตำแหน่งผู้นำตระกูลก็ไม่มี ซูเฉิงเฟิงถึงได้เป็นผู้ตัดสินใจที่แท้จริงของตระกูลซู
ยิ่งไปกว่านั้น สังคมสมัยใหม่ยังแตกต่างจากสังคมศักดินาอย่างมาก
สังคมศักดินาสามารถแสวงหาการแย่งชิงบัลลังก์ได้ แต่ในสังคมยุคใหม่ ทุกสิ่งล้วนให้ความสำคัญกับระบบกฎหมาย ทรัพย์สินทั้งหมด
ของซูชื่อกรุ๊ป แทบจะอยู่ในนามของคุณท่านทั้งหมด แม้ว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นจะถือหุ้นของซูชื่อกรุ๊ป แต่ว่าผู้ถือหุ้นเผชิญหน้ากับออกเสี่ยงให้
คะแนน ก็มอบสิทธิ์ให้คุณท่านทั้งหมด
เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่จะยืดอำนาจของคุณท่าน ต่อให้ฆ่าคุณท่านตาย หุ้นเหล่านั้นในนามของคุณท่าน ก็อยู่ในกองทุนทรัสต์รายใหญ่
ทั้งหมด คนอื่นในตระกูลซูทำได้เพียงเบิกค่าครองชีพจากกองทุนทรัสต์ ไม่สามารถควบคุมตระกูลซูไว้ได้
ดังนั้น แม้ว่าซูโสว่เต้ารู้ว่าคุณท่านจะฆ่าภรรยาของเขา และยังฆ่าลูกสาวอีกคนของเขาด้วย เขาก็ไม่มีความกล้าหาญนั้นที่จะไปสู้สุดชีวิต
กับคุณท่าน
เพราะว่าตราบใดที่เขากล้าอยู่ในสถานการณ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณท่าน ออกจากออสเตรเลีย มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกกัก
บริเวณอยู่ที่บ้านในทันที